ตอนที่ 15 เมื่อปรากฏตัว ก็เป็นแค่คนขี่สามล้อ
การตื่นมาตอนเช้าวันนี้ถือเป็นอีกวันหนึ่งที่ดีของชีวิต
หลังจาก หลินฟ่าน เช็คบัญชีดูแล้ว เขาก็เห็นว่ามีเงินเข้ามา 20,000 หยวน ที่โอนมาจาก เซี่ยหว่านชิว
เซี่ยหว่านชิว รู้มาตลอดว่าชีวิตของเขาค่อนข้างลำบาก ดังนั้นเธอจึงใช้วิธีนี้เพื่อช่วยเขาแบบ อ้อมๆ และเพียงต้องการให้เขา ทำสลัดผักให้เธอทุกวัน
และเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากสำหรับ หลินฟ่าน ที่ได้ทำอะไรเพื่อ เซี่ยหว่านชิว แม้ว่าตอนนี้ เซี่ยวหว่านชิว จะเป็นดาราดังเธอก็จะไม่ดูถูกเขา แม้ว่าเขาขับรถสามล้อ
หลังจากนั้น ในแต่ละวันของเขาก็ยังคงดำเนินกิจการร้านอาหารเล็กๆ ในทุกวัน
ช่วง ตอนกลางวันก็พอมีลูกค้าเข้ามาทานอาหารอยู่บ้าง
หลังจากลูกค้าเหล่านี้กินอาหารของ หลินฟ่าน พวกเขาก็เต็มไปด้วยความพอใจและคำชื่นชม “ว้าวพี่ชายคนนี้ทั้งหล่อและทำอาหารได้อร่อยอีกด้วย”
“กุ้งมังกรตัวนี้อร่อยมากเนื้อนุ่มดีนะขอกุ้งมังกรอีกจาน!”
“เฮ้ ฉันชอบกินนี่มาก ข้าวผัดไข่อร่อยมากและราคาไม่แพงด้วย คุณเปิดร้านอาหารอร่อย ๆ ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
เสียงของลูกค้าชื่นชมและพูดคุยกันไม่หยุด
หลินฟ่าน ยุ่งตลอดทั้งวันและมีความสุขกับยอดขายในเช้าวันนี้ เขามีกำไรจากการขายมากกว่า 400 แม้ว่าตอนนี้เขาจะหาเงินได้เพิ่มขึ้น แต่เขาจะยินดีมากถ้าเป็นแบบนี้ตลอดไป หลินฟ่าน จะไม่ปล่อยให้ตัวเองเหนื่อยเกินไป ร้านอาหารเปิดแค่สองชั่วโมงในตอนเช้าและสองชั่วโมงในตอนบ่าย ส่วนตอนเย็นก็ปิดแล้ว
ร้านอาหารเล็ก ๆ แต่เปิดให้บริการเพียงสี่ชั่วโมงต่อวัน
เนื่องจากมีทักษะการทำอาหารที่เชี่ยวชาญธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็กจึงค่อยๆดีขึ้น แต่เขาก็ยังมีลูกค้าเพียงไม่กี่คนต่อวัน
มันไม่ยากที่จะสร้างรายได้ มากกว่าหนึ่งร้อยหยวนต่อวัน แม้ว่า หลินฟ่าน ถึงจะไม่มีระบบ เป็นตัวช่วย สักวันหนึ่งเขาก็ยังสามารถพึ่งพาร้านอาหารเล็ก ๆ เพื่อเลี้ยงดูตัวเองได้
ในช่วงบ่าย หลินฟ่าน ก็ขี่รถสามล้อไปที่ตลาดอาหารเพื่อซื้อผักมากมายโดยเฉพาะ สลัดของเซี่ยหว่านชิว
หลังจากนั้นไม่นานก็มีใครบางคนมาหาเขา
” ฉันตามหานายมานานแล้ว ว่าจะโทรหาก็ไม่มีเบอร์ติดต่อ ได้ยินจากเพื่อนร่วมชั้นของเราว่านายอยู่ที่นี่ “ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งขับรถ บีเอ็มดับเบิ้ลยู ซีรีส์ 5 มาที่ร้านของ หลินฟ่าน หลังจากที่เขาเพิ่งกลับจากตลาด
“เกาลี่ฉง ใช่ไหมนั่นน่ะ” หลินฟ่าน มองไปที่เขามันคือเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของเขา เกาลี่ฉง ที่คลุกคลีอยู่ในเมืองเมจิซิตี้ มาหลายปี
“ได้ยินพี่สาวฉันบอกนานแล้วว่าเจ้าของร้านที่นี่หล่อมาก” เกาลี่ฉง ลงจากรถแล้วกอดคอของ หลินฟ่าน ทันที เขายังสนิทกันแม้ว่าไม่ได้เจอกันนานแล้ว
“ลี่ฉง ตอนนี้ดูนายอ้วนขึ้นนะ ดูเหมือนว่าจะสูงขึ้นด้วย” หลินฟ่าน ดีใจที่เจอเขา
“ฮ่าฮ่า ไม่รู้ทำไมคงดื่มเบียร์บ่อยล่ะมั้ง แล้วน้ำหนักค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยเลย” เกาลี่ฉง กล่าว
ในรถ บีเอ็มดับเบิ้ลยู มีหญิงสาวหน้าตาดีเดินลงมาและเธอก็มีรูปร่างดี
จ้าว ลี่ลี่ เพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของ หลินฟ่าน แม้ว่าเธอจะไม่ดีพร้อมเท่า เซี่ยหว่านชิว แต่ก็ถือว่าเป็นสาวสวยอีกในชั้นเรียน
“หลินฟ่าน ” จ้าวลี่ลี่ มองไปที่ หลินฟ่าน ด้วยความประหลาดใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ หลินฟ่าน ขี่สามล้อ
“จ้าวลี่ลี่” หลินฟ่าน ยิ้ม “ลี่ฉง นายมากับ จ้าวลี่ลี่ ได้ยังไง หรือว่า……?”
“ไม่…. ลี่ลี่ เป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นเราเหมือนเดิม ฉันแค่พาเธอมาด้วย”เกาลี่ฉง อธิบายและหันไปมองแล้ว จ้าวลี่ลี่ ยิ้ม
“เมืองเมจิกซีตี้ใหญ่มากขนาดนี้ทำเลร้านของร้านอาหารที่นายเลือกดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยและดูเหมือนจะไม่ค่อยมีลูกค้าด้วยนะเนี่ย”
“มันก็ดีที่นายสามารถเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ และใช้ได้ชีวิตเงียบๆแบบนี้ในเมืองเมจิกซิตี้.. แต่ถ้านายมีปัญหามาหาอะไรอยากให้ช่วยบอกฉันได้นะ ฉันแนะนำนายให้พี่เขยฉันได้ นายอาจมีเงินเดือน 8,000 ต่อเดือนเลย “เกาลี่ฉง ตบหน้าอกของเขา
จ้าวลี่ลี่ มองไปที่ หลินฟ่าน แต่หลังจากนั้นเธอก็ทำเมิน..
แม้ว่า หลินฟ่าน จะหล่อมาก แต่ในยุคนี้ใครๆก็อยากคบคนรวยเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น ต่างกับ หลินฟ่านที่ขี่รถสามล้อและมีเพียงร้านอาหารเล็ก ๆ เธอคิดว่าเขาฐานะแย่มาก และรายได้ของหลินฟ่าน อาจจะไม่สามารถจ่ายค่าเช่ารายเดือนได้ด้วยซ้ำ
แม้ว่า จ้าวลี่ลี่ ตอนเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยม เธอเคยชอบ หลินฟ่าน อยู่บ้าง แต่ตอนนี้มันได้หายไป แล้วในยุคนี้วัตถุนิยมยังคงมีความสำคัญมาก จ้าวลี่ลี่ มองว่าชีวิต หลินฟ่าน น่าสงสารมาก แต่เธอไม่ได้พูดอะไรกับ หลินฟ่าน และก็รักษาระยะห่างจาก หลินฟ่าน แต่ก็ไม่ได้แสดงออกถึงการดูกถูก หลินฟ่านแต่อย่างใด
แต่ เกาลี่ฉง เป็นคนเก่งมาก ตอนนี้เขาขับ บีเอ็ทดับเบิ้ลยู ซีรีส์5 เธอได้ยินมาว่าเขายังมีบ้านอยู่ในเมืองเมจิกซีตี้ด้วย และมีเงินเดือนถึง5-6แสนต่อปี เธออยากนั่งรถของ เกาลี่ฉง
แน่นอนว่า หลินฟ่าน ไม่รู้ว่า จ้าวลี่ลี่ กำลังคิดอะไรอยู่และพูดว่า”ฉันเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ แค่นี้ก็พออยู่ได้แล้ว ลี่ฉง ตอนนี้งานที่นายทำคงดีมากเลย ถึงได้เงินเดือนละ ตั้ง 8,000 “
” งานที่นั่นน่ะเหรอ คือตอนนี้ทำงานหนักมากฉันพยายามหาเงินเพิ่มเพราะตอนนี้ฉันมีรายได้เพียง5-6แสนต่อปี ยังไม่พอใช้” เกาลี่ฉง ถอนหายใจ ดูเหมือนแย่มาก
ในยุคนี้การพูดว่าตัวเองหาเงินได้มากแต่ก็ยังไม่พอใช้นั่นหมายถึงกำลังอวดรายได้ของตัวเองอยู่ ข้อนี้ หลินฟ่าน เข้าใจดี
มีเงินเดือนประจำ ที่5ถึง6แสน ต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับเงินเดือน เดือนละ4ถึง5หมื่นต่อเดือน ซึ่งเป็นอัตราที่สูงมาก คนปกติไม่สามารถหาเงินเดือนได้ขนาดนี้ แต่ เกาลี่ฉง แสร้งทำเป็นว่าเงินที่เขาหาได้มันยังน้อยมาก
“ แล้วนายรู้ไหมว่าราคาที่อยู่อาศัยของเมืองเมจิก ซิตี้ ฉันใช้เวลาหลายปีในการจ่ายเงินดาวน์ด้วยเงินที่พ่อของฉันให้ ฉันซื้อบ้านขนาด 200 ตารางเมตรในวงแหวนรอบนอกของเมือง เมจิกซิตี้ แย่จังเลย ฉันไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ฉันจะสามารถซื้อบ้านใจกลางเมืองได้และฉันก็ไม่กล้าคิดว่าจะมีแม้แต่บ้านในเขตเมือง ด้วยซ้ำ” เกาลี่ฉง ถอนหายใจอีกครั้ง
หลังจากพูด เกาลี่ฉง ก็อวดรถ บีเอ็มดับเบิ้ลยู ซี่รี่5ของเขาอีกครั้ง
แต่ หลินฟ่าน ไม่สนใจ แม่ว่าเขามีบ้านอยู่ในวงแหวนรอบในของเมืองเมจิกซิตี้ ซึ่งเป็นบ้านพักตากอากาศใจกลางทะเลสาบ บลู เวฟ ที่มีพื้นที่มากกว่า 700 ตารางเมตร
สำหรับรถยนต์การขับ บีเอ็มดับเบิ้ลยู ซีรี่ส์5 เป็นเรื่องที่ไม่น่าอวดในสายตาของ หลินฟ่าน
“ เอาเถอะ นายพูดให้ฉันฟังไปก็เท่านั้นแหละนับประสาอะไรกับการแนะนำงานให้ฉัน แต่ก็ขอบใจนะ ” หลินฟ่าน กล่าวเมื่อเห็นการแสดงออกของ เกาลี่ฉง
“เอ่อ!เจอนายก็ดีแล้ว มีนัดเลี้ยงรุ่นวันมะรืนนี้นายต้องไปให้ได้นะ ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินฉันจะจัดการให้นายเอง แล้ว ซู่เหย่าถิง, เฉินไจ่เล่ย ก็มาด้วยนะ และแน่นอนว่า จ้าวลี่ลี่ ด้วย จะมีสาว ๆ หลายคนอยู่ที่นั่นด้วย ถ้านายไม่มาบางทีพวกผู้หญิงเหล่านั้นจะไม่มาด้วย” เกาลี่ฉง ยิ้ม
“เลี้ยงรุ่นงั้นเหรอ?” หลินฟ่าน ตื่นเต้นหลังจากเรียนจบมาหลายปีเขาก็ไม่เคยกลับมารวมตัวกับเพื่อนร่วมชั้นมัธยมเลย
“นัดกันที่ โรงแรมเรดิสัน นี่คือโรงแรมระดับห้าดาว ฉันจองเอาไว้แล้ว” เกาลี่ฉง ตบหน้าอกของเขา
“เหรอ” หลินฟ่าน พยักหน้า แต่ไม่สนใจอะไรมากมาย มันคงจะดีที่ได้พบเจอเพื่อนร่วมชั้นเก่าของเขา
โดยทั่วไปแล้วการเลี้ยงรุ่นมักจะจัดขึ้นมาเพียงเพราะอยากจะอวดกันถึงความร่ำรวยและหน้าที่การงานของแต่ละคน แต่สำหรับ หลินฟ่าน เขาไม่สนใจว่าคนอื่นจะโอ้อวดหรืออาจจะดูถูกชีวิตเขาอย่างไร ไม่ว่าจะอย่างไรคนอื่นก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับสิ่งที่เขามีในตอนนี้ได้
“ เอาล่ะเพื่อน ฉันไปก่อนนะ แล้วอย่าลืมว่าถ้าอยากหางานติดต่อฉันได้ตลอดเวลา” เกาลี่ฉง และ จ้าวลี่ลี่ ทั้งคู่ขึ้นรถและออกไป
“ฉันว่าตอนนี้ร้านเขาไม่ดีจริงๆและไม่ค่อยมีลูกค้าด้วย เขาดูน่าสงสาร เขายังจะมาอวดดีและปฏิเสธที่จะให้ฉันช่วยเขาอีก” เกาลี่ฉง กล่าว
จ้าวลี่ลี่ พยักหน้าเบา ๆ และมองไปที่ เกาลี่ฉง ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับท่าเมินเฉยที่เขาเคยทำต่อหน้า หลินฟ่าน เมื่อสักครู่นี้
“ลี่ฉง ไม่ใช่ทุกคนที่จะดีเทียบกับคุณได้คุณเป็นคนที่มีแรงบันดาลใจในตัวเองทำงานหนักจนมีบ้านมีรถและทำงานเก่ง แม้ว่า หลินฟ่าน จะหล่อกว่า แต่ความหล่อก็ไม่ได้ช่วยอะไรถ้ายังจนอยู่” จ้าวลี่ลี่ กล่าว
“ น่าเสียดายนะที่ เซี่ยหว่านชิว ไม่สามารถมาเลี้ยงรุ่นได้ ตอนนี้เธอเป็นถึงดาราดัง แต่ หลินฟ่าน กลับดูแย่มากในตอนนี้ ฉันคิด ว่า เซี่ยหว่านชิว คงจะไม่ได้สนใจเขาเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว”จ้าวลี่ลี่ กล่าวโดยคิดถึงความสัมพันธ์ของ เซี่ยหว่านชิว กับ หลินฟ่าน แต่ตอนนี้ฐานะของ เซี่ยหว่านชิวดีกว่าหลินฟ่าน มาก เป็นเรื่องยากที่จะอยู่ระดับเดียวกันได้
เกาลี่ฉง พยักหน้า “ไม่มีเพื่อนร่วมชั้นคนไหนสามารถติดต่อ เซี่ยหว่านชิว ได้เลยยิ่งถ้าเป็นหลินฟ่านตอนนี้แล้วคงไม่มีทางเลย”