ตอนที่ 7 ตัวดุร้ายและน่ารักอยู่ที่บ้าน
หลังจากหลินฟ่านทำความสะอาดครัวแล้ว เซี่ยหว่านชิว ก็กินบะหมี่เสร็จพอดี
“ บะหมี่ไข่ราคาเจ็ดหยวน “
“หลินฟ่าน ส่งข้อความทาง วีแชท ให้เชี่ยหว่านชิว หลังจากกินและดื่มที่ร้านทุกครั้ง
แม้ว่าเขาจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นเก่า และสนิทกันมาก แต่ หลินฟ่าน คิดราคาทุกครั้ง และเซี่ยหว่านชิว ก็จ่ายทุกครั้ง
ถ้าหลินฟ่านไม่คิดเงินกับเธอก็อาจจะไม่มาบ่อยๆแบบนี้ เธอไม่หมือนคนอื่นๆ
และถ้าหลินฟ่านไม่มีระบบมันก็ยากที่จะเลี้ยงตัวเองได้เงินเจ็ดหยวน เช่นกัน
“ดี.” หลินฟ่าน พยักหน้าโดยไม่ต้องมองไปที่โทรศัพท์
“หลินฟ่าน ร้านของนายขายไม่ค่อยดีเหรอ ?” เซี่ยหว่านชิว มองไปที่ หลินฟ่าน และกล่าว
“มันได้เงินไม่มาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่” หลินฟ่าน กล่าวตอนนี้เขามีรถและคฤหาสน์หรูหลายร้อยล้านและบัญชีธนาคารของเขายังมีเงินสดอีกหนึ่งแสน อย่างน้อยในระยะสั้นนี้เขาจะไม่กังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้า บางที เขาสามารถลงชื่อเข้าใช้เพื่อสิ่งที่ดีกว่าในอนาคตได้อีกดังนั้นเขาจึงไม่สนใจกำไรของร้านอาหารเล็ก ๆนี้เท่าไหร่
“เหมี๊ยวๆ.. นายหล่อมากนายสามารถเข้าร่วม สังกัด ของเราได้นายสามารถเป็นนักแสดงที่ดีได้แล้วนายจะมีแฟน ๆ มากมาย” เซี่ยหว่านชิว สัมผัสลูกแมวสีเทาในอ้อมแขนของเธอและพูดกับหลินฟ่านไปพร้อมๆกัน
“ตอนนั้นเรายังท่องบทด้วยกันและแสดงด้วยกันได้ เลย… ” เซี่ยหว่านชิว มองไปที่ หลินฟ่าน เธอปฏิเสธฉากจูบ ฉากจับมือและฉากถึงเนื้อถึงตัว มาโดยตลอดซึ่งก็สร้างความสูญเสียให้กับ บริษัท มากมายเช่นกันโชคดีที่เธอ เป็นนักแสดงเบอร์ต้นๆของ บริษัทจึงไม่สามารถจะตำหนิเธอได้
“ฉันคิดว่ามันค่อนข้างใช้ชีวิตลำบาก ทุกวันนี้ฉันอยู่แบบสงบและมีความสุขที่ได้โทรหาพ่อแม่เป็นครั้งคราวทุกอย่างดีอยู่แล้ว และการเป็นดาราคงจะเครียดมาก” หลินฟ่านปฏิเสธ
ตอนนี้เขาหล่อมากแล้วและเขาสามารถดึงดูดสายตาของสาว ๆ มากมายบนท้องถนนได้ถ้า หลินฟ่านใส่ใจกับการแต่งตัว และเขาสามารถหากินได้ด้วยรูปลักษณ์ของเขา
ถ้าเขาเปลี่ยนอาชีพไปเป็นดารา จะไม่ต้องลำบากอีก ในอนาคตจะมีปาปารัสซี่ไล่ตาม การปกป้องจากแฟนคลับ ผู้หญิงหลายคนจะมาให้เขาเลือก
ในชีวิตจริงนั้นการคิดเรื่องนี้เป็นเรื่องเครียด สำหรับ หลินฟ่าน เขาแค่อยากสัมผัสกับความสุขในชีวิตเก็บเงินแต่งงาน และออกกำลังกายเป็นครั้งคราวมันไม่ต้องหรูหราอะไรมากมาย
“นั่นสินะ … ” เซี่ยหว่านชิว พยักหน้าเศร้าเล็กน้อยในดวงตาที่สวยงามและเต็มไปด้วยความปรารถนาดีของเธอ
“และถ้าฉันไปแสดงกับเธอฉันจะถูกแฟน ๆ ของเธอไล่ในตามแน่ๆ … “
“ถ้าให้พวกเขาเห็นว่าเธอมากินข้าวที่นี่ คงมีแฟนคลับมานั่งเต็มร้านไปหมด”
เซี่ยหว่านชิว ปัจจุบันเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่รักของผู้คนนับไม่ถ้วน หากไม่มีระบบวิเศษนี้ หลินฟ่านก็เป็นเพียงคนธรรมดาที่มีชีวิตยากลำบากไม่คูควรแม้แต่จะมอง เซี่ยหว่านชิว ด้วยซ้ำ
” นายก็เคยเลี้ยงฉันตอนที่คุณอยู่มัธยมปลาย จะมีอะไรผิดปกติ แค่การเป็นดาราเราร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยกันไม่ได้แล้วงั้นเหรอ?
” แม้ว่าตอนนี้ฉันจะมีแฟนคลับอยู่บ้าง แต่ฉันก็เป็นคนธรรมดา อย่าคิดว่าฉันเป็นคนที่เหนือกว่าคนอื่น ถ้านายพูดแบบนี้อีกทีหลังฉันจะโกรธ ” เซี่ยหว่านชิว แกล้งทำเป็นโกรธและจ้องมอง หลินฟ่าน
“เกิดอะไรขึ้นเมื่อฉันโกรธนายรู้ใช้ไหม?” หลินฟ่าน เห็นท่าทางโกรธของ เซี่ยหว่านชิว รู้สึกน่ารักจนอดยิ้มไม่ได้
“นายรู้รึเปล่าว่าที่จริงแล้วแมวมันดุมาก”เซี่ยหว่านชิว กล่าว
“ใช่มันดูดุร้ายเวลาโมโหและน่ารักมากเหมือนกัน” หลินฟ่านยิ้ม
“นี่แหน่ะ!” เซี่ยหว่านชิว ตี ตีหลินฟ่าน เธอดูโกรธมาก
“โอ๊ย!มันเจ็บนะ” หลินฟ่าน ยิ้มและพูดเสียงแหบๆ
แม้ว่าเขาจะเป็นซุปเปอร์สตาร์แล้วเธอก็ยังเหมือนเดิม ตอนเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมพวกเขาก็มักจะเล่นกันแบบนี้เสมอ
“ฉันทำนายเจ็บรึเปล่า” เซี่ยหว่านชิว ถามเบา ๆ ดวงตาของเธออ่อนโยนลงทันที
“ไม่เจ็บแล้ว ไม่เจ็บแล้ว ” หลินฟ่าน มองหน้า เซี่ยหว่านชิว เธอน่ารักและแสนดีจริงๆใครจะอดใจไม่รักเธอได้?
เซี่ยหว่านชิว นั่งลงและยิ้มอย่างนุ่มนวล “หลินฟ่าน นายยังคงเหมือนเมื่อตอนที่เรียนมัธยมปลายไม่เปลี่ยนเลย”
“ถ้านายไม่อยากเป็นดาราอย่างนั้นมาเป็นผู้จัดการให้ของฉันไหมและฉันให้เงินเดือนสูง ๆ กับนายได้” เซี่ยหว่านชิว พูดแบบจริงจัง
“ถ้างั้นฉันจะสามารถทำงานให้เธอได้ไงล่ะฉันหล่อมากนะจะทำยังไงถ้าออร่าของฉันบดบังออร่าของเธอซะหมด” หลินฟ่าน ยิ้ม
“นายนี่ … ” ใบหน้าของ เซี่ยหว่านชิว แดงขึ้นและเขาจ้องไปหลินฟ่าน เห็นรอยข่วนที่แขนของเข่า
“เหมียว ~~” ลูกแมวสีเทาร้องเหมียวกระโดดเข้าสู่อ้อมแขนของ เซี่ยหว่านชิว และเหยียดอุ้งเท้าของมันไปที่ หลินฟ่าน อย่างดุเดือด
“ลูกแมวตัวนี้ฉันขอฝากไว้กับนายด้วยนะ นายช่วยฉันดูแลมันด้วย” เซี่ยหว่านชิว ถอนหายใจปกติแล้วเธอจะยุ่งกับงานตลอด แล้วเธอจะมีเวลาเล่นแมวได้อย่างไร?
“โอเค” หลินฟ่าน ตอบรับและยิ้มให้กับลูกแมวสีเทา ปล่อยให้แมวแก่ตัวนี้ทำร้ายฉัน และในที่สุดฉันก็สามารถพาแมวตัวนี้ไปทำหมันได้!
“แล้วอย่ารังแกมันนะ” เซี่ยหว่านชิว พูดอีกครั้ง
“ ฉันไม่สำคัญเท่าแมวเหรอ?” หลินฟ่าน รู้สึกเสียใจเล็กน้อย ที่เธอเห็นแมวแก่ตัวนี้สำคัญกว่าเพื่อนอย่างฉัน
“อืม ..ใช่.. ถ้าเป็นครอบครัวเราสามคนนายต้องสำคัญน้อยที่สุดอยู่แล้ว” เซี่ยหว่านชิว แสดงรอยยิ้มเล็กน้อย
“ใครอยากเป็นครอบครัวสามคนกับเธอ..อย่ามาขี้โกงฉัน” หลินฟ่าน จับแมวอย่างระมัดระวัง
“แค่มากินข้าวก็จะบอกว่าเป็นครอบครัว ฉันไม่ให้เธอกินฟรีหรอกนะ!”
เซี่ยหว่านชิว โกรธมาก “เธอกัดแขนของหลินฟ่าน!”
แขนขวาของหลินฟ่าน ถูกกัดจนเป็นรอย
“ นี่เธอเป็นหมาเหรอ?” หลินฟ่าน มองไปที่รอยบนแขนของเขาแล้วเขาก็พูดติดตลก”นี่ เซี่ยหว่านชิว เธอกัดฉันจริงๆ”
เซี่ยหว่านชิว ออกอาการโกรธกับคำพูดของ หลินฟ่าน เธอเงียบและจ้องหลินฟ่านอยู่สักครู่หนึ่ง
“ฉันยังมีงานอยู่ ไปก่อนนะลูกแมว ฉันจะตั้งชื่อให้เธอว่า ชิวฉิว” เซี่ยหว่านชิว ยืนขึ้นและลูบหัวลูกแมวอีกครั้ง
“ดีดี” หลินฟ่านอุ้มลูกแมวและเดินออกไปที่ประตูด้วยกัน
เซี่ยหว่านชิว สวมหมวกหูแมวและหน้ากากโชคดีที่ไม่มีใครอยู่แถวนี้ เธอได้มองเห็นรถสามล้อเก่าๆของหลินฟ่าน และถอนหายใจเล็กน้อย
“นายอยากปลี่ยนรถสามล้อของนายรึเปล่าฉันว่านายนั่งรถสามล้อคันนี้ดูมันไม่ปลอดภัย” เซี่ยหว่านชิว หันกลับไปพูดและมองไปที่ หลินฟ่าน
“ ไม่….ฉันขับรถคันนั้นตอนออกไป” หลินฟ่าน ชี้ไปที่ บูกัทติ ลา โว ชูนั่ว ที่จอดอยู่ไม่ไกล
เมื่อเห็นรถสปอร์ต เซี่ยหว่านชิว ก็มองแล้วเดินไปข้างหน้า หลินฟ่าน จ้องหน้า หลินฟ่าน” อย่าโม้เลยหลินฟ่าน ฉันรู้ว่านายจะโม้แต่เอาไว้โม้คราวหน้า..แล้วก็ระวังฉันจะกัดนายอีกนะ “
หลินฟ่าน ยิ้ม บอกความจริงก็ไม่มีใครเชื่อ
สำหรับ บูกัทติคันนี้ หลินฟ่าน ไม่ได้อธิบายและเขาไม่ต้องการอวดความความรวยของเขาให้ใครรู้
เมื่อมองไปที่ด้านหลังของ เซี่ยหว่านชิว หลินฟ่าน ก็เปิดกล้องโทรศัพท์มือถือของเขาถ่ายรูป เซี่ยหว่านชิว และบันทึกไว้
แต่หลังจากนั้นไม่นาน เซี่ยนหว่านชิวก็ลับสายตาเขาไป
บน วีแชท ของหลินฟ่านเขาได้รับข้อความของ เซี่ยหว่านชิว
เซี่ยหว่านชิว: “เจ้าแมวเหมียวฉันจะไปแล้วนะ”
หลินฟ่าน: “ดูแลตัวเองด้วย”
เซี่ยหว่านชิว: “~~~~” อ่านข้อความแล้วยิ้ม