รับสายเเล้ว!!
นี่คือโทรติดเเล้วใช่ไหม!?
ในขณะที่กู้จวินกำลังจะเอ่ยปากพูดสายนั้นสายลมเเห่งโชคชะตาก็ได้เวียนมาพัดมาเขาอีกครั้ง…ชายคนหนึ่งปรากฎตัวที่ด้านหลังของกู้จวินเเละเเตะไหล่ของเขาด้วยเเรงที่เเผ่วเบา…จังหวะนั้นเองสายของโทรศัพท์ก็ถูกตัดสายไปเเบบไม่มีวันหวนคืน
ช่วงเวลาเเห่งความเงียบอันลึกลับได้หวนกลับมาอีกครั้ง!
ณ ร้านเเห่งหนึ่งข้างถนนที่เงียบสงัด ป้ายของร้าน “นวดเท้าเพื่อสุขภาพ” นั้นเอียงกะเเท่เเร่เล็กน้อยเเละขยับไปตามสายลมที่พัดอย่างอ่อนโยน ในเวลานั้นเองชายคนหนึ่งในชุดนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านมา เขาก็หันมามองป้ายร้านที่กำลังเคลื่อนไหวส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดด้วยความรำคาญหู นั่นทำให้เขาได้เห็นการเผชิญหน้ากันระหว่างชายที่เเปลกหน้าทั้งสองคน ภาพนั้นทำให้เขาสงสัยเล็กน้อยเเต่เขาก็ฉลาดพอที่จะมองข้ามมัน การไปยุ่งเรื่องของคนอื่นมีเเต่จะทำให้เดือดร้อนเเละซวยไปเปล่าๆ
“ไง! น้องกู้….” ชายหนุ่มหัวเเบนแสยะยิ้มแปลก ๆ เเละพูดกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเองราวกับทักทายเพื่อนเก่า
“โอ้ๆ ใจเย็นก่อนสิ อย่าระเเวงอะไรขนาดนั้น คุณก็เห็นไม่ใช่เหรอ ดูสิๆ นี่คือพื้นที่สาธารณะนะ ฉันไม่มีแผนจะทำอะไรที่จะทำให้ตัวเองเดือดร้อนหรอกน่า ฉันแค่อยากจะให้คำแนะนำที่ดี…ใช่ๆ ในคำเเนะนำที่ดีเพื่อสื่อถึงมิตรภาพ”
“อะไร? คุณเป็นใครครับ…ผมไม่รู้จักคุณมาก่อน!? เเล้วคุณมีธุระอะไรกับผม” กู้จวินเเกล้งหลบสายตาเเละทำตัวไม่รู้ไม่ชี้ใดๆทั้งนั้น ราวกับว่าเขาไม่เคยรู้จักชายคนนี้มาก่อน…เเม้เขาจะมีใบหน้าที่ค่อนข้างคุ้นเคยเหมือนเคยเห็นมาก่อนก็ตาม
“ฉันเป็นเเค่ ‘พนักงานต้อนรับ’ นายรู้จักใช่ไหม?” ชายหัวแบนก้าวไปข้างหน้าจนบังเเดดยามเย็นที่กำลังส่องใบหน้าของกู้จวินเกือบหมด แม้ว่าใบหน้าของชายหัวเเบนจะยิ้มเเย้ม แต่ความเศร้าโศกในรูม่านตาของเขามันไม่สามารถปกปิดได้ เเละยิ่งเมื่อเห็นกู้จวิน ดูเหมือนเขาจะดูโศกเศร้ามากขึ้นไปอีก
“ ฉันเป็นคนไม่สำคัญเท่าไหร่ ฉันเป็นคนที่จัดการได้ง่ายดาย ไม่เหมือนใครบางคนที่เเม้มองเห็นได้ เเต่ก็เหมือนมองไม่เห็น!!”
กู้จวินไม่แปลกใจอีกต่อไป นี่คือสมาชิกขององค์กรที่ต้องการฉกโทรศัพท์มือถือของหลี่เยี่ยรุ่ยไปเเน่นอน โอ้ว! ไม่นึกเลยว่าจะลงมือฉับไวเเบบนี้ เขาไม่ทันได้เตรียมตัวเลยด้วยซ้ำ!
ในตอนเเรกกู้จวินลองวิเคราะห์ เขาก็คิดว่าศัตรูอาจจะเป็นฝ่ายรัฐบาล แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น….
ชายหัวแบนหัวเราะเบาๆให้กับท่าทางเสเเสร้งของเด็กหนุ่มตรงหน้าเเล้วกล่าวต่อด้วยความหวังดี
“เจ้าหนุ่ม! มีหลายสิ่งหลายอย่างที่นายยังไม่รู้เกี่ยวกับโลกใบนี้ มีคนจำนวนมากที่เเม้จะมองเห็นเเต่นายก็ไม่สามารถต่อสู้ด้วยได้ ไม่สิ เเม้เเต่หน้าของพวกเขานายก็ห้ามมอง! น้องกู้! นายเป็นคนฉลาดและนายก็ควรรู้ว่าที่ฉันพูดน่ะเป็นเรื่องจริง”
มีคำใบ้ซ่อนอยู่ในประโยคของเขา ชายหัวเเบนถอนหายใจเเล้วกล่าวต่อ น้ำเสียงเขาเริ่มเเหบเเห้งลงไปทุกๆที
“ เอกสารพวกนั้นเป็นเพียงขยะกองหนึ่งก็เท่านั้นเอง มีไปก็ทำอะไรไม่ได้! ทำไมนายไม่ส่งมอบให้ฉันเสียล่ะ!”
กู้จวินรู้สึกตกใจกับคำพูดที่กะทันหันของเขา เอกสาร? เอกสารอะไร!? หลังจากผ่านการคิดอย่างรวดเร็ว กู้จวินก็รู้สึกได้…ผู้ชายคนนี้ไม่ได้มาเพื่อช่วงชิงโทรศัพท์มือถือของหลี่เยี่ยรุ่ย!
กู้จวินถามคำถามที่เเอบซ่อนความนัยเอาไว้ ถึงยังไงก็ต้องปกปิดให้ถึงที่สุด “ เอกสารอะไร? ฉันไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่!?”
ชายหัวแบนยังคงจ้องตรงมาที่กู้จวินเป็นเวลานาน ใบหน้าของเขาก็ดูน่าเกลียดเล็กน้อย
“เฮ้อ! น้องกู้เอ๊ยน้องกู้ ช่างน่าสงสาร พ่อเเม่ของนายน่ะ…ฉันยอมรับว่าพวกเขาเป็นคนที่ฉลาดปราชถ์เปรื่องมาก เเต่พวกเขาก็ทำเรื่องที่ไม่เหมาะไม่ควรเกินไป…หรือพูดง่ายๆ พวกเขาโง่ในบางเรื่องถึง….”
ดวงตาของกู้จวินหรี่ลงเล็กน้อยด้วยความสงสัย ในที่สุดเขาก็แน่ใจว่าผู้ชายคนนี้มาจากบริษัทไล่เฉิงเทคโนโลยี! หรือก็คือองค์กรที่อยู่เบื้องหลังการวิจัยที่น่าสงสัย! พวกเขาเเอบซ่อนอยู่ในเงามืดเเละเเกล้งทำเป็นบริษัทล่มสลายไปนานเเสนนาน
จากคำพูดของผู้ชายคนนี้ กู้จวินก็นึกอะไรบางอย่างได้…ดูเหมือนว่าตอนนั้นแม่กับพ่อของเขาเอาเอกสารบางอย่างกลับมาด้วย…
เเละ“ พนักงานต้อนรับ” คนนี้มาหาเอกสารเหล่านั้น ด้วยเหตุผลบางอย่าง …… อย่างนี้นี่เอง
ตอนนี้ไอ้พวกไล่เฉิงคิดว่าเขารู้เบาะแสของเอกสารที่พ่อกับเเม่เอากลับมา เเต่น่าเสียดายที่เขาไม่รู้อะไรเลย….
ว่าเเต่เอกสารพวกนั้น? มันเอกสารอะไรกันเเน่? ความคิดของกู้จวินเริ่มตึงเครียดอีกครั้ง ความทรงจำในอดีตที่เลือนลางเริ่มที่จะถูกเปิดออกทีละนิด
ตอนนั้นเขายังเด็กอยู่มาก พ่อกับแม่ไม่เคยคุยเรื่องงานกับเขาเลย พวกเขาบอกเพียงว่า พวกเขาทำวิจัยเกี่ยวกับมหาสมุทร
เเละที่สำคัญพวกเขาจะไม่ปล่อยให้เด็กเล็กๆอย่างกู้จวินเข้าไปในสำนักงานของพวกเขาด้วย
ก่อนการเดินทางครั้งสุดท้ายที่นำพาพ่อเเม่เขาไปสู่ดินเเดนที่ไม่มีวันหวนกลับ พวกเขาได้เก็บข้าวของเเละเดินทางออกจากบ้าน
โดยก่อนที่จะไป พวกเขาก็ไม่ลืมที่จะจ้างพี้เลี้ยงเด็กมาเพื่อดูเเลกู้จวินโดยเฉพาะ ตอนนี้พอเขาได้คิดดูถึงเรื่องทั้งหมดอย่างละเอียดแล้ว ดูเหมือนว่าพ่อเเละเเม่ของเขาจะเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับอุบัติเหตุอย่างตั้งใจ
อีกทั้งบ้านที่เขาอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้ยังตั้งอยู่ในเมืองอื่นและเป็นเพียงห้องเช่าเท่านั้น ต่อมาเจ้าของบ้านก็ยกบ้านให้คนอื่นเช่าทันที ซึ่งมันผิดวิสัยอย่างมาก เหมือนเจ้าของบ้านรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นเเหละ
เเละความทรงจำที่ใกล้เคียงที่สุดของกู้จวินที่มีต่อบริษัทไล่เฉิงเเละพ่อเเม่ก็คือ เขาไปนั่งเล่นในเรือซีเบิร์ด เเละนอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นอีกเลย…
“เอ๊!! คุณกำลังพูดถึงอะไร!? ผมไม่รู้เรื่อง! !!” กู้จวินจงใจแสดงท่าทางที่ดูหงุดหงิดอย่างมากออกมา
“ คุณเป็นคนจากบริษัทวิจัยไล่เฉิงเทคโนโลยีใช่ไหม? ฉันสงสัยมานานแล้วว่าอุบัติเหตุที่เกิดกับพ่อเเม่ของฉันมันไม่ใช่เรื่องธรรมดา! บริษัทไล่เฉิง…ในที่สุดก็มาจนได้ พวกคุณต้องรับผิดชอบเรื่องนี้! ฉันต้องการคำตอบจากคุณวันนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพ่อเเม่ของฉันกันเเน่!!!”
ชายหัวแบนอ้าปากหัวเราะร่า และเผยรอยยิ้มที่น่าสะอิดสะเอียนอีกครั้ง
“น้องกู้! ใจเย็นสิ นายพูดแบบนั้นราวกับว่าบริษัทฆ่าพ่อแม่ของนายอย่างงั้นเเหละ นายไม่เข้าใจเหรอ? บริษัทไม่ได้ฆ่าพวกเขาตายนะ อย่าเที่ยวตะโกนใส่ร้ายคนไปทั่วเเบบนั้นสิ?”
เขารีบเอ่ยปากพูดเบา ๆ พร้อมกับมองซ้ายเเลขวาคล้ายกับกลัวคนจะมอง คำพูดของเขาก่อนหน้านี้ราวกับว่ามันคือปริศนาที่ใครคนอื่นไม่ควรที่จะรับรู้ “นายไม่รู้อะไรเลย….”
หัวใจของกู้จวินคล้ายกับถูกทุบด้วยก้อนหินขนาดยักษ์ ความคิดมากมายผุดขึ้นในใจของเขาในพริบตา
ไม่! ทำไมฉันต้องเชื่อคำที่คนเหล่านี้พูดด้วยล่ะ?
พวกมันเป็นฆาตรกร! เขาไม่ควรเชื่อพวกนี้เเม้เต่ครึ่งคำ!
อะไรคือจุดประสงค์ที่อยู่เบื้องหลังคำพูดเหล่านี้? เขาไม่รู้เลย! ถ้าเขารู้มันคงไม่เป็นปริศนามาจนถึงบัดนี้หรอก
กู้จวินแสร้งทำเป็นว่าเขาไม่รู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของพลังเหนือธรรมชาติ เขายังคงทำตัวเป็นบ้าใบ้ต่อไปเเละทู่ซี้ก่นด่าอีกฝ่ายเเก้เก้อ
“ อย่าคิดว่าคุณสามารถทำอะไรก็ได้ที่ต้องการเพียงเพราะคุณมีอำนาจนะ! ฉันจะเรียกตำรวจและสื่อเพื่อสอบสวนคุณ!”
กู้จวินรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพชายหัวเเบนทันที ปากก็ด่าต่อไปไม่หยุดยั้ง
“ฉันจะแกล้งคุณ! ฉันจะฟ้องคุณ! ฟ้องบริษัท! เเละเรียกค่าเสียหาย 8 หมื่นล้านหยวน!”
ในขณะที่กำลังก่นด่านั้น คุณป้าคุณยายที่เดินผ่านไปมาก็หันมามองพอดี ลักษณะของคุณป้าคุณยายเเปลกหน้านั้นดูเหมือนว่าพวกเธอจะออกไปซื้อของที่ร้านขายของชำ พวกเธอถือตระกร้าผักเเละถุงเนื้อยืนมองกู้จวินเเละชายหัวเเบนด้วยความสงสัย
ชายหัวแบนไม่สนใจที่กู้จวินถ่ายรูปเขาและทำท่าทางเหมือนเด็กตัวน้อยที่กำลังโกรธเกรี้ยว
“ น้องกู้ ฉันหวังว่านายจะฉลาดขึ้นในครั้งต่อไปที่เราพบกัน” หลังจากพูดจบ ชายหัวแบนก็หันหลังและเดินจากไปทันที กู้จวินค่อยๆมองภาพเงาของเขาที่ค่อยๆห่างออกไปทุกทีๆ เเละคิดในใจด้วยความกังวลอย่างยิ่ง…