ข้อดีอย่างหนึ่งของการตายในช่วงเเรกๆ คือ เขามีเหตุผลมากขึ้นในการจัดการกับผู้คนและปัญหา!!
“ เฮ้ ไอ้เด็กเลว หยุดเดี๋ยวนี้!!!” อู่ต้งตะโกน “ กลับมานี่เดี๋ยวนี้!” แต่กู้จวินยังคงเดินไปข้างหน้าโดยไม่สนใจใครทั้งนั้น
หลี่เยี่ยรุ่ยวิ่งลงบันไดเรือไปแล้วกำลังไล่ตามกู้จวิน มือข้างหนึ่งของเขายังคงไลฟ์สดด้วยโทรศัพท์มือถือ ส่วนมือข้างที่เหลือก็จับไหล่ของกู้จวินเเน่นหนา เขายิ้มให้อารมณ์เหมือนคนคุ้นเคย “ เฮ้สหาย หวังว่าคงไม่ถือสานะ ฮ่า ๆ อู่ต้งคนนั้นเป็นคนหยาบคายดื้อรั้นเหมือนโรบอทหิน เฮ้ ดูสตรีมสดของฉันสิ ทุกครั้งที่อู่ต้งปรากฏตัวในเฟรม ผู้ชมจะส่งข้อความว่า ‘เอาไอ้โรบอทหินน่าโง่นี่ออกไป’ อย่างบ้าคลั่ง”
“ เรียกว่าเจ้าเสาเหล็กน่าโง่ดีกว่ามั้ง!” หลินเสี่ยวถังเปรยๆออกมาขณะที่เธอเดินผ่านอู่ต้งอที่กำลังยืนสะลึมสะลือ
อู่ต้งรู้สึกหดหู่มาก เขาเกาหัวและบ่นพึมพำ“ ไม่ใช่พวกคุณหรอกเหรอ ที่ต้องการเก็บภารกิจนี้ไว้เป็นความลับน่ะ!”
เอ่อพวกคุณไม่ออกอากาศเหรอ รักษาความลับอะไร? กู่จุนไม่สามารถเข้าใจได้ว่าคำว่า ‘ไอ้โรบอทหินน่าโง่’ สามารถใช้กับทุกคนมั้ย!? เเล้วพวกเขาพูดเรื่องอะไรกันเเน่
หลังจากเหตุการณ์ต่างๆดำเนินไปสักพัก ในที่สุดทุกคนก็ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันภายใต้คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ จากนั้นก็เข้าไปนั่งในเรือดำน้ำ ที่นั่งนักท่องเที่ยวถูกจัดเรียงเป็นสองแถวด้านหน้าและด้านหลังโดยมีสองที่นั่งต่อแถว กู้จวินนั่งที่เบาะหมายเลข 1 ในขณะที่ตำแหน่งที่สองทางขวาของเขาถูกครอบครองโดยหลี่เยี่ยรุ่ย ตำแหน่งที่สามและสี่ถูกเติมเต็มโดยหลินเสี่ยวถังเเละอู่ต้ง
ในไม่ช้าประตูของเรือดำน้ำก็ปิดสนิทและพวกเขาก็เริ่มดำน้ำ พวกเขาถูกล้อมรอบด้วยน้ำสีฟ้าอมดำ 200 เมตร 500 เมตร 1,000 เมตร……ลึกลงๆเรื่อยๆ
ในเวลานี้หูของกู้จวินจับได้ว่าอีกสามคนกำลังพึมพำอย่างเสียงดังเหมือนกลัวใครจะไม่รู้!
“ อาหลิน แน่ใจหรือว่าเป็นเเถวนี้!?” อู่ต้งถามด้วยความสงสัย
“ ฉันก็ไม่รู้ว่าข้อมูลนี้น่าเชื่อถือแค่ไหน…” น้ำเสียงของหลินเสี่ยวถังเต็มไปด้วยความสงสัย ไม่เชื่อถือเท่าไหร่เหมือนกัน
“ ถ้าพวกคุณไม่เชื่อฉัน อย่างน้อยก็เชื่อใจผู้ชายคนนั้นสิ! สิ่งที่ฉันได้ยินก็คือที่นี่คือสถานที่…. แต่ท้องทะเลนั้นกว้างใหญ่มาก และการที่เราจะถ่ายภาพได้นั้นขึ้นอยู่กับโชคของเราแล้ว” หลี่เยี่ยรุ่ยเป็นคนเดียวที่พูดด้วยความมั่นใจเเละบันทึกภาพต่อไปแม้จะไม่มีสัญญาณใดๆที่ปรากฎในทะเลลึก
กู้จวินเข้าใจจากการสนทนาของพวกเขา ว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อสำรวจหาอะไรบางอย่าง ทุกวันนี้อินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยข่าวลือแปลกประหลาดทุกรูปแบบ มีการพบเห็นสัตว์ประหลาดในทะเลจำนวนมาก แต่ไม่เคยมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือเพื่อสนับสนุนการอ้างอิงดังกล่าว ในบางครั้งมีการอัปโหลดรูปภาพเบลอหรือวิดีโอที่ไม่ชัดเจนเพียงไม่กี่ภาพเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเท็จในภายหลัง
แต่เมื่อนึกถึงภูมิหลังของบุคคลทั้งสาม กู้จวินก็เริ่มไม่มั่นใจเเล้วว่า“ ข่าว” ที่พวกเขาเคยได้ยิน คงไม่ใช่ข่าวลือทางอินเทอร์เน็ตเหล่านั้นเเน่นอน?
“ ผู้ชมที่รัก!” หลี่เยี่ยรุ่ยยังคงถ่ายวีดีโออฟไลน์มหาสมุทรมืดๆนอกหน้าต่าง “ ดูสิว่าข้างนอกมันมืดแค่ไหน เราดำน้ำไปแล้วกว่า 1,500 เมตรและเราอยู่ไกลมากจากพื้นมหาสมุทร!” เเละเพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เขาปลดเข็มขัดนิรภัยเเล้วลุกขึ้นเดินไปที่ด้านข้างของห้องโดยสารเพื่อถ่ายภาพวิวนอกหน้าต่างให้ได้ดีขึ้นชัดเจนขึ้น
“ คุณหลี่ครับ โปรดกลับไปที่ที่นั่งของคุณและคาดเข็มขัดนิรภัยซะ การกระทำของคุณอาจเป็นอันตรายได้ เพราะเเถวนี้มีคลื่นใต้น้ำมากมายบน เเล้วยิ่งอยู่ไกลจากพื้นทะเลด้วยเเล้ว…..” กัปตันเฒ่าแนะนำอย่างอ่อนแรง
“ เออหน่า เเป๊บเดียว!” หลี่เยี่ยรุ่ยแสดงท่าทาง ‘ไม่มีปัญหา’ และถ่ายทำต่อไป “ ถ้าไม่ใช่พวกเราอยู่ในเรือดำน้ำ มนุษย์ก็จะถูกกดดันจากทะเลลึกจน…”
กู้จวินค่อยๆให้ความสนใจกับพวกเขาน้อยลง ภายใต้แสงของไฟฉาย เขามองออกไปที่พื้นทะเลขรุขระนอกหน้าต่าง หัวใจของเขาเต้นเร็วอย่างประหลาดด้วยความคาดหวังว่าจะได้เห็นเรือจมที่ทรุดโทรม…ใช่ เรือลำนั้น!
ความคาดหวังของเขา จริงๆเเล้วมันปะปนกับความกลัว..เขากลัวที่จะได้เห็นเรือลำนั้น …พ่อเเม่…
บางทีมันอาจเป็นเพียงภาพหลอนที่เกิดจากเนื้องอกในสมองของเขา แต่จู่ๆเขาก็สังเกตเห็นว่ามีเสาหินยาว…มันยาวเกือบครึ่งจั้ง มันดูคล้ายมนุษย์มาก อีกทั้งมีลักษณะเป็นหินสูงเท่าขนาดตัวมนุษย์ทั่วไป มันดูเหมือนหินอัคนีธรรมดา แต่!! ถ้ามองไม่ผิดดูเหมือนว่าเขาจะเห็นพื้นผิวที่เต็มไปด้วยการแกะสลักเส้นและลวดลายต่างๆบนหินนั่น!
ยิ่งเขาจ้องมองเสาหินรูปมนุษย์ยิ่งทำให้เขามึนงง จู่ๆเเมกม่าก็ไหลออกมาจากตาของรูปปั้นหินราวกับว่าหินสลักนั้นกำลังร้องไห้เป็นเลือดจริงๆ
มันไหลเอื่อยๆ แต่เต็มไปด้วยพลังที่แผดเผาผ่านความมืดมิด นั่นคือความประทับใจที่เขาได้รับ
ฟู่ !! ด้วยการกระตุกอย่างฉับพลันหินหนืดดูเหมือนจะพุ่งตรงไปที่เรือดำน้ำและทำให้เขาตกใจจนจมน้ำตายก่อนที่เขาจะมีเวลาตอบสนอง