ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1928 : ทะเลบรรพกาล

    ไม่ใช่แบบนั้นรึ ?  ซื่อเซียวมองไปที่จางหยูด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ   เจ้าเป็นถึงจักรพรรดิแต่กลับต้องการจะยืมลูกปัดดั้งเดิม ? 

  ลูกปัดดั้งเดิมนั้นเป็นของที่จักรพรรดิทุกคนต้องมีอยู่แล้วไม่ใช่รึ ?

  ต้องรู้ก่อนว่าลูกปัดดั้งเดิมส่งผลต่อจักรพรรดิเพียงน้อยนิด คือแค่ให้พวกเขารักษาความเป็นระเบียบของโกลาหลเอาไว้ได้

  เพื่อจะรักษาความเสถียรของโกลาหลแล้ว พวกเขาจึงใช้ลูกปัดดั้งเดิมแต่ไม่ได้ใช้มันมากเท่าไหร่นัก

  ที่อื่นลูกปัดดั้งเดิมอาจจะมีประโยชน์บ้าง ส่วนใหญ่ใช้ในกองทัพและเมืองและเอาใช้แทนเงิน แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ยังเหลืออีกมาก ลูกปัดที่เหลือนั้นจะถูกเก็บเอาไว้ และสุดท้ายก็เพิ่มพูนเป็นจำนวนมหาศาล

  ซื่อเซียวไม่รู้ว่าลูกปัดดั้งเดิมของตนมีมากแค่ไหน เพราะมันมากเกินไปจนไม่อาจจะนับได้ เขาไม่ได้คิดจะนับ และบางทีมันอาจจะมี

  พันล้าน ?

  ล้านล้าน ?

  ไม่ซื่อเซียวมีลูกปัดดั้งเดิมมากกว่านั้น

  ไม่ใช่แค่ซื่อเซียวเท่านั้น แต่จักรพรรดิคนอื่นๆเองก็มีลูกปัดดั้งเดิมมหาศาลเช่นกัน

  แม้ว่าจะใช้ลูกปัดดั้งเดิมจนหมดแต่ตราบใดที่ต้องการ พวกเขาก็สามาถหาลูกปัดดั้งเดิมมาได้นับไม่ถ้วนอยู่ดี

  ซื่อเซียวไม่รู้จริงๆว่าทำไมจางหยูที่เป็นจักรพรรดิถึงไม่มีลูกปัดดั้งเดิม

  จนตอนนี้เขาก็ยังเชื่อว่าจางหยูเป็นจักรพรรดิคนอื่นปลอมตัวมา แต่จางหยูเสแสร้งเก่งเกินไปจนเขาไม่อาจจะมองช่องโหว่ของอีกฝ่ายได้

    เอิ่ม..  อยู่ๆ ซื่อเซียวก็เปลี่ยนท่าที   รึว่าคนในทีมคังเฉียงใช้ลูกปัดดั้งเดิมที่ข้าให้ไปหมดแล้ว ? เจ้าใช้ลูกปัดทั้งหมดเพื่อสร้างทีมคังเฉียงขึ้นมารึ ? 

  เมื่อคิดถึงแม่ทัพรวมถึงนายพลอีกจำนวนมากซื่อเซียวก็พอเข้าใจได้

  จางหยูยังไม่ทันได้ตอบกลับ ซื่อเซียวก็แสดงสีหน้ามั่นใจออกมา   เจ้าคงใช้ลูกปัดเหล่านั้นในการสร้างทีมคังเฉียงขึ้นมา ! ไม่แปลกเลยที่ทีมคังเฉียงจะมีแม่ทัพ, รองแม่ทัพและนายพลมากแบบนี้ได้… 

  ถ้าเขาเอาลูกปัดทั้งหมดออกมาใช้เพื่อสร้างกองกำลัง งั้นเขาก็อาจจะได้ทีมที่แข็งแกร่งเหมือนกับทีมคังเฉียงขึ้นมา

  แต่มันแค่ว่ามันต้องใช้เวลานาน มันเป็นการเสียเวลาเปล่า และต้องใช้พลังงานอย่างมาก เขาจึงไม่คิดจะสนใจมัน

  ไม่มีใครที่สมควรได้รับการดูแลจากจักรพรรดิ

    ข้าไม่เข้าใจ ทีมคังเฉียงมีอะไรพิเศษถึงทำให้เจ้าดูแลพวกเขาดีแบบนี้ ?  ซื่อเซียวมองไปที่จางหยูแล้วถามขึ้นมา   กลุ่มมดเหล่านั้นคู่ควรกับการดูแลของเจ้ารึ ? 

  สำหรับจักรพรรดิแล้ว พวกที่ต่ำกว่าจักรพรรดิล้วนแต่เป็นมด

  บางทีแม่ทัพหนึ่งรึสองคนที่โดดเด่นอาจจะได้รับการชื่นชมจากพวกเขารึอาจจะให้สมบัติระดับสมบูรณ์กับพวกนั้น แต่นั่นก็แค่ไม่กี่คน มันคือคนแบบจินหงเท่านั้นที่จะพอมีค่าในสายตาของจักรพรรดิบ้าง

    พวกเขาไม่ใช่มดในสายตาของข้า  จางหยูตอบกลับ

  เขาไม่คิดอธิบายอะไรต่อเรื่องค่าของคนเหล่านี้เพราะถึงเขาจะอธิบายไป แต่ซื่อเซียวก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

  เขามองไปที่ซื่อเซียวแล้วพูดขึ้น   เจ้าบอกมาว่าเจ้าจะให้ข้ายืมรึไม่ ? 

  ซื่อเซียวกรอกตาใส่แล้วพูดขึ้น   หากข้าให้เจ้ายืมลูกปัดก็ทำได้ แต่เจ้าต้องตอบคำถามข้ามาก่อน      คำถามอะไร ? 

    เจ้าเป็นใครกันแน่ ?  ซื่อเซียวมองไปที่จางหยูแล้วถามขึ้นมา  เย่าหยาง? หว่านเกอรึอู่หมิงกัน ? 

  เขาตัดสินได้แล้วว่าจางหยูน่าจะเป็นจักรพรรดิมนุษย์ ไม่งั้นแล้วจางหยูคงไม่มีทางบ่มเพาะแม่ทัพมนุษย์ขึ้นมาได้ขนาดนี้

  แต่จางหยูจะเป็นใครนั้น ซื่อเซียวก็ไม่อาจจะเดาออกได้เพราะสามคนนี้ล้วนแต่มีบุคลิกต่างกับจางหยูสิ้นเชิง

  จางหยูส่ายหน้าและพูดขึ้น   คำถามนี้ข้าตอบเจ้าตามจริงได้ ข้าไม่ใช่หนึ่งในเก้าจักรพรรดิเหล่านั้น แต่ข้าเป็นจักรพรรดิคนที่ 10 

    ไม่มีทาง  ซื่อเซียวเถียงขึ้นมาทันที   มันมีแค่จักรพรรดิเพียง 9 คนเท่านั้นในทะเลโกลาหล นี่คือกฎของทะเลโกลาหล ไม่อาจจะมีใครฝ่าฝืนกฎนี้ได้ … เจ้าคิดจะโกหกข้ารึไง 

    เจ้าบอกว่ากฎของทะเลโกลาหล แต่หาก…ข้าไม่ใช่จักรพรรดิของทะเลโกลาหลล่ะ ?  จางหยูถามขึ้นมา

  นี่คือสิ่งที่ต้องพูด เพราะจางหยูมีเรื่องกับฉิวหวังแล้ว บางทีเขาอาจจะได้ข้อมูลจากปากซื่อเซียวเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาก็ได้

    ไม่ใช่ของทะเลโกลาหลรึ ?  ซื่อเซียวสับสน   เจ้าหมายถึงอะไรกัน ? 

    หมายความตามที่พูดนั่นแหละ  จางหยูพูดขึ้นอย่างใจเย็น

    ทะเลโกลาหลคือต้นกำเนิดของทุกสิ่ง เจ้าคิดจะบอกข้าว่านอกจากทะเลโกลาหลแล้วยังมีที่อื่นอยู่อีกรึ ?  ซื่อเซียว คิ้วขมวดและฮึดฮัดออกมาทันที   อย่าพูดถึงด้านนอกเลย แม้แต่ด้านนอกทะเลโกลาหลก็ถือว่าเป็นส่วหนึ่งของที่นี่ … 

  จางหยูยิ้มออกมา   แต่มันคือความจริง ด้านนอกทะเลโกลาหลนั้นสักแห่งจะมีที่แห่งหนึ่งที่เจ้าเรียกมันว่าทะเลบรรพกาลรึอาจจะมองว่าเป็นทะเลโกลาหลอีกแห่ง    จางหยูไม่ได้สนใจซื่อเซียวที่อึ้งอยู่และพูดต่อ   ทะเลโกลาหลมีจักรพรรดิได้ 9 คน ส่วนทะเลบรรพกาลนั้นก็มีจักรพรรดิของทะเลบรรพกาลเช่นกัน…เจ้าจะคิดว่าข้าเป็นจักรพรรดิของทะเลบรรพกาลก็ได้รึอาจจะมองว่าเป็นจักรพรรดิของทะเลโกลาหลอีกแห่งก็ได้… 

  ความจริงของเรื่องนี้ส่งผลต่อซื่อเซียวอย่างมาก มันถึงกับพลิกการรับรู้ของซื่อเซียว

  เขาไม่อาจจะเชื่อได้   ด้านนอกทะเลโกลาหลนั้นยังมีทะเลโกลาหลอื่นอยู่อีกรึ ? 

  ในฐานะจักรพรรดิแล้ว เขารู้จักทะเลโกลาหลนี้เป็นอย่างดี เท่าที่เขาจำได้ ทะเลโกลาหลนั้นคือต้นกำเนิดของทุกอย่าง

    ทำไม เจ้าไม่เชื่อรึไง ?  จางหยูถามขึ้นมา

    ข้าไม่เชื่อ  ซื่อเซียวไม่ลังเลที่จะแสดงจุดยืนของตัวเอง มันเป็นไปไม่ได้ที่ความเชื่อที่เขามีจะพังลงเพราะคำพูดไม่กี่คำของจางหยู นี่ไม่ต้องพูดถึงการที่เขาเป็นจักรพรรดิ ความเชื่อมั่นของจักรพรรดินั้นเหนือกว่าคนทั่วไป

  จางหยูไม่ได้แปลกใจแม้แต่น้อย หากซื่อเซียวบอกว่าเชื่องั้นก็คงแปลก

    เจ้าไม่เชื่อก็ไม่แปลกหรอก ยังไงซะมันก็ดูน่าเหลือเชื่ออยู่ดี   จางหยูยิ้มออกมา   แต่… 

  พูดไปแล้วจางหยูก็เผยท่าทีลึกลับออกมา   หากข้ายืนยันได้ว่ามันมีทะเลบรรพกาลอยู่จริงล่ะ ? 

  มันได้เวลาที่จักรพรรดิในทะเลโกลาหลจะได้เห็นทะเลบรรพกาลแล้ว

  ซื่อเซียวมองไปที่จางหยูด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ  เจ้าคิดจะหลอกข้ารึ ? 

    ข้าพาเจ้าไปยังบรรพกาลได้ เจ้ากล้าพอรึไม่   จางหยูทำท่าเหมือนจะหัวเราะออกมา

    ทำไมจะไม่กล้า ?  ซื่อเซียวไม่เชื่อคำพูดของจางหยูแม้แต่น้อย เขาหรี่ตาลงและพูดขึ้น   ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะเสกทะเลบรรพกาลขึ้นมาได้ หากเจ้าทำได้ข้าจะนับถือเจ้า 

  จางหยูมองไปที่ซื่อเซียว   ข้าจะให้เจ้าได้เห็นตัวตนของทะเลบรรพกาล 

  เมื่อพูดจบที่ด้านหน้าของจางหยูก็มีวังวนก่อตัวขึ้นมา วังวนนี้ราวกับหลุมดำที่ไม่อาจจะมองเห็นอีกฝั่งได้ มันดูลึกลับอย่างมาก

    มากับข้าสิหากเจ้ากล้าพอ  จางหยูเดินตรงเข้าไปในวังวน

  ซื่อเซียวสีหน้าเปลี่ยนไปก่อนที่สุดท้ายจะพูดขึ้นมาด้วยท่าทีเย็นชา   ฮึ่ม แต่งเรื่องเก่งนัก 

  ต่อมาเขาก็เดินเข้าไปในวังวนตามจางหยูเข้าไปยังโลกบรรพกาล

  เขาอยู่ในโลกบรรพกาลได้แค่วินาทีเดียวก็ตามจางหยูออกไปด้านนอก เข้าไปยังทะเลบรรพกาล

    ยินดีต้อนรับสู่ทะเลบรรพกาล  จางหยูยิ้มออกมา

  ซื่อเซียวมองไปรอบๆแล้วยิ้มออกมา   นี่ไม่ใช่ทะเลโกลาหลรึ ? เจ้าคิดจะหลอกข้ารึไง ? 

    เจ้ามั่นใจรึว่านี่คือทะเลโกลาหล ?  จางหยูหัวเราะออกมา   เจ้าลองตรวจสอบดูดีๆ หากเจ้าพบอะไรที่เป็นเหมือนกับทะเลโกลาหลงั้นก็ถือว่าเจ้าชนะ 

  ซื่อเซียวลองตรวจสอบดูทันที ยิ่งตรวจสอบเท่าไหร สีหน้าของเขาก็ยิ่งดูเคร่งเครียดมากเท่านั้น สายตาของเขาสะท้อนความสงสัยออกมา

  บรรพกาลโดยรอบนั้นแปลก ไม่ว่ามันจะเป็นที่ไหนก็ต่างจากทะเลโกลาหลที่เขาจำได้ และที่สำคัญไปกว่านั้นคือทะเลบรรพกาลนี้ไม่ได้มีคลื่นพลัง มันไม่มีกุยหลิง มันทำให้เขารู้สึกได้ถึงความอิสระและสบายใจ ในทางกลับกันแล้วทะเลโกลาหลนั้นราวกับคุก แม้ว่าเขาจะเป็นจักรพรรดิแต่ก็ยังรู้สึกเหมือนโดนขังเอาไว้อยู่ดี

  ซื่อเซียวใจสั่นด้วยความตะลึง เขาอึ้งไป ก่อนจะพึมพำออกมา   นะ นี่…    ถ้าเขาไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง เขาคงไม่เชื่อ

    บ้าไปแล้ว ! ข้าได้เจอกับเรื่องบ้าเข้าแล้ว !  ซื่อเซียวสงสัยว่าตัวเองตาฝาดไป ภาพตรงหน้านี้ได้ทำให้สิ่งที่เขายอมรับมาตลอดถึงกับพังทลายลงไป

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ระบบเจ้าสำนักจางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์ หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก” เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้ ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน... ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการบ่มเพาะ ขอบเขตฉีซวน ระดับ 1-9 ขอบเขตว่อซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตตันซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตหลิงซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตหลี่ซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตตุ้นซวน ระดับต่ำ กลาง สูง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset