ณ ทะเลสาบทมิฬ เมฆดำทะมึนกระจายหนาแน่น มองไม่เห็นเดือนเห็นดาว
สายฟ้าเส้นแล้วเส้นเล่าพุ่งลงมาจากผืนฟ้าต่อเนื่อง ทำให้อาณาบริเวณหนึ่งก่อตัวเป็นทะเลสายฟ้า
สายลมพัดกระโชก แหลมคมอย่างยิ่ง ทำลายล้างพสุธาราวกับเป็นลำแสงของกระบี่ มีใบไม้ลอยมาไกลๆ เมื่อสัมผัสสายลม ก็ถูกชำแหละเป็นผุยผงในพริบตา
เปรี้ยง!
ร่างที่ถูกกระแสไฟสีทองปกคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้า กระโจนออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ประหนึ่งมังกรอัสนีสีทอง ทะลวงทะเลสายฟ้าดุจใบมีดลม พุ่งไปหาชายที่เนื้อตัวดำทะมึน
“กระบี่สายฟ้า!” ชายหนุ่มยื่นมือตะปบอากาศ กระบี่อัสนีสีน้ำเงินฟันมังกรสายฟ้าสีทองด้วยอานุภาพมหาศาล
มังกรสายฟ้าสีทองกับกระบี่อัสนีปะทะกัน เกิดเสียงดังกึกก้องกัมปนาท กระแสไฟที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงโรมรันพันตู
บนท้องนภา สายฟ้าเทกระหน่ำลงมาจู่โจมมังกรสีทองราวกับเป็นหยาดฝน ฟาดจนมังกรสีทองหยุดชะงัก บัดนี้ กระบี่อัสนีสีน้ำเงินฉีกร่างมังกร ฟันมนุษย์ร่างสีทองอร่าม
มนุษย์ร่างสีทองนั่นคือหวงส่านนั่นเอง มันหลบไม่ทัน ถูกกระบี่อัสนีเฉือนจนได้รอยแผล เลือดสาดกระเซ็น
ฟิ้ว! หวงส่านกลายเป็นสายฟ้าสีทองถอยกรูด
อีกด้านหนึ่ง ตงเยี่ยนกับหงโต้ววิ่งหนีไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง
เบื้องหน้า มีจอกศักดิ์สิทธิ์เงินลอยอยู่กลางอากาศ แผ่รัศมีระเรื่อ
ใช่แล้ว ในที่แห่งนี้ จอกศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ถูกปีศาจร้ายสวมอยู่เหนือศีรษะ แต่ลอยอยู่กลางเวหา
“ความสามารถอย่างพวกเจ้า ยังกล้าชิงจอกศักดิ์สิทธิ์ไปจากมือพวกเรางั้นหรือ”
ชายที่มีเนื้อตัวเป็นสีเงินพุ่งมาประชิดในพริบตาดุจสายลม เงื้อมือฟาดตงเยี่ยนกับหงโต้วกลางอากาศ
แรงดันอากาศมวลมหาศาลทะยานลงมาจากนภา กดทับจนผิวดินในรัศมีหลายสิบจั้งจนทรุดลงไปอย่างสิ้นเชิง
การโจมตีพิสัยใหญ่เช่นนี้ ทำให้ตงเยี่ยนกับหงโต้วหลบหลีกไม่ได้เลย ร่างถูกทับจนแทรกซึมลงไปในชั้นดินราวกับถูกโจมตีอย่างแรง
“ถอย!”
ในตอนนั้นเอง จู่ๆ ก็มีเสียงตะโกนลั่นของหวงส่านดังขึ้น
มันวิ่งไปข้างหลังอย่างฉับไว กระแสไฟอันเนืองแน่นกำลังไล่กวดมัน ปล่อยคลื่นพลังที่น่ากลัวออกมา
“น้ำแข็งกาลี!”
ตงเยี่ยนกระพือปีก พายุหิมะโปรยปรายรอบข้างโดยพลัน กลายเป็นกระบี่น้ำแข็งแผ่กระจายไปทั่ว
ชายร่างเงินตวัดมือแล้วตบ ใบมีดลมนับร้อยฟันกระบี่น้ำแข็งให้แหลกละเอียด
ในตอนนั้น ตงเยี่ยนและหงโต้วล่าถอยฉับไว หลบหนีไปไกลแล้ว
บุรุษสีเงินยิ้มยั่วเย้า “ความเร็วในการหลบหนีว่องไวทีเดียว มองจากจุดนี้ พวกเจ้าก็ถือว่าน่าชื่นชมอยู่บ้างเหมือนกัน”
หวงส่าน หงโต้วและตงเยี่ยนหนีออกจากเขตของพายุสายฟ้า เมื่อเห็นว่าแฝดวายุสายฟ้าไม่ได้ไล่ตามมา ถึงได้หยุดลง หายใจหอบรัวเร็ว
“ฟู่ว…แข็งแกร่งเกินไปแล้วกระมัง ฝ่าเข้าไปไม่ได้เลย!” หงโต้วพูดด้วยสีหน้าสิ้นหวัง
หากเทียบกันเรื่องความเร็ว แฝดวายุสายฟ้าถึงขั้นว่าสูสีคู่คี่กับหวงส่าน หากกล่าวถึงพลังทำลายล้าง แฝดวายุสายฟ้ายิ่งใหญ่กว่าพวกมันทั้งสามรวมกันเสียอีก
เรียกได้ว่า นอกจากข้อได้เปรียบของกำลังแล้ว พวกมันไม่มีอะไรเหนือกว่าเลย
“มิหนำซ้ำ ละแวกของจอกศักดิ์สิทธิ์ยังมีค่ายกลต้องห้ามด้วย ถึงจะทำลายแนวป้องกันของแฝดวายุสายฟ้าได้ ก็ต้องใช้เวลาไปทำลายค่ายกลต้องห้ามอีก” ตงเยี่ยนเองก็พูดด้วยสีหน้ากลัดกลุ้มเช่นกัน
ก่อนหน้านี้มันพุ่งใส่จอกศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะชนกับค่ายกล เกือบจะเอาชีวิตไม่รอดแล้วด้วยซ้ำ
หวงส่านถอนหายใจอย่างแรงเมื่อได้ยิน จดจ้องเขตวายุสายฟ้าที่อยู่เบื้องหน้า ใบหน้าฉายความเจ็บใจ
ขณะที่ทั้งสามกำลังอับจนหนทางอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“โยมทั้งหลายสนใจจะร่วมมือกับพวกเราหรือไม่”
นักบวชหน้าตาหล่อหลารูปหนึ่งเยื้องย่างเข้ามา เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพอ่อนโยน
ผู้มาเยือนคือชิงจือกับชิงซินแห่งเมืองพุทธนั่นเอง และแน่นอนว่าผู้พูดย่อมเป็นตัวแทนคนสำคัญอย่างชิงจือ
หวงส่านชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยถามว่า “ความหมายของเจ้าคือ เราทั้งสองฝ่ายร่วมมือชิงจอกศักดิ์สิทธิ์เงินงั้นหรือ แต่จอกศักดิ์สิทธิ์มีเพียงใบเดียว จะแบ่งกันอย่างไรเล่า”
ถ้าทั้งสองฝ่ายใจจดใจจ่ออยู่กับจอกศักดิ์สิทธิ์ เช่นนั้นย่อมต้องยั้งมือเป็นแน่ ถึงตอนนั้น เกรงว่าจะไม่มีแม้แต่คนที่ยอมเป็นแกนนำ
“จอกศักดิ์สิทธิ์เงินเป็นของเจ้า อาตมารู้ตำแหน่งของมังกรปีกครามอีกตัว ถึงตอนนั้นโยมเพียงแค่ช่วยข้าชิงจอกศักดิ์สิทธิ์โลหะใบนั้นเป็นพอ” น้ำเสียงของชิงจือราบเรียบ
สีหน้าของตัวแทนทั้งสามของหอสร้างโลกผ่อนคลายลงเมื่อได้ฟัง
สำหรับพวกมันแล้ว การซื้อขายรายการนี้ไม่ขาดทุนแต่อย่างใด
เมืองพุทธมีตัวแทนแค่สองคน ช่วยพวกเขาชิงจอกศักดิ์สิทธิ์โลหะก็สมเหตุสมผล
ขบคิดเพียงไม่นาน ตัวแทนของหอสร้างโลกจึงตกปากรับคำ
ด้วยเหตุนี้ ทั้งสองฝ่ายจึงเริ่มหารือว่าจะร่วมมือกันชิงจอกศักดิ์สิทธิ์เงินใบนี้อย่างไร
ขณะนั้นเอง พวกอันหลินกำลังมุ่งหน้าเหาะไปทางตะวันออกของเทือกเขาจงหลง
เมื่อรู้ทิศทางและพิกัดแล้ว พวกเขาก็ไม่เตร็ดเตร่ไปทั่วอีก เหาะเหินไปยังจุดหมายปลายทางด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่มอย่างรวดเร็ว
“เหมือนว่าจะมีสายฟ้ากะพริบบนท้องฟ้าอันไกลโพ้น คงจะเป็นตรงนั้นนั่นแหละ!” หวังเสวียนจ้านฮึกเหิม
จอกศักดิ์สิทธิ์โลหะไม่เพียงพอต่อความต้องการของเขาแล้ว มีแต่การชิงจอกศักดิ์สิทธิ์เงินเท่านั้น ที่จะทำให้เลือดของเขาพลุ่งพล่านได้
ฟิ้ว! ทั้งสามต่างก็เพิ่มความเร็วในการเหาะเหิน ด้วยเกรงว่าจะถูกคนช่วงชิงไปก่อน
บัดนี้ ในบริเวณของเขตวายุสายฟ้า อัสนีคำรามดังสนั่นหวั่นไหว
ตงเยี่ยนพุ่งไปหามนุษย์สายฟ้า กระพือปีกปล่อยลำแสงกระบี่ที่สว่างไสวและแก่กล้า
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของตงเยี่ยน เดิมทีมนุษย์สายห้าสามารถรับมือได้สบายๆ ไม่คิดว่าจู่ๆ จะมีชิงซินที่เชี่ยวชาญการจองจำโผล่มา
ยันต์สีทองที่แฝงพลังพันธนาการผุดออกจากมือของชิงซินแผ่นแล้วแผ่นเล่า สามารถเหนี่ยวรั้งร่างของมนุษย์สายฟ้าได้ชั่วคราว ทำให้มนุษย์สายฟ้าไม่อาจจัดการสองคนตรงหน้าได้ในระยะเวลาอันสั้น
อีกด้านหนึ่ง มนุษย์ลมที่ลอยอยู่กลางอากาศ ถูกค่ายกลที่ก่อตัวจากลูกประคำของชิงจือพันธนาการเช่นกัน
หงโต้วกลายร่างเป็นมนุษย์หินตัวใหญ่ยักษ์สูงสิบจั้ง ใช้สองแขนที่กำยำเจือพลังมหาศาลฟาดมนุษย์ลมอย่างแรง
ตูม! มนุษย์ลมถูกฝ่ามือมหึมาของหงโต้วฟาดจนหล่นร่วงลงมา ทำให้พสุธาแตกระแหง
ชั่วขณะที่แฝดวายุสายฟ้าต่างก็ถูกพันธนาการนั้น
ร่างหนึ่งกลายร่างเป็นสายฟ้าสีทองทะลวงค่ายกลวายุและค่ายกลสายฟ้า ทิ่มแทงจอกศักดิ์สิทธิ์เงินประหนึ่งเป็นกระบี่คม
ค่ายกลต้องห้ามของจอกศักดิ์สิทธิ์เงินปะทุทันใด ม่านวายุที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าปรากฏขึ้นรอบจอกศักดิ์สิทธิ์ และมีกระแสไฟเจิดจ้าเพ่นพ่านอยู่ภายใน ขัดขวางการจู่โจมของหวงส่าน
หวงส่านไม่ได้ค่อยๆ ทลายค่ายกลของจอกศักดิ์สิทธิ์ แต่เลือกที่จะทะลวงโดยพลัน!
“อัสนีจักรพรรดิ!” หวงส่านแผดเสียงดังลั่น เนื้อตัวระเบิดกระแสสีทองที่แก่กล้าอย่างมหันต์
กระแสไฟแผ่ซ่านไปรอบทิศทางเป็นวงกลม สายฟ้าสีน้ำเงินโดยรอบกระเพื่อมเล็กน้อยในบัดดล จากนั้นก็กระจายไปทางสายฟ้าสีทองอย่างบิดเบี้ยว
ม่านวายุก็ปริแตกเพราะการโจมตีของสายฟ้าสีทองด้วยเช่นกัน
หวงส่านกำลังตะโกนลั่นเพื่อปล่อยพลัง อยากทำลายค่ายกลวายุในคราวเดียว
ชั่วขณะนั้น หอกยาวดุจมังกรเขียวฉีกทึ้งม่านสายฟ้าของมันแล้วพุ่งทะลุเข้าไป
หวงส่านเบิกตากว้าง หัวใจฉับพลันเย็บวาบขึ้นมา
ผู้มาเยือนไม่ใช่แฝดวายุสายฟ้า แต่เป็นหวังเสวียนจ้าน ตัวแทนจากสรวงสวรรค์!