บทที่ 402 ปฐมเทพขั้นหก จักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนปรากฏตัวในความฝัน
“พวกท่านจะหาเรื่องใส่ตัว ก็อย่าลากข้าไปเกี่ยวข้องด้วย พวกท่านลองถามตัวเองดีๆ ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ พวกท่านได้ใช้ชีวิตอย่างดีแล้วจริงๆ หรือ”
หานเจวี๋ยกล่าวโดยไม่อ้อมค้อม อยู่ต่อหน้าพวกลูกหมาไม่รู้จักโตสองคนนี้ ไม่จำเป็นต้องถนอมน้ำใจ
โดยเฉพาะเต้าจื้อจุน เมื่อก่อนยังรู้สึกว่าเขาเก่งกาจพอตัว ทำไมเดี๋ยวนี้ทำตัวอย่างกับเหม่งทึ้ง เกาะติดเขาแจขนาดนี้กัน
ประสาท!
หานเจวี๋ยเตรียมจะจากไป
จู่ๆ เต้าจื้อจุนก็เอ่ยขึ้นมา “ท่านต้องเอาชนะข้าให้ได้ ข้าถึงจะยอมเข้าร่วมกับท่าน!”
หานเจวี๋ยปรายตามองแล้วกล่าว “หากท่านหาตัวข้าเจอ ก็ชนะไป”
พูดจบหานเจวี๋ยก็พาดวงจิตประหลาดจากไปทันที
หลังกลับคืนสู่ความเป็นจริง หานเจวี๋ยก็ให้ดวงจิตประหลาดรออยู่ด้านหนึ่ง จากนั้นเขาก็ฝึกบำเพ็ญต่อ
ต่อไปคือการทะลวงระดับปฐมเทพขั้นหก!
จากนั้นก็ถึงระดับต้าหลัว!
…
ยี่สิบปีต่อมา
ในที่สุดหานเจวี๋ยก็ได้รับโอกาสทะลวงระดับ
เขาปรับอารมณ์ตนเอง เริ่มอ่านจดหมายก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบัน
[โจวฝานสหายของท่านครอบครองเพลิงแท้สุริยะ วิวัฒนาการเป็นดวงจิตมรรคาสวรรค์]
[จี้เซียนเสินสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากเผ่าปีศาจ] x14009
[หวงจุนเทียนสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากตี้หล่านเทียนสหายของท่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
[เซวียนฉิงจวินคู่บำเพ็ญเพียรของท่านได้รับยอดสมบัติ ดวงชะตาเพิ่มพูน]
[หลี่เต้าคงสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลังลึกลับ ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
[จักรพรรดิสวรรค์สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากหลี่เต้าคงสหายของท่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
[ยอดแม่ทัพเทพสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลังลึกลับ ตัวตายมรรคผลสลาย]
…
‘ดวงจิตมรรคาสวรรค์? ร้ายกาจถึงเพียงนี้เชียว! สมแล้วที่เป็นร่างจำลองอริยะ’
หานเจวี๋ยมีสัญชาตญาณว่าโจวฝานจะกลายเป็นม้ามืดในมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตครั้งนี้
หลี่เต้าคงบาดเจ็บอีกแล้ว ทั้งยังถูกโจมตีจากจักรพรรดิสวรรค์ และผู้ทรงพลังลึกลับ
ยอดแม่ทัพเทพสิ้นลมแล้วจริงๆ ด้วย!
หานเจวี๋ยรู้สึกสงสัยในตัวของผู้ทรงพลังลึกลับที่ทำร้ายหลี่เต้าคงเป็นอย่างมาก เขาเป็นผู้ทรงพลังลึกลับคนเดียวกันกับที่สังหารยอดแม่ทัพเทพ
เมื่อเห็นจดหมายที่บอกว่ายอดแม่ทัพเทพสิ้นชีพ หานเจวี๋ยก็รู้สึกหดหู่ใจไม่น้อย
อาจกล่าวได้ว่ายอดแม่ทัพเทพเป็นแม่ทัพสวรรค์ที่ตรากตรำที่สุดในวังสวรรค์เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเรื่องใดก็มักจะพุ่งทะยานไปเป็นแนวหน้าเสมอ
หานเจวี๋ยถามขึ้นในใจอย่างอดไม่ได้ ‘ผู้ทรงพลังลึกลับที่สังหารยอดแม่ทัพเทพ ทำร้ายหลี่เต้าคงเป็นใคร’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยสามพันล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการ!
หานเจวี๋ยรู้สึกว่านี่อาจเป็นภัยคุกคามมาถึงตัวเขาได้ จึงตัดสินใจตรวจสอบ
[จักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยน]
เบื้องหน้าของหานเจวี๋ยปรากฏเป็นชื่อหนึ่ง ด้านล่างเป็นคำบรรยายที่เหมือนกับที่เคยเห็นก่อนหน้านี้ทุกกระเบียดนิ้ว
‘เป็นเจ้านี่จริงๆ ด้วย!’
หานเจวี๋ยถามต่อ ‘จักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนมีแผนที่จะสังหารจักรพรรดิสวรรค์ใช่หรือไม่’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งร้อยล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการ!
[ใช่]
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว ‘ไม่ได้! ต้องสั่งสอนคนผู้นี้เสียแล้ว!’
หลี่เต้าคงถูกทำร้ายปางตาย เป้าหมายต่อไปของจักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนอาจจะเป็นฟางเหลียง ซ้ำร้ายคนผู้นี้ยังคิดจะสังหารสรรพชีวิต สร้างโลกแห่งมรรคาสวรรค์ที่ตนเป็นผู้ครอบครอง
ปล่อยให้เขาทำสำเร็จไม่ได้เป็นอันขาด! แต่ทะลวงระดับก่อนแล้วค่อยว่ากัน!
หานเจวี๋ยเริ่มการทะลวงระดับทันที
ผ่านไปอีกสี่ปี เขาก็ทะลวงระดับสำเร็จลุล่วง กลายเป็นปฐมเทพขั้นหก!
พลังเวทของหานเจวี๋ยเปลี่ยนแปลงไปสู่ระดับที่สมบูรณ์แบบ
เขารวบรวมตบะ พร้อมกับตรวสอบหน้าจอแสดงคุณสมบัติของตนเองไปด้วย
[ชื่อ: หานเจวี๋ย]
[อายุขัย: 5932/999,999,999,999,999,999]
[เผ่าพันธุ์: เทพมารอนธการ]
[ตบะ: ปฐมเทพขั้นหก]
[วิชายุทธ์: มหามรรควัฏจักรอนธการ วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา]
[มหามรรค: มหามรรคเวียนว่ายตายเกิด มหามรรคแห่งกรรม]
…
‘เก้าสิบเก้าพันล้านปี! นอกจากตัวข้าแล้วจะมีใครทำได้อีก!’
ในใจของหานเจวี๋ยเปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจ
ขั้นต่อไปคือการทะลวงต้าหลัว!
ห้าปีต่อมา
หานเจวี๋ยรวบรวมตบะได้จนสมบูรณ์ เขาไม่รีบร้อนที่จะยกระดับพลังวิเศษ แต่เลือกที่จะเข้าฝันจักรพรรดิสวรรค์ก่อน
หลังจากเข้าสู่แดนความฝัน หานเจวี๋ยก็มองเห็นจักรพรรดิสวรรค์ และพบว่าจักรพรรดิสวรรค์อยู่ในสภาพที่ผมเผ้ากระเซิง ชุดมังกรขาดวิ่น สภาพราวกับนักโทษ
หานเจวี๋ยถามว่า “เจ้าเป็นอะไรไป”
เมื่อเห็นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการปรากฏตัวขึ้น ดวงตาของจักรพรรดิสวรรค์ก็เปล่งประกายสุกใส
จักรพรรดิสวรรค์กล่าวว่า “เจ้าเดาออกว่าเขามีจิตคิดต่อต้านบรรพชนเต๋าตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วหรือ”
หานเจวี๋ยกล่าว “ถูกต้อง มิฉะนั้นเหตุใดเขาจึงไม่ช่วยเหลือเจ้าสยบความโกลาหลในมรรคาสวรรค์กันเล่า”
จักรพรรดิสวรรค์ทอดถอนใจโดยไม่รู้ตัว
เห็นได้ชัดว่าที่เขารู้สึกจนมุมถึงเพียงนี้ ก็เป็นเพราะตอบรับไมตรีจากจักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยน
ในตอนนี้เอง
ร่างร่างหนึ่งปรากฏขึ้นจากห้วงอากาศข้างกายจักรพรรดิสวรรค์
รูปร่างของเขาขมุกขมัว ไม่อาจเห็นใบหน้าที่แท้จริงได้ เช่นเดียวกับหานเจวี๋ย
จักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยน!
หานเจวี๋ยคาดเดาตัวตนของอีกฝ่ายได้อย่างถูกต้อง และแอบตกใจว่าคนผู้นี้เข้ามาในความฝันอันธการได้อย่างไร
หรือว่าจักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนควบคุมจักรพรรดิสวรรค์ได้แล้วงั้นหรือ
“เจ้าคือเจ้าแดนต้องห้ามอันธการสินะ” จักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
หานเจวี๋ยไม่ได้ตอบรับ
จักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนมองข้ามจักรพรรดิสวรรค์ เขาจดจ้องหานเจวี๋ยพลางกล่าวว่า “มาร่วมมือกับเราเถิด วันหนึ่งเราจะขึ้นเป็นบรรพชนเต๋า ส่วนเจ้าก็จะได้เป็นจักรพรรดิสวรรค์”
หานเจวี๋ยรู้สึกว่าเขาเสียสติเกินเยียวยา ‘เจ้าคิดว่าบรรพชนเต๋าจากไปแล้วจริงๆ หรือ’
ไม่แน่ว่าในความืดมิด บรรพชนเต๋าอาจจะทวีความเกลียดชังต่อจักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนจนกลายเป็น 2 ดาวไปแล้วก็เป็นได้
หานเจวี๋ยแกล้งทำเป็นเยาะเย้ย “เจ้ามีสิทธิ์อะไร”
จักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนกล่าว “หากเจ้าปฏิเสธ เจ้าก็ถือเป็นศัตรูของเรา ก็ดี เราเองก็อยากแข่งขันกับคนอื่นเช่นกัน เพียงแต่ในโลกาสวรรค์แห่งนี้ ไม่มีใครมีคุณสมบัติมากพอที่จะมาต่อกรกับเรา!”
บ้าไปแล้ว! หานเจวี๋ยจะทนเขาได้อย่างไร
หานเจวี๋ยเอ่ยถาม “เจ้าจะทำอย่างไรกับจักรพรรดิสวรรค์”
“เจ้าดูจะเป็นห่วงเขาเสียเหลือเกิน”
“ไม่ ข้าห่วงหลี่เต้าคง หากเจ้าทำร้ายหลี่เต้าคง เรื่องนี้ไม่จบลงง่ายๆ แน่”
“หลี่เต้าคงยังไม่ตาย แต่ไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องตายด้วยน้ำมือของเรา ส่วนจักรพรรดิสวรรค์ เรายังต้องใช้ประโยชน์เขาอีกนาน”
ทั้งสองดูเหมือนเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ ที่พูดคุยอย่างเป็นกันเอง
จักรพรรดิสวรรค์ยืนอยู่ข้างๆ โดยไม่ปริปากสักคำ
ไม่นานทั้งจักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนและเจ้าแดนต้องห้ามอันธการก็ตกอยู่ในความเงียบงัน
ต่างฝ่ายต่างเผชิญหน้ากัน
หานเจวี๋ยรีบออกไปจากความฝันอันธการทันที
[จักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 3 ดาว]
เยี่ยมยอด!
หานเจวี๋ยหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาทันที ในเมื่ออีกฝ่ายพบกับเจ้าแดนต้องห้ามอันธการแล้ว หานเจวี๋ยก็ไม่จำเป็นต้องรีรออีกต่อไป
จู่ๆ เขาก็ฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ จึงไต่ถามระบบอย่างระมัดระวัง ‘จักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนมองเห็นตัวตนที่แท้จริงของข้าหรือไม่’
[ไม่]
ครั้งนี้อายุขัยไม่ถูกหักออก
หานเจวี๋ยถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะเริ่มต้นสาปแช่งจักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนทันที
เอาไปเลยสามหมื่นล้านปีเบาะๆ!
หานเจวี๋ยไม่ใช่คนเดิมที่เคยเป็นอีกต่อไป และจะไม่จบเพียงแค่การผลาญอายุสามหมื่นล้านปีในคราวเดียว
ห้าวันต่อมา
อายุขัยของหานเจวี๋ยเริ่มลดลงฮวบฮาบ เขาเปิดหน้าจอแสดงคุณสมบัติขึ้นมา และจ้องมองอย่างละเอียด
อัตราการลดลงของอายุขัยรวดเร็วกว่าที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ เนื่องจากความรุนแรงของพลังคำสาปแช่งของเขาหนักหน่วงกว่าที่ผ่านมา
เขาต้องทุ่มสุดตัวเพื่อเผชิญหน้ากับจักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยน
ห้าพันล้านปี!
หนึ่งหมื่นล้านปี!
สองหมื่นล้านปี!
สามหมื่นล้านปี!
สี่หมื่นล้านปี!
หานเจวี๋ยต้องยั้งมืออย่างเลี่ยงไม่ได้ ใบหน้าของเขาอาบไปด้วยโลหิต สติสัมปชัญญะมึนงงจนแทบทนไม่ไหว
เขาตรวจสอบจดหมาย แต่ไม่เห็นจดหมายที่แจ้งว่าจักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนถูกสาปแช่งแต่อย่างใด
เขารู้สึกเศร้าใจอยู่ลึกๆ
คนคนนี้มันร้ายกาจจริงๆ!
…
ในจักรวาลอันมืดมิด เหนือทะเลเมฆา มีต้นไม้กิ่งก้านคดเคี้ยวตั้งอยู่ ใต้ต้นไม้มีคนผู้หนึ่งกำลังนั่งสมาธิอยู่
นั่นคือจักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยน
เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น คิ้วขมวดมุ่น พร้อมกับเอ่ยพึมพำ “เราดูแคลนเจ้าเกินไป มิน่าเล่าต้าหลัวพวกนั้นถึงถูกเจ้าบีบไปสู่ความตายได้”
เขาเริ่มรักษาอาการบาดเจ็บของตน
เมื่อเผชิญหน้ากับคำสาปแช่งอันน่าสยดสยองของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ เขาก็แทบทรงตัวไม่อยู่ ยังดีที่เขามีพลังวิเศษอันแข็งแกร่ง และพลังเวทไร้ขอบเขต
จักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนเกิดความหวั่นเกรงอย่างใหญ่หลวงต่อเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ คำสาปแช่งเมื่อครู่นั้นนับเป็นพลังทั้งหมดของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการหรือไม่
นอกจากอริยะ เขาเพิ่งเคยพบเจอตัวตนที่ไม่อาจคาดเดาได้อย่างสมบูรณ์เป็นครั้งแรก
……………………………