บทที่ 92 ก็แค่เรื่องเด็กเล่นอย่าได้พูดถึง
หลังจากพูดออกมา คนหนึ่งได้เดินเข้าไปหาเจียงฮ่าวด้วยรอยยิ้มเยาะและพูดออกมา
“ไอ้เด็กเวร ถ้าแกแน่จริงล่ะก็ทำไมไม่ตามฉันมาคุยกันสักหน่อยล่ะ”
และตอนนี้เองมันก็ได้ท้าให้ไปสนามเด็กเล่น
เจียงฮ่าวไม่เกรงกลัวต่อคนเยี่ยงนี้
เจียงฮ่าวได้มองไปยังชายคนนี้อย่างเย็นยะเยียบก่อนที่จะหันไปคุยกับนักเรียนร่างท้วม
“เฮ้ นายกลับไปห้องก่อนแล้วกัน ดูเหมือนว่าฉันต้องไปอบรมสั่งสอนขยะพวกนี้สักหน่อยน่ะ”
“คำพูดของเจียงฮ่าวทำให้ทุกคนที่ได้ยินอดที่จะประหลาดใจไม่ได้”
“ไอ้ฉิบหาย นี่ฉันฟังไม่ผิดใช่ไหม”
“เฮ้อออ เขานั้นยังละอ่อนนักที่หลงไปตามคำยั่วยุของคนแบบนี้”
“หลงคารมปีศาจชัดๆ”
“…”
ในตอนนี้ไม่มีใครที่จะไม่รู้ว่าไอ้ห้าคนนี้ต้องการที่จะใช้กำลังในการแก้ปัญหา
แต่ทุกคนนั้นกลับต้องตกใจยิ่งกว่าเมื่อได้ยินคำพูดของเจียงฮ่าว
ไม่มีใครคิดว่าเจียงฮ่าวจะรอดพ้นเรื่องนี้ไปได้อย่างไร้ร่องรอย ทุกคนต่างก็คิดว่าเจียงฮ่าวคนที่โดนลาเตะใส่หัวแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
และคำพูดนี้เองก็ได้ทำให้สถุลทั้งห้าคนยิ้มกริ่มออกมา
“หึหึหึ ไม่เลวนี่ไอ้หนู แกนี่กล้าดีจรึงๆ ฉันหวังว่าแกจะทำตัวแบบนี้ได้ตลอดรอดฝั่งนะ”
เมื่อเห็นแบบนี้นักเรียนร่างท้วมจะไม่รู้ได้ยังไงว่าจะเกิดอะไรขึ้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยควมกังวลพร้อมจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกผิด
แต่พอถึงตอนนี้แล้วเขาจะพูดอะไรออกมาได้
“ลูกพี่ฮ่าว อย่าไปเลยนะ เรื่องนี้ผมผิดเอง ถ้ามันอยากจะทำอะไรกับผมก็แล้วแต่พวกมันเถอะ”
จนในที่สุด นักเรียนร่างอ้วนก็ได้รวบรวมความกล้าและพูดออกมา
“ถ้าพี่จะไปให้ได้ ขอผมไปแทนดีกว่า”
อย่างไรก็ตาม นี่ก็ไม่ได้ทำให้เขาเปลี่ยนใจให้นักเรียนร่างท้วมคนนี้ไปเผชิญหน้าเรื่องนี้คนเดียวแต่อย่างใด
เขาเองนั้นยังไงซะก็คุ้นเคยกับเรื่องนี้มากกว่าใครอยู่แล้ว กับอีแค่สถุลห้าคนนี้ไม่ถือเป็นอะไรสำหรับเขา แต่หากเปลี่ยนเป็นนักเรียนร่างท้วมไปแน่นอนว่าคงโดนเล่นงานไม่น้อย
เจียงฮ่าวได้ยิ้มออกมา ก่อนที่จะวางมือไปที่ไหล่ของนักเรียนร่างท้วม
“ไม่เป็นไรน่า นายแค่กลับไปห้องก่อนก็เท่านั้นเอง”
หลังจากพูดจบ เขาก็ได้หันหน้าแล้วเดินออกไปทันที
สถุลทั้งห้าคนมองหน้ากันด้วยสายตาที่ตกตะลึง
“เหอะ ดูเหมือนวันนี้จะได้ของเล่นเด็ดๆแหะ”
ในตอนนี้เองนักเรียนร่างท้วมทำได้เพียงมองตามไปเท่านั้น
เป็นตอนนี้ที่สองในห้าของสถุลได้เข้ามายืนประกบนักเรียนร่างท้วม
ทั้งสองมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะมองไปยังนักเรียนร่างท้วมอย่างยิ้มเยาะ
“ไอ้เวร ด้วยการที่มีใครบางคนออกหน้าแทนให้แก ฉันเลยว่าจะให้แกได้เห็นสภาพที่ควรจะเป็นแกที่ได้รับก็แล้วกัน”
เมื่อพูดจบชายตัวสูงที่เห็นว่าเจียงฮ่าวเดินพ้นสายตาไปแล้วก็ได้ยกมือเรียกในทันที
“รีบๆมาได้แล้วน่า พวกเราควรรีบจะไปจัดการเพื่อนตัวน้อยนั่นให้เสร็จอย่าให้มันต้องรอพวกเราจะดีกว่า”
ในตอนนี้ นักเรียนร่างท้วมอดไม่ได้ที่จะร้อนรน
อีกฝากฝั่งหนึ่ง นักเรียนที่ต่อแถวซื้อของก่อนหน้านี้ที่เห็นเจียงฮ่าวเดินออกไปสถุลห้าคนก็อดที่จะพูดคุยกันไม่ได้
“เฮ้ออออ เพื่อร่วมชั้นคนนั้นไม่น่าเลยจริงๆ”
“นั่นน่ะสิ แค่เขาจะไปสู้ห้าคนได้ยังไงกัน”
“หวังว่าเขาจะไม่เป็นไรมากนะ”
“…”
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังกระซืบกระซาบกันนั้น ไม่ใครคิดจะหาทางช่วยเหลือเลยแม้แต่น้อย
นักเรียนร้องท้วมเองในตอนนี้รู้สึกกังวลจนแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว
เป็นตอนนี้ที่เขานึกอะไรได้บางอย่าง และนี่พอจะทำให้สีหน้าของเขาผ่อนคลายขึ้นมาได้บ้าง
“จริงด้วย ฉันกลับไปขอให้คนในห้องมาช่วยก็ได้นี่นา”
หลังจากคิดได้ดังนั้น เขามองไปยังทางที่เจียงฮ่าวออกไปด้วยท่าทีกังวล เขากัดฟันแน่น
ด้วยเวลาแบบนี้ เขาไม่มีกระจิตกระใจที่จะหยิบไอศกรีมที่สั่งไว้ด้วยซ้ำ เขาได้พุ่งกลับไปที่ห้องของตนเพื่อเรียกกำลังเสริม
“…”
เจียงฮ่าวเมื่อไปถึงแล้วก็ได้ทำการสำรวจโดยรอบในทันที และก็ได้พบว่าที่นี่ไม่มีกล้องวงจรปิดก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ เขาได้ยืนรอสถุลทั้งห้าคนให้มาถึงอย่างเบาใจ
ไม่นานทั้งห้าคนก็ได้มาถึงและรุมล้อมเจียงฮ่าวให้ด้วยสีหน้าเยาะเย้ย