อันหลินกับพ่อเที่ยวเตร่ทั่วเมืองซานเฉิง ตั้งแต่เขาเกอเล่อไปจนถึงหงหยาต้ง สุดท้ายมาจบที่ชมหญิงงามที่อนุสาวรีย์ปลดแอก
สองพ่อลูกมีเรื่องมากมายต้องคุยกัน พูดคุยสัพเพเหระกันไม่หยุด
เพราะพ่อของเขาจะก้าวเข้าสู่วงการบำเพ็ญเซียนแล้ว อันหลินจึงพูดเรื่องความรู้ทั่วไปและข่าวคราวในวงการบำเพ็ญเซียน
แต่ทว่า ความสนใจของพ่อ กลับไม่อยู่ในเรื่องเดียวกับอันหลิน
ตลอดทั้งวันนี้ เขายุยงทั้งหมดแปดครั้งแล้ว ให้อันหลินจีบสวีเสี่ยวหลาน…
ตั้งแต่พอเห็นในทีวี ก็รู้สึกชอบสาวสวยที่ยืนคู่อันหลินคนนั้นเป็นอย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้น สองวันนี้เขายังได้ยินจากปากอันหลินว่า สวีเสี่ยวหลานช่วยอันหลินไว้ไม่น้อยเลย…
เซียนหญิงที่เอาใจใส่และสมบูรณ์แบบเช่นนี้จะไปหาที่ไหนได้อีก ได้มาเป็นลูกสะใภ้คงเยี่ยมที่สุด!
กับเรื่องนี้ อันหลินจำต้องแกล้งทำเป็นหูหนวกตาบอด
หนทางการบำเพ็ญเซียนยังยาวไกล เร่งรัดให้แต่งงานตั้งแต่อายุยี่สิบได้ที่ไหนกัน
…
วันต่อมา หวงซานซานมาถึงเมืองซานเฉิงด้วยตัวเอง
อันหลินหยิบยาอายุวัฒนะที่พ่อจำเป็นต้องใช้บางส่วนออกจากแหวนมิติแล้วมอบให้เขา
นอกจากนี้ อันหลินยังให้สองพันหินวิญญาณเป็นค่าใช้จ่ายอีกด้วย
ไม่สนใจว่าพ่อจะใช้หมดหรือไม่ อย่างไรเสียก็พยายามใช้ให้เต็มที่แล้วค่อยว่ากัน
เขาไม่อาจมั่นใจว่าภายในหนึ่งปีจะมีโอกาสมาเยือนแดนมนุษย์เป็นครั้งที่สองหรือไม่ ฉะนั้นครั้งนี้ เขาจึงจ่ายค่าเล่าเรียนตลอดสามปี เป็นเงินทั้งหมดสามพันหกร้อยหินวิญญาณให้กับหวงซานซานในคราวเดียว
หวงซานซานตะลึงกับความใจป้ำของอันหลินอีกครั้ง
ตอนที่เก็บหินวิญญาณทั้งหลายใส่แหวนมิติ มือของเธอสั่นระริก
เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่หินวิญญาณอัดแน่นเต็มแหวนมิติ
แม้มันจะเป็นแหวนมิติทั่วไปที่มีเนื้อที่หนึ่งจั้ง แต่ก็นับว่าน่าตกใจมากแล้ว
อันหลินเห็นแหวนมิติของหวงซานซาน ก็ตกใจเช่นกัน
อาวุธมิติอย่างแหวนมิติ นับว่าเป็นของล้ำค่าอย่างยิ่งในแดนมนุษย์
แม้จะเป็นเพียงแหวนที่มีเนื้อที่แค่หนึ่งจั้ง แต่ก็หายากยิ่งนัก
ประการนี้ จะเห็นได้จากที่ราชาปีศาจทั้งสี่ตนไม่มีแหวนมิติ
แต่หวงซานซานมีแหวนมิติส่วนตัว ในบรรดานักพรตแดนมนุษย์ นับว่าเป็นเศรษฐีแล้ว
อันหลินบอกลาพ่ออย่างอ้อยอิ่ง
มองแผ่นหลังที่เดินจากไปของพ่อ ความเชื่อมั่นในใจเขาหนักแน่นยิ่งกว่าเดิม
“พ่อ ถ้าผมมาคราวหน้า จะให้ยาวิเศษที่ดีกว่าเดิมแน่นอน ให้พ่อกินยาวิเศษแทนถั่วกรอบ!”
ไม่รู้เพราะเหตุใด หลังเขาได้ลั่นวาจาทรงพลังแบบนี้แล้ว ก็สบายใจขึ้นไม่น้อยเลย
มีพ่อแม่อยู่ ชีวิตยังมีบ้านให้พักพิง เมื่อไร้พ่อแม่ ชีวิตก็เหลือเพียงหนทางกลับบ้าน
อันหลินไม่อยากให้ตัวเองกลายเป็นคนไร้บ้าน
บนเส้นทางแสวงธรรม เขาอยากให้ครอบครัวอยู่เคียงข้าง นี่เป็นเรื่องที่มีความสุขมากที่สุด
และหากต้องการให้พ่อเขาเดินบนเส้นทางบำเพ็ญเพียรต่อไปไม่หยุด เขาก็ต้องฮึกเหิมใฝ่หาความก้าวหน้าแล้ว!
อันหลินหยิบมือถือออกมา โทรหาเซวียนหยวนเฉิง
เสียงนุ่มนวลดังมาจากปลายสาย “อันหลิน มีอะไรหรือ”
อันหลิน “พี่เฉิง เจ้ากำลังศึกษาค่ายกลอยู่ใช่ไหม พาข้าไปด้วยสิ!”
เซวียนหยวนเฉิง “ฮ่าๆ ต้องขออภัย ตอนนี้ข้าอยู่ในเรือดำน้ำเฉียนหลง ถึงร่องลึกก้นสมุทรของมหาสมุทรแปซิฟิกแล้ว จะสำรวจใต้ทะเลสองวัน ยังพาเจ้าศึกษาค่ายกลไม่ได้”
อันหลิน “…”
อันหลินวางสาย กดโทรหาสวีเสี่ยวหลาน
เสียงเอ็ดอึงดังมาจากปลายสาย “อันหลิน มีอะไรหรือ!”
อันหลิน “เสี่ยวหลาน เจ้าทำอะไรอยู่ เราไปฝึกวรยุทธ์กันเถอะ”
สวีเสี่ยวหลาน “ฮ่าๆ ข้าไม่ว่าง เจ้าลองเดาสิว่าตอนนี้ข้าอยู่ที่ไหน!”
อันหลิน “…อยู่บนโลก”
สวีเสี่ยวหลาน “ถูกแค่ครึ่งเดียว! ตอนนี้ข้าอยู่บนท้องฟ้าของโลก เฮลิคอปเตอร์สนุกมากเลยล่ะ! ฮ่าๆ…”
อันหลิน “…”
ให้ตายเถอะ! เรียกว่าทายถูกครึ่งหนึ่งได้ด้วยเหรอ
ถึงว่าเขาได้ยินเสียงดังอื้ออึงมาจากปลายเสียง ที่แท้ก็อยู่บนเฮลิคอปเตอร์นี่เอง!
อันหลินวางสายอย่างเหงาหงอย พรูลมหายใจยาว
พวกเขาสุดยอดจริงๆ คนหนึ่งขึ้นฟ้า อีกคนลงใต้ทะเล มีแต่เขาที่จมอยู่ท่ามกลางผู้คนล้นหลาม…
อันหลินคิดว่าการเลื่อนสู่ระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณ ผ่านการบำเพ็ญเพียรด้วยตัวเอง เป็นเรื่องที่ยุ่งยากยิ่งนัก สู้กินขุมพลังสัตว์สามเม็ดเสียยังดีกว่า
ฉะนั้น การบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ ไม่เย้ายวนใจ
ตอนนี้เขาอยากหาคนมาประลองวิชา ฝึกฝนทักษะการต่อสู้ของตัวเอง
หาใครดีล่ะ
อันหลินเปิดวีแชทอย่างเคยชิน กดเข้ากลุ่มนักพรตทั่วโลกร่วมมือกันพิทักษ์โลก ดูสิว่าข้างในมีสหายที่ชอบการต่อสู้หรือไม่
แต่เมื่อเขาเปิดกลุ่มนักพรต กลับพบว่าข้างในแตกตื่นแล้ว พวกเขากำลังพูดคุยเรื่องใหญ่กันอยู่
นักพรตมู่หนิว ‘ตะลึง! สำนักกระบี่ดาวศุกร์ถูกเผ่าพันธุ์ปีศาจล้างบางแล้ว!’
ผู้รู้แจ้งหลิวหลี “…ไม่ได้ล้อกันเล่นใช่ไหม สำนักกระบี่ดาวศุกร์เป็นสิบสำนักบำเพ็ญเซียนของประเทศเชียวนะ ถึงจะไม่มีผู้แข็งแกร่งระดับแปลงจิตปกครอง แต่ดำรงอยู่มานาน ค่ายกลคุ้มกันสำนักก็ยิ่งใหญ่มากเช่นกัน ต่อให้จักรพรรดิปีศาจออกโรงเอง ก็ไม่มีทางทลายได้ จะถูกล้างบ้างได้ยังไง”
เซียนหญิงหยวนจื่อต้าน ‘นี่เป็นความจริง! สำนักของฉันเพิ่งรู้ข่าวเมื่อกี้!’
ผู้พิทักษ์โลก ‘ข่าวใหม่ล่าสุด จักรพรรดิปีศาจร่วมมือกับเจ้าแห่งผีดูดเลือดสองตน ทลายค่ายกลคุ้มกันของสำนักกระบี่ดาวศุกร์ เซียนกระบี่ป๋ายหลิงผู้เป็นเจ้าสำนักสิ้นแล้ว ลูกศิษย์ไม่รอดสักคน’
เซียนหญิงเมิ่งอิน ‘เกี่ยวข้องกับแผนการป้ายวิญญาณโลหิตของจักรพรรดิปีศาจจริงๆ งั้นเหรอ ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะไม่เกรงกลัวสิ่งใดเลยเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เห็นประเทศของเราเป็นอะไรกัน!’
นักพรตทั่นอวิ๋น ‘เจ้าสำนักทั้งสี่ของสำนักอู่ตัง คุนหลุน หลงหู่และซ่างชิงเริ่มประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อหารือวิธีการจัดการจักรพรรดิปีศาจแล้ว ครั้งนี้พวกเขาต้องขุดรากถอนโคนแน่นอน!’
เมื่ออันหลินอ่านถึงตรงนี้มุมปากก็กระตุก
วิดีโอคอนเฟอเรนซ์งั้นเหรอ
เมื่อลองจินตนาการถึงภาพนั้น ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ ล่ะ
เทพพยากรณ์ผู้แม่นยำ ‘ฉันค่อนข้างเป็นห่วงว่าเซียนกระบี่ชิงเหอจะเป็นยังไงบ้าง’
เมื่ออันหลินเห็นประโยคนี้ก็ได้สติโดยพลัน เซียนกระบี่ชิงเหอที่อยู่ในกลุ่มก็คือว่าที่เจ้าสำนักคนต่อไปของสำนักกระบี่ดาวศุกร์
สำนักกระบี่ดาวศุกร์ถูกล้างบาง เช่นนั้นเขาก็ตกอยู่ในอันตรายด้วยไม่ใช่หรือไง!
จินอวี้จื่อ ‘@เซียนกระบี่ชิงเหอ ยังโอเคดีไหม’
จากนั้น ทุกคนในกลุ่มก็พากันเมนชั่นถึงเซียนกระบี่ชิงเหอ
แต่ทว่า ไร้การตอบกลับจากเซียนกระบี่ชิงเหอ
เทพพยากรณ์ผู้แม่นยำ ‘เมื่อกี้ฉันโทรหาเขา ก็ไม่รับสายเหมือนกัน…’
…
นักบวชไห่อิ้น ‘อมิตาพุทธ สรรพสัตว์ไร้ทุกข์ แต่เพียงความสุข อาตมาชิงเหอเพียงแค่ไปสู่สุคติเร็วไปก็เท่านั้น ทุกคนอย่าได้เศร้าโศกไปเลย’
เมื่อนักบวชพูดแบบนี้ บรรยากาศเศร้าโศกก็เริ่มอบอวลไปทั่วกลุ่ม
คนที่สนิทสนมกับเซียนกระบี่ชิงเหอน้ำตาไหลพราก
เถียนหลิงหลิง ‘เซียนกระบี่ชิงเหอ ไปสู่สุคตินะ (แนบรูปเทียน)’
เซียนหญิงจิ้งซิน ‘เซียนกระบี่ชิงเหอ ไปสู่สุคตินะ (แนบรูปเทียน)’
ผู้รู้แจ้งหลิวหลี ‘เซียนกระบี่ชิงเหอ ไปสู่สุคตินะ (แนบรูปเทียน)’
เพื่อนพ้องในกลุ่มต่างก็ส่งข้อความพร้อมเพรียงกัน แสดงความอาลัยต่อเซียนกระบี่ชิงเหอ
อันหลินนึกย้อนถึงท่าทางอันงามสง่าของเซียนกระบี่ชิงเหอ รูปร่างกำยำของเขาที่สังหารราชาปีศาจ ในใจก็อดเศร้าไม่ได้เช่นกัน เขาจึงส่งข้อความเข้าไปในกลุ่มด้วย
นักพรตจอมปลอมอันหลิน ‘เซียนกระบี่ชิงเหอ ไปสู่สุคตินะ (แนบรูปเทียน)’
…
ในตอนนั้นเอง ก็มีรูปโปรไฟล์เด้งขึ้นมา…
เซียนกระบี่ชิงเหอ ‘ให้ตายเถอะ! สหายอันหลิน นายแช่งฉันทำไม!’
เมื่ออันหลินเห็นข้อความนี้ ก็สะดุ้ง เกือบจะปามือถือทิ้งแล้ว
สามวินาทีผ่านไป…
เซียนกระบี่ชิงเหอ ‘ให้ตายเถอะ! ทำไมทุกคนแช่งฉันหมดเลยล่ะ!’
…
ผู้รู้แจ้งหลิวหลี ‘บัดซบ!’
เซียนหญิงจิ้งซิน ‘คุณพระ!’
เถียนหลิงหลิง ‘แย่แล้ว ตายแล้วฟื้น…!’
เซียนหญิงหยวนจื่อต้าน ‘ตะลึง!’
ผู้พิทักษ์โลก ‘ชิงเหอ นายเป็นคนหรือผี!’
ทุกคนในกลุ่มต่างก็แสดงความตกใจกับการฟื้นคืนชีพของเซียนกระบี่ชิงเหอ
เซียนกระบี่ชิงเหอ ‘ฉันไม่มีอารมณ์จะล้อทุกคนเล่นหรอกนะ!’
เทพพยากรณ์ผู้แม่นยำ ‘@นักบวชไห่อิ้น ขอคำอธิบายหน่อย’
ทุกคนในกลุ่มต่างก็เมนชั่นถึงนักบวชไห่อิ้น
อันหลิน ‘…’
ระเบิดแห่งความแค้นเปลี่ยนทิศทางได้สวยงาม!
เป็นอย่างที่คิด เซียนกระบี่ชิงเหอเริ่มต่อว่านักบวชไห่อิ้น
เสียดายที่นักบวชไห่อิ้นปิดปากเงียบ ไม่พูดอะไรอีกเลย…
ผ่านไปพักหนึ่ง จู่ๆ เซียนกระบี่ชิงเหอก็ส่งพิกัดมา
‘ฉันอยู่ที่นี่ ถูกราชาปีศาจกับเจ้าแห่งผีดูดเลือดสองตนตามล่า สหายคนไหนอยู่ใกล้รีบมาช่วย เรามาเอาคืนกันหน่อย!’
อันหลินมองพิกัดที่เซียนกระบี่ชิงเหอส่งมา อยู่ใกล้เขามาก…
…………………………..
Related