บทที่ 314 จักรพรรดิเซียนห้าวัฏ คนเดียวหนึ่งพันล้านปี
หือ?
เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย
เหตุใดหลี่เต้าคงถึงเกิดความประทับใจต่อเขาเพิ่มขึ้น
หานเจวี๋ยตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง แต่จากนั้นก็คิดขึ้นมาได้
เจ้าหมอนี่อยู่ข้างๆ ตี้ไท่ไป๋!
โชคดีที่หานเจวี๋ยระมัดระวังมากพอ ถือโอกาสเลียแข้งเสียขาหลี่เต้าคง ถ้าพูดความจริงเกรงว่าอาจจะทำให้หลี่เต้าคงขุ่นเคืองได้
“มารดามันเถอะ เส้นทางการฝึกบำเพ็ญนี้ลึกล้ำเกินไปแล้วกระมัง ถ้าไม่ทันระวังอาจล่วงเกินผู้ทรงพลังเข้า จักรพรรดิเซียนวัฏจักรไม่เตือนข้าเสียด้วย อย่าบอกนะว่าอยากวางหลุมพรางเล่นงานข้า?”
หานเจวี๋ยขมวดคิ้วมุ่น
เมื่อลองคิดดีๆ ถ้าเขาเป็นตี้ไท่ไป๋ เขาก็คงไม่สะดวกพูดตรงๆ ว่าหลี่เต้าคงอยู่ข้างๆ นี่เอง
เฮ้อ โชคดีนัก
ในใจหานเจวี๋ยเกิดความรู้สึกไม่ชอบใจอย่างสุดซึ้ง
ถ้าเขาแกร่งพอ ไหนเลยจะต้องไว้หน้าหลี่เต้าคง
เร่งทำเวลาฝึกบำเพ็ญแล้วกัน ทะลวงสู่จักรพรรดิเซียนห้าวัฏก่อน!
ในเวลาเดียวกัน
วังสวรรค์ พระราชวังเทียมเมฆา
จักรพรรดิสวรรค์นั่งอยู่บนบัลลังก์ ในห้องตำหนักมีคนสามคนคือตี้ไท่ไป๋ หลี่เต้าคง และหลี่เสวียนเอ้า
หลี่เสวียนเอ้าพูดเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม “ไม่นึกว่าจะมีคนรุ่นหลังกล้าปฏิเสธเจ้า แต่ข้าแตกต่างออกไป ไม่ว่าข้าจะถูกชะตาใครก็ล้วนไม่ถูกปฏิเสธ”
หลี่เต้าคงเหลือบตามองเขาปราดหนึ่ง กล่าวว่า “สายตาเจ้าไม่ดี คนที่หามามีแต่พรสวรรค์ธรรมดา”
“เจ้า!”
“ศิษย์คนนั้นที่เจ้าเพิ่งรับเข้ามาใหม่ชื่ออะไรนะ หวงจี๋เฮ่า? ธรรมดาเกินไปแล้ว เมื่อเทียบกับเด็กคนนี้ก็เหมือนเทียบผืนดาวกับดวงจันทร์กระจ่าง เทียบมดกับมังกรเขียว”
“เป็นไปไม่ได้ เจ้าคุยโวกระมัง หวงจี๋เฮ่าเกิดมาพร้อมกับจิตกระบี่ ทั้งยังมีความอุตสาหะ ช้าเร็วก็จะเติบโตขึ้น”
“ศิษย์น้องหนอศิษย์น้อง วิสัยทัศน์ของเจ้ายังเหมือนกับตบะของเจ้าไม่มีผิด”
“หลี่เต้าคง! เจ้าทำเกินไปแล้ว!”
เมื่อเห็นว่าสองพี่น้องกำลังจะก่อเรื่อง จักรพรรดิสวรรค์จึงจำต้องพูดขึ้นมา “เจ้าสองคนมาจากสำนักเดียวกัน ไยต้องปะทะคารมกันด้วย”
หลี่เสวียนเอ้าแค่นเสียงหยัน จากนั้นหันศีรษะหนี
หลี่เต้าคงมองไปยังจักรพรรดิสวรรค์และถามด้วยรอยยิ้มว่า “ฝ่าบาท ตอนนี้วังเทพต้องเกลียดชังข้ามากแน่ ท่านอยากจะรับพวกเราศิษย์พี่ศิษย์น้องไว้จริงๆ หรือ”
จักรพรรดิสวรรค์ยิ้มกล่าวว่า “แต่เดิมวังสวรรค์ได้รับการสนับสนุนจากสำนักเต๋า เจ้ากับเราถือว่ามีต้นกำเนิดเดียวกัน เดิมก็ควรมีศัตรูคนเดียวกัน ส่วนวังเทพ พวกเขาผงาดขึ้นมาแค่เวลาหนึ่งมหาเคราะห์เท่านั้น ยังไม่เพียงพอจะเป็นภัยคุกคาม”
หลี่เต้าคงถามต่อว่า “พวกเราศิษย์พี่น้องจะต่อสู้ช่วงชิงโชคชะตา สามารถช่วยให้วังสวรรค์หัวเราะในตอนสุดท้ายได้ แต่โชคชะตามรรคกระบี่ พวกเราจะครอบครองไว้เอง นอกจากนี้ทรัพยากรทั้งหมดที่พวกเราต้องการ หวังว่าฝ่าบาทจักรพรรดิสวรรค์จะยอมอนุญาต แน่นอน ศัตรูแกร่งที่วังสวรรค์ต้องกำจัด พวกเราจะออกมือแน่”
ตี้ไท่ไป๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย
จักรพรรดิสวรรค์ยิ้มตอบ “ตกลง”
หลี่เต้าคงหัวเราะตาม
หลี่เสวียนเอ้าเบ้ปาก ลอบพูดว่า “แผนสกปรก”
……
เวลาช่างยาวนาน สำหรับหานเจวี๋ยแล้วหลายทศวรรษก็เหมือนหนึ่งวัน
เจ็ดสิบปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หานเจวี๋ยอยู่ใกล้ระดับจักรพรรดิเซียนห้าวัฏแล้ว อย่างมากที่สุดสิบปีก็จะทะลวงระดับได้
แต่เขายังไม่ลืมภารกิจประจำวันที่ต้องทำหนึ่งครั้งในรอบสิบปี
หลังจากให้อู้เต้าเจี้ยนออกไป เขาก็หยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาเริ่มสาปแช่งบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์
“ประตูเมืองนรกเปิดกว้าง หากเหล่าวิญญาณในยมโลกต้องการช่วงชิงโชคชะตามรรคาสวรรค์ ทุกตนสามารถเข้ามาในเมืองนรกของข้าได้ หนึ่งสายเลือดรุ่งเรือง หนึ่งสายเลือดสูญสิ้น หากข้าได้เป็นจักรพรรดิสวรรค์ พวกเจ้าทุกตนจะเป็นเทพเซียน!”
ฉับพลันนั้นเสียงเผด็จการเสียงหนึ่งดังก้องไปทั่วยมโลก
หานเจวี๋ยจำเสียงนี้ได้ เสียงของพญายม
จิ๊ๆ ช่างกล้าเสียนี่กระไร!
ถึงกับอยากเป็นจักรพรรดิสวรรค์!
หานเจวี๋ยตัดสินใจรายงานเรื่องเขา
หนึ่งเดือนต่อมา เมื่อการสาปแช่งสิ้นสุดลง หานเจวี๋ยนำป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ออกมาติดต่อตี้ไท่ไป๋ ให้ตี้ไท่ไป๋บอกต่อกับจักรพรรดิสวรรค์
ถ้าตี้ไท่ไป๋ปกปิดไว้ เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร เดิมจักรพรรดิสวรรค์ก็มองว่ายมโลกเป็นศัตรูอยู่แล้ว
เรื่องเหล่านี้สามารถใช้พิจารณาได้พอดี ต่อไปเมื่ออยู่ต่อหน้าจักรพรรดิสวรรค์ก็ถามตี้ไท่ไป๋ได้ว่าปิดบังไว้หรือไม่
หากตี้ไท่ไป๋ปิดบัง หานเจวี๋ยจะเปิดเผยว่าอีกฝ่ายเป็นจักรพรรดิเซียนวัฏจักร
ถ้าตี้ไท่ไป๋ไม่ปิดบัง แสดงว่าตัวจักรพรรดิเซียนวัฏจักรก็น่าจะเป็นคนของจักรพรรดิสวรรค์ เขาไม่สามารถรายงานได้ตรงๆ เพราะอาจจะทำให้เกิดความสงสัยได้
แม้ว่าจักรพรรดิสวรรค์จะปฏิบัติต่อหานเจวี๋ยเป็นอย่างดี แต่หานเจวี๋ยก็ไม่อาจเชื่อใจได้อย่างสมบูรณ์
เรื่องทั้งหมดคำนึงถึงแต่คำว่าผลประโยชน์
ถ้าหานเจวี๋ยเป็นภัยต่อวังสวรรค์หรือจักรพรรดิสวรรค์ จักรพรรดิสวรรค์ก็จะไม่เมตตาปรานี
ต่อให้มองทุกสิ่งออก หากหานเจวี๋ยไร้คู่ต่อกรได้ย่อมไม่ปฏิบัติต่อวังสวรรค์อย่างอยุติธรรมแน่
ไม่ว่าอย่างไรวังสวรรค์ก็ทุ่มเทลงทุนให้เขาจริงๆ โดยเฉพาะจักรพรรดิสวรรค์
หลังจากรายงานเรื่องพญายมแล้ว หานเจวี๋ยก็วางป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ลงแล้วฝึกบำเพ็ญต่อไป
……
สิบปีผ่านไปอย่างรวดเร็วนัก
ในที่สุด หานเจวี๋ยก็ทะลวงถึงจักรพรรดิเซียนห้าวัฏ จิตวิญญาณยกระดับเปลี่ยนสภาพ เหนือกว่าความแข็งแกร่งก่อนหน้านี้ของเขามาก พลังเวทยิ่งโหมซัดไปมาไม่หยุด เกือบไปถึงระดับที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เขาทำให้ตบะเสถียรไปพลาง เรียกหน้าต่างค่าสถานะออกมาตรวจดูไปพลาง
[ชื่อ: หานเจวี๋ย]
[อายุขัย: 3855/745,999,999,999,999]
[เผ่าพันธุ์: เซียน (กายดาราอนธการ)]
[ตบะ: จักรพรรดิเซียนห้าวัฏ]
……
อายุขัยเจ็ดร้อยสี่สิบห้าล้านล้านปี!
จะสุดยอดเกินไปแล้ว!
หานเจวี๋ยรู้สึกภาคภูมิใจมาก เบิกบานใจแทบตาย
ทุ่มอายุขัยไปมากขนาดนั้น อายุขัยของเขาก็ยังคงเพิ่มขึ้นพุ่งพรวดตลอด
อายุขัยในตอนนี้คู่ควรกับตัวตนของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ!
รอจนหานเจวี๋ยบรรลุระดับเซียน เช่นนั้นอายุขัยจะเกินจริงขนาดไหน?
ขอเพียงเขาไม่ถูกใครฆ่า เขาก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไป!
จะเข้าสู่เคราะห์ไม่ได้!
เรื่องที่สำคัญต้องใคร่ครวญเงียบๆ ทุกวัน
หานเจวี๋ยใช้เวลาอีกสามปีถึงจะทำให้ตบะมั่นคงโดยสมบูรณ์ได้
หนึ่งปีถัดมา เขาตระหนักรู้มรรคกระบี่ ยกระดับพลังวิเศษมรรคกระบี่ไปจนถึงขีดสูงสุด
ทว่าในแบบจำลองการทดสอบ เขายังคงไม่คืบหน้า
นอกจากจักรพรรดิสวรรค์ก็ปลิดชีพทุกคนในพริบตาได้
หากต่อกรกับจักรพรรดิสวรรค์ก็หนีไม่พ้นจุดจบที่ถูกปลิดชีพในฉับพลัน เว้นแต่จะหลบหลีกไปรอบๆ ด้วยกำลังทั้งหมดตั้งแต่เริ่ม
ช้าก่อน!
จู่ๆ หานเจวี๋ยก็นึกขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้านี้ตอนแดนชำระบาปเก้าขุมถูกเปิด เซวี่ยหมิงเหอปรากฏตัว พญายมก็มาด้วยเช่นกัน เขาเคยตรวจดูตบะของทั้งสองคนแล้ว
เกือบลืมไปเลย
จัดเตรียมแบบจำลองการทดสอบ!
ยามต่อสู้กับเซวี่ยหมิงเหอ หานเจวี๋ยยืนหยัดเป็นเวลาห้านาที แต่ก็ยังแพ้อยู่ดี
เวลาสู้กับพญายม หานเจวี๋ยต้านทานอยู่สามนาที ก่อนจะถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม
หานเจวี๋ยเกือบจะปิดกั้นตัวเองแล้ว
เขาแทบจะหลีกเลี่ยงการปะทะกับสองคนนี้มาโดยตลอด
ความภาคภูมิใจในใจหานเจวี๋ยมลายหายไปทันที
‘เฮ้อ สาปแช่งจักรพรรดิปีศาจและบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์สักหน่อยแล้วกัน ไม่อย่างนั้นสภาพจิตใจของข้าจะเสียสมดุลและฝึกบำเพ็ญลำบาก’
หานเจวี๋ยคิดเช่นนี้ จากนั้นจึงหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา
ในระหว่างที่เขาทะลวงระดับ อู้เต้าเจี้ยนจะอยู่นอกถ้ำเทวาตลอด ดังนั้นเขาจึงสามารถสาปแช่งอย่างวางใจและกล้าหาญ
“คนเดียวหนึ่งพันล้านปี ข้าไม่เชื่อหรอกกว่าจะสาปแช่งจนบังเกิดผลไม่ได้”
หานเจวี๋ยสาปแช่งบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ก่อน
อย่างไรเสียเจ้าหมอนี่ก็จะสังหารจักรพรรดิสวรรค์ ต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อน
หานเจวี๋ยสาปแช่งไปพลาง จับจ้องหน้าต่างคุณสมบัติของตนไปพลาง
หลังจากผ่านไปห้าวัน ตัวเลขอายุขัยของเขาก็เริ่มเพิ่มขึ้น
หนึ่งพันปี!
หนึ่งแสนปี!
หนึ่งล้านปี!
สิบล้านปี!
หนึ่งร้อยล้านปี!
หนึ่งพันล้านปี!
หานเจวี๋ยหยุดทันที ทันเวลาพอดิบพอดี เพิ่งหักอายุขัยไปหนึ่งพันล้านปี
ปฏิกิริยาตอบสนองของจักรพรรดิเซียนยอดเยี่ยมมาก
หานเจวี๋ยเช็ดคราบเลือดทั่วหน้าพลางเรียกจดหมายออกมาตรวจดู ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์
[บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ศัตรูคู่แค้นของท่านจิตมารปั่นป่วนเพราะคำสาปแช่งของท่าน มรรคาพุทธอ่อนแอลง ยากจะควบคุมตัวเอง]
หานเจวี๋ยตกตะลึง
นี่หมายความว่าอะไร มรรคาพุทธอ่อนแอหมายถึงตบะมรรคาพุทธของบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์หรือว่าพลังวิเศษ
ยากจะควบคุมตัวเองอะไรกัน
หานเจวี๋ยไม่เข้าใจ แต่ในเมื่อบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ถูกสาปแช่งจนเกิดเรื่อง เขาก็ยังมีความสุขมาก
รายต่อไปคือเจ้าจักรพรรดิปีศาจ!
……………………………………………………..