ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา – บทที่ 99 ข้อตกลงสามปี (ปลาย)

บทที่ 99 ข้อตกลงสามปี (ปลาย)

บทที่ 99 ข้อตกลงสามปี (ปลาย)

เมื่อทุกคนได้ยินชื่อเหิงอีเจี้ยน พวกเขาต่างตกตะลึง พร้อมเบือนสายตาหนี

ชื่อนี้โด่งดังนักในแผ่นดินหยวนหง ในตอนนั้น คนผู้นี้ถือกระบี่ยักษ์สังหารยอดฝีมือมากมาย กระบี่นับหมื่นยอมจำนนเมื่อชายผู้นี้เดินผ่าน เหล่ายอดฝีมือต่างแซ่ซ้องนามของเขา

น่าเสียดาย ภายหลังจากการแข่งขันของปรมาจารย์กระบี่ เขาออกกระบี่ช้าไปหนึ่งกระบวนท่า ทำให้ถูกฟันเข้าที่แขน นับแต่นั้นมาก็หายไปจากแผ่นดินหยวนหง

เหิงอีเจี้ยนยืนตัวตรง เมื่อลืมตาขึ้น สายตาของเขาคมปลาบราวกับกระบี่ หลายคนเพียงแค่มองอีกฝ่ายก็สัมผัสได้ถึงเจตจำนงกระบี่ทรงพลังกวาดล้างทุกสัมผัสเทวะ จนต้องหลุบสายตาลงไม่สู้หน้า

“ข้าไม่ได้มาที่นี่ด้วยเหตุผลที่ผู้นำตระกูลเสิ่นคิด ที่มาในวันนี้ ข้าต้องการทวงความยุติธรรม”

“ความยุติธรรมหรือ?”

เสิ่นโตวหัวเราะออกมา “เจ้าคือปรมาจารย์กระบี่ผู้สง่างาม ทำไมถึงต้องการความยุติธรรมด้วย? ทำไมต้องมาทวงความยุติธรรมจากตระกูลเสิ่นของข้าด้วย?!”

เสียงของผู้ฝึกกระบี่แขนหักยังมั่นคงดังเดิม “ผู้นำตระกูลเสิ่น เจ้ากับข้าต่างรู้ดีว่า ลูกสาวของเจ้าผิดสัญญาด้วยตัวเอง แถมยังไปเยือนตระกูลเซียวในทะเลใต้เพื่อยกเลิกการหมั้นหมาย จนทำให้สมาชิกจำนวนมากของตระกูลเซียวได้รับบาดเจ็บ!”

“ส่วนคุณชายของตระกูลเซียวตกลงกับลูกสาวของเจ้าในการเลื่อนการตัดสินชี้ชะตา ข้อตกลงสามปีจึงเกิดขึ้น วิถีแห่งสวรรค์เป็นพยาน ตอนนี้ข้อตกลงสามปีมาถึงแล้ว ลูกชายตระกูลเซียวจึงมาที่นี่ตามสัญญา ตระกูลเสิ่นจะว่าอย่างไร?”

“แต่เจ้า เสิ่นโตว กลับคิดปลิดชีวิตของเซียวเทียนด้วยหนึ่งฝ่ามือ! ข้าจึงมาที่นี่เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับข้อตกลงนี้!”

เสิ่นโตวเดือดดาล เขาไม่อยากเห็นสายตาของทุกคนมองดูการแสดงอีก หากเรื่องนี้ยังดำเนินต่อไป ข่าวลือเกี่ยวกับตระกูลเสิ่นย่อมแพร่งพรายไปทั่วทุกสารทิศในวันพรุ่งนี้!

ถึงแม้เหิงอีเจี้ยนจะถอนตัวมาหลายปี แต่ฉายาปรมาจารย์กระบี่ล้ำฟ้าในอดีตยังคงดังก้องในใจของเสิ่นโตว เขาไม่มั่นใจว่าการบ่มเพาะในตอนนี้ของเหิงอีเจี้ยนจะอยู่ขั้นไหนแล้ว

“เหิงอีเจี้ยน วันนี้เป็นวันเกิดของข้า เสิ่นโตว เจ้ายังจะมาทวงความยุติธรรมในตอนนี้อีกหรือ?”

“ทำไมเจ้าไม่พักอยู่กับเซียวเทียนในตระกูลเสิ่นก่อนล่ะ รอผ่านวันนี้ไป พวกเราค่อยหาเวลาต่อสู้กันดีหรือไม่?”

เหิงอีเจี้ยนไม่ใช่คนไร้เหตุผล ดังนั้นเขาจึงลังเลสักพัก กำลังจะตอบตกลง แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากห้องโถงสูง

“ในเมื่อต้องทวงความยุติธรรม เช่นนั้นก็สู้กันตอนนี้ไปเลย แล้วให้ข้ากับทุกคนเป็นสักขีพยาน!”

เมื่อเสิ่นโตวได้ยินเสียงนั้น ใบหน้าของเขากระตุกอยู่หลายครั้ง จนต้องหันศีรษะไปมอง

ลู่หยวนย่างกรายออกมาพร้อมกับเอามือไพล่หลัง หยุดยืนอยู่ข้างชายวัยกลางคน แสร้งทำตัวชอบธรรม “ผู้นำตระกูลเสิ่น เหิงอีเจี้ยนผู้นี้ทรงพลังนัก หากเจ้าไปต่อสู้กับอีกฝ่ายในที่ลับ แล้วโดนเล่นตุกติกจนแพ้ขึ้นมาจะทำอย่างไร?”

“ที่จะสื่อก็คือผู้นำตระกูลเสิ่นเป็นคนที่มีจิตใจเมตตาเกินไป หากให้เข้ามาพักในตระกูลเสิ่น เกรงว่าพวกเขาจะเอากระบี่ที่เหลือไปจากตระกูลของเจ้า หากถึงตอนนั้นขึ้นมา ผู้นำตระกูลเสิ่นอย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน!”

“ให้พวกข้าได้เป็นสักขีพยานดีกว่า ต่อให้แพ้ขึ้นมาก็ไม่มีทางถูกเล่นตุกติกได้!”

ดวงตาของลู่หยวนเต็มไปด้วยความจริงใจ

ใบหน้าของผู้นำตระกูลเสิ่นกระตุกหลายครั้ง ตอนที่กระบี่ของเซียวเทียนยกขึ้นมา เขาก็รู้ในทันทีว่าเสิ่นซูเหยียนไม่สามารถเอาชนะชายผู้นี้ได้

เดิมทีที่อยากให้สู้กันในที่ลับ เพราะว่าถึงต่อให้แพ้ก็ไม่ต้องอับอายต่อหน้าคนจำนวนมากขนาดนี้!

แต่ตอนนี้บุตรศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับไฟที่ตามติดไปทุกที่ หมายจะผลักให้เขาตกลงไปในหลุมเพลิง!

ก่อนเสิ่นโตวจะทันได้ตอบอะไร ลู่หยวนก็เงยหน้าขึ้น “เหิงอีเจี้ยน เจ้าคิดอย่างไรกับสิ่งที่ข้าพูด?”

ปรมาจารย์กระบี่ยักษ์รู้สึกว่าสิ่งที่ชายหนุ่มพูดมามีเหตุผล ในเมื่อเขามาทวงความยุติธรรมที่นี่ เป็นธรรมดาที่จะได้รับการเปรียบเทียบภายใต้การพิจารณาของทุกคน จึงจะเรียกว่าความยุติธรรมที่แท้จริงได้!

หากไปต่อสู้กันในที่ลับ เกรงว่าจะมีข่าวลือตามมา!

“ผู้นำตระกูลเสิ่น สิ่งที่บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลลู่พูดมามีเหตุผล มาสะสางเรื่องราวในวันนี้กันเถอะ!”

เหิงอีเจี้ยนขยับเท้า ฝักกระบี่ยักษ์พลันลอยขึ้น เขาย่างกรายมายังขอบของจัตุรัสในทันที

เพียงขยับปลายนิ้ว พื้นทั้งหมดก็เริ่มสั่นสะเทือน ก้อนหยกปรากฏขึ้นจากใจกลางจัตุรัส …ส่งผลให้ลานประลองกว้างยาวหลายสิบจั้งลอยอยู่เหนือท้องนภา

โดยไม่รอให้เสิ่นโตวกล่าวอะไรอีก ลู่หยวนสะบัดมือ ทันใดนั้นเสิ่นซูเหยียนผู้ยังมีโล่ติดอยู่ก็ตรงขึ้นลานประลองไปทันที

บุตรศักดิ์สิทธิ์ให้คำมั่น “ผู้นำตระกูลเสิ่นไม่ต้องห่วง ข้าและคนอื่นจะเฝ้ามองจากที่นี่ อีกฝ่ายไม่มีทางเล่นสกปรกอะไรได้แน่นอน!”

จงซื่อผู้ติดตามกล่าวขึ้น “ใช่แล้ว ผู้นำตระกูลเสิ่น ภายใต้สายตาของทุกคนในวันนี้ ย่อมได้รับการตัดสินอย่างยุติธรรมแน่นอน”

ลู่หยวนชำเลืองมองคนพูดเสริมด้วยความประหลาดใจ อีกฝ่ายไม่ชอบยุ่มย่ามเรื่องต่าง ๆ เหตุใดครั้งนี้ถึงออกหน้ากันล่ะ?

คนที่เหลือจับจ้องเสิ่นโตวเช่นกัน สายตาตื่นเต้นเหมือนกำลังรับชมการแสดง

“ทำไมผู้นำตระกูลเสิ่นถึงไม่พูดไม่จาอะไรเลย?”

“ไม่รู้สิ ในเมื่อเรื่องยกเลิกการหมั้นหมายถูกตัดสินไปแล้ว ก็แค่สู้ให้มันรู้กันไป! ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร ยิ่งกว่านั้นพวกเขาให้วิถีแห่งสวรรค์เป็นพยาน หากไม่ต่อสู้ เกรงว่ามันออกจะไร้เหตุผลเกินไป!”

“โฮ่! เสิ่นโตวผู้นี้คงไม่ได้กังวลว่าเสิ่นซูเหยียนจะไม่สามารถเอาชนะเซียวเทียนได้หรอกใช่ไหม!”

“จะเป็นไปได้อย่างไร?! เสิ่นซูเหยียนคือลูกสาวเพียงคนเดียวของเสิ่นโตว อยู่ระดับเดียวกับคุณชายลู่ตั้งแต่ยังเด็ก ตอนนี้นางเข้าสู่ขั้นจักรพรรดิยุทธ์ระดับกลาง เซียวเทียนผู้นี้เพิ่งก้าวเข้าสู่ขั้นจักรพรรดิยุทธ์ ยังเป็นระดับรากฐาน นี่มันต่างกันถึงสองระดับ!”

“เช่นนั้นทำไมผู้นำตระกูลเสิ่นถึงไม่กล่าวอะไรเลยล่ะ?”

ทุกคนต่างเอ่ยเสียงเอ็ดอึง เสิ่นโตวทั้งสงบและเดือดดาล ครั้งนี้เขาเหมือนกับถูกจับย่างบนเปลวเพลิง

เซียวเทียนผู้นี้ไม่มีทางถูกจัดการโดยง่าย ด้วยรากฐานการบ่มเพาะตอนนี้ของเสิ่นซูเหยียน ต่อให้นางสูงกว่าอีกฝ่ายสองระดับ ก็อาจจะไม่สามารถเอาชนะได้!

ตระกูลเสิ่นของเขาคือตระกูลสมาชิกตำหนักธารสุญญะแห่งแดนเหนือ หากมาแพ้ลูกหลานของตระกูลเล็ก ๆ ในทะเลใต้ ใครบ้างจะไม่หัวเราะเยาะ?!

วันนี้เขาจะไม่ตอบตกลงเด็ดขาด!

ผู้นำตระกูลเสิ่นกำลังจะเปิดปากเพื่อปฏิเสธ ทว่าทันใดนั้นเสียงอันน่าเกรงขามก็เคลื่อนลงมาจากนภาราวกับฟ้าร้อง พลังอันแก่กล้ากดทับทั่วผืนฟ้าในทันที

“เรื่องนี้ตระกูลเสิ่นขอรับไว้เอง!”

เสียงที่เหมือนกับเสียงฟ้าร้องจากสวรรค์ทั้งเก้าพลันหายไป

ร่างของเสิ่นโตวสั่นไหว จากนั้นหันหลังแล้วคารวะท้องนภา “น้อมรับบัญชาท่านบรรพชน!”

ในเมื่อบรรพชนมีบัญชาเช่นนั้น ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ต่อสู้!

เสิ่นโตวโบกมือ ก่อนโล่ทั้งหมดที่กักขังเสิ่นซูเหยียนเอาไว้จะถูกเอาออกไป

บนลานประลอง เสิ่นซูเหยียนและเซียวเทียนยืนประจันหน้า

ไป๋ชิวเอ๋อร์เป็นคนเอาใจใส่ นางหยิบเก้าอี้ไม้มาวางไว้ด้านหลังลู่หยวนให้

ชายหนุ่มนั่งบนเก้าอี้อย่างสบายใจ ไม่ลืมที่จะกล่าวกับเสิ่นโตวจากด้านข้างว่า “ผู้นำตระกูลเสิ่นไม่ต้องอายไป เชิญนั่งตามสบาย”

คนฟังถึงกับพูดไม่ออก

นั่งที่ไหนล่ะ?!

ตอนนี้ทั่วทั้งจัตุรัสมีเก้าอี้เพียงตัวเดียว แถมมันยังอยู่ที่ก้นของเจ้า แล้วมาบอกให้ข้านั่งตามสบายหรือ? นั่งที่ไหน? นั่งที่พื้น หรือนั่งบนตักของเจ้ากันล่ะ!?

เขาเหยียดยิ้ม “บุตรศักดิ์สิทธิ์ แถวนี้ไม่มีที่ให้นั่ง”

“รู้ด้วยหรือว่าไม่มีที่ให้นั่ง?”

ลู่หยวนกลอกตา ชี้ไปที่ด้านหลัง “ในเมื่อรู้ว่าไม่มีที่ให้นั่ง ก็ไปลากเก้าอี้บางส่วนมาเพิ่มสิ พวกเขาจะได้นั่งกันด้วย”

ใบหน้าของเสิ่นโตวกระตุกอีกครั้ง ถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้นำตระกูลเสิ่น ในสายตาของบุตรศักดิ์สิทธิ์ เขาเป็นเพียงคนลากเก้าอี้หรืออย่างไร?!

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา
Status: Ongoing
อ่านนิยายระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา เรื่องย่อ : ลู่หยวน ชายหนุ่มผู้กลับชาติมาเกิดใหม่ในมหาแดนโชคชะตา พร้อมกับตำแหน่งคุณชายแห่งตำหนักธารสุญญะผู้โฉดชั่ว! ทั้งก่อกรรมทำเข็ญ ทั้งลักพาตัวลูกหลานของกองกำลังอื่นมากักขังไว้นับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นคือสาวงามผู้กำลังจะมีผู้ฝึกยุทธ์รูปหล่อตามมาช่วยชีวิต บัดซบ… ไม่ว่าจะคิดอย่างไร นี่มันบทบาทของตัวร้ายกากเดนชัด ๆ! ในระหว่างที่กำลังปวดหัวกับชีวิตใหม่อยู่นั้นเอง กล่องข้อความก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า บ่งบอกว่าการเชื่อมต่อกับระบบวายร้ายสำเร็จแล้ว! ด้วยระบบที่สามารถช่วงชิงโชคชะตาของเหล่าตัวเอกได้ ตำนานจอมวายร้ายสุดอหังการ์ผู้โค่นล้มพระเอกทั่วหล้าจึงเปิดฉากขึ้น!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset