บทที่ 98 ข้อตกลงสามปี (ต้น)
บทที่ 98 ข้อตกลงสามปี (ต้น)
ลู่หยวนไม่สร้างเรื่องยากลำบากให้เสิ่นโตวอีกต่อไป ปล่อยให้คนอื่นช่วยพาอีกฝ่ายไปข้างนอกเพื่อพักผ่อน
เมื่อทุกคนจากชายหนุ่มไปด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน ก็มีคนผู้หนึ่งสาวเท้ามาข้างหน้า ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ชายผู้นี้แต่งกายหรูหรา สวมชุดสีม่วง กลิ่นอายสูงศักดิ์ เป็นหลี่เจียงหนานนั่นเอง
คุณชายหลี่ทำความเคารพด้วยท่าทีเปี่ยมมารยาทพิถีพิถันยิ่ง “หลี่เจียงหนานจากตระกูลหลี่ คารวะบุตรศักดิ์สิทธิ์”
คุณชายลู่ก้มมองอีกฝ่ายพลางขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้จักคนผู้นี้
ไป๋ชิวเอ๋อร์ผู้อยู่ด้านข้างกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “เขาคือนายน้อยปัจจุบันของตระกูลหลี่ อดีตนายน้อยของตระกูลหลี่กับท่านเคยพบกับมาก่อน ตอนนี้ถูกฆ่าตายไปแล้ว คนที่รับตำแหน่งต่อมาคือหลี่เจียงหนาน”
ก่อนคุณหนูไป๋จะมาในครั้งนี้ นางได้ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี เพียงหวังว่าจะทำประโยชน์ให้ชายหนุ่มขึ้นมาได้บ้าง ตอนนี้ดูท่าว่าการทำบ้านมาห้าวันนั้นจะไม่สูญเปล่า
ลู่หยวนพยักหน้า ถามว่า “เจ้าไม่จำเป็นต้องสุภาพหรอก คุณชายหลี่มีเรื่องอะไรหรือ?”
เขาไม่ได้มีความรู้สึกดีต่อหลี่เจียงหนาน เขาจำได้ว่า นายน้อยคนเก่าของตระกูลหลี่ไม่ใช่คนดี แถมหลี่เจียงหนานยังสามารถสังหารเขาได้โดยไม่ต้องถูกตระกูลหลี่ลงโทษ ดูอย่างการสืบทอดตำแหน่งนายน้อยเอาก็ได้ วิธีการของเขาเป็นที่ประจักษ์ชัดเจน
คุณชายหลี่ยืนขึ้น ระบายยิ้มพลางตอบว่า “ไม่ใช่เรื่องพิเศษอะไรหรอก ข้าเพียงยังไม่ได้พบบุตรศักดิ์สิทธิ์ ครั้งนี้พอมีโอกาส ข้าเลยมาพบท่าน”
หลังจากกล่าวจบ หลี่เจียงหนานก็ยกมือขึ้นคารวะไป๋ชิวเอ๋อร์และฉินอี่หาน พวกนางล้วนคารวะกลับตามลำดับ
เมื่อเรียบร้อยแล้ว ผู้เข้ามาทักทายก็กล่าวลา ลู่หยวนรู้สึกว่าอีกฝ่ายมีท่าทีแปลกประหลาด แต่เขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจ
อีกด้าน… ฉินอี่หานสบตากับหลี่เจียงหนานผู้กำลังจากไปอยู่หลายอึดใจ เพราะได้เห็นลวดลายพิเศษที่ปักอยู่บนแขนเสื้อคุณชายหลี่
นางเคยใช้ลวดลายนั่นติดต่อกับกองกำลังทมิฬของราชวงศ์อู๋ซวงมาก่อน แต่ไม่ได้ใช้มาหลายปีแล้ว
ยิ่งกว่านั้นไม่มีคนชื่อหลี่เจียงหนานอยู่ในกองกำลังทมิฬ แล้วคนผู้นี้มีลายปักลวดลายดังกล่าวได้อย่างไร?!
หรือว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับกองกำลังทมิฬ?
ฉินอี่หานถอนสายตากลับ ก่อนจะรินชาให้ตัวเอง หลังจากดื่มชาสมุนไพรหนึ่งถ้วย นางก็ครุ่นคิดว่าอีกไม่นานคงจะได้พบกับคุณชายหลี่อีกเป็นแน่!
หลี่เจียงหนานกลับมาที่ลานบ้านแล้ว เขาพบหลี่ซื่อที่มารออยู่ก่อน อีกฝ่ายกำลังเดินไปมาด้วยความวิตก
เมื่อเห็นพี่ชายกลับมา ผู้เป็นน้องก็รีบก้าวมาข้างหน้า ถามว่า “เกิดอะไรขึ้น? ท่านพบลู่หยวนหรือไม่?”
“พบ…”
หลี่เจียงหนานฉีกลวดลายที่ปักอยู่บนข้อมือออก ก่อนจะวางลงบนมือของอีกฝ่าย
หลี่ซื่อมองลวดลายนี้ทั้งซ้ายขวา ก่อนถามว่า “ท่านเอาลวดลายนี่ไปปักบนชุดทำไม? ลวดลายนี่พบอยู่ที่ใต้บ้านของพี่ใหญ่ไม่ใช่หรือ? รู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งนี้ใช่หรือไม่?”
คนฟังส่ายหน้า “ข้าแค่พนันว่า ฉินอี่หานจะเข้าใจความหมายของลวดลายนี้”
“ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าฉินอี่หานเพียงมีความสัมพันธ์ฉันมิตรกับพี่ใหญ่ แต่ไม่กี่วันก่อน ข้าไปถามเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของฉินอี่หาน พบว่านางมีความคล้ายคลึงกับพี่ใหญ่บางส่วน”
“สายสัมพันธ์ของทั้งสองไม่น่าจะเรียบง่ายฉันมิตรสหาย ขอเพียงนางมาตามหาข้าในอนาคตอันใกล้ เช่นนั้นการเดิมพันของข้าก็ถูกต้อง พวกเราอาจจะสามารถผูกมิตรกับผู้ฝึกกระบี่นางนั้นได้ จนเรากลายเป็นมิตรที่สามารถอยู่ข้างลู่หยวนได้ตลอดเวลา!”
หลี่เจียงหนานหยิบผ้าปักลายในมือน้องชายขึ้นมา แล้วปลดปล่อยพละกำลังของเขา ส่งผลให้เศษผ้าสลายไปในทันที
“ตอนนี้ ที่พวกเราทำได้มีแค่รอเท่านั้น”
ที่ห้องโถงผู้นำตระกูลเสิ่น ในที่สุดเสิ่นโตวก็ปรับลมหายใจได้ วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของเขา แต่กลับมีเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น มันช่างน่าอับอายยิ่งนัก
ห้องโถงใหญ่ถูกทำลาย เขาจึงกำลังจะออกไปจัดที่นั่งให้ผู้คนใหม่ ทว่าในตอนนี้ เหนือท้องนภามีเสียงหนึ่งดังขึ้น มันดังก้องทั่วเมืองหลวนของตระกูลเสิ่นในทันที
“เสิ่นซูเหยียน ข้อตกลงสามปีมาถึงแล้ว! ข้าเซียวเทียนมาตามนัดเพื่อต่อสู้กับเจ้าโดยเฉพาะ!”
สายตาทุกคู่จับจ้องที่มาของเสียงดังกล่าว ครั้นเงยหน้าขึ้นไป ก็พบกับวิหคเพลิงยักษ์โบยบินอยู่บนท้องนภา ปีกกว้างของมันปกคลุมจัตุรัสไปกว่าครึ่ง
เหนือวิหคเพลิงเมฆา ร่างหนึ่งพลันกระโดดลงมา
ตูม!
ร่างดังกล่าวลงมาอยู่ ณ ใจกลางจัตุรัส หินหยกทั้งหมดที่ปูบนพื้นแตกร้าว ทำให้ควันและธุลีตลบอบอวล
สายตาทุกคู่จับจ้องไปหาต้นเสียงท้าทาย เสิ่นโตวเองก็จ้องคนผู้นั้นอย่างใกล้ชิดเช่นกัน
ควันธุลีจางลงแล้ว บุรุษผู้มากับกระบี่ยักษ์ปรากฏขึ้นตรงหน้า เขาสวมชุดสีดำ สายตาดูเฉียบคมยิ่ง
เขาก้มมองเสิ่นโตวผู้ยืนอยู่บนที่สูงของห้องโถงใหญ่ คลื่นจิตสังหารพลันก่อเกิดในดวงตา
“อาเสิ่น ข้าเซียวเทียนมาตามสัญญาแล้ว!”
สายตาของลู่หยวนขยับตามทันที เมื่อเห็นเซียวเทียนจึงระบายยิ้มออกมา บุตรแห่งโชคชะตาปรากฏตัวอย่างอลังการที่สุด วันนี้มีการแสดงดี ๆ ให้ดูแล้ว!
ผู้นำตระกูลเสิ่นรู้สึกเพียงโทสะที่คุกรุ่นในใจ ใครก็ล้วนคิดว่าสามารถกลั่นแกล้งตระกูลเสิ่นได้โดยง่ายเช่นนั้นหรือ?! คิดว่าการตบหน้าเสิ่นโตวคนนี้มันสนุกนักหรืออย่างไร?!
ตอนแรกบุตรศักดิ์สิทธิ์ก็ปล้นอาวุธเขาไปสองชิ้น เพราะไม่อยากมีเรื่องกับตระกูลลู่ จึงทำได้แค่อดทนไว้!
แต่เซียวเทียนผู้นี้เป็นใคร?! ถึงกล้ามาเพื่อสำแดงเดชถึงที่นี่?!
“รนหาที่ตายนัก!”
เสิ่นโตวครุ่นคิดได้เช่นนั้น ผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องในจัตุรัสล้วนถอยไปด้านข้าง ก่อนเขาจะสะบัดฝ่ามือออกไป
ท้องนภาที่เดิมสดใสพลันมีหมู่เมฆสีดำบดบัง ทั่วโลกมืดมิด พร้อมสายลมแรงกล้าพัดผ่าน ราวกับจุดจบกำลังมาเยือน …ฝ่ามือยักษ์พลันปรากฏขึ้นจากท้องนภา ฟาดเข้าไปทางเซียวเทียน!
ฝ่ามือยักษ์ปะทะร่างบุตรแห่งโชคชะตาในพริบตา
เซียวเทียนคาดไม่ถึงว่าศัตรูจะโจมตีในทันทีที่ตนมาถึง เขายกกระบี่ยักษ์ขึ้นกั้น พลังมังกรพวยพุ่งทันที ปกคลุมกระบี่ยักษ์ทั้งหมดเอาไว้ในพริบตา!
เขาฟาดฟันอาวุธออกไป แต่ฝ่ามือในท้องนภานั้นมาจากปรมาจารย์ยุทธ์ เซียวเทียนในตอนนี้อยู่เพียงขั้นจักรพรรดิยุทธ์ แล้วเขาจะต้านทานฝ่ามือนี้ได้อย่างไร?!
ฝ่ามือยักษ์เคลื่อนลงมา เพียงแค่ลมจากฝ่ามือที่พัดมาข้างหน้า ก็ทำให้มือของเซียวเทียนผู้กำลังถือกระบี่ยักษ์เริ่มสั่นไหว
ตูม!!
หนึ่งฝ่ามือ ทั่วปฐพีสั่นสะเทือน! ธุลีฟุ้งกระจาย หินหยกทั้งหมดบนจัตุรัสกลายเป็นผุยผง
ฉินอี่หานขมวดคิ้วแล้วมองตาม “เสิ่นโตวผู้นี้เดือดดาลนัก เขาถึงกับจะฆ่ากันในหนึ่งฝ่ามือ”
ทว่าลู่หยวนส่ายหน้าก่อนจะยิ้มออกมา “ไม่ต้องห่วง เจ้าหนุ่มนั่นมีแต้มต่ออีกมากมาย หากเสิ่นโตวฆ่าเขาได้จริงก็นับว่าแปลกเกินไปแล้ว ศึกนี้ตาเฒ่าบรรพชนอาจต้องออกหน้าด้วยก็เป็นได้”
เมื่อเสิ่นโตวคิดว่าเซียวเทียนถูกฆ่าด้วยฝ่ามือจนชีวิตดับสิ้นไปแล้ว กลับพบว่าควันธุลีที่ปกคลุมจัตุรัสปรากฏแสงสว่างจากกระบี่วูบไหวอยู่ข้างหน้า ปราณกระบี่กระจายไปทุกทิศ มุ่งสู่สวรรค์และปฐพี ทำให้ควันและธุลีนับไม่ถ้วนสงบนิ่งภายใต้ปราณกระบี่นี้!
ฝูงชนชำเลืองมอง พบว่าบนจัตุรัสนั้น นอกจากเซียวเทียนแล้วยังมีฝักกระบี่ยักษ์อีกเล่มชี้ขึ้นฟ้า ผู้ถือกระบี่สนิมเขรอะคือชายสวมชุดซอมซ่อยืนตระหง่านอยู่ หากมองดี ๆ จะเห็นว่าคนผู้นั้นแขนหัก
วิ้ง!
หลังจากชายแขนหักปรากฏตัวขึ้นจากควันธุลี กระบี่ในมือของทุกคนล้วนส่งเสียงคร่ำครวญ ก่อนฝักกระบี่จะลดระดับลงให้กับชายผู้นั้น ราวกับกำลังแสดงความเคารพต่อเขา
“เหิงอีเจี้ยน?!”
เสิ่นโตวหรี่ตา เผยสีหน้าโหดเหี้ยมออกมา “เจ้าถอนตัวไปแล้วไม่ใช่หรือ? มาที่นี่ในวันนี้ อยากเหยียบย่ำตระกูลเสิ่นของข้าเพื่อกลับคืนสู่นามปรมาจารย์กระบี่อย่างนั้นหรือ?!”