แม้ว่ากวนจะกลับไปแล้วแต่เรื่องที่เขาบอกต่างก็ทำให้ทุกคนกดดัน
จักรพรรดิทั้งเก้า, เผ่าสวรรค์, เผ่าชีวิต, กุยหลิง, สมบัติโกลาหลและเรื่องอื่นๆต่างก็ทำให้ทุกคนอึ้ง
โลกของจ้าวโกลาหลนั้นน่าตื่นเต้นกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้
“ ไม่รู้ว่าข้าอยู่ระดับไหนในหมู่พวกนั้น ?” จางหยูพึมพำออกมา
กวนบอกข้อมูลเอาไว้มากมายแต่ไม่ได้พูดถึงการแบ่งระดับของจ้าวโกลาหล หรือว่าไม่ได้มีขั้นแบ่งแยกแบบชัดเจนงั้นรึ ?
จางหยูคิดว่าตอนนี้จักรพรรดิทั้งเก้านั้นคงแกร่งกว่าจ้าวโกลาหลทั่วไปอย่างมาก บางทีอาจจะสูงกว่าจ้าวโกลาหลด้วยซ้ำ ตั้งแต่จักรพรรดิจนถึงจ้าวโกลาหลทั่วไปนั้นไม่รู้ว่ามีขอบเขตแบ่งไว้ยังไง
จางหยูกวาดตามองรอบๆและเห็นว่าทุกคนต่างก็พากันตื่นเต้นและคาดหวัง
นี่คือโลกของจ้าวโกลาหล สำหรับพวกที่เป็นกึ่งจ้าวโกลาหลแล้วมันน่าสนใจอย่างมาก
ในทางกลับกันแล้วต้นไม้โกลาหลดูเหมือนจะไม่ได้ตื่นเต้นกับเรื่องนี้ การตายของซุนกวนคือสิ่งที่เขาสงสัย
เขารู้ดีว่าทะเลโกลาหลนั้นวิเศษและอันตรายแค่ไหน
นอกจากข้อดีเหล่านี้แล้วหากเจอกับกุยหลิงเข้า ฉากต่อมาต้องน่าอนาถอย่างมากแน่ๆ
โชคดีที่เขามีเวลาเตรียมตัว ตราบใดที่จ่ายลูกปัดดั้งเดิม งั้นเขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องภัยจากกุยหลิง
“ เจ้าสนใจจะไปที่โกลาหลซื่อเซียวรึ ?” จางหยูมองไปที่ต้นไม้โกลาหลแล้วถามขึ้นมา
ต้นไม้โกลาหลส่ายหน้าและพูดขึ้น “ ตอนนี้ยัง หน้าที่สำคัญคือการสร้างลูกปัด ”
เขาอยากรีบสร้างลูกปัดดั้งเดิมขึ้นมา เขาไม่อยากเดินเส้นทางเดียวกับซุนกวน
แต่เขาไม่เข้าใจ “ แปลก ทำไมสามคนนั้นถึงบอกว่าทุกคนเป็นขอบเขตการสร้างไร้จำกัดกัน ?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนก็สงสัยขึ้นมา พลังของทุกคนที่นี่ต่างก็ขึ้นเป็นกึ่งจ้าวโกลาหลกันแล้ว แต่กวนกลับบอกว่าพวกนี้เป็นแค่ขอบเขตการสร้างไร้จำกัด และยังกระตุ้นพวกเขาให้บ่มเพาะขึ้นเป็นกึ่งจ้าวโกลาหลด้วย สายตาของหัวหน้าหน่วยย่อยมีปัญหารึไง ?
“ เขาถือว่าเราเป็นขอบเขตการสร้างไร้จำกัด แม้แต่เจ้าสำนักเองก็ด้วย…” ทุกคนพากันแปลกใจ
แปลก !
“ ความแข็งแกร่งของพ่อบุญธรรมนั้นไร้เทียมทาน แม้แต่ข้าที่ขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลก็ยังมองระดับของท่านไม่ออก” ต้นโกลาหลพูดขึ้น “ ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงมองว่าท่านเป็นขอบเขตการสร้างไร้จำกัด ”
จางหยูคิด บางทีปัญหาอาจจะไม่ใช่เพราะกวน แต่เป็นร่างกายของพวกเขาเอง
ความแตกต่างระหว่างศิษย์อาจารย์สำนักคังเฉียง รวมไปถึงจางหยูกับต้นไม้โกลาหลก็คือรูปแบบขึ้นเป็นกึ่งจ้าวโกลาหล หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะ…สถานที่!
แม้ว่าโลกตันเถียนจะกำเนิดขึ้นมาในโกลาหลแห่งนี้ แต่ก็แยกตัวออกจากโกลาหล หรือแม้แต่แยกตัวออกจากทะเลโกลาหล ซึ่งศิษย์อาจารย์ขึ้นเป็นจ้าวบรรพกาลของโลกตันเทียน ไม่ใช่กึ่งจ้าวโกลาหลของทะเลโกลาหล ดังนั้นกวนจึงไม่รู้ว่าพวกนี้เป็นกึ่งจ้าวโกลาหลเพราะไม่เคยสัมผัสกับพวกนี้ การที่มองไม่ออกนั้นก็พอเข้าใจได้
แน่นอนว่ามันอาจจะเพราะกวนไม่ได้ใส่ใจพวกนี้จึงไม่ได้ตรวจสอบดูดีๆ
ด้วยความแข็งแกร่งของกวนแล้ว หากสนใจพวกนี้คงรับรู้ได้ถึงบางอย่าง
ตอนแรกไห่อู่เซิงก็รับรู้ได้ว่าพวกเขาเป็นกึ่งจ้าวโกลาหล ความแข็งแกร่งของกวนมากกว่าไห่อู่เซิงไม่รู้กี่เท่า สายตาของเขาต้องเหนือกว่าไห่อู่เซิงแน่ๆ
“ งั้นน่าจะยากที่จะตรวจสอบทุกคนได้หากไม่เพ่งสมาธิมากพอ” จางหยูพึมพำในใจ “ บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องดีสำหรับทุกคน”
จางหยูครุ่นคิดสักพักก็เรียกสติกลับมา เขาเห็นว่าทุกคนยังครุ่นคิดอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “ เอาล่ะ หากพวกเจ้าอยากไปที่ทะเลโกลาหล ก็จงใช้เวลาในการบ่มเพาะขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลให้ได้ ตอนนั้นพวกเจ้าถึงจะไปยังทะเลโกลาหลได้” หลังจากนั้นสักพัก จางหยูก็พูดขึ้นว่า “ เราได้รู้เรื่องราวมากมายในทะเลโกลาหลแล้ว ซึ่งมันก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ตอนนี้พวกเจ้าจะได้เตรียมตัวล่วงหน้าในการสร้างสมบัติโกลาหลขึ้นมา”
“ อาจารย์ แล้วลูกปัดดั้งเดิมล่ะ” หยวนเทียนจีถามขึ้นมา
ตามหลักการแล้วกึ่งจ้าวโกลาหลก็สามารถที่จะสร้างลูกปัดดั้งเดิมขึ้นมาได้ แต่ราคาที่ต้องใช้น่ะสูงมากกว่าราคาที่จ้าวโกลาหลต้องใช้ ยังไงซะกึ่งจ้าวโกลาหลก็อ่อนแอกว่าจ้าวโกลาหลอย่างมาก มันเป็นงานหนักสำหรับกึ่งจ้าวโกลาหล แม้แต่จ้าวโกลาหลก็ยังยากจะรับไหว มันยิ่งยากสำหรับกึ่งจ้าวโกลาหล “ ลูกปัดดั้งเดิม…เรายังไม่ต้องคิดถึงเรื่องนั้นในตอนนี้” จางหยูคิดสักพักแล้วพูดขึ้น “บางทีเราอาจจะไม่ต้องสนใจมันเลยก็ได้ ”
ต้องรู้ก่อนว่าคนที่เหลือต่างก็เป็นจ้าวบรรพกาลไม่ใช่จ้าวโกลาหล แม้ว่าทั้งสองจะไม่ต่างกันมาก แต่บรรพกาลไม่ได้อยู่ในโกลาหล กุยหลิงไม่ได้เป็นภัยต่อบรรพกาล เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่ต้องจ่าย
ในอีกความหมายคือศิษย์และอาจารย์ทุกคนไม่ต้องการการปกป้องจากเหล่าจักรพรรดิ คนที่เป็นภัยต่อพวกเขาได้ก็แค่จ้าวโกลาหลที่แกร่งกว่า !
“ ข้ากลับรู้สึกผิดขึ้นมา บางทีข้าไม่น่าจะทำแบบนี้เลย” ต้นไม้โกลาหลพูดขึ้นด้วยท่าทีหดหู่
แม้ว่าเขาจะอาศัยทางลัดในการก้าวกระโดดจากกึ่งจ้าวโกลาหลมาจ้าวโกลาหล แต่เขาก็ต้องจ่ายบางสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องจ่าย
ดูเหมือนว่าเขาจะนำหน้าทุกคน แต่มันจะกินเวลากี่ปีกัน เขาอาจจะด้อยกว่าทุกคนตอนไหนก็ได้
“ ที่เรารู้ข้อมูลล่วงหน้าก็เป็นเพราะเจ้า เป็นเจ้าไม่ใช่รึที่ทำให้กองทัพเทียนลั่วสนใจ ?” จางหยูตบไหล่ต้นไม้โกลาหลแล้วพูดขึ้นมา “เจ้าได้ช่วยทุกคนเอาไว้ ”
จางหยูกวาดตามองรอบๆแล้วพูดขึ้น “ เราจะใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดและขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล หากต้นไม้โกลาหลสร้างลูกปัดดั้งเดิมขึ้นมาครบ ข้าจะพาคนที่เป็นจ้าวโกลาหลไปยังทะเลโกลาหล”
จางหยูไม่เคยคิดจะเดินทางไปยังทะเลโกลาหลตอนนี้
จักรพรรดิทั้งเก้านั้นลึกลับและสถานการณ์ของจางหยูนั้นพิเศษ เขากลัวว่าเขาจะโดนจับได้และโดนสนใจโดยจักรพรรดิทั้งเก้า
เขาตัดสินใจจะพัฒนาตัวเองต่อ เมื่อศิษย์และอาจารย์ทุกคนขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล ความแข็งแกร่งของเขาก็จะเพิ่มขึ้นมาอีก จากนั้นค่อยคิดเดินทางในทะเลโกลาหล
นอกจากนี้แล้วเขาก็อยากใช้เวลานี้ในการศึกษาสมบัติโกลาหล เขาอยากรู้ว่าเขาจะสร้างมันขึ้นมาได้รึไม่
เมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้นก็พากันตื่นเต้นขึ้นมาทันที พวกเขาได้ใช้ความพยายามทั้งหมดที่มีและสาบานว่าจะต้องขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลให้ได้ ก่อนที่ต้นไม้โกลาหลจะสร้างลูกปัดครบ โลกของจ้าวโกลาหล ใครบ้างจะไม่สนใจ ?
แม้แต่เสี่ยวเสียก็ยังอยากไปที่นั่น
“สำหรับทะเลโกลาหลแล้ว ข้ารวมถึงศิษย์อาจารย์ของสำนักคังเฉียง คงไม่ต่างอะไรจากบัก” จางหยูเริ่มคาดการณ์ “ กลุ่มจ้าวโกลาหลที่ไม่ขึ้นตรงกับทะเลโกลาหล เมื่อเราเข้าไปในทะเลโกลาหล มันจะส่งผลแบบไหนต่อทะเลโกลาหลกันนะ?” ในเวลาเดียวกัน จางหยูก็สงสัยเกี่ยวกับจักรพรรดิทั้งเก้า “ จักรพรรดิเป็นตัวตนแบบไหนกัน ? ตัวตนพิเศษเหมือนกับข้ารึ ?”
จ้าวโกลาหลเหมือนกันแต่ทำไมคนอื่นถึงไม่อาจจะป้องกันตัวจากกุยหลิงได้ แต่จักรพรรดิทั้งเก้ากลับทำได้ ?
มันเพราะพวกนั้นแข็งแกร่งจนกุยหลิงไม่อาจจะทำอะไรพวกนั้นได้ หรือเป็นเพราะพวกนั้นเป็นตัวตนพิเศษที่มีสิทธิพิเศษที่จ้าวโกลาหลทั่วไปไม่รู้ ?
จางหยูส่ายหน้าไม่คิดเรื่องนี้ต่อ หลังจากนี้เขาคงได้เจอกับจักรพรรดิแล้วก็คงจะเข้าใจเอง
จางหยูสร้างรูหนอนขึ้นมาก่อนจะกลับไปยังโลกตันเถียน เขาเดินทางไปยังบรรพกาลของโลกบรรพกาลและพยายามสร้างสมบัติโกลาหลขึ้นมา
จักรพรรดิทั้งเก้า, เผ่าสวรรค์, เผ่าชีวิต, กุยหลิง, สมบัติโกลาหลและเรื่องอื่นๆต่างก็ทำให้ทุกคนอึ้ง
โลกของจ้าวโกลาหลนั้นน่าตื่นเต้นกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้
“ ไม่รู้ว่าข้าอยู่ระดับไหนในหมู่พวกนั้น ?” จางหยูพึมพำออกมา
กวนบอกข้อมูลเอาไว้มากมายแต่ไม่ได้พูดถึงการแบ่งระดับของจ้าวโกลาหล หรือว่าไม่ได้มีขั้นแบ่งแยกแบบชัดเจนงั้นรึ ?
จางหยูคิดว่าตอนนี้จักรพรรดิทั้งเก้านั้นคงแกร่งกว่าจ้าวโกลาหลทั่วไปอย่างมาก บางทีอาจจะสูงกว่าจ้าวโกลาหลด้วยซ้ำ ตั้งแต่จักรพรรดิจนถึงจ้าวโกลาหลทั่วไปนั้นไม่รู้ว่ามีขอบเขตแบ่งไว้ยังไง
จางหยูกวาดตามองรอบๆและเห็นว่าทุกคนต่างก็พากันตื่นเต้นและคาดหวัง
นี่คือโลกของจ้าวโกลาหล สำหรับพวกที่เป็นกึ่งจ้าวโกลาหลแล้วมันน่าสนใจอย่างมาก
ในทางกลับกันแล้วต้นไม้โกลาหลดูเหมือนจะไม่ได้ตื่นเต้นกับเรื่องนี้ การตายของซุนกวนคือสิ่งที่เขาสงสัย
เขารู้ดีว่าทะเลโกลาหลนั้นวิเศษและอันตรายแค่ไหน
นอกจากข้อดีเหล่านี้แล้วหากเจอกับกุยหลิงเข้า ฉากต่อมาต้องน่าอนาถอย่างมากแน่ๆ
โชคดีที่เขามีเวลาเตรียมตัว ตราบใดที่จ่ายลูกปัดดั้งเดิม งั้นเขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องภัยจากกุยหลิง
“ เจ้าสนใจจะไปที่โกลาหลซื่อเซียวรึ ?” จางหยูมองไปที่ต้นไม้โกลาหลแล้วถามขึ้นมา
ต้นไม้โกลาหลส่ายหน้าและพูดขึ้น “ ตอนนี้ยัง หน้าที่สำคัญคือการสร้างลูกปัด ”
เขาอยากรีบสร้างลูกปัดดั้งเดิมขึ้นมา เขาไม่อยากเดินเส้นทางเดียวกับซุนกวน
แต่เขาไม่เข้าใจ “ แปลก ทำไมสามคนนั้นถึงบอกว่าทุกคนเป็นขอบเขตการสร้างไร้จำกัดกัน ?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนก็สงสัยขึ้นมา พลังของทุกคนที่นี่ต่างก็ขึ้นเป็นกึ่งจ้าวโกลาหลกันแล้ว แต่กวนกลับบอกว่าพวกนี้เป็นแค่ขอบเขตการสร้างไร้จำกัด และยังกระตุ้นพวกเขาให้บ่มเพาะขึ้นเป็นกึ่งจ้าวโกลาหลด้วย สายตาของหัวหน้าหน่วยย่อยมีปัญหารึไง ?
“ เขาถือว่าเราเป็นขอบเขตการสร้างไร้จำกัด แม้แต่เจ้าสำนักเองก็ด้วย…” ทุกคนพากันแปลกใจ
แปลก !
“ ความแข็งแกร่งของพ่อบุญธรรมนั้นไร้เทียมทาน แม้แต่ข้าที่ขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลก็ยังมองระดับของท่านไม่ออก” ต้นโกลาหลพูดขึ้น “ ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงมองว่าท่านเป็นขอบเขตการสร้างไร้จำกัด ”
จางหยูคิด บางทีปัญหาอาจจะไม่ใช่เพราะกวน แต่เป็นร่างกายของพวกเขาเอง
ความแตกต่างระหว่างศิษย์อาจารย์สำนักคังเฉียง รวมไปถึงจางหยูกับต้นไม้โกลาหลก็คือรูปแบบขึ้นเป็นกึ่งจ้าวโกลาหล หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะ…สถานที่!
แม้ว่าโลกตันเถียนจะกำเนิดขึ้นมาในโกลาหลแห่งนี้ แต่ก็แยกตัวออกจากโกลาหล หรือแม้แต่แยกตัวออกจากทะเลโกลาหล ซึ่งศิษย์อาจารย์ขึ้นเป็นจ้าวบรรพกาลของโลกตันเทียน ไม่ใช่กึ่งจ้าวโกลาหลของทะเลโกลาหล ดังนั้นกวนจึงไม่รู้ว่าพวกนี้เป็นกึ่งจ้าวโกลาหลเพราะไม่เคยสัมผัสกับพวกนี้ การที่มองไม่ออกนั้นก็พอเข้าใจได้
แน่นอนว่ามันอาจจะเพราะกวนไม่ได้ใส่ใจพวกนี้จึงไม่ได้ตรวจสอบดูดีๆ
ด้วยความแข็งแกร่งของกวนแล้ว หากสนใจพวกนี้คงรับรู้ได้ถึงบางอย่าง
ตอนแรกไห่อู่เซิงก็รับรู้ได้ว่าพวกเขาเป็นกึ่งจ้าวโกลาหล ความแข็งแกร่งของกวนมากกว่าไห่อู่เซิงไม่รู้กี่เท่า สายตาของเขาต้องเหนือกว่าไห่อู่เซิงแน่ๆ
“ งั้นน่าจะยากที่จะตรวจสอบทุกคนได้หากไม่เพ่งสมาธิมากพอ” จางหยูพึมพำในใจ “ บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องดีสำหรับทุกคน”
จางหยูครุ่นคิดสักพักก็เรียกสติกลับมา เขาเห็นว่าทุกคนยังครุ่นคิดอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “ เอาล่ะ หากพวกเจ้าอยากไปที่ทะเลโกลาหล ก็จงใช้เวลาในการบ่มเพาะขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลให้ได้ ตอนนั้นพวกเจ้าถึงจะไปยังทะเลโกลาหลได้” หลังจากนั้นสักพัก จางหยูก็พูดขึ้นว่า “ เราได้รู้เรื่องราวมากมายในทะเลโกลาหลแล้ว ซึ่งมันก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ตอนนี้พวกเจ้าจะได้เตรียมตัวล่วงหน้าในการสร้างสมบัติโกลาหลขึ้นมา”
“ อาจารย์ แล้วลูกปัดดั้งเดิมล่ะ” หยวนเทียนจีถามขึ้นมา
ตามหลักการแล้วกึ่งจ้าวโกลาหลก็สามารถที่จะสร้างลูกปัดดั้งเดิมขึ้นมาได้ แต่ราคาที่ต้องใช้น่ะสูงมากกว่าราคาที่จ้าวโกลาหลต้องใช้ ยังไงซะกึ่งจ้าวโกลาหลก็อ่อนแอกว่าจ้าวโกลาหลอย่างมาก มันเป็นงานหนักสำหรับกึ่งจ้าวโกลาหล แม้แต่จ้าวโกลาหลก็ยังยากจะรับไหว มันยิ่งยากสำหรับกึ่งจ้าวโกลาหล “ ลูกปัดดั้งเดิม…เรายังไม่ต้องคิดถึงเรื่องนั้นในตอนนี้” จางหยูคิดสักพักแล้วพูดขึ้น “บางทีเราอาจจะไม่ต้องสนใจมันเลยก็ได้ ”
ต้องรู้ก่อนว่าคนที่เหลือต่างก็เป็นจ้าวบรรพกาลไม่ใช่จ้าวโกลาหล แม้ว่าทั้งสองจะไม่ต่างกันมาก แต่บรรพกาลไม่ได้อยู่ในโกลาหล กุยหลิงไม่ได้เป็นภัยต่อบรรพกาล เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่ต้องจ่าย
ในอีกความหมายคือศิษย์และอาจารย์ทุกคนไม่ต้องการการปกป้องจากเหล่าจักรพรรดิ คนที่เป็นภัยต่อพวกเขาได้ก็แค่จ้าวโกลาหลที่แกร่งกว่า !
“ ข้ากลับรู้สึกผิดขึ้นมา บางทีข้าไม่น่าจะทำแบบนี้เลย” ต้นไม้โกลาหลพูดขึ้นด้วยท่าทีหดหู่
แม้ว่าเขาจะอาศัยทางลัดในการก้าวกระโดดจากกึ่งจ้าวโกลาหลมาจ้าวโกลาหล แต่เขาก็ต้องจ่ายบางสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องจ่าย
ดูเหมือนว่าเขาจะนำหน้าทุกคน แต่มันจะกินเวลากี่ปีกัน เขาอาจจะด้อยกว่าทุกคนตอนไหนก็ได้
“ ที่เรารู้ข้อมูลล่วงหน้าก็เป็นเพราะเจ้า เป็นเจ้าไม่ใช่รึที่ทำให้กองทัพเทียนลั่วสนใจ ?” จางหยูตบไหล่ต้นไม้โกลาหลแล้วพูดขึ้นมา “เจ้าได้ช่วยทุกคนเอาไว้ ”
จางหยูกวาดตามองรอบๆแล้วพูดขึ้น “ เราจะใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดและขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล หากต้นไม้โกลาหลสร้างลูกปัดดั้งเดิมขึ้นมาครบ ข้าจะพาคนที่เป็นจ้าวโกลาหลไปยังทะเลโกลาหล”
จางหยูไม่เคยคิดจะเดินทางไปยังทะเลโกลาหลตอนนี้
จักรพรรดิทั้งเก้านั้นลึกลับและสถานการณ์ของจางหยูนั้นพิเศษ เขากลัวว่าเขาจะโดนจับได้และโดนสนใจโดยจักรพรรดิทั้งเก้า
เขาตัดสินใจจะพัฒนาตัวเองต่อ เมื่อศิษย์และอาจารย์ทุกคนขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล ความแข็งแกร่งของเขาก็จะเพิ่มขึ้นมาอีก จากนั้นค่อยคิดเดินทางในทะเลโกลาหล
นอกจากนี้แล้วเขาก็อยากใช้เวลานี้ในการศึกษาสมบัติโกลาหล เขาอยากรู้ว่าเขาจะสร้างมันขึ้นมาได้รึไม่
เมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้นก็พากันตื่นเต้นขึ้นมาทันที พวกเขาได้ใช้ความพยายามทั้งหมดที่มีและสาบานว่าจะต้องขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลให้ได้ ก่อนที่ต้นไม้โกลาหลจะสร้างลูกปัดครบ โลกของจ้าวโกลาหล ใครบ้างจะไม่สนใจ ?
แม้แต่เสี่ยวเสียก็ยังอยากไปที่นั่น
“สำหรับทะเลโกลาหลแล้ว ข้ารวมถึงศิษย์อาจารย์ของสำนักคังเฉียง คงไม่ต่างอะไรจากบัก” จางหยูเริ่มคาดการณ์ “ กลุ่มจ้าวโกลาหลที่ไม่ขึ้นตรงกับทะเลโกลาหล เมื่อเราเข้าไปในทะเลโกลาหล มันจะส่งผลแบบไหนต่อทะเลโกลาหลกันนะ?” ในเวลาเดียวกัน จางหยูก็สงสัยเกี่ยวกับจักรพรรดิทั้งเก้า “ จักรพรรดิเป็นตัวตนแบบไหนกัน ? ตัวตนพิเศษเหมือนกับข้ารึ ?”
จ้าวโกลาหลเหมือนกันแต่ทำไมคนอื่นถึงไม่อาจจะป้องกันตัวจากกุยหลิงได้ แต่จักรพรรดิทั้งเก้ากลับทำได้ ?
มันเพราะพวกนั้นแข็งแกร่งจนกุยหลิงไม่อาจจะทำอะไรพวกนั้นได้ หรือเป็นเพราะพวกนั้นเป็นตัวตนพิเศษที่มีสิทธิพิเศษที่จ้าวโกลาหลทั่วไปไม่รู้ ?
จางหยูส่ายหน้าไม่คิดเรื่องนี้ต่อ หลังจากนี้เขาคงได้เจอกับจักรพรรดิแล้วก็คงจะเข้าใจเอง
จางหยูสร้างรูหนอนขึ้นมาก่อนจะกลับไปยังโลกตันเถียน เขาเดินทางไปยังบรรพกาลของโลกบรรพกาลและพยายามสร้างสมบัติโกลาหลขึ้นมา