บทที่ 60 สังหารทวยเทพ!
บทที่ 60 สังหารทวยเทพ!
ลู่หยวนประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกัน เขาไม่คาดคิดว่าหอคอยอสูรสวรรค์ยังสามารถใช้การแบบนี้ได้
ระบบแจ้งเตือนว่า [หอคอยอสูรสวรรค์กลืนกินสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เข้าไป ก่อนเข้าสู่สภาวะดูดซับพลังอย่างเงียบสงบ]
เวลาพักตัวโดยประมาณคือหนึ่งเดือน!
ทันทีที่สิ้นเสียงระบบ หอคอยอสูรสวรรค์ก็ค่อย ๆ หายไป ก่อนกลับเข้าสู่จิตเทวะของลู่หยวนอีกครั้ง
“เจ้าคือมารผู้มีวิชามากมาย หากรอดไปได้ แผ่นดินหยวนหงจะตกอยู่ในหายนะ!”
“ทวยเทพผู้นี้มาเยือนแผ่นดินแล้ว ข้าจะฆ่าเจ้าด้วยการโจมตีครั้งสุดท้าย!”
สิ้นคำพูด ทวยเทพชูดัชนีขึ้นเหนือท้องนภาให้พลังศักดิ์สิทธิ์เจิดจ้ารวมตัว ก่อนจะชี้ลงไปเบื้องหน้าให้พลังเหล่านั้นเคลื่อนเข้าหาลู่หยวน ทำให้ทั่วโลกเริ่มสั่นสะเทือน
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ดัชนีทวยเทพเคลื่อนผ่านท้องนภา ราวกับสวรรค์และโลกพังทลาย ความว่างเปล่านับไม่ถ้วนถูกบดขยี้ด้วยดัชนีนี้
ไป๋อู๋อีเองก็อยู่ในระยะการโจมตีของดัชนี ทำให้พลังสวรรค์ที่คล้ายกับทำลายโลกลงมาบดขยี้เขา จนเขาต้องเค้นรากฐานการบ่มเพาะทั้งหมดเพื่อขัดขืน แต่โลหิตยังคงไหลออกจากมุมปาก
แม้จะยืนอยู่ภายใต้อำนาจของดัชนีทวยเทพ แต่สีหน้าของลู่หยวนยังคงเหมือนเดิม พลังอันแข็งแกร่งทั้งหมดพุ่งลงมาใส่ร่างกายของเขา พวกมันทั้งหมดเคลื่อนลงมา แต่สีหน้าก็ไม่แปรเปลี่ยนแม้แต่น้อย
ดัชนีทวยเทพเคลื่อนลงมาในทันที เพียงชั่วพริบตา มันก็อยู่ห่างจากลู่หยวนไม่มากนัก
“ระบบ ใช้คำสั่งผู้ติดตาม คัดลอกรากฐานการบ่มเพาะของกุ่ยซู่!”
[ระบบตอบรับเรียบร้อย!]
[คำสั่งผู้ติดตามถูกใช้ การบ่มเพาะในตอนนี้ของท่านไปถึงขั้นเทียมเทพ!]
ทันทีที่สิ้นเสียงระบบ ลู่หยวนจึงชูกระบี่ยาวขึ้น แรงกดดันทรงพลังพลันระเบิดออกมา ในขณะที่พลังของเขายังคงเพิ่มพูนอย่างต่อเนื่อง
“ขั้นเทียมเทพหรือ?!”
เดิมทีไป๋อู๋อีอยากล่าถอยมาอยู่ด้านข้างเพื่อกันไม่ให้ได้รับผลจากการโจมตีของดัชนีทวยเทพ แต่เมื่อเห็นกลิ่นอายที่พวยพุ่งรอบข้างลู่หยวน เขาก็ตัวแข็งทื่ออยู่กับที่
พลังนั่น… มันเป็นของขั้นเทียมเทพเท่านั้น!
คาดไม่ถึงว่าในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ ชายหนุ่มจะก้าวกระโดดจากขั้นจักรพรรดิยุทธ์ไปเป็นขั้นเทียมเทพได้?!
บุตรแห่งโชคชะตาสงบสติลง นี่คือสัญญาณของทวยเทพ ทว่าต่อให้ลู่หยวนก้าวเข้าสู่ขั้นทวยเทพที่แท้จริงแล้วอย่างไร?! สุดท้ายก็ต้องตายด้วยดัชนีนี้อยู่ดี!
ไป๋อู๋อีก้าวถอยมาทีละก้าว ก่อนพาไป๋เจ๋อน้อยและเทียนเม่ยเอ๋อร์ไปซ่อนตัว
เหนือท้องนภา อักขระสีแดงเข้มส่องแสงขึ้นมาตรงหว่างคิ้วของบุตรศักดิ์สิทธิ์ พลังมารนับไม่ถ้วนพุ่งออกจากเกลียวมืดมิด ปกคลุมทั่วร่างของชายหนุ่มเอาไว้
พลังมารสลายไป มีเขามารงอกอยู่บนหน้าผากของลู่หยวน เกล็ดบางส่วนเริ่มปกคลุมผิวหนัง ก่อนพลังมารรอบข้างเริ่มถูกย้อมให้เป็นสีม่วงเข้ม ตอนนี้เขาเหมือนกับเทพมารที่ดูน่าสะพรึงนัก
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น เผชิญหน้ากับพลังดัชนีทวยเทพที่กำลังเคลื่อนลงมา สองมือถือกระบี่มหันตภัยก่อนเงื้อขึ้นสูง
พลังมารที่ปกคลุมพลังวิญญาณเริ่มเคลื่อนตัว แม้กระทั่งหมู่เมฆในท้องนภายังเริ่มสั่นสะเทือน หมู่เมฆหลากสีสันที่เกิดจากพลังของทวยเทพเริ่มแยกออก
กระบี่มหันตภัยมีขนาดใหญ่ขึ้น มันพาดผ่านท้องนภาไปกว่าครึ่ง พลังอันมหาศาลเข้าปกคลุม ไม่ได้ด้อยไปกว่าดัชนีทวยเทพที่เคลื่อนลงมาจากท้องนภา
พลังมารในมือของลู่หยวนยังคงเติบโต กระบี่มหันตภัยในมือคล้ายกับได้รับผลกระทบเป็นอย่างยิ่ง มันสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง
“วันนี้! บุตรศักดิ์สิทธิ์จะฆ่าทวยเทพ!”
ดัชนีทวยเทพเคลื่อนลงมา ชายหนุ่มชูกระบี่ขึ้น และฟันไปทางท้องนภาอย่างสุดกำลัง
ตู้ม!
ดัชนีทวยเทพที่ปกคลุมด้วยแสงสว่างศักดิ์สิทธิ์ปะทะเข้ากับกระบี่มหันตภัยที่ปกคลุมด้วยพลังมาร แสงสว่างวูบไหว ครึ่งหนึ่งของท้องนภาที่ถูกหมู่เมฆปกคลุมสาดแสงลอดออกมา ส่วนอีกครึ่งจมเข้าสู่ความมืดมิดไร้พรมแดน
คลื่นอากาศขนาดใหญ่พลันกระจายไปรอบข้าง ดินแดนภายในรัศมีสิบลี้จมลงไปหลายร้อยจั้ง
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
การปะทะระหว่างดัชนีทวยเทพกับกระบี่มหันตภัยยังไม่จบ พลังทั้งสองเข้าพัวพัน ส่องแสงเจิดจ้า และทำลายโลกจนสิ่งรอบข้างเริ่มสลายไป
ลู่หยวนก้าวถอยหลังเล็กน้อยก่อนสะบัดมือออกไป ทำให้พลังมารพวยพุ่งอีกครั้งพร้อมภาพมายาขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่ด้านหลัง เป็นสัตว์ประหลาดที่มีใบหน้าดุร้าย มีสี่ตาแปดมือ หน้าคมคร้ามเขี้ยวยาว ดูน่ากลัวยิ่งนัก
บุตรศักดิ์สิทธิ์ปล่อยกระบี่มหันตภัย ส่งมันบินไปด้านหลัง ทันทีที่ภาพมายายื่นมือออกไปรับมัน กระบี่มหันตภัยพลันกลายเป็นกระบี่สีดำขนาดใหญ่เหมาะสมกับตัว มันส่งเสียงกรีดร้องพร้อมกับกระบี่ในมือ จนพลังมารทั้งหมดพุ่งทะยานในทันที
“ตาย!!”
ปากของสัตว์ประหลาดกรีดร้องออกมาเป็นประโยคเช่นนั้น ภาพมายาที่ถือกระบี่มหันตภัยไว้ในมือพลันฟาดฟันออกไป
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
หลังจากกวัดแกว่งกระบี่ เปลวเพลิงเย็นเยือกถูกจุดบนกระบี่ ปกคลุมทั่วทั้งคมกระบี่เอาไว้ พื้นที่รอบข้างเผาไหม้เมื่อเผชิญหน้ากับเปลวเพลิงนี้ เปลวเพลิงบนคมกระบี่แผดเผาอีกครั้ง
ตู้ม!
พลังทั้งสองปะทะกันอีกครั้ง
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
กระบี่มหันตภัยยังคงฟาดฟันออกไปพร้อมกับพลังมาร ดัชนีทวยเทพที่ยังคงส่องแสงสว่างศักดิ์สิทธิ์เมื่อครู่ถอยออกมาเล็กน้อยภายใต้พลังดังกล่าว
ลู่หยวนหยิบง้าวออกมา โลหิตไหลออกจากมือขวาสู่ด้ามง้าว มันสั่นไหวเล็กน้อยก่อนดูดกลืนโลหิตทั้งหมดเข้าไป ทำให้พลังมารรวมตัวอย่างรวดเร็ว อักขระลึกลับบางอย่างปรากฏขึ้นบนง้าว จากนั้นมันก็กลายสภาพเป็นง้าวมาร ดูยิ่งใหญ่ พิสดาร และน่าสะพรึง
ลู่หยวนชูง้าวขึ้น เพียงพริบตา มันก็มาอยู่ตรงหน้าพลังดัชนี ง้าวนี้ดุจมังกรหลับใหลใต้ภูผา เมื่อเขาแทงมันออกไป ราวกับมังกรพุ่งทะยานออกจากหุบเหว
วิ้ง!
ในช่วงสำคัญดังกล่าว ง้าวยาวแทงออกไปตรงเข้าหาดัชนีทวยเทพ แต่กลับไม่อาจรุกคืบไปกว่านี้
ลู่หยวนสูดหายใจเข้า และตะโกนออกไปอย่างเกรี้ยวกราด ภาพมายาด้านหลังพลันแข็งแกร่งขึ้น
ง้าวยาวตั้งตรง กระบี่มหันตภัยในมือของภาพมายาแทงอีกครั้ง
ตู้ม!
พรวด!
สิ้นเสียงสองครั้ง แสงสว่างศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดรอบดัชนีทวยเทพพลันหมองหม่น ง้าวแทงทะลุดัชนีทวยเทพ กระแสโลหิตหลั่งไหลอาบง้าวยาว
ดัชนีทวยเทพขนาดใหญ่เริ่มพังทลาย ทั่วโลกสั่นสะเทือน
เหนือสวรรค์ทั้งเก้า ใบหน้าของทวยเทพเต็มไปด้วยร่องรอยโทสะเช่นกัน เจ้ามารหนุ่มตนนี้ถึงกับทำร้ายเขาได้งั้นหรือ?!
ทวยเทพยกฝ่ามือขึ้นอีกครั้ง หมายจะทุบอีกสักรอบ แต่ทันใดนั้นรูขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นเหนือความว่างเปล่า แสงสว่างศักดิ์สิทธิ์หลากสีสันเคลื่อนลงมาอาบร่างทวยเทพ
เขาชำเลืองมองรู พลางขมวดคิ้ว มันถึงเวลาต้องทะลวงเขตแล้ว ขืนยังอยู่นานกว่านี้ จะต้องส่งผลกับร่างกายอย่างแน่นอน
“เจ้าสายเลือดมาร วันนี้ทวยเทพผู้นี้ไว้ชีวิตเจ้า ในอนาคต ข้าจะมาพรากชีวิตเจ้า!”
สายฟ้าหนักอึ้งหายไปหลังจากสิ้นเสียงของทวยเทพ หมู่เมฆสลายไปอย่างรวดเร็ว ทั่วท้องนภากลับมาแจ่มใสดังเดิม
ภาพมายาด้านหลังลู่หยวนค่อย ๆ หายไป ง้าวในมือแตกสลาย กระบี่มหันตภัยก็เช่นกัน มันกลับมาลอยอยู่ข้างลู่หยวน
ชายหนุ่มผู้อยู่กลางอากาศค่อย ๆ สงบสติ เขามารและเกล็ดทั้งหมดหายไป ทั่วร่างกลับมาเป็นรูปลักษณ์หล่อเหลาอ่อนโยนดังเดิม
เขาหันศีรษะเล็กน้อย สายตากวาดผ่านไปจับจ้องไป๋อู๋อีที่อยู่ไกลออกไป น้ำเสียงราบเรียบแต่เต็มไปด้วยจิตสังหารดังขึ้น “ไป๋อู๋อี หลังจากนี้ บุตรศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะทำการปลิดชีวิตเจ้า!”