ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1920 : เยี่ยมเยียน

    จินหยางครั้งนี้เจ้าไม่อาจจะส้างเกราะขึ้นมาได้ก็จริง แต่ข้าจะจ่ายให้เจ้าเอง  เก่อเย่ไม่อยากใส่ใจเรื่องนี้และรีบตัดปัญหาทันที เขาคิดจะไล่ทีมนภาออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด

  สำหรับความสูญเสียแล้ว นอกจากต้องโทษตัวเองที่โชคร้ายแล้วเขาจะทำอะไรได้ ?

  จ่ายให้เขารึ ?

  เมื่อได้ยินแบบนั้น จินหยางก็โล่งอกตราบใดที่เก่อเย่ไม่หาเรื่องเขา เขาก็ต้องขอบคุณพระเจ้าแล้ว

  จางลู่ยกนิ้วโป้งให้กับเก่อเย่และชมออกมา   ท่านเก่อเย่ นี่ใจกว้างจริงๆ ! 

  คนของเขาทำผิดพลาดเอง เขาที่เป็นแม่ทัพก็ต้องชดใช้ไม่ใช่รึ ?

  ปากของเก่อเย่กระตุก เขารู้สึกว่าคำพูดของจางลู่นั้นเหมือนกับเยาะเย้ยเขาอยู่

  หากไม่ใช่เพราะจางลู่และคนอื่นๆเคยรังแกเขาแล้ว งั้นทำไมเขาต้องใช้เงินมากมายในการสร้างเกราะนี้ขึ้นมา ?

  เขาใช้ความคิดและทรัพยากรไปมากมายจนถึงจุดที่ถอยกลับไม่ได้แล้วเพื่อสร้างเกราะระดับสูงที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์

  เก่อเย่ไม่กล้าคิดอะไรต่อ ยิ่งคิดเท่าไหร่เขาก็ยิ่งปวดใจมากเท่านั้น

    พวกท่านพูดตลกเกินไปแล้ว  เก่อเย่พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง เขากลัวว่าหาพูดต่อไปเขาจะเป็นบ้า   หากไม่มีอะไรแล้ว งั้นข้าขอส่งพวกท่านก่อน 

  จางลู่พูดขึ้นมา   ไม่ต้องรีบร้อนไป  เขามองไปที่เก่อเย่   มันไม่ง่ายที่จะมายังโถงกองสังทัพเกตการณ์ ท่านเก่อเย่จะไม่พาเราเยี่ยมเยียนรอบๆหน่อยรึ ? 

  เก่อเย่อยากจะถามออกมาว่า   เจ้าอยากไปไหนอีก? เจ้ามีอะไรต้องดูที่นี่รึไง? 

  แต่เขาก็ไม่กล้าจะพูดออกมา เขาไม่กล้าไล่พวกนี้ เขาไม่มีความกล้าพอจะปฏิเสธจางลู่และคนอื่นๆ

    ได้ ….งั้นเชิญ  เก่อเย่ได้แต่ตกลง เมื่อคนเหล่านี้อยากเยี่ยมชมโถงกองสังเกตการณ์ งั้นเขาก็จะพาพวกนี้ไป

  ลั่วเซียงลังเลและขัดขึ้นมา   ท่านแม่ทัพ นี่…มันผิดกฎไม่ใช่รึ ? 

    นี่คือโถงกองทัพสังเกตการณ์ ข้าคือกฎ  เก่อเย่พูดขึ้นมา   เมื่อท่านจางลู่และคนอื่นๆสนใจที่นี่ งั้นข้าก็จะพาพวกเขาไปดูรอบๆ หากมีใครคัดค้านก็ให้มาหาข้าโดยตรง หากจักรพรรดิซื่อเซียว จะว่ากล่าวข้า งั้นข้าจะรับไว้เอง  

  ระหว่างที่พูดนั้นเขาก็มองไปที่จางลู่ แต่เขาก็ต้องผิดหวังที่จางลู่ทำราวกับไม่ได้ยินอะไรและไม่ได้แสดงท่าทีใดๆออกมา

  เขาคิดว่าคำพูดของเขาจะทำให้พวกนี้ล้มเลิกความคิดนี้แต่เขาคิดผิดไป จางลู่และคนอื่นๆไม่ได้สนใจซื่อเซียวแม้แต่น้อย  ในเวลาเดียวกัน ลั่วเซียงก็ได้แต่ปิดปากเงียบ ไม่กล้าจะพูดอะไรอีก

    งั้น…  จินหยางลังเลขึ้นมา   ข้าขอตัวก่อน 

  จางลู่ตบไหล่จินหยางและพูดขึ้น   ไม่ต้องกังวลไป เมื่อเรามาที่นี่ด้วยกันก็ไปด้วยกันเถอะ 

  เจ้าสำนักพยักหน้าและพูดขึ้น   เกราะนั้นยังสร้างไม่เสร็จ ภารกิจของเราก็ยังไม่เสร็จสิ้นด้วย เราค่อยกลับไปด้วยกัน 

    นี่….พวกท่านยังคิดจะสร้างมันต่อรึ ?  จินหยางพูดและมองไปที่เก่อเย่

    เมื่อท่านจางลู่และคนอื่นๆเต็มใจจะช่วย งั้นทำไมเจ้าถึงจะปฏิเสธล่ะ ?  เก่อเย่มองไปที่จินหยาง   แม้ว่าจะสร้างเกราะที่ดีขึ้นมาไม่ได้แต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรไม่ใช่รึ ? 

  นี่เป็นการชี้ทางให้กับจินหยาง

  เมื่อเก่อเย่พูดแบบนั้น จินหนางก็ไม่กังวลและพยักหน้าตอบรับ   ที่ท่านเก่อเย่ พูดมามีเหตุผล 

  จางลู่ยิ้มออกมา  ไปเถอะ ท่านเก่อเย่ ครั้งนี้ต้องรบกวนท่านพาเราเยี่ยมชมที่นี่ด้วย 

  เจ้าสำนัก, ความว่างเปล่า และคนอื่นๆพากันเผยท่าทีสนใจโถงกองสังเกตการณ์ขึ้นมา

  เก่อเย่ ไม่เข้าใจ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพวกนี้ถึงได้สนใจโถงกองทัพสังเกตการณ์นักแต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ยังไงซะเรื่องกล่องกระบี่นั้นทั้งเขตซื่อเซียวก็มีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ หลายคนเป็นสมาชิกของกองทัพสังเกตการณ์และโดนเขากำจัดไปแล้ว เขาไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลจะรั่วไหลออกไป เขาไม่คิดว่าจางลู่และคนอื่นๆจะมาที่นี่เพื่อกล่องกระบี่

  เมื่อออกมานอกห้องทดสอบ เก่อเย่ก็ได้พากจางลู่กับคนอื่นๆไปยังตึกที่อยู่ข้างๆ

    นี่คือห้องสอบสวน  พวกเขาเดินไปที่ตึกที่ใกล้ที่สุด   พวกท่านคงเห็นได้ว่าแต่ละชั้นนั้นกว้างอย่างมากและมีพื้นที่แยกส่วน ส่วนมากถูกจับจองโดยผู้พิพากษา บางส่วนเอาไว้ขังพวกเผ่าสวรรค์  เก่อเย่พูดขึ้นอย่างใจเย็น  คนเหล่านี้บางคนเป็นคนของเผ่าสวรรค์ บางคนเป็นคนทรยศของเรา บางคนโดนต้องสงสัยว่าโดนเข้าสิง… 

  แน่นอนว่านี่แค่คำพูดของเก่อเย่เท่านั้น ความจริงเป็นยังไงนั้นกลัวว่าคงมีแค่คนในกองทัพสังเกตการณ์เท่านั้นที่รู้

  เมื่อเข้าเยี่ยมชมห้องสอบสวนเสร็จ เก่อเย่ก็พาจางลู่กับคนอื่นๆไปยังตึกอีกแห่งและพูดขึ้น   นี่คือห้องลงโทษ พวกที่มีหลักฐานมัดตัวพอจะโดนตัดสินที่นี่ ห้องลงโทษนี้แบ่งตามระดับความผิด บางอันกำจัดทิ้ง บางอันขังไว้ชั่วคราวจนกว่าจะครบเวลาถึงปล่อยตัว มีกรณีพิเศษที่ต้องโดนทรมานด้วย… 

  นายพลทั่วไปไม่มีสิทธิ์เข้ามาที่นี่ ทุกคนจะถูกส่งไปยังห้องสอบสวนก่อน ไม่ว่าคนผิดจะเป็นคนเผ่าสวรรค์รึจ้าวจโกลาหลทั่วไปกตาม

  ที่นี่ไม่ได้สนใจฐานะรึความแข็งแกร่งของเขา ไม่ว่าจะแข็งแกร่งรึมีอำนาจแค่ไหนก็ไม่อาจจะหนีจากเงื้อมมือของกองทัพสังเกตการณ์ได้

  จางลู่และคนอื่นๆเดินตัดผ่านสวนมาด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ ภายนอกพวกเขาแค่แสร้งทำเป็นสนใจที่นี่ก็เท่านั้น

  สิ่งที่พวกเขาอยากรู้คือ เก่อเย่ซ่อนกล่องกระบี่ไว้ที่ไหน

  เก่อเย่เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นและระวังตัว เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเอาของสำคัญแบบนั้นไว้ห่างตัว มันเป็นไปได้ที่เขาจะเอากล่องกระบี่มาซ่อนไว้ที่นี่ สำหรับว่ามันอยู่ที่ไหนก็คงต้องตรวจสอบดูดีๆถึงจะรู้ แต่ตอนนี้จางลู่และคนอื่นๆไม่เห็นแม้แต่เงาของกล่องกระบี่เลย

  เมื่อเห็นจางลู่และคนอื่นๆทำตัวราวกับจักรพรรดิที่เดินเยี่ยมชม เก่อเย่ก็ไม่พอใจอย่างมาก   เสแสร้งจริงๆ ! หากคิดอาศัยจำนวนคนที่มากกว่าก็อาจจะทำแบบนี้ได้ ….ไม่งั้นแล้วข้าคงไม่ต้องมาเสแสร้งเช่นนี้ ! 

  ในความเห็นของเขาแล้ว หากสู้กันจริงๆแล้วแต่ละคนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา  แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้สมบัติแต่เขาก็มั่นใจว่าจะเอาชนะพวกนี้ได้ !

  แต่คนเหล่านี้ไม่ค่อยมีเหตุผล พวกนี้ไม่คิดจะพูดคุยก่อนและไม่เปิดโอกาสให้เขาได้สู้อย่างเสมอภาค !

    แล้วตึกตรงหน้าล่ะ ?  เมื่อออกมาจากห้องลงโทษ จางลู่ก็มองไปที่ตึกตรงหน้าแล้วถามขึ้นมา   ตึกนั้นดูต่างจากตึกอื่นๆ 

  เก่อเย่แสดงสีหน้าจริงจังออกมา   นั่นคือคลังข้อมูลของกองทัพสังเกตการณ์ มันคือส่วนที่เป็นความลับที่สุด มีข้อมูลของจ้าวโกลาหลมากมายรวมถึงคนที่โด่งดังเก็บไว้ที่นี่ นอกจากนี้แล้วก็ยังมีข้อมูลของจักรพรรดิคนอื่นๆทั้งของมนุษย์และเผ่าสวรรค์ด้วย อีกทั้งยังมีข้อมูลพวกเผ่าสวรรค์ที่แข็งแกร่งด้วย ด้วยข้อมูลที่เรามี คลังแห่งนี้ได้บันทึกเรื่องราวสำคัญไว้มากมาย 

    คลังนี้คือส่วนที่สำคัญที่สุดของโถงกองทัพสังเกตการณ์ แม้แต่ในเขตซื่อเซียวก็มีแค่รองแม่ทัพและแม่ทัพทั้งสามที่มีสิทธิ์เข้าไปได้  เก่อเย่พูดขึ้น

  จางลู่ตาเป็นประกายขึ้นมา   คลังข้อมูลรึ ? 

    เราเข้าไปได้รึไม่ ?  เจ้าสำนักถามขึ้นมา

  เก่อเย่ได้แต่ยิ้มแห้งๆ เขารู้สึกว่าเขาเพิ่งเผยจุดอ่อนของตัวเองออกไป

  เขาลังเลและพูดขึ้นมา   นี่..ข้าเกรงว่ามันคงไม่สะดวก 

    ไม่สะดวกรึ ? 

    คลังข้อมูลนี้สำคัญอย่างมาก มันเกี่ยวข้องกับผู้คนในทุกด้านรวมถึงความปลอดภัยของเขตซื่อเซียวด้วย  เก่อเย่พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง   จักรพรรดิได้สั่งการเองว่าห้ามคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปที่นี่ แม้แต่สามสุดยอดนายพลของเราก็ต้องมาขอข้าก่อนถึงจะเข้าไปได้ ข้าเองก็ไม่ได้เข้าไปที่นี่ง่ายๆนัก 

  เขามองไปที่จางลู่และคนอื่นๆก่อนจะขอโทษออกมา   ที่อื่นนั้นข้าพาพวกท่านไปได้แต่ที่นี่ข้าไม่อาจจะทำอะไรผิดพลาดได้ ไม่งั้นแล้วจักรพรรดิจะถือโทษข้า ข้าไม่อาจจะรับผลกระทบได้ นอกซะจากว่าพวกท่านจะได้รับอนุญาตจากจักรพรรดิ… 

  พูดไปแล้วเก่อเย่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

  คำพูดของเขาชัดเจนอยู่แล้ว

  เขาไม่มีทางพาจางลู่และคนอื่นๆเข้าไปในคลังแห่งนี้นอกซะจากว่าจักรพรรดิจะออกปาก

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ระบบเจ้าสำนักจางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์ หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก” เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้ ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน... ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการบ่มเพาะ ขอบเขตฉีซวน ระดับ 1-9 ขอบเขตว่อซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตตันซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตหลิงซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตหลี่ซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตตุ้นซวน ระดับต่ำ กลาง สูง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset