ตอนที่ 89 หลินจิงจิงกับเพลงประกอบละครลึกลับ
หลังจากได้รับเงินวิกฤตเศรษฐกิจของ หลินฟ่าน ก็บรรเทาลงชั่วคราว
หลินฟ่าน จะร่ํารวยมากเมื่อมีการประกาศรางวัลสําหรับละครแต่ก็คงนานกว่าหนึ่งปี
เงิน 300,000 หยวนใช้สําหรับการบรรเทาทุกข์ในกรณีฉุกเฉินและ สามารถจ่ายค่าธรรมเนียมทรัพย์สินค่าสาธารณูปโภคและการบํารุงรักษารถหรูสามคันของเขาซึ่งก็เป็นเงินเป็นจํานวนมาก
หลินฟ่าน ได้เงินไม่มากนักสําหรับการถ่ายละครซิ่วหยู่เหนียน
ค่าจ้างของ หลินฟ่าน มีเพียงเก้าล้าน
ตอนนี้ หลินฟ่าน ยังคงเป็นนักแสดงใหม่และการลงทุนที่น้อยลงของละครซิ่วหยู่เหนียน ทําให้ค่าตัวของนักแสดงลดลงกันทุกคน
…….
ในทีมงานหลังการถ่ายทําหลัง จากทํางานตัดต่อเสร็จแล้วสิ่งที่สําคัญที่สุดคือการพากย์
ในทีมโพสต์โปรดักชั่นมีการเชิญอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญการพากย์อย่าง เหม่ยหลัน และการพากย์แอคชั่นที่เฉพาะเจาะจงบางอย่างรวมถึงต้องทําเพลงประกอบที่สลับไปมาตลอดทั้งเรื่อง
กว่าจะออกมาเป็นซีรี่ส์ทีวีได้ทุกพล็อตและทุกฉากจะต้องมาพร้อมกับดนตรีที่แตกต่างกัน
บริษัท ยังจ้างพนักงานจํานวนมากเพื่อสร้างเพลงประกอบต่างๆสําหรับซีรีส์ ซิ่วหยู่เหนียน
เมื่อ เหม่ยหลัน พาทีมงานไปทํางานที่เกี่ยวข้องนอกจากนี้ยังมีพนักงานพากย์มืออาชีพบางคน
และก็ยังมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่นคือ หลินจิงจิง ก็มาด้วย
เสียงของเธอไพเราะและการร้องเพลงของเธอก็ไพเราะเช่นกันประกอบกับความสามารถรอบด้านที่โดดเด่นของเธอ
การเป็นนักแสดงเป็นเพียงงานอดิเรกของ หลินจิงจิง และเธอก็เป็นนักร้องด้วยเพราะเสียงที่ดีของเธอ หลินจิงจิง จึงรับหน้าที่เป็นนักพากย์ด้วย
เมื่อหลินจิงจิง และเหม่ยหลัน มาที่ทีมหลังการถ่ายทําพวกเขาก็เห็น หลินฟ่าน กําลังพยายามทําซาวด์ เพราะเขายังมีความสามารถทางดนตรีชั้นยอดรวมถึงทักษะการร้องเพลงระดับเทพอีกด้วย
การร้องเพลงของ หลินฟ่าน ก็เป็นสิ่งที่จําเป็นเช่นกันและความสําเร็จทางดนตรีของเขาก็สูงไม่แพ้กัน
และยังมีเพลงประกอบมากมายที่สร้างโดย หลินฟ่าน
เมื่อ หลินฟ่าน ทําซาวด์แทร็กเขาก็ทุ่มเทให้กับมัน
เมื่อสร้างผลงานเพลงแต่ละชิ้น หลินฟ่าน จะพูดคุยเกี่ยวกับเปียโนและแก้ไขด้วยซอฟต์แวร์จนกว่าเอฟเฟกต์ดนตรีทั้งหมดจะตรงกับสไตล์ของพล็อต
เพื่อให้ในห้องทํางานมี แต่เสียงเพลง
พนักงานคนอื่น ๆ ก็เงียบเช่นกัน
ยังมีบางคนที่จมอยู่กับดนตรีที่ไพเราะอีกด้วย
เพลงประกอบแบบนี้เล่นบนเปียโนอีกครั้งทุกคนกําลังฟังอย่างเงียบ ๆ
แม้ว่าทุกคนจะไม่เข้าใจดนตรี แต่พวกเขาก็รู้สึกได้ว่าดนตรีชิ้นนี้ดีมาก
ในหมู่พวกเขา หลินฟ่าน ยังเล่นเพลงประกอบของละครทีวีเรื่องนี้เคยทําไว้
อาจารย์เหม่ยหลัน เป็นคนเงียบ ๆ เชี่ยเข่อซิ่น แค่กําลังจะต้อนรับสองคนนี้เข้ามา
เหม่ยหลัน ทําท่าทางเงียบ ๆ และฟังเพลงอย่างตั้งใจ
เธอยืนอยู่ที่นี่เป็นเวลานานฟังเพลงของ หลินฟ่าน ตลอดเวลา
ด้านหนึ่งคือ หลินจิงจิง หลับตาลงอย่างเพลิดเพลินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเกี่ยวกับ หลินฟ่าน
บริษัท จ้างนักดนตรี อื่นเมื่อไหร่?และเพลงที่เล่นนั้นดีจริง ๆ
เฉพาะผู้ที่เข้าใจดนตรีเท่านั้นที่จะเข้าใจว่ามีความรู้เกี่ยวกับทฤษฎีดนตรีในดนตรีของ หลินฟ่าน มีมากเพียงใด
การปรับแต่งมีความสดใสและสละสลวยและดนตรีที่ยังไม่มีเนื้อร้องได้เข้าสู่หูของทุกคน
หลังจากเล่นทุกอย่างแล้ว หลินจิงจิง ก็ลืมตาขึ้นและมีแววตาที่สวยงามของเธอแปลกใจ
สิ่งที่เธอชอบมากที่สุดคือดนตรีและการร้องเพลงดังนั้นเธอจึงได้ยินมันอย่างเป็นธรรมชาติในตอนนี้
หลินฟ่าน ทํางานดนตรีชิ้นนี้ซึ่งเป็นต้นฉบับของเขา
ช่างเป็นดนตรีที่ไพเราะจริงๆ หลินจิงจิง ต้องการพบกับปรมาจารย์ลึกลับผู้นี้อยู่แล้ว
ใครกันที่สามารถเล่นดนตรีได้ดีขนาดนี้และแม้แต่ซาวด์แทร็กในตอนนี้ก็สดใสและมีชีวิตชีว่ามาก
หลินจิงจิง ได้ตัดสินใจแล้วว่าเธอต้องการจะขอคําแนะนําจากอาจารย์ผู้นี้
จะดีมากถ้าคนคนนี้สามารถสอนวิธีร้องเพลงให้เธอได้
อาจารย์เหม่ยหลัน ที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ลืมตาขึ้นเช่นกัน
“เพลงประกอบเมื่อกี้ใครเป็นคนทํา”
“เป็นไปได้เหรอว่า… โจวเทียนหวาง มาที่นี่ด้วย มีเพียงผู้ที่มีความรู้ด้านดนตรีอย่างลึกซึ้งเท่านั้นที่สามารถเล่นเพลงนี้ได้ การปรับแต่งที่สวยงามซาวด์แทร็กในตอนนี้ช่างสมบูรณ์แบบจริงๆ” อาจารย์เหม่ยหลัน กล่าว
เชี่ยเข่อซิ่น ตกใจเล็กน้อยตอนนี้ หลินฟ้าน บอกว่าเขาต้องการใช้เปียโน เพื่อดูว่ามีซาวด์แทร็กที่เหมาะสมหรือไม่ เชี่ยเข่อซิ่น ก็ปล่อย หลินฟ่าน ไป
ในการรับรู้ของ เชี่ยเข่อซิ่น หลินฟ่าน เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสคริปต์และมีความรู้มากมายในขั้นตอนหลังการถ่ายทํา แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าจะรู้ว่า หลินฟ่าน สามารถทําดนตรีได้เช่นกันท้ายที่สุดแล้วดนตรีต้องอาศัยความสามารถและต้องทํางานหนัก มันยากมากที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับเพลง แม้ว่าคุณจะต้องการเรียนดนตรีและต้องการพากย์ทีวี แต่คุณก็ต้องมีความรู้ระดับมืออาชีพเช่นกัน
แต่ตอนนี้เหม่ยหลัน เป็นผู้เชี่ยวชาญในวงการเพลง โดยที่ทีมงานก็ไม่รู้ว่าทีมงานทําเพลงประกอบซีรีส์มากี่เรื่องแล้ว และเขาก็ยกย่อง หลินฟ่าน เป็นอย่างสูง
ถึงกับคิดว่า หลินฟ่าน เป็น โจวเทียนหวาง หรือ เทียนโหว….
โจวเทียนหวาง และ เทียนโหว เป็นหนึ่งในบุคคลอันดับต้น ๆ ในอุตสาหกรรมดนตรีทั้งหมด และเหม่ยหลัน ก็แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ หลินฟ่าน ในลักษณะนี้ซึ่งเพียงพอที่จะแสดงทัศนคติของ เหม่ยหลัน ที่มีต่อ หลินฟ่าน การรับรู้
นี่เป็นการรีเฟรชความรู้ความเข้าใจของ เชี่ยเข่อซิ่น
หลินฟ่าน ยอดเยี่ยมเกินไปทําไมแม้แต่ด้านดนตรีถึงได้อยู่ในระดับสูงเช่นนี้
“อาจารย์เหม่ยหลัน คุณพูดถึงเพลงนี้เหรอคะ” เชี่ยเข่อซิ่น ถาม
” ขึ้นไปด้านบนเถอะ” อาจารย์เหม่ยหลัน กล่าว
“อืม ฉันขอพบนายคนนั้นได้ไหมเขาเล่นเปียโนและคุยเก่งมากโดยเฉพาะในช่วงสุดท้ายเมื่อกี้ ฉันรู้สึกเหมือนมีภาพใหม่ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาฉัน” หลินจิงจิง พยักหน้า
เชี่ยเข่อซิ่น กล่าวว่า: “ไม่ใช่ อาจารย์โจวเทียนหวาง ที่มาที่นี่เพื่อทําเพลง แต่ หลินฟ่าน ค่ะ เขาบอกว่าเขาอยากลองดูฉันไม่คิดว่าเขาจะมีความรู้ด้านดนตรีอย่างลึกซึ้งขนาดนี้”
ในเวลานี้ หลินฟ่าน ก็เดินออกไป
หลังจากได้เห็น หลินฟ่าน ดวงตาที่สวยงามของ หลินจิงจิง ก็เบิกกว้าง
โอ้พระเจ้า … เธอคิดว่าเขาเป็น อาจารย์โจวเทียนหวางที่เล่นอยู่ แต่กลับกลายเป็นว่าคนที่เล่นดนตรีอยู่นั้นคือ หลินฟ่าน!
“ว้าว กลายเป็นคุณเองเหรอ หลินฟ่าน ทําไมคุณถึงเก่งด้านดนตรีด้วย” หลินจิงจิง วิ่งไปดูหลินฟ่าน ด้วยสายตาชื่นชม
การแสวงหาดนตรีของ หลินจิงจิง เป็นความฝันตลอดชีวิตของเธอ หลินฟ่าน เก่งในด้านดนตรี และแน่นอน หลินจิงจิง รู้สึกนับถือ
นั่นเป็นสิ่งที่แม้แต่อาจารย์เหม่ยหลัน ของเธอก็ชื่นชม
“อาจารย์หลิน เพลงที่คุณเพิ่งเล่นนั้นยอดเยี่ยมมาก” เหม่ยหลัน จับมือกับหลินฟาน
หลินฟาน ยิ้มและพูดว่า “ผมเตรียมเพลงประกอบละครเรื่องนี้ชื่อ” วัน ตอร์ท ฟอร์ อะ ไลฟ์
เหม่ยหลัน พยักหน้า” เพลงประเภทนี้สามารถใช้เป็นเพลงธีมและเป็นเพลงประกอบ คุณเพิ่งสร้างขึ้นมาก็เหมือนกัน มันเป็นสัมผัสที่วิเศษและถ้าคุณใช้กับทีวีซีรีส์เรื่องนี้จะได้รับความนิยมอย่างมาก! “
เหม่ยหลัน ไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะมาเพื่อช่วยให้ ซิ่วหยู่เหนียน ทําคะแนนนิยม แต่กลับได้พบกับ ผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีที่ทรงพลังยิ่ง อย่างหลินฟ่าน และเธอรู้สึกยินดีมากที่ได้เจอเขาที่นี่
