“อันหลิน!”
สวีเสี่ยวหลานกับเซวียนหยวนเฉิงเห็นอันหลินถูกหมอกดำโอบล้อม จึงอดอุทานเสียงดังไม่ได้ พากันถอยกลับไปช่วยเหลือ
ก่อนหน้านี้อันหลินใช้กระบี่สายลม จึงออกห่างต้าไป๋ ตอนนี้เมื่อต้าไป๋เห็นเจ้านายตกอยู่ในอันตราย จึงรีบกระโจนใส่มังกรดำตัวนั้น อาจารย์ที่เพิ่งใช้เพลงกระบี่เสร็จอยู่ในช่วงรวบรวมกำลังภายใน ไม่ทันลงมืออีกครั้ง
สวีเสี่ยวหลานยังอยู่ห่างจากเขาอยู่พอสมควร ช่วยไม่ทันแล้ว อันหลินในตอนนี้ เรียกได้ว่าไม่มีกำลังเสริมใดๆ จำต้องจู่โจมมดยักษ์ระดับแปลงจิตตัวนี้ซึ่งๆ หน้า
แม้มดยักษ์ระดับแปลงจิตตัวนี้จะบาดเจ็บสาหัส แต่เห็นได้ชัดว่าไม่มีพลังต่อสู้แล้ว มังกรดำตัวเขื่องสีดำที่ควบคุมขดตัว ปิดช่องทางการหลบหนีของอันหลินทั้งหมด พุ่งมาหาเขาด้วยลักษณะที่น่ากลัว
“พับผ่าสิ ทำได้แค่สู้แล้ว!”
อันหลินแสดงสีหน้าโหดเหี้ยม จู่ๆ ร่างกายก็ปล่อยไอสีดำออกมา พลังพุ่งทะยานในบัดดล!
พลังปราณอนธการ!
กระบี่ที่สอง เงาพยัคฆ์!
สวีเสี่ยวหลาน เซวียนหยวนเฉิง ต้าไป๋และมดยักษ์สีดำที่อยู่ไม่ไกลจากอันหลิน ต่างก็รู้สึกว่าฟ้าดินมืดมน สรรพสิ่งเริ่มเงียบสงัด
ท่ามกลางความมืดมิดและเงียบกริบ อันหลินออกจากความมืดมาโผล่ด้านหลังมดเกราะดำ กระบี่พิชิตมารฟันลงมาพร้อมกับอานุภาพอันทรงพลังอย่างเงียบเชียบ!
เงากระบี่สีดำที่ทอดตัวยาวนับร้อยจั้ง ทะลวงร่างของมดยักษ์และเกราะดำ ถูกหั่นเป็นสองท่องพร้อมกัน
ลำแสงสว่างวาบอีกครั้ง
การโจมตีอันเงียบเซียบของอันหลินอันตรธานหายไปแล้ว
มังกรดำสี่ตัวแหลกสลายพร้อมเสียงโหยหวน มดเกราะดำนัยน์ตาแดงก่ำ อากัปกิริยาบนใบหน้ายังอยู่ในความหวาดกลัว ร่างหล่นร่วงสู่พสุธาพร้อมกับเลือดที่ทะลักออกมา
พลังปราณอนธการของอันหลินค่อยๆ จางหายไป อ่อนระโหยโรยแรงอย่างยิ่ง หมดเรี่ยวแรง ร่างกายก็เริ่มตกลงมา
“พี่อัน โฮ่ง!”
ต้าไป๋ที่เหาะมาไปรับอันหลินที่กำลังตกลงมาอย่างคล่องแคล่ว
สวีเสี่ยวหลานกับเซวียนหยวนเฉิงเห็นเช่นนั้นก็โล่งใจไปเปราะหนึ่ง
“ไม่คิดเลยว่าสหายอันหลินจะมีเคล็ดวิชากับเพลงกระบี่ที่น่ากลัวเช่นนี้” เซวียนหยวนเฉิงพูดอย่างประหลาดใจ
แต่สีหน้าของสวีเสี่ยวหลานกลับเรียบเฉย เพราะเคยเห็นประจักษ์แก่ตาตอนที่อยู่ในหุบเหวหมื่นกาลีแล้ว ตอนนี้ค่อนข้างเป็นห่วงอาการของอันหลิน
“เจ้าเป็นอะไรไหม” นางเหาะไปหาต้าไป๋แล้วเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
“ยังพอไหว…เรารีบหนีกันเถอะ อย่าให้มดยักษ์ตัวอื่นตามทัน” อันหลินโบกมืออย่างไร้เรี่ยวแรง กินยาบำรุงเลือดหนึ่งเม็ด ในเวลาที่คับขันแบบนี้ เขาไม่งกกับการใช้ยาวิเศษขั้นแปดหรอก เพราะชีวิตสำคัญกว่า
สวีเสี่ยวหลานกับเซวียนหยวนเฉิงพยักหน้า คุ้มกันอันหลินแล้วเริ่มหนีต่อ
ติ้ง! ‘ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ด้วย ภารกิจสำเร็จแล้ว ตอนนี้เริ่มเลื่อนระดับเข้าสู่จิตวิญญาณแห่งสายลมขั้นสอง!’
ทันใดนั้น ข้อมูลวรยุทธ์ การหยั่งรู้ แก่นแท้มากเหลือคณานับ ก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามาในตัวเขา
จิตวิญญาณแห่งสายลมขั้นสอง ก่อตัวเป็นปีกวายุได้ ทำให้ความเร็วพุ่งทะยานได้ในระยะเวลาอันสั้น ทั้งเท่และมีประโยชน์ ใช้ดีกว่าวงล้อสายลมของจิตวิญญาณแห่งสายลมขั้นแรกเยอะ
ดวงตาของอันหลินเป็นประกาย อดกางแขนโห่ร้องไม่ได้ว่า “ฮ่าๆ ๆ ๆ…ต่อไปข้าจะเป็นผู้ชายที่มีปีกแล้ว!”
สวีเสี่ยวหลานกับเซวียนหยวนเฉิงมองอันหลินที่สว่างเจิดจ้าด้วยสายตาประหลาด แต่อันหลินพิลึกมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว พวกเขาจึงไม่คิดมาก มองแวบหนึ่งก็เบือนหน้าหนี
การรบราฆ่าฟันระหว่างมดยักษ์กับนักพรตยังคงดำเนินต่อไป แต่เผ่าพันธุ์มดเริ่มตกเป็นเบี้ยล่างแล้ว
ระหว่างนี้มีมดยักษ์ตัวหนึ่งทลายแนวป้องกันของนักพรต กระโจนใส่เซวียนหยวนเฉิง แต่ถูกอาจารย์เซียนกระบี่ข้างกายพวกเขาสังหาร
“กระบี่ภัคน์สี่ขั้ว!” เซียนกระบี่หลิงเซียววาดมือ กระบี่สวรรค์สี่เล่มก็ก่อตัวกลางอากาศ แยกเป็นธาตุลม อัสนี ไฟและน้ำ พุ่งไปหามดยักษ์สีน้ำเงินด้วยอานุภาพมหาศาล
เซียนพสุธาเยว่อิ่งกับเซียนกระบี่มิ่งหยวนใช้ค่ายกลพันธนาการปีศาจ คุมขังมดยักษ์สีน้ำเงินที่มีพลังแก่กล้าตัวนี้ กระบี่สวรรค์พุ่งหวีดหวิวมา ในที่สุดก็ทะลวงร่างอันทนทานของมดยักษ์สีน้ำเงิน
ลม อัสนี น้ำและไฟกัดกินร่างของมันอย่างบ้าคลั่ง ราวกับจะบดขยี้ทุกอณูในร่างกายของมันให้แหลกลาญ
“พวกเจ้าสังหารท่านแม่ รอการแก้แค้นของท่านหัวหน้าเถอะ! พวกเจ้าทุกคนจะต้องตายทั้งเป็น!”
เสียงตะโกนเกรี้ยวของมดยักษ์สีน้ำเงิน และร่างอันแข็งแกร่งของมัน มลายหายไปอย่างสิ้นเชิงภายใต้พลังของกระบี่สวรรค์…
มดยักษ์ตัวแล้วตัวเล่าล้มลง พวกมันไม่เลือกจะหลบหนี มดยักษ์ทั้งหมดเลือกจะรบให้ถึงที่สุด และสุดท้าย มดยักษ์ก็ตายจนหมดสิ้น
ต๋าอีกับต๋าเอ้อร์กระแทกศีรษะของมดยักษ์หมอกดำจนแตกละเอียด จากนั้นใช้ลมหายใจแห่งมังกรย่างร่างของมันจนเป็นเถ้าถ่าน หลังสแกนพบว่ามันไร้ชีวิตแล้วอย่างสิ้นเชิงแล้ว ถึงได้ตัดสินใจเหาะไปทางเจ้านาย
เซวียนหยวนเฉิงทราบข่าวว่ากำจัดเผ่าพันธุ์มดสำเร็จเสร็จสิ้นจากกระแสจิต ถึงได้ตัดสินใจไปรวมตัวกับเซียนกระบี่หลิงเซียวพร้อมกับอันหลินและสวีเสี่ยวหลาน ภายใต้การคุ้มกันของเซียนกระบี่ท่านหนึ่ง
สงครามนี้ดุเดือดอย่างยิ่ง ผู้คนที่บาดเจ็บล้มตายมีมากกว่าครึ่ง
เหล่าอาจารย์ปูค่ายกลรักษาฉุกเฉิน ให้ทุกคนที่บาดเจ็บฟื้นฟูอาการง่ายๆ ข้างในนี้ก่อนชั่วคราว
ปฏิบัติการสังหารนางพญามดในครั้งนี้ อาจารย์แปลงจิตสิบคน มีหกคนได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิตหนึ่งราย นักพรตอัจฉริยะระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณหนึ่งร้อยคน ได้รับบาดเจ็บห้าสิบกว่าคน เสียชีวิตแปดราย
อันหลินเพิ่งเคยเจอกับเหตุการณ์สูญเสียคนรอบตัวครั้งแรก จึงอดเงียบงันไม่ได้ โดยเฉพาะในยามที่เห็นอาจารย์วางศพของพวกเขาเรียงกัน เห็นลักษณะท่าทางของพวกเขา ในใจเขายิ่งรู้สึกระส่ำระสายและสั่นอย่างน่าประหลาด
มีศพของสหายคนหนึ่งนำกลับมาไม่ได้ ถูกมดยักษ์ตัวหนึ่งเผาจนเป็นเถ้าธุลีแล้ว
สหายคนหนึ่งไม่มีแม้แต่ศีรษะ กลายเป็นศพไร้หัว…
อาจารย์ระดับแปลงจิตที่ยิ่งใหญ่คนนั้น ถูกมดยักษ์สีน้ำเงินซัดจนหัวใจแตก สิ้นชีพทันที
อันหลินไม่เข้าใจ ทั้งๆ ที่ใช้พลังของระเบิดไฮโดรเจนในขีดจำกัดที่สูงสุด ควบคุมสถานการณ์รบแล้วแท้ๆ แต่กลับต้องสูญเสียอย่างขมขื่นเช่นนี้
หากไม่มีระเบิดไฮโดรเจนกับระเบิดนิวเคลียร์ สถานการณ์จะเป็นอย่างไร อันหลินไม่อยากจะคิดเลย…
เซียนกระบี่หลิงเซียวก็เคยคิดว่าหากใช้ระเบิดไฮโดรเจนและระเบิดนิวเคลียร์แล้วล้มเหลว ก็มีแต่พยายามสุดชีวิตเพื่อฆ่านางพญามดให้ได้ จากนั้นล่าถอย แต่ด้านที่มีคนบาดเจ็บล้มตาย เทียบกับตอนนี้แล้วน่ากลัวกว่ากันเยอะ
เซียนกระบี่หลิงเซียวเก็บศพของนักพรตที่พลีชีพเข้าไปในแหวนมิติ มุ่งหน้าสู่ศูนย์กลางการระเบิดพร้อมกับอาจารย์อีกหลายท่าน
บริเวณนั้นยังคงมีฝุ่นควันหนา แม้พวกเขาจะไม่กลัวรังสีนิวเคลียร์ ทว่าก็ไม่เข้าใกล้มากนัก แต่ปล่อยกระแสจิตสำรวจตำแหน่งเดิมของนางพญามด
“นอกจากหัวแล้ว ร่างของมันถูกอุณหภูมิสูงหลอมละลายจนวางวายแล้ว” เซียนกระบี่หลิงเซียวโพล่งขึ้นมา
ใบหน้าของเหล่าอาจารย์ฉายความตะลึง ตกใจที่ศีรษะของนางพญามดทนทานถึงเพียงนี้ ระดับความทนทานคงจะสูงกว่าอาวุธวิเศษทั้งหมดในโลกเลยกระมัง
พวกเขาใช้พลังเซียนนำศีรษะของนางพญามดออกมา แม้นางพญามดจะเหลือเพียงหัวที่ดำเกรียม แต่สำหรับนักพรตทั้งหลายแล้ว มันกลับมีขนาดใหญ่ดุจขุนเขา
ทุกคนที่ปฏิบัติภารกิจบั่นคอนางพญามด เงยหน้ามองศีรษะของนางพญามดที่ไม่มีชีวิตแล้ว ในใจต่างก็อดทอดถอนใจไม่ได้
สงครามนี้ ปิดฉากลงแล้ว…