บทที่ 94 การสั่งสอนของเจียงฮ่าว
เจียงฮ่าวมีใบหน้าที่สับสนใจทันที เขาลองมองหันกลับไปดูก็ได้เห็นนักเรียนอ้วนกำลังพุ่งตรงมาทางเขาพร้อมไม้สั้นๆอยู่ในมือตามมาด้วยกลุ่มคนอีกจำนวนหนึ่ง
เมื่อเจียงฮ่าวได้เห็นนักเรียนร่างท้วมก็อดที่จะรู้สึกประทับใจไม่ได้
นักเรียนร่างท้วม(อ้วนน้อย) ที่ฝ่าฝูงชนเข้ามาเมื่อเห็นว่าเจียงฮ่าวยังไม่เป็นอะไรก็อดจะดีใจไม่ได้ แต่ในระหว่างที่วิ่งมาด้วยความดีใจนั้นเขาก็ต้องหยุดเท้าลงในทันใดพร้อมท่าทีมึนงงไปเล็กน้อย
เช่นเดียวกับนักเรียนคนอื่นที่ตามมาไม่ห่างก็ตกอยู่ในสภาพไม่ต่างกัน บางคนได้ถามออกมาอย่างงงๆ
“ไอ้อ้วน ห้าคนที่ว่าคือไอ้พวกที่นอนกองอยู่นี่น่ะเหรอ”
“แล้วท่านอาจารย์เป็นยังไงบ้าง”
“…”
อย่างไรก็ตาม เมื่อคนที่รีบมานั้นเห็นว่าเจียงฮ่าวยังมีท่าทีสุขุมและไม่เป็นอันตราย ทุกคนต่างก็รู้สึกภูมิใจขึ้นมาอย่างประหลาด
คนที่ถามออกมาคือหัวหน้าทีมบาส หลิวเปียว
“ท่านอาจารย์ ไม่เป็นอะไรใช่รึเปล่า”
เจียงฮ่าวเผยรอยยิ้มไมตรีและพยักหน้า
ในตอนนี้ หลิวเปียวทำได้เพียงเกาหัวแก้เก้อไปเท่านั้น
“ก็ไอ้อ้วนนี่บอกว่าท่านอาจารย์ถูกใครบางคนหาเรื่องน่ะ”
ในตอนนี้เอง ราวกับเขาได้นึกถึงอะไรบางอย่าง เขาได้รีบหันไปหาอ้วนน้อยแล้วเริ่มกล่าวโทษแบบเขินๆในทันที
“ไอ้อ้วนเอ้ยยยยย นี่นายหลอกฉันเหรอ ท่านอาจารย์ยังอยู่ดีอยู่เลย”
ในตอนนี้เอง อ้วนน้อยไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแค่ชี้ไปที่เจียงฮ่าวกับร่างทั้งห้าที่ใช้มือกุมท้องร้องโอดโอยอยู่อย่างนั้นด้วยใบหน้าที่ตกตะลึง
“อาจารย์… พวกมันคือ…”
หลิวเปียวเองที่เริ่มสังเกตเห็นสภาพโดยรอบแล้วก็ได้ถามออกมา
เจียงฮ่าวก็ได้ตอบไปอย่างสบายอารมณ์
“ก็ไอ้ห้าตัวนี้ไงที่อ้วนน้อยพูดถึง พวกมันทำตัวไม่มีมารยาทฉันก็เลยสั่งสอนมันไปนิดหน่อย”
“ห้ะ”
เป็นตอนนี้ที่หลิวเปียวรู้สึกเกรงกลัวในตัวของเจียงฮ่าวขึ้นมา
และเป็นตอนนี้ที่เขานึกย้อนไปถึงวันที่แข่งกีฬากับเจียงฮ่าว
โชคดีที่ในวันนั้นเขาถูกหยุดไว้ด้วยเพื่อนของเขาเอาไว้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็…
หลิวเปียวได้ก้มไปมองทั้งห้าร่างที่นอนร้องโอดโอยมือกุมท้องอย่างเจ็บปวด
นี่คือจุดจบถ้าเลือกผิดทางสินะ
และนี่ทำให้เหลียวเปียวนับถือในตัวเจียงฮ่าวมากขึ้น
เขาไม่เคยคิดว่าอาจารย์ของเขาคนนี้ นอกจากเรื่องบาสแล้วยังจะเก่งเรื่องอื่นอีก ที่สำคัญคือมันคือการต่อสู้
ในตอนนี้เองเป็นอ้วนน้อยเริ่มรู้สึกตัวจึงได้รีบพูดออกมา
“ขอโทษด้วยครับที่ช้าพี่ฮ่าว”
“ตอนแรกผมกลับไปที่ห้องเพื่อขอกำลังเสริมมา แต่สุดท้ายจบลงด้วยการไปไฝว่ปากกับไอ้ลูกหมาหลิวหยวนเข้า”
“ไอ้เวรนั้นยังบอกอีกว่าจะเอาเรื่องนี้ไปบอกอาจารย์ อาจารย์น่าจะใกล้มาถึงแล้ว”
“พอผมว่าเรียกคนในห้องมาช่วยไม่ได้แล้วเลยนึกถึงหลิวเปียวกับพวกได้จึงไปเรียกพวกเขามาช่วยแทน”
เมื่อเจียงฮ่าวได้ยินดังนั้นถึงกับขมวดคิ้ว
“หลิวหยวนเหรอ”
ในตอนนี้หลิวเปียวเห็นเป็นโอกาสที่ดีจึงได้รีบพูดออกมา
“ท่านอาจารย์ เรื่องนี้ให้ผมจัดการเองดีกว่า”
เจียงฮ่าวได้เงยหน้าขึ้นมองหลิวเปียว นี่แสดงให้เห็นว่าเขานั้นยอมรับในตัวหลิวเปียวไม่น้อยเลย อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เขารู้สึกได้ว่าตอนนี้หลิวหยวนกำลังแฝงตัวอยู่ในฝูงชน
เจียงฮ่าวยิ้มและพูดออกมา
“ไม่เป็นไรน่า ขอบคุณที่มานะ เอาเป็นพรุ่งนี้เรามาแข่งกันหน่อยแล้วกัน เอาเป็นช่วงเย็นๆก็ได้”
หลิวเปียวที่ได้ยินดังนั้นได้พูดออกมาด้วยความดีใจ
“จริงเหรอครับท่านอาจารย์”
อย่างไรก็ตาม เขาเองก็เริ่มรู้สึกกระดากใจเล็น้อย
“เอิ่ม ท่านอาจารย์ แต่วันนี้ผมยังไม่ได้…”
เมื่อเจียงฮ่าวได้ยินดังนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างยอมรับนับถือและตบบ่าของหลิวเปียว
“อะไรกัน นี่นายเป็นสาวน้อยรึไงเนี่ย รีบสลายตัวได้แล้วแน่ เดี๋ยวอาจารย์มาเห็นเข้าเดี๋ยวจะซวยกันหมด”
หลิวเปียวที่ได้ยินดังนั้นก็เข้าใจในทีนที
“ได้ครับท่านอาจารย์”
“แล้วไอ้พวกนี้…”
อ้วนน้อยได้ถามออกมาในทันที
เจียงฮ่าวได้หันหลังกลับมามองด้วยสายตาเย็นยะเยียบทำให้ทั้งหาคนตอนนี้ที่สบสาบตาด้วยต้องตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูกในทันที
เจียงฮ่าวได้หันหน้ากลับมาและพูดออกมาหลังจากเห็นท่าทางอันหวาดกลัวของห้าคนนี้แล้ว
“ไปเถอะน่า ไม่ต้องกังวลไปหรอก พวกมันสมควรจะรู้ว่าต้องทำยังไง ถ้าพวกมันไม่รู้ว่าต้องทำยังไงล่ะก็ เดี๋ยวพวกมันก็ได้นอนยาวเองแหล่ะ”
“ก็ได้ งั้นไปกัน”
หลังจากพูดจบ พวกของเจียงฮ่าวต่างก็แยกย้ายในทันที