อันหลินกลับมาที่บ้านพัก กินยาบำรุงเลือดลมก่อนแล้วเข้านอน
มันเป็นยาวิเศษขั้นแปด ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ บำรุงเลือดลมได้อย่างรวดเร็ว
เดิมทียาล้ำค่าปานนี้ จะใช้ในยามสู้รบเท่านั้น ตอนนี้สามารถใช้วิธีค่อยๆ รักษาตัวช้าๆ ฟื้นฟูอาการและเลือดลมของตนเองได้
สาเหตุที่อันหลินกินยาเม็ดนี้ นั่นเป็นเพราะเขามีเงินมากเหลือเกิน!
ต้องใช้ทรัพย์สิน จึงจะแสดงมูลค่าของมันได้ อันหลินมองจุดนี้ได้อย่างถ่องแท้ยิ่งนัก เขาไม่มีทางดูแลตัวเองไม่ดีแน่นอน
วันรุ่งขึ้นหลังตื่นมา เขาผ่อนคลายสบายไปทั้งตัว สดชื่นกระปรี้กระเปร่า บาดแผลและความเหนื่อยล้าก่อนหน้านี้หายเป็นปลิดทิ้ง
“อา…กินยาวิเศษแล้วสบายจริงๆ ด้วย จะเสพติดแล้วเนี่ย”
อันหลินบิดขี้เกียจ พูดด้วยใบหน้าที่เปี่ยมด้วยความสุข
“พี่อันไม่แบ่งให้น้องได้สบายบ้าง โฮ่ง!” ต้าไป๋ประท้วงด้วยความไม่พอใจอย่างยิ่งอยู่ข้างๆ
ต้าไป๋รู้เรื่องที่หลินจวิ้นจวิ้นทำให้อันหลินร่ำรวยภายในวันเดียว ตอนนี้ก็อยากจะมีส่วนแบ่งด้วยเช่นกัน
“เอ่อ…เจ้าก็อยากกินด้วยหรือ” อันหลินมองหมายักษ์สีขาวที่แลบลิ้นตรงหน้าแล้วกะพริบตาปริบๆ “อืม…ขอข้าคิดดูก่อน”
ครู่หนึ่ง เขาก็หยิบยาวิเศษสีเหลืองทองออกจากแหวนมิติภายใต้ความคาดหวังของต้าไป๋
ต้าไป๋กระดิกหาง หายใจแฮ่กๆ พูดอย่างตื่นเต้นว่า “นี่เป็นยาอะไรหรือ โฮ่ง!”
“เม็ดงูสวรรค์ ยาวิเศษขั้นเก้า ช่วยบำรุงเส้นเลือดให้แข็งแรง เพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกาย เพิ่มพลัง ความอึดทนได้อย่างมหาศาล ปลุกความเป็นชาย…” อันหลินอธิบายช้าๆ
ต้าไป๋ “…บอกสรรพคุณให้ตรงๆ หน่อย โฮ่ง!”
อันหลิน “บำรุงสมรรถภาพ!”
ต้าไป๋ชะงัก จากนั้นก็กระโจนใส่อันหลินจนล้มหงายตึงทันใด อุ้งมือใหญ่ตะปบหน้าอันหลินดัง ‘ผลัวะๆ ๆ’ ตบไปด่าเสียงเกรี้ยวไปว่า “พี่อัน เจ้าทำเกินไปแล้ว! ข้าต้องการเจ้านี่หรือ ดูถูกหมาเช่นนี้ได้อย่างไร!”
หลังกายบริหารยามเช้าอย่างดุเดือดผ่านไปแล้ว อันหลินก็ป้ายยาลดบวมบนใบหน้าด้วยความคล่องแคล่ว จากนั้นก็ขี่ต้าไป๋ออกไปเตร็ดเตร่ข้างนอก
สุดท้ายต้าไป๋ก็รับเม็ดงูสวรรค์เม็ดนั้นมา ของฟรีจะไม่เอาได้อย่างไร มียาวิเศษเม็ดหนึ่งเพิ่มมาย่อมดีอยู่แล้ว
ตอนนี้เสี่ยวหงยังสังเคราะห์แสงอยู่บนหลังคา ส่วนเจ้าอัปลักษณ์ไม่รู้ว่าไปบำเพ็ญเพียรที่ไหนแล้ว บอกว่าจะพยายามบรรลุวิชาของตนในระยะเวลานี้ให้ได้
อันหลินขบคิดว่าจะสนับสนุนเจ้าอัปลักษณ์ในช่วงที่มันทะลวงสู่ระดับแปลงจิตหรือไม่
เพราะมันผ่านอะไรกับตนมามากมายก่ายกองปานนั้น ในฐานะของเจ้านายย่อมต้องให้สวัสดิการแสดงความห่วงใย ต้าไป๋มียาบำรุงสมรรถภาพแล้ว เจ้าอัปลักษณ์จะไม่มีของดีได้อย่างไร
ส่วนเสี่ยวหงก็ช่างมันดีกว่า เจ้านี่วันๆ เอาแต่สังเคราะห์แสง ไม่มีแก่ใจจะสนใจมันจริงๆ
“หรือว่า…จะส่งยาเซียนที่มีประโยชน์ต่อการทะลวงสู่ระดับแปลงจิตให้เจ้าอัปลักษณ์ดีนะ” อันหลินครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วโพล่งขึ้นมา
ต้าไป๋สั่นไปทั้งตัวเมื่อได้ฟัง พูดเสียงเขียวว่า “ทำไมน้องสามได้ยาเซียน ของข้ากลับเป็นยาบำรุงสมรรถภาพห่วยๆ เล่า ข้าเป็นพี่รองนะ พี่อันลำเอียง!”
อันหลินลูบหัวต้าไป๋เบาๆ “ใจกว้างหน่อย เป็นพี่ต้องยอมน้อง เจ้าดูสิ เสี่ยวหงเป็นพี่ใหญ่ ไม่มีอะไรเลย แต่เจ้ามียาวิเศษ น้องสามได้ยาเซียน มันปกติมากไม่ใช่หรือ”
ต้าไป๋ “…”
ด้วยเหตุนี้ อันหลินที่ตัดสินใจว่าจะมอบยาเซียนให้เจ้าอัปลักษณ์เพื่อช่วยให้มันบรรลุ ก็ขี่ต้าไป๋เริ่มมุ่งหน้าไปทางราชวังดุสิต
ยังคงเป็นขั้นตอนที่คุ้นเคย หลังอันหลินบอกว่าตนจะปรุงยาเซียนหนึ่งเม็ด นักพรตน้อยก็นำเขาไปยังจัตุรัสปรุงยาของผู้รู้แจ้งหยินสี่
เมื่อผลักประตูไม้ออก กลิ่นสมุนไพรก็โชยมาปะทะหน้า อันหลินได้เห็นยอดฝีมือผู้ปรุงยาแห่งสรวงสวรรค์คนนั้นอีกครั้ง
“คุณพระ ท่านหยินสี่ ทำไมท่านถึงได้อ้วนขนาดนี้!” อันหลินตกใจสะดุ้งโหยงกับภาพตรงหน้า
ชายตรงหน้าอ้วนอุ้ยอ้าย ท้องกลมโต ไม่สิ…กลมไปทั้งตัวแล้ว!
เมื่อได้ยินคำพูดของอันหลิน หยินสี่พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เอะอะเสียงดังเช่นนี้ทำไม ข้าอ้วนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว”
มุมปากของอันหลินกระตุกเล็กน้อย “แต่เมื่อก่อนท่านเป็นจอมอ้วน ตอนนี้เป็นลูกบอลแล้ว…”
ใช่แล้ว ตอนนี้หยินสี่อ้วนกลมจนเหมือนลูกบอลจริงๆ บอกตามตรง อันหลินคิดว่าตือโป๊ยก่ายที่ไม่เคยพบหน้าก็ไม่อ้วนขนาดนี้!
เมื่อหยินสี่ได้ยินประโยคนี้ก็ไม่ชอบใจขึ้นมาทันที เนื้อตั้งแต่หัวจรดเท้ากระเพื่อมโดยพลัน พูดเสียงเกรี้ยวว่า “ลูกบอลก็ลูกบอล นี่เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น หากข้ายกระดับจากการเปลี่ยนแปลงทางปริมาณเป็นคุณภาพสำเร็จวันใด พลังงานไขมันของข้าจะทำให้ข้าแข็งแกร่งยิ่งขึ้น!”
“ฮะ” อันหลินกะพริบตาปริบๆ ไม่เข้าใจเลยว่าหยินสี่พูดอะไรอยู่
ขณะที่หยินสี่พูดอยู่นั้น เขาก็ล้วงยาวิเศษออกมาจากแหวนมิติ
ยาเม็ดนี้ส่องแสงสีทอง ริ้วคลื่นเส้นเล็กแผ่กระจายไปรอบทิศ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ของธรรมดา หยินสี่ไม่พูดพร่ำทำเพลง ส่งยาเข้าปากแล้วเคี้ยวทันที หลับตาพริ้ม สีหน้ามีความสุขและเคลิบเคลิ้ม
“หึๆ กินยาแล้วคึกคัก ข้ารู้สึกว่าทั้งตัวเต็มเปี่ยมด้วยพละกำลัง!”
หยินสี่ยืนมือไพล่หลัง อุทานเสียงดังลั่น
กินยางั้นเหรอ มุมปากของอันหลินกระตุกเล็กน้อย ถามอย่างสงสัยว่า “ผู้อาวุโสหยินสี่ รูปร่างของท่านได้มาจากการกินยาหรือ”
หยินสี่เอียงหัวยิ้มให้อันหลินอย่างปลื้มอกปลื้มใจ คล้ายว่าในแววตาจะทอความเอ็นดูของผู้อาวุโสอยู่ด้วย เอ่ยเสียงอ่อนโยนว่า “สหายอันหลินเดาถูกแล้ว ข้ารู้เคล็ดลับการกินยาแล้ว อยู่ไม่ไกลจากขั้นสุดท้ายแล้ว อีกอย่าง นี่เป็นเพราะเจ้าสร้างแรงบันดาลใจให้ข้าในตอนนั้น เมื่อถึงวันที่ข้าสำเร็จ จะไปขอบคุณถึงบ้านแน่นอน!”
อันหลินตะลึงเมื่อได้ฟัง อาศัยการกินยาจนได้ร่างนี้มาจริงๆ เหรอ น่ากลัวเกินไปแล้ว เขากินไปเท่าไรกันแน่! แถมยังบอกว่าเราเป็นคนสร้างแรงบันดาลใจด้วย อย่าใส่ร้ายกันมั่วๆ สิ เรื่องนี้ผมไม่รับนะ!
อันหลินรู้ดีว่าถกประเด็นนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว จึงรีบเปลี่ยนหัวข้อทันที “ท่านหยินสี่ วันนี้ที่ข้ามา เพราะอยากขอให้ท่านช่วยปรุงยาเซียนที่ช่วยทะลวงสู่ระดับแปลงจิตให้ข้าหน่อย”
“อ้อ ต้องการกี่เม็ดเล่า จะแสดงการกินต่อเนื่องเช่นครั้งก่อนหรือไม่” หยินสี่ได้ยินก็ตาเป็นประกาย จ้องอันหลินด้วยความคาดหวังเต็มเปี่ยม หากอันหลินแสดงการเปลี่ยนแปลงจากปริมาณเป็นคุณภาพอีกครั้ง ไม่แน่เขาอาจจะเกิดแรงบันดาลใจใหม่ ด้วยเหตุนี้จึงเริ่มตื่นเต้นขึ้นมา
หน้าของอันหลินชะงักไป รีบชี้แจงเป็นพัลวันว่า “ไม่ใช่ข้ากิน ให้สัตว์เลี้ยงของข้าต่างหาก มันเป็นวานรเนตรทอง ตอนนี้อยู่ในระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นปลายแล้ว อยากซื้อยาเซียนสักเม็ดไปช่วยมัน”
“เช่นนี้เองหรือ…” ใบหน้าของหยินสี่ฉายความผิดหวังแวบหนึ่ง ครุ่นคิดชั่วครู่แล้วพูดต่อว่า “สัตว์ทะลวงจากระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณสู่ระดับแปลงจิต ยังคงต้องเจอกับอสนีบาต วานรเนตรทองเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีปัญญาสูงอย่างยิ่งในหมู่สัตว์ ยาเทพเทวะปุราณ ยาเซียนขั้นเจ็ดค่อนข้างเหมาะสมกับมัน กินก่อนข้ามอสนีบาต ไม่เพียงแต่ได้รับการคุ้มครองระหว่างโดนสายฟ้าฟาด ลดอันตรายอย่างใหญ่หลวง หลังข้ามอสนีบาตแล้วจะทำให้ระดับมั่นคง เสริมสร้างสติสัมปชัญญะให้แข็งแกร่ง”
“อ้อ…” อันหลินพยักหน้ารัวๆ อย่างไรเสียเขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดี เพียงแต่เงินเยอะ จึงพูดขึ้นมาทันทีว่า “เช่นนั้นก็เอายาเทวะปุราณ!”
พูดจบเขาก็นำกระดาษสีขาวใบใหญ่ออกมายื่นให้หยินสี่
บนกระดาษสีขาวมีคำว่า ‘อวี่’ ตัวเป้ง มันเป็น ‘เช็ก’ ของหลินจวิ้นจวิ้นยามเข้าตาจน ไม่มีเงินจ่ายในครานั้น สามารถแลกเปลี่ยนยาเซียนต่ำกว่าขั้นหกได้หนึ่งเม็ด
เขามีบัตรกำนัลยาที่จักรพรรดิจื่อเวยให้ กับบัตรกำนัลยาที่ได้มาจากงานแลกเปลี่ยนมรรคเทศนาสี่ทิศ ล้วนสามารถแลกยาเซียนที่ต่ำกว่าขั้นหกได้ แต่ ‘เช็ก’ ที่หลินจวิ้นจวิ้นให้มา อันหลินมักจะรู้สึกว่าเชื่อถือไม่ค่อยได้ จึงตั้งใจว่าจะนำออกมาใช้ก่อน
หยินสี่จ้องกระดาษตรงหน้าแล้วกะพริบตาปริบๆ “นี่เจ้าทำอะไรน่ะ”
อันหลินสะบัดกระดาษ “ใช้มันแลกยาเทวะปุราณของท่านไงเล่า”
หยินสี่ตกใจอีกครั้ง ใบหน้ากลมกลึงเริ่มถมึงทึง มองอันหลินอย่างประหลาดใจ “เจ้ากำลังล้อข้าเล่นอยู่หรือ”