พันล้าน ซื่อเซียวพูดขึ้นมา
เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ จางหยูก็เงียบไปทันที
สมกับเป็นจักรพรรดิ ลูกปัดดั้งเดิม 1 พันล้านลูก ดูเหมือนไม่ได้มีค่าอะไรเลย
หากค่าตอบแทนสูงแบบนี้ จางหยูก็รีบตกลงทันที ตกลง !
บางทีลูกปัดดั้งเดิมพันล้านลูกอาจจะไม่ได้มีค่าอะไรสำหรับจักรพรรดิ แต่สำหรับคนของสำนักคังเฉียงแล้วมันคือตัวเลขมหาศาล !
ลูกปัดดั้งเดิมแทบไม่ได้ช่วยอะไรจางหยู แต่สำหรับร่างแยกอื่นๆรวมถึงศิษย์กับอาจารย์แล้ว มันจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้พวกเขาอย่างมาก
หากลูกปัดพันล้านลูกนี้ถูกดูดซับไปทั้งหมดแล้ว งั้นความแข็งแกร่งโดยรวมของสำนักคังเฉียงก็จะเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น
เยี่ยม จางหยูไม่แม้แต่จะต่อรองใดๆตอนนี้เขาถือว่าเป็นจักรพรรดิ การที่เรียกร้องลูกปัดมากเกินไปก็อาจจะทำให้ซื่อเซียวสงสัยได้
ถึงจะเสียลูกปัดดั้งเดิมไปมาก แต่ซื่อเซียวก็ไม่ได้ใส่ใจ แต่ถ้าหากจางหยูสนใจเรื่องนี้เกินไปก็อาจจะทำให้ซื่อเซียวสงสัยได้
เมื่อเห็นว่าจางหยูยอมตกลง ซื่อเซียวก็ต้องแปลกใจแต่ก็พอใจอย่างมาก ดี งั้นข้าจะจ่ายมันให้กับเจ้า
เขาโยนแหวนมิติให้กับจางหยูด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ
จางหยูรับแหวนมิติเอาไว้แล้วพูดขึ้น ทีมคังเฉียงจะไปประจำที่เขตซื่อเซียวในไม่ช้า ข้าหวังว่าเจ้าจะดูแลพวกเขาอย่างดี
ไม่ต้องกังวล ข้าจะดูแลทีมคังเฉียงเป็นอย่างดี ซื่อเซียวหัวเราะออกมา
ดูแลงั้นหรือ ?
เขาไม่ได้คิดจะดูแลทีมคังเฉียง เขาแค่อยากเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของทีมคังเฉียงต่างหาก
เมื่อตกลงร่วมมือกันแล้ว ข้าคงต้องขอตัว ซื่อเซียวไม่สนใจจะอยู่ที่สำนักคังเฉียงต่อ เขาพูดจบก็รีบเดินทางกลับไปทันที
จางหยูกำแหวนมิติไว้ในมือก่อนจะยิ้มออกมา ซื่อเซียว เจ้าอาจจะคิดไม่ถึงว่าลูกปัดพวกนี้มีความหมายต่อสำนักคังเฉียงยังไง …
อันที่จริงแล้วลูกปัดเหล่านี้ไม่อาจจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับจางหยูโดยตรง แต่สำหรับร่างแยกของเขากับคนอื่นๆแล้วมันจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งได้อย่างมาก
การเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับคนเหล่านี้ก็จะทำให้บรรพกาลขยายตัวขึ้นไปอีก ซึ่งนั่นก็หมายความว่าความแข็งแกร่งของจางหยูก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วย
มองโดยผิวเผินแล้วลูกปัดดั้งเดิมนี้ไม่ได้มีค่าอะไรกับจางหยู แต่อันที่จริงแล้วจางหยูน่ะคือคนที่ได้ประโยชน์ที่สุด ! โชคร้ายที่ซื่อเซียวไม่รู้เรื่องนี้ เขาคงไม่คิดว่าการโยนเหยื่อล่อให้สำนักคังเฉียงกลับทำให้สำนักคังเฉียงแข็งแกร่งขึ้นไปอีก!
ดูเหมือนพวกเจ้าคงไม่อาจจะไปยังเขตซื่อเซียวในเร็วๆนี้ เมื่อซื่อเซียวกลับไปแล้ว จางหยูก็ได้บอกกับร่างแยกและคนของสำนักคังเฉียง ลูกปัดพันล้านลูกนี้พวกเจ้าต้องดูดซับมันให้หมดในเวลาอันสั้น
ทุกคนต่างก็พากันตื่นเต้นขึ้นมา
จักรพรรดิซื่อเซียวให้ลูกปัดกับเรารึ ?
เกิดอะไรขึ้นกัน ?
ไม่ใช่ว่าเขามาหาเรื่องเรารึไง ? ทำไมเขาถึงให้ของขวัญกับเราแทน ?
เจ้าสำนักแข็งแกร่งซะจนแม้แต่จักรพรรดิก็ยังต้องยอมประนีประนอมเลยงั้นรึ ?
จางหยูไม่ได้อธิบายอะไรออกมา เขาแค่แจกลูกปัดให้กับทุกคนก่อนจะกลับไปยังทะเลบรรพกาลเพื่อสร้างสมบัติต่อ เขาไม่ได้เก็บลูกปัดไว้ใช้เอง แต่เขาให้ร่างแยกใช้มันแทน
ยังไงซะซื่อเซียวก็อยากให้ทีมคังเฉียงร่วมมือด้วย ดังนั้นลูกปัดเหล่านี้จึงไม่ใช่ของจางหยูเพียงคนเดียว
นอกจากนี้แล้วจางหยูก็ไม่คิดจะสนใจลูกปัดเหล่านี้ เพราะหากความแข็งแกร่งของทุกคนเพิ่มขึ้น ก็ไม่ต่างจากความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นด้วย
หากซื่อเซียวรู้ว่าลูกปัดที่ให้มา จางหยูกลับยกมันให้กับคนอื่นในสำนักแทน ซื่อเซียวจะรู้สึกยังไง ?
ต้องรู้ก่อนว่าร่างแยกทั้งหมดของเขากำลังจะไปยังเขตซื่อเซียวอยู่แล้ว ตอนนี้เมื่อได้ลูกปัดมาแล้วก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน แทนที่จะทำตามเป้าหมายเดิม แต่ซื่อเซียวกลับเลื่อนเวลาที่จะไปยังเขตซื่อเซียวให้พวกเขา
แต่ซื่อเซียวคิดว่าการตัดสินใจของเขานั้นฉลาดอย่างมากแล้ว ที่เขตซื่อเซียว
ไม่มีใครรู้เรื่องความขัดแย้งระหว่างซื่อเซียวกับทีมคังเฉียงแม้แต่น้อย ไม่มีใครู้ว่าซื่อเซียวต้องการจะกำจัดจางหยู พวกเขารู้แค่ว่า ซื่อเซียวให้ความสำคัญกับทีมคังเฉียงอย่างมาก เขาให้ความสำคัญกับทีมคังเฉียงมากกว่ากองทัพเสียอีก มันทำให้ผู้คนมากมายอยากผูกสัมพันธ์กับทีมคังเฉียง แม้ว่ายากที่จะเป็นสมาชิกของทีมคังเฉียงได้แต่ได้เป็นแค่กองกำลังสำรองก็ทำให้พวกเขาพอใจมากแล้ว
ที่หมู่บ้านเสี่ยวอันมีผู้คนมากมายเดินทางเข้ามา หมู่บ้านที่เคยเงียบเหงาแต่ตอนนี้กลับมีตึกอาคารมากมายถูกสร้างขึ้นมา ถนนกว้างขึ้นหลายเท่า มันมีร้านค้า, โรงประมูลและตึกต่างๆเพิ่มขึ้น ด้วยร้านค้าที่เพิ่มขึ้นมานี้ก็ดึงดูดผู้คนมากขึ้นไปด้วย ตระกูลและองค์กรต่างๆล้วนมาตั้งสำนักงานกันอยยู่ที่นี่
หมู่บ้านที่เงียบเหงาและไม่มีใครสนใจ ตอนนี้กลับกลายเป็นเป้าสายตาของทุกคนแต่สิ่งที่ทุกคนรอคอยคือเมื่อไหร่ที่ทีมคังเฉียงจะปรากฏตัวขึ้นมา !
เวลาผ่านไปช้าๆ 1 วัน, 2 วัน…
ผู้คนมากมายได้ไปรวมตัวกันที่หมู่บ้านเล็กๆ ทุกคนต่างก็จับตาดูสถานการณ์ในหมู่บ้านเสี่ยวอัน พวกเขารอคอยให้ทีมคังเฉียงปรากฏตัวขึ้น แต่ทีมคังเฉียงนั้นราวกับหายไปจากโลก มันไม่มีวี่แววว่าพวกเขาจะโผล่มาเลย
ในพริบตาก็ผ่านไปกว่าหมื่นปี ความสงบของหมู่บ้านเสี่ยวอันก็ค่อยๆคืนกลับมา พวกที่หมดความอดทนได้พากันกลับไปทีละคน นิกายและตระกูลใหญ่ล้วนหมดความสนใจไป…
หมู่บ้านเสี่ยวอันได้กลับไปสงบสุขดังเดิมแต่จำนวนคนเมื่อเทียบกับตอนแรกก็เพิ่มขึ้นกว่าพันเท่า ส่วนมากแล้วยังรออยู่ พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาทนความโดดเดี่ยวนี้ได้ ในไม่ช้าพวกเขาก็จะได้พบกับทีมคังเฉียง ถึงมันจะยาวนาน…แต่วันนั้นก็น่าจะมาถึงในไม่ช้า เมื่อไม่ได้รับความสนใจจากทั้งเขตซื่อเซียว แรงกดดันที่ลั่วเกาได้รับก็ลดลงไปอย่างมาก
การที่หมู่บ้านเสี่ยวอันได้รับความสนใจนั้นก็ทำให้ลั่วเกาดีใจมาก เพราะมันหมายถึงการพัฒนาของหมู่บ้าน แต่เมื่อจำนวนคนเข้ามามากเกินไป ก็สร้างแรงกดดันให้กับลั่วเกา เพราะยิ่งมีคนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความขัดแย้งมากขึ้นเท่านั้น ลั่วเกาเป็นแค่ผู้ดูแล เขาจะกล้าไปมีเรื่องกับพวกระดับสูงหรือมียศตำแหน่งสูงๆได้อย่างไร?
เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นมา ไม่ว่าลั่วเกาจะจัดการยังไง มันก็ต้องมีคนไม่พอใจอยู่ดี
เรื่องนี้ทำให้ลั่วเกาทั้งอับอายและกดดันอย่างมาก !
โชคยังดีที่คนส่วนมากพากันกลับไปแล้ว แม้ว่าจะมีคนส่วนหนึ่งเลือกที่จะอยู่ต่อ แต่หมู่บ้านนี้ก็กลับคืนสู่ความสงบ ลั่วเกา ไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้ใครผิดใจ
ไม่คิดเลยว่าจักรพรรดิจะจับตาดูที่นี่ ลั่วเกาใจสั่น ตอนที่ทีมเทพปิศาจกำเนิดขึ้นมา ก็ไม่ได้ทำให้เกิดเรื่องใหญ่แบบนี้ขึ้น ทีมเทพปิศาจนั้นพัฒนามาจากทีมธรรมดา แม้ว่าจะสร้างตำนานขึ้นมาจนทำให้คนมากมายต้องเคารพ แต่ก็ด้อยกว่าเรื่องของทีมคังเฉียง มันไม่ได้สร้างความวุ่นวายในเวลาอันสั้นแบบนี้
ในตอนที่ลั่วเกาเดาต้นกำเนิดของทีมคังเฉียงอยู่นั้น หัวหน้ายามสือฉีก็ได้เข้ามารายงานด้วยความกังวล ท่านลั่วเกา มีเรื่องเกิดขึ้นขอรับ !
ลั่วเกาสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เกิดอะไรขึ้นอีก ? ใครทะเลาะกัน ?
ไม่ใช่ สือฉีพูดขึ้น กวนต่างหาก ! ไม่รู้ว่ากวนสู้กับใครมา เขาบาดเจ็บหนัก จิตของเขาแทบแตกสลายแล้ว…
หากจิตสลายไป งั้นจ้าวโกลาหลก็ต้องตายไปด้วย มันไม่มีโอกาสที่จะฟื้นคืนชีพได้อีก
ลั่วเกาขมวดคิ้ว กวนไปหาเรื่องใครมา ? ’ ด้วยความแข็งแกร่งของกวนแล้ว ไม่มีใครเป็นภัยต่อเขาได้ นอกซะจากว่าจะเผชิญหน้ากับยอดฝีมือจริงๆ
เขาอยู่ไหน ? พาข้าไปหาเขา ลั่วเกาแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา เขาชื่นชมกวนอย่างมาก เขาไม่อยากให้กวนตาย