บทที่ 1 สุ่มลูกเต๋าสิบเอ็ดปี สุ่มรอบนี้โชคดีขั้นสุดยอด
[ชื่อ: หานเจวี๋ย]
[อายุขัย: 11/65]
[เผ่าพันธุ์: มนุษย์]
[ตบะ: ไม่ปรากฏ]
[วิชายุทธ์: ไม่ปรากฏ]
[วิชาเวท: ไม่ปรากฏ]
[พลังวิเศษ: ไม่ปรากฏ]
[อาวุธเวท: ไม่ปรากฏ]
[คุณสมบัติรากวิญญาณ: ระดับต่ำสุด (กดสุ่มลูกเต๋า) ]
[ดวงชะตาแต่กำเนิด (กดสุ่มลูกเต๋า) ]
[พลังวิญญาณเสริม: คุณสมบัติรากวิญญาณพสุธาและพฤกษาเสริมความแข็งแกร่ง]
[พลังโจมตี: ค่าพลังโจมตีแข็งแกร่ง จิตวิญญาณแกร่งกล้า]
[กดคลิกเพื่อเริ่มต้นเข้าสู่เกมวิถีแห่งชีวิต]
…
หานเจวี๋ยในวัยสิบเอ็ดปีมองดูหน้าต่างค่าสถานะตรงหน้าตนเองแล้วแทบจะสิ้นหวัง
แม้ว่าค่าคุณสมบัติรากวิญญาณและดวงชะตาแต่กำเนิดจะสามารถเขย่าลูกเต๋าสุ่มเปลี่ยนได้ทุกวัน แต่ถึงอย่างไรก็สุ่มได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยจะเริ่มสุ่มใหม่อีกครั้งในเวลาเจ็ดโมงเช้าของทุกวัน
หานเจวี๋ยเริ่มสุ่มลูกเต๋ามาตั้งแต่เกิด
ผ่านมาตั้งสิบเอ็ดปีแล้ว ยังไม่เคยสุ่มได้ค่าคุณสมบัติรากวิญญาณระดับสูงและดวงชะตาแต่กำเนิดที่โดดเด่นเลยแม้แต่น้อย
‘เอาแบบนี้ไปเลยดีไหมนะ’
หานเจวี๋ยมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา
ไม่ได้เด็ดขาด!
ไม่ง่ายนักกว่าจะมาถึงโลกของเทพเซียนปีศาจ มนุษย์ธรรมดาจะบำเพ็ญเซียนได้อย่างไร
หานเจวี๋ยอยากเป็นตัวเอกที่ราบรื่นไปหมดทุกอย่าง!
สุ่มอีก!
หานเจวี๋ยยกมือ กดไปยังหน้าต่างค่าสถานะตรงด้านหน้าของเขา
คุณสมบัติรากวิญญาณเปลี่ยนแปลง!
[คุณสมบัติรากวิญญาณ: ไร้การเปลี่ยนแปลง]
ใบหน้าอ่อนเยาว์ของหานเจวี๋ยเจื่อนลงทันที
สุ่มอีกครั้ง!
[ชะตากำพร้า: ไร้ญาติขาดมิตร โดดเดี่ยวตลอดชีวิต อายุขัยเพิ่มหนึ่งร้อยปี]
มารดามันเถอะ!
สุ่มได้ชะตากำพร้า!
ใครจะอยากโดดเดี่ยวไปตลอดชีวิตกัน!
หานเจวี๋ยโกรธจนลงไปนอนดีดดิ้นอยู่บนพื้นหญ้า
ตลอดสิบเอ็ดปีมานี้ไม่เคยสุ่มได้คุณสมบัติรากวิญญาณและดวงชะตาแต่กำเนิดระดับสูงเลยสักครั้ง
เป็นไปไม่ได้!
สุ่มต่อไป!
ข้าไม่เชื่อหรอก!
หานเจวี๋ยโกรธจนตัวสั่น
หลังจากกลิ้งไปมากับพื้นร่วมสามสิบนาที ก็ยันกายลุกขึ้นมา
หานเจวี๋ยเป็นมนุษย์ที่กลับชาติมาเกิด ชาติก่อนนั้นมาจากโลกศตวรรษที่ 21 เมื่อครั้งเยาว์วัยถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เขาไม่ยอมรับการรักษาที่ต้องทนทุกข์ทรมาน และกลับไปรอความตายที่บ้าน คืนวันนั้นเพื่อที่จะทำให้ร่างกายลืมความเจ็บปวดไป เขาเอาเกมการบำเพ็ญเซียนเก่าเก็บออกมาเล่น
เขาเล่นเกมอย่างสนุกสนานตลอดทั้งคืน จนใกล้รุ่งสางถึงเริ่มง่วง จากนั้นก็ไม่รับรู้อะไรอีก
เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง หานเจวี๋ยกลับชาติมาเกิดใหม่ในโลกที่เหมือนกับยุคสมัยโบราณแห่งนี้ เขามาเกิดในสำนักบำเพ็ญเซียนแห่งหนึ่ง
สำนักหยกพิสุทธิ์ เป็นสำนักบำเพ็ญเซียนสายหลักในสมัยราชวงศ์ต้าเยี่ยน
ในวันที่ถูกตรวจพบโรคมะเร็งระยะสุดท้าย หานเจวี๋ยตกใจหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง เป็นครั้งแรกที่ตระหนักได้ว่าชีวิตสำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น
คาดไม่ถึงว่าในชีวิตนี้จะฝึกให้เป็นอมตะได้!
เขาประหลาดใจเพราะมันเกินกว่าที่ตนคาดหวังไว้นัก!
เขาจะต้องบำเพ็ญเซียนเพื่อเป็นอมตะให้ได้!
เขาจะอยู่ยั่งยืนยาวกว่าใครทั้งหมด!
ทว่าเขาไม่อาจบำเพ็ญเซียนขณะที่ยังเป็นมนุษย์ธรรมดาได้!
ตั้งแต่เกิดมา หานเจวี๋ยใช้ชีวิตโดยปราศจากความกดดัน พ่อแม่ของเขาเป็นข้ารับใช้ของผู้เฒ่าเถี่ยนักหลอมโอสถสายนอกของสำนักหยกพิสุทธิ์ ปกติจะช่วยผู้เฒ่าเถี่ยเพาะปลูกสมุนไพร
นักหลอมโอสถนั้นมีฐานะไม่ธรรมดา ที่สำนักฝ่ายนอกไม่มีผู้ใดหาญกล้ามีปัญหากับผู้เฒ่าเถี่ย ผู้เฒ่าเถี่ยมีข้ารับใช้อยู่หลายสิบคน คนเหล่านั้นเป็นมนุษย์ธรรมดาทั้งสิ้น
แม้ว่าจะมีคุณสมบัติรากวิญญาณ แต่ผู้เฒ่าเถี่ยก็ไม่อนุญาตให้ข้ารับใช้ฝึกบำเพ็ญตบะ คงเพราะกลัวข้ารับใช้จะขโมยสมุนไพรของเขาไป
สมุนไพรของเขามีคุณประโยชน์แก่ผู้บำเพ็ญเซียนเป็นอย่างมาก แต่สำหรับมนุษย์แล้วคือยาพิษขนานแท้
แต่ในปีที่หานเจวี๋ยอายุได้หกปี พ่อแม่ของเขาหลบหนีไป ทอดทิ้งเขาที่ยังเด็กไว้ในสวนสมุนไพรของผู้เฒ่าเถี่ย
หานเจวี๋ยพอจะเข้าใจได้ หากพาเด็กหนีไปด้วยคงจะไม่สะดวกแน่
ผู้เฒ่าเถี่ยก็ไม่ได้คิดเอาความ กลับกันยังให้คนพาหานเจวี๋ยไปช่วยเพาะปลูกสมุนไพรด้วยซ้ำ
เวลาผ่านไปนาน หานเจวี๋ยมีความรู้และความคุ้นเคยกับพืชสมุนไพรทั้งหมดในสวนเป็นอย่างดี
ผู้เฒ่าเถี่ยก็ไม่ได้รังแกเขา หานเจวี๋ยจึงสุ่มดวงชะตาต่อไป
อย่างไรเสียตอนนี้เขาก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา รออีกหน่อยไม่ดีกว่าหรือ
‘เฮ้อ สุ่มต่อไปแล้วกัน หากว่าก่อนอายุสามสิบยังสุ่มไม่ได้ดวงชะตาพลิกฟ้า อย่างนั้นก็ช่างมันเถอะ เป็นมนุษย์ธรรมดาบำเพ็ญเซียนไปก็ได้’
หานเจวี๋ยนึกคิดเงียบๆ
ในสวนสมุนไพร ข้ารับใช้ที่อาวุโสที่สุดมีอายุเจ็ดสิบกว่าปี นามว่าเฒ่าหวาง ตอนอายุได้สิบกว่าปีเขาถูกผู้เฒ่าเถี่ยคัดเลือกมา บัดนี้เป็นหัวหน้าข้ารับใช้ พวกข้ารับใช้ล้วนเชื่อฟังและทำตามคำสั่งของเฒ่าหวาง
หานเจวี๋ยเหยียดกายลุกขึ้น กลับไปยังสวนสมุนไพร เริ่มรดน้ำและเก็บกวาดใบไม้แห้ง
สวนสมุนไพรมีพื้นที่กว้างใหญ่มาก ขนาดใหญ่เทียบเท่ากับสนามฟุตบอลแห่งหนึ่ง ในช่วงที่งานยุ่งข้ารับใช้ทุกคนจะระมัดระวังเป็นอย่างมาก หากไม่ระวังทำพืชสมุนไพรเสียหาย ผู้เฒ่าเถี่ยต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแน่นอน อีกทั้งยังมีพืชสมุนไพรบางชนิดที่เต็มไปด้วยพิษร้ายแรงอีก
ผู้เฒ่าเถี่ยเดินทางออกไปนอกสำนักเมื่อเดือนก่อน คาดว่ากว่าจะกลับมาก็อีกสองถึงสามปี
สำหรับผู้บำเพ็ญเซียนแล้ว ระยะเวลาสองสามปีนับว่าไม่นานอะไร
ในสวนสมุนไพร หานเจวี๋ยเป็นคนพูดน้อย ทำให้เขาแทบจะไม่มีมิตรสหาย ก็มีแต่เฒ่าหวางที่พูดคุยกับเขา
หลังจากเสร็จงาน เขาก็กลับไปที่ห้องและเริ่มวิดพื้นฝึกฝนร่างกาย
…
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากหานเจวี๋ยล้างหน้าล้างตาเสร็จ
เขานั่งเฝ้ารออยู่บนเตียงไม้
จวบจนถึงเวลาที่จะได้เริ่มสุ่มใหม่อีกครั้ง หานเจวี๋ยถึงเริ่มรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา
ตื่นเต้นคล้ายกับจะได้สุ่มรางวัลใหญ่
นี่เป็นสิ่งที่เขารอคอยมากที่สุดในทุกๆ วัน
เขาถูฝ่ามือไปมา
สุ่มคุณสมบัติรากวิญญาณก่อนแล้วกัน
[คุณสมบัติรากวิญญาณ: ไร้การเปลี่ยนแปลง]
ให้ตายสิ!
นี่มันชักจะเกินไปแล้ว!
หานเจวี๋ยโมโหแทบตาย
มือไม้ของเขาเริ่มสั่น ต่อไปเริ่มสุ่มดวงชะตาแต่กำเนิด!
ลูกเต๋าเริ่มสุ่มแล้ว!
[ได้รับดวงชะตาแต่กำเนิดดังนี้]
[ไม่เป็นสองรองใคร: รูปงาม เจ้าเสน่ห์ระดับสูงสุด]
[ชะตาเซียนกระบี่: มรรคกระบี่ระดับสูงสุด ความเข้าใจมรรคกระบี่ระดับสูงสุด]
[ความไวของท่าร่าง: คุณสมบติท่าร่างระดับสูงสุด]
[ทายาทจักรพรรดิเซียน: หลังผู้เล่นเริ่มต้นเกม จะได้รับสุดยอดวิชาบำเพ็ญเซียน และได้รับหินวิญญาณชั้นสูงหนึ่งพันก้อน]
หานเจวี๋ยตะลึงงัน
เขาเบิกตากว้าง ประหลาดใจในทันที
ดวงชะตาแต่กำเนิดถึงสี่ดวงชะตา!
นี่สุ่มแค่ครั้งเดียวก็ได้รับค่าดวงชะตาแต่กำเนิดถึงสี่ดวงชะตา แถมดูแล้วมีแต่สุดยอดทั้งนั้น
ยิ่งมองหานเจวี๋ยก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น
มันนี่แหละ!
ไม่ใช่สิ!
พวกมันนี่แหละ!
ดวงชะตาระดับสูงสี่ดวงชะตา สุดยอดวิชาอีกหนึ่ง!
มองแวบแรกก็รู้แล้วว่ายอดเยี่ยมยิ่งนัก
สุ่มมาตั้งสิบเอ็ดปี ผ่านไปวันแล้ววันเล่า ในที่สุดความพยายามก็สำเร็จจนได้!
หานเจวี๋ยพยายามสงบจิตให้นิ่ง
ในเมื่อไม่มีคุณสมบัติรากวิญญาณ เขาก็ยังไม่สามารถกดเริ่มต้นเกมวิถีแห่งชีวิตได้
ยังต้องสุ่มรากวิญญาณเพิ่มอีก
‘ในที่สุดความหอมหวานก็มาเยือนสักที ได้รับดวงชะตาแต่กำเนิดระดับสูงถึงสี่อย่าง ต่อให้ฝึกบำเพ็ญตอนอายุสี่สิบปีก็ยังไม่สาย เราสุ่มคุณสมบัติรากวิญญาณอย่างวางใจได้’
หานเจวี๋ยคิดได้ดังนั้น ก็ดีอกดีใจเป็นอย่างยิ่ง
สุ่มมาแล้วสิบเอ็ดปี สุ่มเพิ่มอีกสิบเอ็ดปีจะเป็นไรไป
หานเจวี๋ยถอนหายใจยาวๆ จากนั้นจึงลุกขึ้นออกจากห้องและเริ่มทำงานในส่วนของวันนี้
บ้านพักที่เขาอาศัยอยู่มีสมาชิกทั้งหมดหกคน หนึ่งคนต่อหนึ่งเตียง คนอื่นๆ ตื่นตั้งแต่รุ่งสางแล้ว
แต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบในแต่ละส่วนพื้นที่ ไม่มีใครกล้าทำงานพลาด
หานเจวี๋ยอายุยังน้อย จึงได้ทำเพียงหน้าที่ในส่วนง่ายๆ ผู้เฒ่าเถี่ยยังไม่กล้าให้เขารับผิดชอบพื้นที่หนึ่งไปเลย
ทิวทัศน์ในวันนี้ช่างดูงดงามพิเศษ หรืออาจเป็นเพราะเขาอารมณ์ดีก็ได้
ข้ารับใช้คนอื่นไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของหานเจวี๋ย เกมวิถีแห่งชีวิตยังไม่เริ่มต้น ดวงชะตาแต่กำเนิดทั้งสี่ดวงชะตาของเขายังไม่ปรากฏออกมา
เวลาเที่ยงตรงมีผู้บำเพ็ญสองคนมาเยือน
สำนักหยกพิสุทธิ์มีขนาดใหญ่ โดยรอบสวนสมุนไพรโอบล้อมไปด้วยภูเขา เหล่าผู้บำเพ็ญไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่นี้ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้ดูแลสำนักฝ่ายนอกแวะเวียนมารับโอสถเสียมากกว่า ผู้บำเพ็ญคนท่านนี้มีบุคลิกท่าทางงดงาม บุรุษหนึ่งสตรีหนึ่งประดุจคู่รักเซียน ดึงดูดสายตาให้ข้ารับใช้หันไปมอง
หานเจวี๋ยก็หันมองทางประตูใหญ่ของสวนสมุนไพรด้วย
‘ช่างเจิดจ้างดงามเสียจริงๆ’
หานเจวี๋ยถอนหายใจ
เสื้อผ้าอาภรณ์ของพวกเขาเหล่าข้ารับใช้ขาดวิ่น แต่ชุดของผู้บำเพ็ญเซียนทั้งสองกลับสวยหรูสะอาดสะอ้าน เหมือนตัวละครในเกมออนไลน์เทพเซียนหลุดออกมา
หานเจวี๋ยแค่คิดเล่นๆ เขาไม่อิจฉาแม้แต่น้อย
เขาสุ่มได้ดวงชะตาแต่กำเนิดถึงสี่ดวงชะตาแล้ว ความสำเร็จในวันข้างหน้าศิษย์ฝ่ายนอกของสำนักหยกพิสุทธิ์เทียบไม่ได้เสียด้วยซ้ำ
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกข้าสองคนจะเป็นผู้ดูแลสวนสมุนไพรให้ท่านผู้เฒ่าเถี่ย พวกเจ้าทั้งหลายไม่ต้องใส่ใจเรา และห้ามรบกวนการฝึกบำเพ็ญของเราเป็นอันขาด” ผู้บำเพ็ญชายคนนั้นกล่าวกับเฒ่าหวางด้วยใบหน้าเรียบเฉย
……………………………………….