ระหว่างทางกลับหอพัก กู้จวินโทรหาพี่ชายจางหลิน พี่ชายจางของเขานั้นไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้เพราะยุ่ง แต่ศาสตราจารย์ฉินกล่าวว่านี่จะไม่ใช่การแข่งขันรอบเดียวที่จะจัดขึ้น พี่ชายจางหลินที่เเสนเก่งกาจ เขาควรมีส่วนร่วมในการเเข่งขันเเบบนี้ในอนาคต และอาจจะเข้าร่วมแผนกด้วย หลังจากคิดเพลินๆไม่นานจางหลินก็รับสาย
“ เฮ้! สวัสดีพี่จาง สบายดีไหม!?”
“ อาจวิน นายมีธุระอะไรเหรอ!?”
ทั้งสองคนไม่ได้ติดต่อกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว จางหลินยุ่งอยู่กับการทดลองของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาตลอดทั้งวัน กู้จวินเคยชวนเขาออกมาทานอาหารค่ำหลายครั้งแล้วเเต่เขาก็จำต้องปฏิเสธ
“ การทดลองของฉันจบลงแล้ว” กู้จวินถอนหายใจยาว เเต่การถอนหายใจครั้งนี้อัดแน่นไปด้วยอารมณ์ที่เคร่งเครียด
“ โอ้! ผลลัพธ์เป็นอย่างไร?” จากน้ำเสียงของจางหลินเห็นได้ชัดว่าเขาแสร้งทำเป็นสนใจการทดลอง เเต่จริงๆเเล้ว เขาสนใจการบำบัดด้วยวิธีจีนโบราณสำหรับหมอทหารเก่าอะไรนั่น ไม่ก็วิธีการรักษาแบบโบราณ สูตรลับของบรรพบุรุษอะไรเหล่านี้ “ขอโทษนะกู้จวิน ฉันยุ่งมากฉันไม่มีเวลาตรวจสอบความคืบหน้าให้นาย”
“ไม่เป็นไรพี่ชายจาง ฉันเข้าใจ” กู้จวินพูดว่าอย่างเศร้าโศก “ พวกมันตายหมดแล้ว”
“เร็วมาก? ดูเหมือนว่ายาของนายจะมีส่วนประกอบที่เป็นพิษ” จางหลินไม่แปลกใจเลย และเขาถอนหายใจด้วยความรำคาญเล็กน้อย
“ อาจวิน อย่าโทษฉันที่พูดมากเกินไป ยาจีนสกัดอะไรนั่นอาจจะดีจริง แต่ก็ไม่ได้ครอบคลุมการรักษาไปทั้งหมด ไม่เเน่มันอาจจะสามารถรักษาโรคได้บางชนิด เเต่ไม่ทุกชนิด ชื่อเสียงของการแพทย์แผนจีนได้รับความเสื่อมเสียจากผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนจีนโบราณเหล่านี้ คราวหน้านายอย่าเพิ่งเชื่อ”
“ พี่ชายจาง สิ่งที่คุณพูดสมเหตุสมผลมาก แพทย์แผนจีนควรจะมีเเผนพัฒนายาไม่ก็ไล่ล่าหมอยาเถื่อนบ้าง ฉันไม่เห็นการแพทย์แผนตะวันตกเข้ามาเกี่ยวข้องกับการค้นหาเกี่ยวกับของเหลวในร่างกายเเบบนี้เลย”
พวกเขายังคงพูดคุยเกี่ยวกับยาจีนโบราณผีบอกเเบบสกัด โดยที่ระหว่างคุยกู้จวินก็เดินออกไปจากห้องทดลองเเละออกมาด้านนอก
เมื่อกู้จวินกลับมาที่หอพัก เขาก็เพิ่งจบการสนทนากับพี่ชายจางหลินเเละวางสายไป
ในขณะที่กู้จวินก้าวผ่านประตู กู้จวินก็รีบวิ่งไปที่หม้อหุงข้าวของไช่ฉีซวน และใส่น้ำไว้ในหม้อ จากนั้นก็เทศพหนูทั้ง 15 ตัวลงไป เขาเทเครื่องปรุงสารพัดรสทุกชนิดลงไปปรุงในหม้อเดียวกัน แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เพื่อทำซุปหรือเอาไว้ดื่มชูกำลัง แต่เป็นการทำลายส่วนประกอบของมัน หรือเรียกเเบบไพเราะว่าการ “ซ่อนศพ”
“ ฮู!” กู้จวินถอนหายใจหนักหน่วง ในขณะที่เขาเช็ดหน้าผากและทำงานต่อไปโดยดูโทรศัพท์มือถือของหลี่เยี่ยรุ่ยไปด้วย
เนื่องจากภูมิหลังของหลี่เยี่ยรุ่ยนั้นมีปริศนา กู้จวินตั้งใจที่จะมอบโทรศัพท์และสารภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการดำน้ำลึกในลองกานและภัยพิบัติที่ก้นทะเล ไม่ว่าฝ่ายรัฐจะไล่ตามโทรศัพท์มือถือเครื่องนี้หรือไม่ก็ตาม นี่คือสิ่งที่ไม่สามารถปกปิดได้
สิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่โทรศัพท์เครื่องนี้ แต่เป็นวิดีโอสุดท้ายที่ถ่ายด้วยโทรศัพท์
หากฝ่ายรัฐจับภาพและเห็นเขาพึมพำประโยคนั้นเป็นภาษาต่างโลก เขาจะถูกจับเข้าคุกหรือไม่? ไม่สิ บางทีเขาอาจจะถูกลากออกไปเพื่อผ่าสมอง?
เพื่อความปลอดภัย เขาต้องทิ้งโทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ก่อนอย่างแน่นอน
กู้จวินเสียบการ์ด SD เก่าแล้วเปิดเครื่อง เขาโอนวิดีโอและรายชื่อติดต่อของหลี่เยี่ยรุ่ย ตลอดจนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอื่น ๆ ลงในการ์ด SD ก่อนที่จะถอดการ์ดออก เขาดำเนินการลบวิดีโอและฟอร์แมตโทรศัพท์แม้กระทั่งดาวน์โหลดภาพยนตร์หลายเรื่องที่เขาไม่เคยดูเพื่อเติมเต็มความทรงจำ จากนั้นก็ฟอร์แมตแล้วดาวน์โหลดใหม่อีกรอบ จากนั้นดาวน์โหลด …เเล้วก็ลบอีก วนๆไปอย่างสบายใจ
หลังจากทำซ้ำหลาย ๆ ครั้ง มันจะเป็นงานสาปสูญ…เเละกู้คืนไม่ได้แม้ว่าจะต้องการกู้คืนข้อมูลก็ตาม
นอกจากนี้มันยังอยู่ภายใต้สมมติฐานที่ว่าชิปจัดเก็บข้อมูลไม่ได้รับความเสียหายทางกายภาพอีกด้วย เหอะๆ
กู้จวินถอดชิ้นส่วนโทรศัพท์เเล้วเอาค้อนมาเหวี่ยงไปที่เมนบอร์ดหลายครั้งอย่างโหดเหี้ยม เขาต้องแม่นยำแต่ไม่เป็นเเบบเเผนเกินไปกับการทุบตีครั้งนี้ นี่ไม่ใช่แค่การทำลายการ์ดเก็บข้อมูล แต่ตำเเหน่งอื่น ๆ ก็ต้องเสียหายเช่นกัน เขาต้องทำให้ดูเหมือนว่าโทรศัพท์ถูกกระเเทกตั้งเเต่อยู่ในเรือดำน้ำ
ในขณะที่เขาเหวี่ยงค้อน เขาก็คิดถึงประสบการณ์ชีวิตของตัวเอง “ ไม่ว่าไล่เฉิงจะเป็นองค์กรใด และพ่อแม่ของฉันมีบทบาทอย่างไรในนั้น เเต่รัฐจะต้องจับจ้องเเน่ๆ เเละเพราะเหตุนี้อาจจะทำให้เขามีสถานะที่เเตกต่างจากคนอื่นก็เป็นไปได้ ซึ่ง….มันก็มีความเป็นไปได้หลายกรณี”
ก) พ่อแม่ของเขาอยู่ในข่าย “ดี” หรือในความเป็นจริงพวกเขาชั่วร้าย แต่คนนอกเข้าใจผิดคิดว่าพวกเขาดี เเละประเทศยังคงจ้างเขา
B) พ่อแม่ของเขาอยู่ในค่าย “ชั่วร้าย” หรือที่จริงแล้วพวกเขาดี แต่คนนอกเข้าใจผิดคิดว่าพวกเขาเป็นคนชั่ว เเต่ประเทศยังคงจ้างเขา
C) พ่อแม่ของเขาอยู่ในค่าย “ชั่วร้าย” เเละรัฐคิดว่าแอปเปิ้ลไม่เคยตกไกลจากต้นไม้ และจะพยายามเอาชีวิตของเขา พวกเขาอาจจะใช้ข่อมูลนี้เป็นข้ออ้างในการกักขังเขาด้วยซ้ำ บางทีอาจจะใช้ในการสืบสวนหรือแม้กระทั่งใช้เขาเป็นตัวประกัน?
เมื่อคิดดูแล้วมีโอกาส 66% ที่จะได้รับการว่าจ้าง และดูเหมือนว่าจะคุ้มค่าที่จะรับสารภาพ หากกรณีที่เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้น…เขาก็คงไม่สามารถรับผลกระทบที่ตามมาได้ เเต่เพื่อเป้าหมายเเล้วเขายอมที่จะเสี่ยง
หลังจากที่กู้จวินทำลายทุกส่วนประกอบของเมนบอร์ดโดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำลายการ์ดเก็บข้อมูลจนกลายเป็นชิ้นส่วนที่ไม่สามารถแก้ไขหรือกู้คืนได้เเล้ว เขาก็ประกอบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาใหม่อีกครั้ง จากนั้นเขาก็ทุบมันลงกับพื้นอย่างดุร้ายหลายต่อหลายครั้ง จนโทรศัพท์มือถือมีรูปร่างผิดเพี้ยนหลังจากที่ถูกบดขยี้หลายครั้งติดต่อกัน จากนั้นเขาก็กดปุ่มเปิดปิดอีกครั้งและก็พบว่าโทรศัพท์ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลย
“ หึหึหึ” กู้จวินโยนโทรศัพท์ที่พังทิ้ง ก่อนที่จะนั่งลงที่โต๊ะทำงานในขณะที่จับการ์ด SD ของตนเองอย่างแน่นหนา ‘ข้อมูลทั้งหมดอยู่ที่นี่ ไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัยกันเถอะ’
หม้อหุงข้าวพ่นเสียงแตกเพราะร้อนระอุออกมาในขณะที่มันทำงาน กลิ่นหอมของซุปอบอวลในอากาศ แม้ว่าเขาจะรู้ความจริงเกี่ยวซุปนั่น และรู้สึกคลื่นไส้เล็กน้อย แต่เขาก็ยังอุทานว่า“ มันหอมจริงๆ”
หนูทดลองเเบบเปลือยตัวละ 120 หยวน ซุปนี้มีมูลค่าอย่างน้อย 1,800 หยวน…ดังนั้นมันเป็นซุปที่โครตจะเเพง
กู้จวินต่อต้านแรงกระตุ้นที่จะสูดดมกลิ่นหอมลึก ๆ จากซุปหนู และเปิดอินเทอร์เฟซระบบในใจของเขา
[มือแห่งความชำนาญ
ความหายาก: ★ (จากต่ำสุดถึงสูงสุด 1 ★ถึง 10 ★)
ศักยภาพในการยกระดับ: ชั้นที่ 3
ระดับความสามารถของโฮสต์: ชั้นที่ 2 (ความเชี่ยวชาญ 1000/30000)]
“ การทำภารกิจยากให้สำเร็จทำให้ความสามารถเพิ่มขึ้น 1,000 เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นฉันต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่เริ่มต้นของระดับที่สอง ดังนั้นมันจะต้องแย่กว่านี้แน่นอน การยกระดับนั้นเริ่มที่จะท้าทายขึ้นเรื่อยๆ เเต่เขาก็คงต้องเพิ่มความเชี่ยวชาญต่อไป ในอัตราความเร็วในการพัฒนาระดับนี้…ฉันต้องทำภารกิจยากให้สำเร็จเป็นร้อย ๆ ภารกิจ ก่อนที่ฉันจะไปถึงระดับที่สาม ฉันสงสัยว่าภารกิจนรกจะทำให้ทักษะฉันพัฒนาได้มากแค่ไหน”
กู้จวินปิดรายการความสามารถและเปิดหน้าภารกิจ จากนั้นเขาก็คลิกที่“ รับรางวัลภารกิจ” ทันใดนั้นความรู้สึกแปลก ๆ ก็ปรากฏขึ้นภายในจิตใจของเขา ราวกับว่ามีแสงบางอย่างท่วมท้นเข้ามา ในขณะที่แสงค่อยๆควบแน่นภาพหลอนของสมุดบันทึกการวินิจฉัยและการรักษาสามหน้าก็ลอยค้างอยู่เหนือทะเลแห่งความรู้
เขาต้องการเปิดหน้าซ้ายสุดเพื่ออ่านก่อน
วัสดุนี้น่าจะทำจากกระดาษที่ใช้สำหรับเขียนโดยเฉพาะ และกระดาษนี่ก็เต็มไปด้วยข้อความต่างโลกที่ถูกขีดเขียนไว้อย่างหนาแน่น มีประมาณสามสิบบรรทัดต่อหน้า หน้ากลางและหน้าขวาสุดก็เหมือนกัน
“ ทั้งหมดนี้หมายความว่าอย่างไร!?” ความวิตกกังวลเต็มไปด้วยใบหน้าของกู้จวินในขณะที่เขาศึกษาบันทึก เขาไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสมุดบันทึกทั้งสามหน้าเรียงกันอย่างต่อเนื่อง หรือหน้าใครหน้ามัน
อย่างไรก็ตามเขาสามารถเลือกสิ่งที่แตกต่างออกไปได้
“ ลายมือต่างกัน”
ลายมือของไดอารี่สามหน้าสอดคล้องกัน ไม่เหมือนกับการเขียนเกี่ยวกับการอ้างอิงทางกายวิภาคที่ไม่สมบูรณ์ ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะไม่มีการเขียนลวก ๆ เเละความสามารถในการเขียนของคนเขียนนั้นไร้ที่ติ และความลึกของหมึกในบางพื้นที่ก็แตกต่างกันไป ในขณะที่เขียนคนเขียนนั้นคงเขียนอย่างระมัดระวังไม่ก็…คนเขียนได้เขียนบันทึกนี้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นอันตราย
“ เดี๋ยวก่อนนะ…ฉันพอจะเข้าใจบางคำ”
กู้จวินขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาสามารถเข้าใจบางส่วนของข้อความต่างโลกได้จากข้อมูลการอ้างอิงทางกายวิภาคที่ไม่สมบูรณ์ เขาสามารถแตกแนวความคิดบางอย่างได้ เช่น กระดูก กล้ามเนื้อ หน้าอก เส้นประสาท เป็นต้น
มีอีกสองประโยค เเละประโยคเหล่านั้นฝังลึกอยู่ในสมองของเขา เขาเข้าใจอย่างคลุมเครือว่าคำพูดพวกนั้นหมายถึงอะไร
“ ผลไม้แห่งราตรีจะงอกงามเเละปกคลุมไปทั่วนภาอันมืดมิด ปรสิตแห่งความตายจะอยู่กับสวรรค์และโลกนิจนิรันดร์” และ“ พวกเขาดีกว่าพวกเราไหม”
ประโยคนี้บางส่วนปรากฏอยู่ในสมุดบันทึกทั้งสามหน้านี้ กู้จวินเปรียบเทียบประโยคทั้งหมดอย่างรอบคอบ และในไม่ช้าก็พบว่าในแถวของข้อความต่างโลกที่อยู่ใกล้จบหน้าที่สามของบันทึก ผู้เขียนเขียนประโยคเหล่านี้อย่างเข้มข้นคล้ายกับมันสำคัญที่สุด เขาสามารถปะติดปะต่อความหมายของข้อความได้เป็นระยะ ๆ
กู้จวินเริ่มบ่นพึมพำถึงข้อความในนั้นเบา ๆ