บทที่ 159 แม่ทัพสวรรค์ขั้นแปด นักพรตเต๋าตันชิง
หานเจวี๋ยจ้องหยางเยี่ยนจวินอย่างเอาเป็นเอาตาย เห็นว่าหยางเยี่ยนจวินไม่ได้หนี ในใจเขาก็ดีใจอย่างบ้าระห่ำ
‘ในเมื่อเจ้าอาจหาญ เช่นนั้นเจ้าก็อย่าได้คิดหนี!’
หานเจวี๋ยโบกกระบี่อีกครั้ง ทะเลปราณกระบี่บนเวิ้งฟ้าควบรวมเป็นเงากระบี่จำนวนมากมายนับไม่ถ้วนขึ้นมาอีกครั้ง ใช้อานุภาพฟ้าถล่มพุ่งสังหารไปทางหยางเยี่ยนจวิน
อานุภาพไม่อาจต้าน!
หยางเยี่ยนจวินหน้าถอดสียกใหญ่ รีบเคลื่อนกายไปในทันที แต่ในจังหวะนั้นเอง ทันทีที่พลังเวทแผ่ซ่าน นางก็ถูกปราณกระบี่ของหานเจวี๋ยซัดสะเทือนจนได้รับบาดเจ็บ
นางเคลื่อนกายห่างออกไปหลายสิบลี้ กายเพิ่งจะเริ่มปรากฏ ลมหายใจถี่ระรัว ขย้อนเลือดเสียพุ่งทะลักออกมา
พรวด…
หยางเยี่ยนจวินยกมือขึ้นโบกหนึ่งครา ดาบบินกรีดแหวกท้องฟ้ากว้างไกล ตกมาอยู่ในมือของนางอีกครั้ง
“สมควรตาย! หากไม่ใช่เพราะกฎสวรรค์ สภาพของข้าหรือจะอนาถเช่นนี้!”
หยางเยี่ยนจวินโพล่งตะโกนด่าทอ นางทิ้งดาบบินไปไว้บนเหนือศีรษะ สองมือร่ายวิชาอย่างฉับไว
โครม
ฟ้าดินสั่นสะเทือนรุนแรง พลังวิญญาณปฐพีพุ่งรวมตัวไปทางดาบบินของนางก่อนทะยานขึ้นฟ้า ก่อตัวเป็นคลื่นปราณที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ตระการตาอย่างถึงที่สุด
นางไม่ได้มีทีท่าที่จะหลบหนี นางยังอยากสู้ต่อ!
หานเจวี๋ยยั่วโทสะนางอย่างสิ้นเชิง!
ฉัวะ!
เสียงอากาศปริแตกสายหนึ่งพุ่งเข้ามา!
เป็นดรรชนีกระบี่โลกาสวรรค์ทลายภพ!
หยางเยี่ยนจวินเตรียมใจไว้เสียนานแล้ว รีบเบี่ยงกายหลบในทันใด
นางเพิ่งจะหันกายกลับไป หานเจวี๋ยก็ปรากฏกายอยู่ด้านหลังของนาง!
ปีก่อนหานเจวี๋ยใช้เมฆตีลังกาเป็นฐาน รังสรรค์ท่าร่างระดับไท่อี่ออกมา ตีลังกาคราเดียวก็สามารถกระโจนมาหยุดอยู่ด้านหลังศัตรูได้อย่างแม่นยำจนหาที่เปรียบไม่ได้
หางตาของหยางเยี่ยนจวินเหลือบไปเห็นหานเจวี๋ย นัยน์ตาของนางจึงอดเบิกกว้างไม่ได้
เป็นไปได้อย่างไรกัน!
ปราณกระบี่สีดำสายหนึ่งพลันแตกปะทุ ทะยานเหินฟ้าขึ้นไป ดูคล้ายพู่กันที่โบกสะบัดขึ้นไปทางเวิ้งฟ้า ปราณกระบี่สีดำลอยแขวนอยู่กลางนภาสูง
กายเนื้อของหยางเยี่ยนจวินถูกปราณกระบี่ของหานเจวี๋ยสังหารจนดับสลายในทันที มีเพียงจิตดั้งเดิมที่เหลืออยู่เบื้องหน้าหานเจวี๋ย
“ข้าเป็นถึงศิษย์ของหมู่เกาะเซียนมังกร! ศิษย์พี่ของข้าก็คือแม่ทัพสวรรค์แห่งวังสวรรค์!”
หยางเยี่ยนจวินร้องบอกด้วยน้ำเสียงตกใจ เสียงนั้นเพิ่งสิ้นสุด นางก็หันกายในทันที จิตดั้งเดิมบินหนีไกลออกไป
หานเจวี๋ยชูกระบี่ขึ้นโบกคราหนึ่ง เงากระบี่นับล้านพุ่งมาจากฟ้าดินรอบทิศทาง พันเกี่ยวสังหารจิตดั้งเดิมของหยางเยี่ยนจวินในทันที
‘ในที่สุดก็ตายแล้ว!
แม่ทัพสวรรค์ยิ่งใหญ่มากนักหรือ
ข้าก็เป็นถึงทายาทจักรพรรดิเซียนเชียวนะ!’
หานเจวี๋ยลอบเย้นหยันกับตนเอง
เรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว หากปล่อยหยางเยี่ยนจวินไป ก็ไม่สามารถยุติผลกรรมข้อนี้ได้!
หานเจวี๋ยยกมือซ้ายขึ้น ดึงดูดแหวนเก็บสมบัติและดาบบินเล่มหนึ่งเข้าสู่กลางฝ่ามือผ่านอากาศ
เขาเหาะเหินไปทางเขาเพียรบำเพ็ญเซียน
ระหว่างทาง เขาหาแหวนเก็บสมบัติของนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนไม่พบ คาดว่าคงถูกดรรชนีกระบี่โลกาสวรรค์ทลายภพซัดจนแหลกละเอียดไปเสียแล้ว
เมื่อกลับมาถึงใต้ต้นฝูซัง กลุ่มคนต่างล้อมวงเข้ามาหาเขาในทันที แม้แต่สิงหงเสวียน เซียนซีเสวียน ฉางเยวี่ยเอ๋อร์และหลี่ชิงจื่อเองก็อยู่ที่นี่ด้วย
“อาจารย์ สถานการณ์เป็นเช่นไรบ้าง”
“สองคนเมื่อครู่นี้มีที่มาที่ไปอย่างไรกัน”
“อาจารย์ปู่เก่งกาจเกินไปแล้ว!”
“ยังต้องถามอีกหรือ ต้องตายเป็นแน่แท้อยู่แล้ว!”
“ใต้หล้านี้มีผู้ใดรอดชีวิตจากเงื้อมมือของอาจารย์พวกเราได้บ้าง”
กลุ่มคนต่างฮึกเหิมเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อก่อนหานเจวี๋ยแทบล้วนปลิดชีพศัตรูในพริบตาทั้งนั้น น้อยครั้งที่จะต่อสู้แบบอลังการเปิดเผยเช่นนี้
พวกเขาไม่อาจลืมเงากระบี่ทั่วฟ้าเมื่อครู่นี้ได้ ไหนจะอานุภาพกดดันที่ทำให้พวกเขาขวัญหนีดีฝ่อนั่นอีก
ราชามังกรสามหัวสะท้านสะเทือนอย่างถึงที่สุด
เขาที่อยู่ระดับมหายานขั้นหกเมื่อครู่ก็ถูกอานุภาพกดดันบีบคั้นจนต้องคุกเข่าลงกับพื้น
นี่หมายความอย่างไรกัน
หมายความว่าหานเจวี๋ยและหยางเยี่ยนจวินจะต้องอยู่เหนือกว่าระดับมหายาน เป็นระดับมนุษย์เซียนอย่างแน่นอน!
หานเจวี๋ยระบายยิ้มน้อยๆ กล่าวว่า “ไม่มีอะไร พวกเจ้าตั้งหน้าฝึกบำเพ็ญต่อไปเถอะ”
กล่าวจบ เขาก็กลับเข้าไปในถ้ำเทวาฟ้าประทาน
เรื่องบางอย่างไม่จำเป็นต้องกล่าวกับคนอื่น กล่าวไปก็มีแต่จะสร้างความตื่นกลัวเสียเท่านั้น
นักพรตเต๋าจิ่วติ่งเห็นว่าการต่อสู้สิ้นสุดลงแล้ว จึงรีบร้อนให้เหล่าผู้อาวุโสไปปลอบขวัญเหล่าศิษย์ในสำนักทันที
การต่อสู้ในวันนี้ทำให้ชื่อเสียงของผู้อาวุโสสังหารเทพก้องกระหึ่มไปทั่วสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์อีกครั้ง
ผ่านไปหลายปีเพียงนี้ ศิษย์มากมายล้วนแทบจะลืมเลือนผู้อาวุโสสังหารเทพกันหมดแล้ว
คนที่ตื่นเต้นเป็นที่สุดนั้นคือบรรดาศิษย์ใหม่ คิดไม่ถึงว่าผู้อาวุโสสังหารเทพของสำนักหยดพิสุทธิ์จะน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้!
ภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน
หานเจวี๋ยเริ่มตรวจสอบดูแหวนเก็บสมบัติของหยางเยี่ยนจวิน อู้เต้าเจี้ยนจึงประชิดเข้ามาใกล้อย่างสงสัยใคร่รู้
หยางเยี่ยนจวินสมกับที่เป็นคนของสวรรค์ ช่างมั่งคั่งจริงๆ ทั้งของวิเศษเอย ตำรับลับวิชาเวทเอย ตำราพลังวิเศษเอย ที่ควรมีล้วนมีทั้งหมด อีกทั้งยังมีโอสถที่ช่วยในการฝึกบำเพ็ญของเซียนอิสระมากมาย
พวกนี้ก็มีประโยชน์แล้ว!
[หยางซ่านเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 6 ดาว]
[นักพรตเต๋าตันชิงเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 3 ดาว]
เบื้องหน้าหานเจวี๋ยปรากฏอักขระขึ้นสองแถว
เขาไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร
ความชื่นชมเกลียดแค้นรวมกัน ก็คือคำนี้
ตุ๊กตาลูกดก!
ฆ่าผู้เยาว์เสร็จ เดี๋ยวผู้อาวุโสก็จะตามมา
อะไรคือมนุษย์ อะไรคือยุทธภพ
ยุทธภพก็คือเครือข่ายสังคม!
หากมีผู้ใดฆ่าศิษย์หรือศิษย์หลานของหานเจวี๋ย หานเจวี๋ยเองก็ต้องลงมือแก้แค้นอย่างแน่นอน
อีกอย่างคนของสวรรค์ย่อมต้องมีพลังวิเศษ สามารถคำนวณได้ว่าผู้ใดเป็นคนฆ่าคนที่พวกเขาเป็นกังวลและใส่ใจ
มีเพียงสองคนที่เกิดความเกลียดชังในตัวหานเจวี๋ย หานเจวี๋ยยังรู้สึกว่าน้อยไปนัก
ดูท่าสตรีอย่างหยางเยี่ยนจวินนางนี้วาสนาคงไม่ดีนัก
หานเจวี๋ยเรียกดูค่าความสัมพันธ์ เริ่มตรวจสอบข้อมูลของสองคนนี้
[หยางซ่าน: เซียนพิภพไท่อี่ระยะปลาย แม่ทัพสวรรค์ขั้นแปดแห่งวังสวรรค์ เนื่องด้วยท่านสังหารหยางเยี่ยนจวินศิษย์น้องอันเป็นที่รักของเขา รวมถึงนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนผู้ใต้บังคับบัญชาที่เขาเตรียมถ่ายทอดวิชาให้ จึงเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ไม่ตายไม่เลิกรา ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 6 ดาว]
[นักพรตเต๋าตันชิง: เซียนแท้ไท่อี่ระยะกลาง หนึ่งในเจ็ดนักพรตเต๋าแห่งหมู่เกาะเซียนมังกร เนื่องด้วยท่านสังหารหยางเยี่ยนจวินศิษย์รักของเขา จึงเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน หากบังเอิญพบกัน จะต้องสังหารท่านอย่างแน่นอน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 3 ดาว]
เซียนพิภพไท่อี่ระยะปลาย!
เซียนแท้ไท่อี่ระยะกลาง!
ดีมาก!
ล้วนแข็งแกร่งยิ่งนัก!
หานเจวี๋ยฝืนปั้นหน้ายิ้ม ภายในใจค่อนข้างสับสน
แต่เขาสังเกตเห็นในข้อมูลของนักพรตเต๋าตันชิงที่เขียนไว้ว่าหากบังเอิญพบกัน หรืออาจกล่าวได้ว่า นักพรตเต๋าตันชิงจะไม่ลงมาในโลกมนุษย์หรือ
ยังมีหยางซ่านอีก
แม่ทัพสวรรค์แห่งวังสวรรค์ รอให้วังสวรรค์จัดการกวาดล้างเผ่ามารแล้ว เจ้าหมอนี่จะต้องนำทัพมาด้วยตนเองเป็นแน่แท้
ไม่ได้การ!
จะต้องสาปแช่ง!
หานเจวี๋ยไม่ได้สาปแช่งในทันที แต่กลับปล่อยเวลาให้ผ่านไปสักระยะ เพื่อเป็นการไม่ให้อีกฝ่ายได้รู้ตัว
เมื่อครั้นหยางซ่านและนักพรตเต๋าตันชิงพบว่าเป็นหานเจวี๋ยที่กำลังสาปแช่งพวกเขาอยู่ พวกเขาจะต้องกำจัดตัวหายนะอย่างหานเจวี๋ยทิ้งโดยเร็วที่สุดอย่างแน่นอน
…
โถงตำหนักใหญ่ที่สว่างไสวแห่งหนึ่ง เสาหินภายในตำหนัก รวมถึงข้าวของเครื่องประทับทั้งหมดล้วนสั่นคลอน
บุรุษที่รูปร่างองอาจผู้หนึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งด้านบนสุด เขาสวมชุดนักพรตแขนกว้าง ใบหน้าหล่อเหลาห้าวหาญ ยามนี้บนใบหน้าเต็มไปด้วยแววเดือดดาล ไอสังหารในแววตาจวนจะควบรวมออกมาเป็นของจริง
“ศิษย์น้อง…”
หยางซ่านขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน สองหมัดกำเข้าหากันแน่น
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเส้นโลหิต ลูกตาจวนเจียนจะกลายเป็นก้อนเลือดแล้ว
“ข้าผิดเอง…ข้าไม่ควรให้ศิษย์น้องไปเลย…หากรออีกสักหน่อย รอให้วังสวรรค์เก็บกฎสวรรค์เสียก่อน ตบะเซียนพิภพไท่อี่ระยะต้นเช่นนางจะถูกจำกัดอยู่ที่ระดับเซียนอิสระได้อย่างไร จะตายได้อย่างไร”
หยางซ่านพูดกับตัวเองด้วยความขมขื่น
เขาจะคาดคิดได้อย่างไรว่าโลกมนุษย์ถึงกับซุกซ่อนเซียนอิสระไว้!
ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน!
เพราะความเร่งร้อนของเจ้าหมอนี่ ที่จะต้องลงมายังโลกมนุษย์ให้จงได้ จนลากศิษย์น้องของเขาให้ตกตายไปด้วยกัน!
เจ้าหมอนั่นจิตใจโหดเหี้ยมยิ่งนัก แม้กระทั่งสตรียังฆ่าสังหารได้ลงคอ!
ทำให้ศิษย์น้องของเขาต้องเปิดเผยสถานะด้วยตนเอง แต่คิดไม่ถึงว่าจะไม่ไว้หน้ากันเช่นนี้!
หยางซ่านโกรธแค้นหานเจวี๋ยจนถึงขีดสุด แทบอยากจะเอามีดกรีดเนื้อเขาเป็นพันเป็นหมื่นชิ้น บดร่างให้แหลกละเอียดเป็นหมื่นท่อน
รอให้เขาจับหานเจวี๋ยได้ก่อนเถิด เขาจะทำให้หานเจวี๋ยได้ลิ้มรสของทัณฑ์สวรรค์ที่เจ็บปวดรวดร้าวอย่างถึงที่สุด!
“ไม่ได้ เรื่องนี้ต้องรายงานแก่ขุนนางเซียน!”
หยางซ่านหยัดกายลุกขึ้นในทันที กลายร่างเป็นสายลมหอบหนึ่ง พุ่งกระโจนออกจากโถงตำหนักใหญ่
…
หลังจากฆ่าสังหารหยางเยี่ยนจวินและนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนแล้ว หานเจวี๋ยจึงนำดาบบินของหยางเยี่ยนจวินไปกำจัดตราประทับวิญญาณ แล้วจึงมอบให้กับซูฉี
ซูฉีกำลังขาดแคลนของวิเศษแข็งแกร่งอยู่ชิ้นหนึ่งพอดี
หานเจวี๋ยนำโอสถของหยางเยี่ยนจวินออกมา ตั้งหน้าฝึกบำเพ็ญต่อ เร่งทำเวลาทะลวงระดับเซียนอิสระวัฏจักรระยะกลางโดยเร็ววัน
จากความสามารถของเขา ยากยิ่งนักที่เอาชนะเซียนพิภพไท่อี่ระยะปลายได้
หนึ่งปีต่อมา
หานเจวี๋ยนำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา เริ่มสาปแช่งหยางซ่าน!
หลังจากนี้ จูเชวี่ยสามารถผลัดเลื่อนการสาปแช่งได้ ทว่าหยางซ่านเป็นเป้าหมายแรก!
เขาเพิ่งเริ่มทำการสาปแช่ง จู่ๆ เบื้องหน้าก็พลันปรากฏอักขระขึ้นมาหนึ่งแถว:
[เซียนเมฆาแดงเกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 4 ดาว]
………………………………………………………………