บทที่ 12 หมัวเทียนผิดใจกับผู้เป็นอาจารย์ (ปลาย)
บทที่ 12 หมัวเทียนผิดใจกับผู้เป็นอาจารย์ (ปลาย)
ขณะที่ลู่หยวนเดินออกไป กลิ่นของหมัวเทียนกลายเป็นบางเบา และเศษเสี้ยววิญญาณในกายก็ลอยออกจากร่างกายของเขา
เหยียนโจวลอยไปที่โอสถหล่อวิญญาณ ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาพินิจอย่างระมัดระวัง
หมัวเทียนยังจับจ้องยาอายุวัฒนะ ก่อนจะขว้างมันทิ้งไปราวขยะ “ข้าไม่รู้ว่าลู่หยวนมันคิดสิ่งใดกันแน่ เม็ดยานี้ไม่อาจไว้ใจได้!”
“ในฐานะอาจารย์ ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไร แต่เม็ดยานี้เป็นของจริง และเรียกได้ว่าเป็นระดับสูงด้วย”
ยอดฝีมือเฒ่าใส่โอสถหล่อวิญญาณลงในกล่องและกล่าวกับหมัวเทียนว่า “เสี่ยวเทียน ข้ารู้ว่าเจ้าและลู่หยวนต่างมีความคับข้องใจต่อกันอย่างสุดซึ้ง แต่โอสถหล่อวิญญาณนี้มีความสำคัญกับอาจารย์ยิ่ง และอาจารย์ต้องรับมันไว้”
ใบหน้าของหมัวเทียนกลายเป็นซีดเผือด ทั้งสิ้นหวังและอัดอั้นตันใจระคนกัน
เขาเกลียดมัน!
เมื่ออาจารย์ต้องการสิ่งใด คนมอบให้กลับไม่ใช่เขา หากแต่เป็นลู่หยวน!
“หากท่านอาจารย์ต้องการ ก็จงรับไว้เสีย!”
เหยียนโจวทราบอารมณ์ของหมัวเทียนผ่านน้ำเสียงนั้น และเขารู้ว่าลู่หยวนโหดร้ายกับเขาเกินไปในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ชายหนุ่มวัยนี้มักเลือดร้อนและหงุดหงิดง่าย ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งกระตุ้นนำพาสู่หนทางแห่งความมืด สิ่งที่จะได้รับย่อมมีแต่สูญเสีย
เหยียนโจวปลอบใจ “เสี่ยวเทียน แม้ตอนนี้จะมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างเจ้ากับลู่หยวน แต่ตราบใดที่เจ้าฝึกฝนอย่างหนัก สักวัน ขั้นของเจ้าจะมากกว่าลู่หยวนแน่นอน”
คำพูดนี้จุดประกายในใจของหมัวเทียน มันยิ่งทำให้ใบหน้าของเขาหม่นหมองกว่าเดิม
เวลานี้… อาจารย์ยังรู้สึกว่าเขาด้อยกว่าลู่หยวนงั้นหรือ?!
ในอนาคต หากไม่สามารถทำตามที่อาจารย์คาดหวังได้ อาจารย์ก็คงจะหักหลังข้าใช่หรือไม่? แล้วไปอยู่กับเจ้านั่นแทน?!
บุตรแห่งโชคชะตาสำนักฟ้าประทานมองโอสถหล่อวิญญาณในมืออาจารย์ด้วยความหวาดระแวง และพยายามจะระงับความคิดชั่วร้ายเอาไว้
ไม่! ไม่ได้! อาจารย์บอกว่าจะทำให้เขาขึ้นไปยืนอยู่ในจุดสูงสุดของแผ่นดินหยวนหง!
และเขาจะช่วยอาจารย์หลอมสร้างกายาขึ้นมาใหม่!
แต่ลู่หยวนสามารถสร้างร่างกายใหม่ให้อาจารย์ได้เร็วกว่า
แล้วอาจารย์จะไม่หักหลังเขาจริงหรือ?
ลู่หยวนพาซวี่รั่วหลิงเดินไปอย่างไร้จุดหมาย ขณะนั้นเสียงคุ้นเคยของระบบก็ดังขึ้นในหูของเขา
ระบบแจ้งว่า… [เกิดความแตกแยกระหว่างหมัวเทียน บุตรแห่งโชคชะตาและอาจารย์ของเขา ค่าชะตาของหมัวเทียนลดลง 500 แต้ม! ค่าชะตาวายร้ายเพิ่มขึ้น 1,000 แต้ม!]
[ขณะนี้ค่าชะตาของท่านในปัจจุบันคือ 4,000 แต้ม!]
เฮ้อ… หมัวเทียนผู้โง่เขลา แค่ถูกยั่วยุเล็กน้อยก็กลายเป็นสงสัยในตัวอาจารย์เสียได้
“คุณชาย คุณชาย?”
เสียงของซวี่รั่วหลิงทำให้จิตใจของลู่หยวนฟื้นคืนสติ
“หืม? มีสิ่งใดหรือ?”
ซวี่รั่วหลิงมองลู่หยวนด้วยแววตากังวล “คุณชาย รั่วหลิงอยากถามว่าเกิดอะไรกับหมัวเทียนเมื่อครู่นี้? เหตุใดกลิ่นอายในกายของเขาจึงแปรเปลี่ยนมากมายเช่นนั้น? แม้แต่ขั้นการฝึกฝนยังเพิ่มขึ้นได้?”
ลู่หยวนยังคงเดินไปด้านหน้าพร้อมเอามือไพล่หลังอย่างสบาย ๆ แล้วบอกกล่าวกับนางตามตรงว่า “มีเศษเสี้ยววิญญาณที่แข็งแกร่งติดตามหมัวเทียนอยู่ และความแข็งแกร่งของบุคคลผู้นั้นไม่ธรรมดา เขาเป็นอาจารย์ของหมัวเทียน และการเปลี่ยนแปลงที่เจ้าเห็นเมื่อครู่นี้คือพลังของเศษเสี้ยววิญญาณที่ครอบงำร่างของหมัวเทียน”
ซวี่รั่วหลิงไตร่ตรองสักครู่ก่อนจะพยักหน้าด้วยความประหลาดใจ “ไม่แปลกใจเลย เขามักจะมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม และเขาสามารถทราบถึงสมบัติบางอย่างที่แม้แต่ผู้อาวุโสของกองกำลังยังไม่ทราบ”
“คุณชายคิดปล่อยพวกเขาไปหรือ?”
ซวี่รั่วหลิงกังวลเล็กน้อย
ลู่หยวนหันมองนางพร้อมถามด้วยความสงสัย “เจ้าไม่ชอบหมัวเทียนแล้วหรือ?”
ซวี่รั่วหลิงตื่นตระหนก นางจับจ้องท่าทีของอีกฝ่ายที่ดูไม่เหมือนการหยอกล้อแม้แต่น้อย ก่อนจะตอบออกไปตามตรงว่า “คุณชายช่างมีอารมณ์ขัน รั่วหลิงกับหมัวเทียนเป็นเพียงศิษย์พี่ศิษย์น้องในสำนัก และตอนนี้รั่วหลิงไม่ได้เป็นศิษย์ของสำนักฟ้าประทานแล้ว อีกอย่างวันนี้เขาเหยียดหยามความบริสุทธิ์ของข้า รั่วหลิงผู้นี้จึงไม่คิดมีสัมพันธ์ใดกับเขาอีกต่อไป!”
ลู่หยวนยกยิ้มเข้าใจ “ไม่ต้องกังวลไป… ตระกูลลู่คือบ้านของเจ้า จะไม่มีผู้ใดกล้าดูถูก และไม่มีผู้ใดกล้าขับไล่ เจ้าจงสบายใจได้ หลังจากเรื่องนี้จบลง ข้าจะพาเจ้าไปที่หอตำราเพื่อหาดูว่าพอจะมีบันทึกใดที่จะช่วยแก้ปัญหาของร่างกายเจ้าได้บ้าง หลังจากปัญหานั้นถูกแก้ไขแล้ว ขั้นการฝึกฝนของเจ้าก็จะสูงขึ้น”
ซวี่รั่วหลิงอดรู้สึกอบอุ่นในใจไม่ได้ นางมองลู่หยวนด้วยแววตาอ่อนโยน “ขอบคุณคุณชายยิ่งแล้ว!”
ระบบแจ้งเตือนว่า [ความรู้สึกของซวี่รั่วหลิงที่มีต่อท่านเพิ่มขึ้น และได้รับค่าชะตาวายร้าย 300 แต้ม!]
[ในปัจจุบัน ค่าชะตาวายร้ายของท่านคือ 4300 แต้ม!]
ลู่หยวนกล่าวว่าซวี่รั่วหลิงเป็นหนึ่งในสมาชิกตระกูลลู่อย่างสบาย ๆ เวลานี้เขาอำพรางกลิ่นอายของตนและเดินติดตามหมัวเทียนไปตลอดเส้นทาง
หลังจากผ่านไปสามวัน หมัวเทียนได้ค้นพบสมบัติลับมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีแผ่นยันต์ที่สร้างความตื่นเต้นให้กับลู่หยวน
ยันต์นี้สามารถเคลื่อนย้ายผู้คนได้หลายร้อยลี้ในคราวเดียว อีกทั้งไม่มีขีดจำกัดทางสภาพแวดล้อมหรือภูมิศาสตร์ใด กฎเกณฑ์ทุกสิ่งกลายเป็นข้อยกเว้น …ช่างยอดเยี่ยมอะไรขนาดนี้
โชคลาภเช่นนี้ทำให้ลู่หยวนอดไม่ได้ที่จะอิจฉา สมแล้วที่อีกฝ่ายคือบุตรแห่งโชคชะตา ช่างโชคดีมหาศาลจริง ๆ!
หากลู่หยวนไม่ต้องการให้หมัวเทียนค้นหาแก่นโลหิตมารเสียก่อน เขาคงรีบเข้าไปฉกชิงมันแล้ว!
หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็ค้นพบอาวุธ และสมบัติในธรรมชาติมากมาย สำหรับหมัวเทียนแล้วทั้งหมดคือของล้ำค่า แต่สำหรับลู่หยวนมันเป็นเพียงขยะ
หมัวเทียนมองไปรอบ ๆ และกำลังจะจากไป แต่ทันใดนั้น… แสงสีขาวพลันสว่างวาบขึ้นใต้ฝ่าเท้าของเขา ค่ายกลปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ลู่หยวนกำลังจะไล่ตามเขาไป แต่ถูกค่ายกลปิดกั้น และไม่มีหนทางไปต่อ พลังของเขาพลันดับมอดราวกับว่ามันได้รับผลกระทบจากพลังลึกลับ …ตอนนี้เขาไม่อาจติดตามหมัวเทียนได้อีกแล้ว
สมแล้วที่เป็นพระเอก! หนีวายร้ายไปได้ง่าย ๆ เสียอย่างนั้น!
ลู่หยวนสูญเสียเป้าหมายที่กำลังไล่ตาม เวลานี้เขาจึงหยุดและนึกคิดอย่างรอบคอบ เวลานี้เนื่องจากไม่สามารถติดตามอีกฝ่ายได้แล้ว เช่นนั้นเขาจะไปรอกระต่ายกลับสู่รังที่สำนักฟ้าประทาน!
เขาสัมผัสยันต์ส่งสารและแจ้งให้สมาชิกของตระกูลลู่ทั้งหมดเปลี่ยนเป้าหมาย
ลู่หยวนออกจากเขตแดนลับเพียงลำพัง ส่วนเฉาหงกำลังเฝ้าอยู่ที่ทางออกของซากมังกรสถิต โดยมีค่ายกลกำลังคุมขังผู้คนมากมายไว้ภายใน
“คุณชาย!” เฉาหงทำความเคารพลู่หยวน “ตามคำสั่งของท่าน ทุกคนที่ออกจากซากมังกรสถิตล้วนแต่ถูกคุมขังอยู่ในนี้ ไม่มีผู้ใดรอดไปได้”
ลู่หยวนพยักหน้า ชำเลืองมองคนเหล่านั้นที่ติดอยู่ในค่ายกลคุมขังแล้วกล่าวกับระบบในใจ “ระบบ มีบุตรแห่งโชคชะตาอยู่ในคนเหล่านี้หรือไม่?”
ระบบเริ่มทำงานตรวจสอบทันที…
[ไม่พบ!]
…
หลังจากนั้นไม่นาน สมาชิกตระกูลลู่ทุกคนออกมา พร้อมกับผู้นำกลุ่มที่หยิบแหวนเก็บของออกมาตรงหน้า “คุณชาย ทุกสิ่งที่ค้นพบภายในซากมังกรสถิตล้วนอยู่ในนี้หมดสิ้น”
ลู่หยวนรับมันไว้ ก่อนจะใช้สัมผัสเทวะตรวจสอบมัน แต่พบว่าภายในนี้ไม่มีสิ่งที่เขาต้องการ
ดูเหมือนว่าภายในซากมังกรสถิตแห่งนี้จะไม่มีแก่นโลหิตมาร และการเปลี่ยนแปลงก่อนหน้าเป็นเพียงแค่การถือกำเนิดสมบัติลับทั่ว ๆ ไป
ลู่หยวนโยนแหวนเก็บของกลับคืน “พวกเจ้านำสิ่งของในนี้ไปแบ่งกันเสีย”
สมาชิกตระกูลลู่ยกยิ้มอย่างมีความสุข แม้พวกเขาจะมาจากตระกูลลู่เช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับลู่หยวนแล้ว พวกเขาไม่มีทรัพยากรสำหรับฝึกฝนมากนัก
มีหลายสิ่งในแหวนเก็บของนี้มีเป็นประโยชน์ต่อการฝึกฝนของพวกเขา พวกเขาคิดว่าหากมอบแหวนออกไป พวกเขาคงจะต้องสูญเสียสมบัติเหล่านี้ แต่กลับกลายเป็นว่าลู่หยวนมอบคืนให้พวกเขาทั้งหมด
“ขอบคุณคุณชายแล้ว!”
หลายคนกล่าวคำขอบคุณก่อนจะเก็บแหวนกลับไป พวกเขาแบ่งปันมันอย่างเท่าเทียม