ทุกคนต่างก็มีสิ่งที่แตะต้องไม่ได้ของตัวเอง
ซึ่งสิ่งที่แตะต้องไม่ได้ของกวนก็คือคนของหมู่บ้านเสี่ยวอันและกองทัพเทียนลั่ว
หนึ่งคือบ้านเกิด สองคือเพื่อนร่วมรบ สองอย่างนี้คือสิ่งที่แตะต้องไม่ได้สำหรับเขา
ไม่ต้องกังวล แม้ว่าสักวันสำนักคังเฉียงจะเป็นศัตรูกับเขตซื่อเซียว แต่ข้าจะไม่ให้เจ้าจัดการกับหมู่บ้านเสี่ยวอันและเพื่อนร่วมรบของเจ้า จางลู่มองไปที่กวนแล้วพูดขึ้น ศัตรูของเจ้าอาจจะเป็นกองทัพสังเกตการณ์ , กองทัพซื่อเซียวรึแม้แต่ จักรพรรดิซื่อเซียว แบบนี้เจ้าจะยังกล้าเข้าร่วมสำนักคังเฉียงอีกรึไม่ ?
เมื่อได้ยินแบบนั้นสือฉีก็ใจสั่นและเหงื่อชุ่มไปทั้งตัว
กวนได้ยินตอนแรกก็อึ้ง จากนั้นเขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดขึ้น ทำไมจะไม่ตกลง ?
แม้ว่าเขาจะลังเล แต่เมื่อจางลู่กล้าพูดแบบนี้ออกมา เขาก็กล้าตกลง
ในเมื่อมีหวังที่จะเดินตามเส้นทางที่ตัวเองคาดหวังได้ แล้วทำไมต้องสนใจจักรพรรดิซื่อเซียวกัน ?
แม้แต่ความตายเขาก็ไม่กลัว แล้วยังจะกลัวอะไรอีก?
ดีมาก จางลู่พยักหน้าด้วยความพอใจ เมื่อเจ้ารับปากแล้ว ข้าก็จะทำตามที่พูด
เขาได้บอกกับจางหยู หลังจากที่จางหยูอนุญาตแล้ว เขาก็หันไปบอกกับสือฉี รบกวนหัวหน้าสือฉีออกจากที่นี่ก่อน
สือฉีไม่อาจจะอยู่ต่อได้ เขากลัวว่าสิ่งที่ได้ยินจากจางลู่จะน่าตกใจกว่านี้ เมื่อได้ยินที่จางลู่บอกมา เขาก็รีบออกจากที่นั่นทันที เขารีบออกจากบ้านมาราวกับกำลังหนีจากปีศาจ เมื่อเขาออกมานอกบ้านแล้ว เขากลับเหงื่อชุ่มไปทั้งตัวราวกับเพิ่งผ่านความตายมา
หลังจากที่สือฉีออกไปแล้ว จางลู่ก็ได้สร้างรูหนอนขึ้นมา ก่อนจะบอกกับกวนว่า นี่คือรูหนอน อีกฝั่งของมันคือที่ที่เจ้าจะได้คำตอบที่เจ้าต้องการ
กวนอึ้ง เขตซื่อเซียวเป็นมิติปิด มีแค่จักรพรรรดิซื่อเซียวเท่านั้นที่เปิดช่องทางขึ้นได้ ในทางทฤษฎีแล้วหากไม่ได้รับอนุญาตจากจักรพรรรดิซื่อเซียว ก็ไม่มีใครสร้างรูหนอนแบบนี้ขึ้นมาได้ นอกซะจากว่าความแข็งแกร่งจะเหนือว่าจักรพรรรดิซื่อเซียว ถึงจะทำได้
แต่มันเป็นไปได้ด้วยรึ ?
ตัดความเป็นไปได้ที่สองทิ้ง งั้นก็เหลือแค่อันแรกเพียงอย่างเดียว
จักรพรรดิซื่อเซียวให้ความสำคัญกับเจ้าสำนักถึงเพียงนี้เลยรึ ? กวนยากจะเชื่อได้ เขาให้เจ้าสำนักสร้างรูหนอนขึ้นมาในเขตซื่อเซียวทันที…
ต้องรู้ก่อนว่าในประวัติศาสตร์นั้นเขตซื่อเซียวแล้วไม่มีใครได้สิทธิ์นั้นมาก่อน
นี่คือสิทธิ์สูงสุด
กวนส่ายหน้าไม่คิดต่อ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วเดินเข้าไปในรูหนอนทันที ก่อนจะหายตัวไป
หลังจากที่กวนจากไปแล้ว เจ้าสำนักก็ได้พูดขึ้น จักรพรรรดิซื่อเซียวไม่น่าจะรับรู้สินะ ?
รู้แล้วยังไง ? จางลู่ไม่ได้ใส่ใจ หรือเขาจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับพวกเราเพื่อหัวหน้าหน่วยที่ไร้ประโยชน์ไปแล้วนะหรือ ?
ความว่างเปล่าพยักหน้า ข้าก็คิดเช่นนั้น
พวกเขาไม่อยากเผยความสามารถในการสร้างรูหนอนในเขตซื่อเซียวง่ายๆ แต่มันไม่จำเป็นต้องที่จะต้องระวังตัวตลอดเวลา ยังไงซะตราบใดที่ไม่ได้สร้างรูหนอนไปหาจักรพรรรดิซื่อเซียว งั้นเดาว่าแม้ว่าจักรพรรรดิซื่อเซียวจะสงสัย แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมาหาเรื่องพวกเขาได้ในตอนนี้
เราจะไปไหนกันต่อ ? เจ้าสำนักถามขึ้นมาทันที
ทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายก่อน ความว่างเปล่าพึมพำออกมา เรารับค่าจ้างจากจักรพรรรดิซื่อเซียวมาแล้ว เราต้องทำภารกิจเพื่อไว้หน้าเขา…
….
ที่ทะเลบรรพกาล
กวนได้ปรากฏตัวขึ้นในทะเลบรรพกาลทันทีเมื่อออกมาจากรูหนอน
นี่คือทะเลโกลาหลงั้นรึ ? กวนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก เขาแผ่การรับรู้ออกไปแต่ก็พบว่ารอบตัวของเขานั้นแปลกประหลาดอย่างมาก มันไม่มีเขตซื่อเซียวเหมือนที่เขาจำได้ มันราวกับเป็นทะเลโกลาหลที่เขาไม่รู้จัก แปลก นี่มันที่ไหนกัน ?
เขาสงสัยว่ารูหนอนนั้นเชื่อมต่อกับสักที่ในทะเลโกลาหลอย่างแน่นอน แต่ไม่ได้อยู่ในเขตซื่อเซียว
ตอนที่กวนสับสนอยู่นั้น จางหยูก็ได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า มันทำให้กวนถึงกับสะดุ้ง
เจ้าสำนัก กวนรีบทำความเคารพทันที
ยิ่งเขาได้พบกับจางหยูเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าจางหยูไร้เทียมทานมากเท่านั้น
จางหยูมองไปที่กวนและแสดงสายตาประหลาดใจออกมา แต่มันอยู่แค่เพียงชั่วครู่ โดยที่กวนไม่ทันได้สังเกต
เขายิ้มให้กับกวนและพูดขึ้น ยินดีต้อนรับเข้าสู่ทะเลบรรพกาล
ทะเลบรรพกาลงั้นรึ ? กวนแปลกใจ ท่านหมายถึงอะไร ? นี่ไม่ใช่ทะเลโกลาหลใช่หรือไม่ ?
มันคือทะเลโกลาหล แต่มีความแตกต่างระหว่างทะเลโกลาหลที่เจ้ารู้จักกับที่นี่ จางหยูไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก เจ้าเข้าใจว่านี่คือทะเลโกลาหลอีกที่ก็ได้ มันไม่เหมือนทะเลโกลาหลที่อยู่ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิทั้งเก้า และมันไม่ได้อยู่ในมิติเดียวกัน
กวนสับสนขึ้นมา เขาไม่เข้าใจว่าจางหยูพูดถึงอะไร
มันยากที่จะอธิบาย เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ เจ้าแค่ต้องรู้ว่าเมื่อเจ้ามาที่นี่ ปัญหาของเจ้าจะแก้ไขได้ จางหยูพูดขึ้น
กวนตื่นเต้นขึ้นมาทันที มันเป็นไปได้จริงๆงั้นรึ ?
แม้จะได้ยินจางหยูพูดด้วยตัวเอง แต่กวนก็ยังไม่อาจจะเชื่อได้ แก่นของเขาที่พังไปแล้วจะฟื้นฟูกลับมาได้จริงๆรึ ?
จางหยูหัวเราะออกมา เรื่องแก่นนั้นสามารถจัดการได้ง่าย แต่จิตน่ะค่อนข้างจัดการได้ยาก จิตของเผ่าสวรรค์ได้เปรียบกว่าเผ่าชีวิตตรงที่ มันมีความสามารถในการซ่อน จิตเผ่าสวรรค์นั้นมีข้อได้เปรียบที่ดีมาก หากไม่ได้อยู่ในทะเลบรรพกาล ข้าคงไม่ทันสังเกตเห็น สีหน้าของกวนเปลี่ยนไปทันที เจ้าสำนักหมายถึงอะไร?
เขารู้สึกแย่ขึ้นมา
ตอนที่กวนพูดจบ จิตเส้นหนึ่งก็แยกออกมาจากตัวเขา
เมื่อไม่มีจิตนี้คอยยับยั้ง กวนก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาอย่างมาก อารมณ์หดหู่และอารมณ์ด้านลบได้ถูกปลดปล่อยออกมา
เจ้า…เจ้าคือคนที่โจมตีข้า เจ้าคือคนทรยศ ! กวนมองไปที่จิตนั้นด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจิตนี่จะมาซ่อนอยู่ในตัวเขา แม้ว่าจะผ่านมานานแต่เขากลับไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย
จิตนี้ไม่ได้สนใจกวน และรีบสร้างร่างขึ้นมาก่อนจะกลายเป็นมนุษย์นก
มันมองไปที่จางหยูด้วยสีหน้าหม่นหมอง ไม่คิดเลยว่าหัวหน้าทีมคังเฉียงจะมีความสามารถเช่นนี้ เพียงแค่มองก็สามารถรับรู้ถึงการซ่อนตัวของข้าได้ในพริบตา
เรื่องนี้เจ้าก็เห็นด้วยตาตัวเองไปแล้วนี่? จางหยูไม่ได้ใส่ใจ บอกเป้าหมายของการซ่อนตัวในจิตของกวนมา
มนุษย์นกฮึดฮัดออกมา ข้าอยากยึดร่างของชายคนนี้ ไม่คิดเลยว่าถึงจะบาดเจ็บหนัก แต่จิตของเขาก็ยังแข็งแกร่งจนยากจะควบคุมได้ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นข้าก็มีโอกาสยึดร่างเขาได้ เด็กนี่ไม่รู้เลยว่าโชคดีแค่ไหนที่ได้ยาที่ล้ำค่าแบบนั้นมา ดังนั้นจิตของเขาจึงฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว สุดท้ายข้าก็หมดหนทางและต้องซ่อนตัวอยู่ในจิตของเขาเพื่อไม่ให้ถูกพบตัว…
กวนมองไปที่มนุษย์นกด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ ในใจเขาเกิดความกลัวขึ้นมา
เขาไม่รู้เลยว่าในจิตของเขาจะมีจิตของคนทรยศซ่อนอยู่
แค่คิดก็ทำให้เขาตัวสั่นได้แล้ว
เอาล่ะ เจ้าลงมือได้แล้ว มนุษย์นกพูดขึ้น แต่เมื่อเจ้าพบตัวข้า ข้าก็ไม่คิดจะอยู่ต่อหรอก
เขาพึ่งจิตที่แข็งแกร่งสร้างร่างขึ้นมา ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้มีไม่ถึงครึ่งเมื่อเทียบกับตอนที่สมบูรณ์ นี่ไม่ต้องพูดถึงจางหยูที่อาจจะเป็นถึงแม่ทัพเลย แม้แต่ผู้บัญชาการใหญ่ทั่วไปก็จัดการเขาได้ง่ายๆ
แต่จางหยูไม่ได้รีบกำจัดอีกฝ่าย เขาได้ถามขึ้นมาแทน เจ้าคิดจะยึดร่างกวน เจ้ามีจุดประสงค์อะไรกัน ?
แน่นอนว่าลอบเข้าไปในกองทัพเทียนลั่วเพื่อหาข้อมูล ข้าจะสร้างปัญหาให้กับกองทัพเทียนลั่ว มนุษย์นกไม่ลังเลและตอบกลับ คำถามง่ายๆแบบนี้จำเป็นต้องถามอยู่อีกรึ ?
การโกหกเป็นเรื่องที่ไม่ดีเลยนะ จางหยูพูดขึ้น
แค่ระดับผู้บัญชาการใหญ่ของเผ่าสวรรค์ คิดจะมาตบตาเขาได้ยังไง ? ดูเหมือนว่าใช้วิธีธรรมดาคงไม่ได้ผล จางหยูยิ้มออกมา
มนุษย์นกยังแสดงสีหน้าเฉยเมยและพูดขึ้น วิธีอะไรก็ใช้มาเถอะ
ตอนที่เข้ามาในเขตซื่อเซียว เขาก็เตรียมใจที่จะตายแล้ว แม้ว่าจะโดนทรมานแต่ก็ไม่มีทางบอกเนื้อหาของภารกิจ
จางหยูยิ้มออกมาก่อนที่เสียงของเขาจะทุ้มขึ้น พลังผันผวนแผ่ออกมาปกคลุมมนุษย์นก บอกข้ามา ว่าเป้าหมายในการเข้ามาในเขตซื่อเซียวของเจ้าคืออะไร !
นี่คือทักษะหลอกลวงในตำนาน มันได้ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง !