อันหลินมองพิกัด อยู่ห่างจากเขาแค่ไม่กี่สิบกิโลเท่านั้น
แต่ทว่า ศัตรูเป็นถึงราชาปีศาจกับเจ้าแห่งผีดูดเลือดสองตนเชียวนะ
ความสามารถอย่างเขา อย่างมากก็จัดการราชาปีศาจได้แค่ครึ่งตน
อีกสองตนครึ่งที่เหลือ ยกให้เซียนกระบี่ชิงเหองั้นเหรอ
อันหลินครุ่นคิดครู่หนึ่ง แอบเฝ้าดูสถานการณ์สักพักก็แล้วกัน ดูปฏิกิริยาในกลุ่มแล้วค่อยว่ากัน
แต่เขาก็ไม่รีรอเช่นกัน ดูสถานการณ์พลางมุ่งหน้าเข้าไปใกล้ตำแหน่งของเซียนกระบี่ชิงเหอด้วย เพื่อจะได้พร้อมลงมือทุกเมื่อ
ชิงจู๋จื่อ ‘ท่านชิงเหอ กระผมเพิ่งกายแห่งมรรคขั้นเจ็ด การต่อสู้แบบนี้กระผมเข้าร่วมไม่ได้ จนปัญญาจริงๆ’
ผู้รู้แจ้งเฮยหลิง “เช่นเดียวกัน กระผมเองก็กายแห่งมรรคขั้นเก้า สู้ใครไม่ได้ ท่านชิงเหอ สู้เขา!”
เซียนกระบี่ชื่อหง “พี่ชิงเหอ สำนักฉันก็กำลังเตรียมโจมตีเผ่าพันธุ์ปีศาจเหมือนกัน ในฐานะที่เป็นเจ้าสำนัก ปลีกตัวออกไปไม่ได้จริงๆ อดทนไว้!”
ผู้พิทักษ์ “ชิงเหอ ฉันยังอยู่อเมริกา ไปช่วยนายไม่ได้ อดทนไว้!”
นักพรตทั่นอวิ๋น “ฉันประชุมการโจมตีเผ่าพันธุ์ปีศาจอยู่ที่เขาหลงหู่ อดทนไว้!”
เซียนกระบี่ชิงเหออ่านถึงตรงนี้ ก็เจ็บปวดหัวใจ ‘…ราชาปีศาจไล่ตามอยู่ข้างหลังฉัน แต่นายยังจะไปประชุมการโจมตีเผ่าพันธุ์ปีศาจอีกเหรอ!’
นักพรตทั่นอวิ๋น ‘แต่จักรพรรดิปีศาจไม่อยู่นี่นา’
เซียนกระบี่ชิงเหอ ‘…’
อันหลิน “…”
จู่ๆ เขาก็รู้สึกเห็นใจเซียนกระบี่ชิงเหอเป็นอย่างมาก ท่าทางคำว่า ‘เซียนกระบี่ชิงเหอ ไปสู่สคตินะ’ เหล่าสหายในกลุ่มตั้งใจว่าจะใช้ให้ได้สินะ!
เซียนกระบี่ชิงเหอคิดว่าตัวเองเข้ากลุ่มนักพรตปลอมเสียอีก
เซียนจิ้งจอกแดง ‘ชิงเหอ ส่งพิกัดเรียลไทม์เข้ากลุ่ม ฉันจะช่วยนายเอง!’
เมื่ออันหลินเห็นข้อความนี้ก็ชะงัก เซียนจิ้งจอกแดงเป็นนักพรตระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นกลางของกลุ่ม ปกติมักจะออฟไลน์ แทบจะไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์อะไรในกลุ่มเลย
เขาเคยได้ยินชื่อของคนคนนี้มาจากเถียนหลิงหลิง ไม่คิดว่าเซียนจิ้งจอกแดงจะเป็นฝ่ายโผล่มาในเวลาแบบนี้
เซียนกระบี่ชิงเหอไม่พูดพร่ำทำเพลง ส่งพิกัดเรียลไทม์เข้ากลุ่มทันที
เซียนกระบี่พูดขึ้นมาทันควันว่า ‘ดี รอฉัน! ถ้าภารกิจเอาคืนครั้งนี้สำเร็จ ฉันขอศพเจ้าแห่งผีดูดเลือดนะ!’
เซียนกระบี่ชิงเหอ ‘ไม่มีปัญหา’
หลังเซียนจิ้งจอกแดงปรากฏตัว ในกลุ่มก็เดือดพล่านขึ้นมาอีกครั้ง
เซียนหญิงจิ้งซิน ‘หญิงงามช่วยวีรบุรุษ ชอบจังเลย!’
นักพรตมู่หนิว ‘ชอบจังเลย+1’
ผู้รู้แจ้งหลิวหลี ‘ชอบจังเลย+2’
…
เถียนหลิงหลิง ‘แต่งงานกันเลยดีกว่า!’
เทพพยากรณ์ผู้แม่นยำ ‘ฉันคำนวณดูแล้ว พรุ่งนี้เป็นวันมงคล’
เซียนหญิงเมิ่งอิน ‘สำนักเสียงบุปผาของเรา งดงามดุจภาพวาด ทุ่งดอกไม้บานสะพรั่ง เป็นสถานที่เหมาะแก่การจัดงานแต่งงาน’
ผู้พิทักษ์โลก ‘งานแต่งงั้นเหรอ ฉันจะไปด้วย ฉันจะบินกลับจากอเมริกาเดี๋ยวนี้เลย!’
…
นักพรตในกลุ่มจึงพากันโผล่หน้ามา บทสนทนาในกลุ่มเละเทะไม่เป็นชิ้นดีอีกครั้ง
เซียนกระบี่ชิงเหอ ‘…’
เซียนจิ้งจอกแดง ‘…’
เซียนจิ้งจอกแดงไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์ในกลุ่ม ก็เพราะว่าในกลุ่มมีแต่พวกบ้า พวกเขามักจะทำให้หัวข้อจริงจังออกนอกทะเลไปไกลหนึ่งแสนแปดพันลี้
หากว่าเธอคลุกคลีในกลุ่มมากไป จะกลายเป็นคนเสียสติได้เช่นกัน!
เมื่อมีการเข้าร่วมของเซียนจิ้งจอกแดง ความแตกต่างระหว่างกำลังของทั้งสองฝั่งก็ลดลง
อันหลินขบคิด บางทีเขาอาจจะพอช่วยเหลืออะไรได้บ้าง จึงพูดขึ้นในกลุ่มว่า
นักพรตจอมปลอมอันหลิน ‘เซียนกระบี่ชิงเหอ ฉันก็อยู่ละแวกนี้พอดี เดี๋ยวฉันจะไปช่วย’
เพิ่งสิ้นประโยคของเขา นักพรตทั้งหลายก็เริ่มต่อบทสนทนา
เถียนหลิงหลิง ‘นักพรตจอมปลอม ฉันว่านายถอนคำพูดให้ไวดีกว่า’
เซียนหญิงหยวนจื่อต้าน ‘ว้าว ช่างเป็นหลอดไฟ[1]ที่เจิดจ้าจริงๆ’
ผู้รู้แจ้งหลิวหลี ‘สหายอันหลิน นายต้องรู้จักช่วยสานฝันให้เป็นจริงนะ…’
เทพพยากรณ์ผู้แม่นยำ ‘ฮ่าๆ คิดว่าเซียนกระบี่ชิงเหอมีความคิดอยากบีบคอสหายอันหลินแล้วล่ะมั้ง’
…
อันหลินมองคำวิจารณ์ที่โจมตีด้วยวาจายาวเป็นพรวน ก็แทบจะร้องไห้แล้ว
ให้ตายสิ มันเรื่องอะไรกันอีกล่ะ
เขาแค่อยากไปช่วยเฉยๆ ทำไมถึงกลายเป็นคนบาปไปได้ล่ะ!
ขณะนั้นเอง เซียนกระบี่ชิงเหอก็พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า
เซียนกระบี่ชิงเหอ ‘สหายอันหลิน อย่าไปฟังเจ้าพวกบ้าพูดจาเหลวไหล ฝีมือของนายใช้ได้ มาช่วยกันได้ แต่เดี๋ยวตอนต่อสู้ รอให้เซียนจิ้งจอกแดงถึงก่อน ค่อยลุยพร้อมกันจะดีที่สุด’
นักพรตจอมปลอมอันหลิน ‘รับทราบ!’
อันหลินเป็นผู้แข็งแกร่งที่เป็นรองเพียงนักพรตหล่อเลี้ยงวิญญาณในอันดับเซียนเท่านั้น ความสามารถของเขานับว่าเป็นกลุ่มคนชั้นยอดในบรรดายอดฝีมือกายแห่งมรรคขั้นสิบ
หากว่ากันด้วยพลังต่อสู้ เทียบเคียงความสามารถที่ต่ำที่สุดของระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณแล้ว
ฉะนั้นการประมือกับราชาปีศาจระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นต้น แม้เขาจะไม่ชนะ แต่ก็ไม่มีทางถูกเล่นงานง่ายๆ
ด้วยเหตุนี้นี่เอง เขาถึงมีความมั่นใจจะไปช่วยเซียนกระบี่ชิงเหอ
สิบกว่านาทีต่อมา อันหลินก็มาถึงภูเขาใหญ่แห่งหนึ่ง
เขามองพิกัดเรียลไทม์ที่เซียนกระบี่ชิงเหอส่งมาในกลุ่ม
ระยะห่างระหว่างทั้งคู่ไม่ถึงสิบกิโลเมตรแล้ว
เซียนกระบี่ชิงเหอกำลังมุ่งหน้ามาทางที่เขาอยู่
พิกัดเรียลไทม์ของเซียนจิ้งจอกแดง ก็มาจากอีกทิศทางหนึ่ง กำลังพุ่งมาที่ตำแหน่งของเขาเช่นเดียวกัน
พับผ่าสิ! คงไม่ได้บังเอิญ จะมารวมตัวกันที่นี่หรอกนะ
อันหลินทำหน้าขึงขัง พรางลมหายใจโดยพลัน มองหาก้อนหินใหญ่แล้วซ่อนตัว…
บนท้องฟ้า มีเงาดำกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ชุดสีเขียวปลิวสะบัด เท้าเหยียบกระบี่บิน กำลังวาดก้อนเมฆสีขาวกลางอากาศ
สิ่งเดียวที่ทำลายบรรยากาศก็คือ เขากำมือถือ กำลังก้มหน้าก้มตาพิมพ์ไม่หยุด
เซียนกระบี่ชิงเหอ ‘สหายเซียนจิ้งจอกแดง เตรียมพร้อมหรือยัง พอเราเจอกันก็เอาคืนมันทันทีเลยนะ!’
เซียนจิ้งจอกแดง ‘รับทราบ!’
อันหลินหันมองไปทางท้องฟ้าอีกฝั่ง เซียนจิ้งจอกแดงน่าจะอยู่ห่างไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตรแล้ว แต่ทำไมถึงไม่เห็นเธอล่ะ
หรือ…เธอจะมาทางบก!
อันหลินก็พลันได้สติ ก็จริง หากว่ามาทางอากาศละก็ อาจถูกราชาปีศาจกับเจ้าแห่งผีดูดเลือดจับได้ ถึงตอนนั้นการเอาคืนคงไม่สำเร็จแล้ว
พลังปราณอันยิ่งใหญ่ห้าสายค่อยๆ รวมตัวกัน…
ไม่นาน อันหลินก็เห็นผู้หญิงร่างอรชรโลดแล่นในผืนป่า รวดเร็วอย่างยิ่ง
ผมยาวดำขลับของเธอปลิวว่อน ในมือถือคันธนูสีชาด แถบผ้าสีแดงรัดเอวคอดกิ่วของเธอ ข้างหลังมีหางสีแดงสามอันกำลังเคลื่อนไหว แลดูวิเศษยิ่งนัก
เมื่ออันหลินเห็นร่างนี้ ก็ทำหน้าตกใจ เซียนจิ้งจอกแดงเป็นจิ้งจอกจริงๆ งั้นเหรอ
เช่นนั้นก็จัดอยู่ในประเภทราชามารไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงอยู่ในกลุ่มนักพรตมนุษย์ล่ะ
เขาส่ายหน้าเป็นพัลวัน สลัดความสงสัยทิ้งไป ร่างกายเริ่มเกร็งขึ้นมา
เซียนจิ้งจอกแดงกับเซียนกระบี่ชิงเหอเริ่มมาบรรจบกัน
ตอนนี้เซียนกระบี่ชิงเหอแสร้งทำเป็นลดความเร็ว ทำให้ระยะห่างระหว่างเขากับศัตรูลดลง
ฟิ้ว!
จู่ๆ กระบี่บินใต้เท้าเซียนกระบี่ชิงเหอก็ลอยขึ้นมาอยู่ที่มือของเขา ระเบิดพลังออกมาอย่างมหาศาล ยกกระบี่ขึ้นแล้วฟันลงข้างหลัง!
ลำแสงสีเขียวยาวสิบจั้งดุจธารน้ำไหลย้อนขึ้น พุ่งไปหาราชาปีศาจที่อยู่ข้างหน้าสุดด้วยอานุภาพอันน่าตะลึง
ราชาปีศาจทระนงเมื่อเห็นเซียนกระบี่ชิงเหอไม่หนีแต่ตอบโต้ ก็สะดุ้งโหยง จึงใช้พลังวิเศษคุ้มกัน กำแพงทองแดงปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
ตูม!
ลำแสงระเบิด อานุภาพน่ากลัวทลายกำแพงทองแดง โจมตีร่างของราชาปีศาจทระนง ทำให้เขากระเด็นออกไป พร้อมกับกระอักเลือด
แม้ราชาปีศาจทระนงจะบาดเจ็บ แต่ใบหน้ากลับฉีกยิ้มชั่วร้าย “ในเมื่อเจ้าตอบโต้ ก็อย่าคิดว่าจะหนีไปได้!”
มีอีกสองเงาก็ตามมาถึงในขณะนั้นนั่นเอง!
เซียนจิ้งจอกแดงหยุดลง ง้างคันธนูเป็นรูปจันทร์เต็มดวง
พลังปราณซัดสาดรอบตัวเธออย่างรุนแรง ปนเปด้วยเปลวไฟมหาศาล
จากนั้น เปลวไฟก็เริ่มไหลไปรวมตัวกันบนสายธนู สุดท้ายก่อตัวเป็นธนูไฟ!
ฟิ้ว!
ธนูไฟพุ่งทะลุอากาศ ตรงไปหาราชาปีศาจทระนงด้วยพลังอันน่ากลัว
ราชาปีศาจทระนงเพิ่งได้รับบาดเจ็บเพราะเซียนกระบี่ชิงเหอ เมื่อเขารู้สึกถึงธนูไฟด้ามนั้น ทุกอย่างก็สายไปแล้ว
ธนูทะลวงร่างของเขา เปลวไฟแผดเผาร่างกายของเขา
“อ๊าก!”
ราชาปีศาจทระนงร้องโหยหวนร่วงหล่นลงพื้น
“ฟัค! มีคนดักซุ่ม!”
เงาทั้งสองบนอากาศระเบิดโทสะ ร่างหนึ่งพุ่งไปหาเซียนกระบี่ชิงเหอ อีกร่างกระโจนใส่เซียนจิ้งจอกแดง!
ใบหน้างดงามของเซียนจิ้งจอกแดงฉายความดีใจ เธอหันไปมองอันหลินที่ซ่อนอยู่หลังก้อนหิน จากนั้นชี้มือชี้ไม้ไปทิศทางที่ราชาปีศาจทระนงตกลงไป
อันหลินพยักหน้าอย่างมั่นใจ ยกมือขึ้นส่งสัญญาณ OK
ด้วยเหตุนี้ เซียนจิ้งจอกแดงจึงเริ่มพุ่งไปหาร่างนั้น
อันหลินหัวเราะหึๆ วิ่งไปทางราชาปีศาจทระนงอย่างบ้าคลั่ง
………………………….
[1] หลอดไฟ ในที่นี้หมายถึง ก้างขวางคอ
Related