ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1987 : วิกฤต

  จางลู่เปลี่ยนเรื่องทันที จึงไม่มีใครกล้าถามอะไรอีก

  ซิงฮัวยั้งอารมณ์ของนางเอาไว้และคิดก่อนจะพูดขึ้นมา   การแข่งขันชิงก้อนแก่นมีประวัติศาสตร์ยาวนาน มันต้องย้อนกลับไปตอนกำเนิดจักรพรรดิรุ่นแรก จักรพรรดิซื่อเซียว, จักรพรรดิเย่าหยาง, จักรพรรดิหว่านเก่อ และจักรพรรดิอู่หมิงได้ก้าขึ้นเป็นจักรพรรดิในตอนนั้น 

    ข้าได้ยินเรื่องนี้มาแล้ว  จางลู่พยักหน้า

  ซิงฮัวพูดต่อ   อะไรที่ทำให้เกิดก้อนแก่นขึ้นมานั้นไม่มีใครรู้ แม้แต่จักรพรรดิเองก็ไม่รู้ เรารู้แค่ว่าก้อนแก่นนั้นกลับปรากฏขึ้นมา ในตอนที่ก้อนแก่นปราฏขึ้นมา ลูกปัดจักรพรรดิ 9 ลูกก็กำเนิดขึ้นมาและได้สร้างจักรพรรดิทั้ง 9 ขึ้น ทุกๆ 100 ล้านปีก้อนแก่นจะกำเนิดขึ้นมาให้กำเนิดลูกปัดจิตจำนวนต่างๆกันไป จากนั้นก้อนแก่นก็เข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ จำนวนลูกปัดจิตก็มากขึ้นตาม ตอนนี้จำนวนลูกปัดจิตมีมากกว่าร้อยลูก…. 

  ก่อนที่ซิงฮัวจะพูดจบ จางลู่ก็ขัดขึ้นมา   เรารู้เรื่องนี้หมดแล้ว พูดเรื่องอื่นดีกว่า ยกตัวอย่างเช่นลูกปัดจิตก่อตัวขึ้นมายังไง เราจะได้มันมาได้ยังไง 

  ซิงฮัวตัวสั่นและพูดขึ้นมา   ลูกปัดจิตอัดแน่นขึ้นจากพลังจิตปั่นป่วนในเขตต้นกำเนิดหลังจากที่สั่งสมมานาน การกำเนิดลูกปัดจิตนั้นต่างกันออกไป ระหว่างนั้นก้อนแก่นกำเนิดขึ้นมา ลูกปัดจิตอาจจะปรากฏขึ้นมาตอนไหนก็ได้ เวลานั้นไม่แน่นอน บางอันมาตั้งแต่ที่ก้อนแก่นกำเนิดขึ้น บางอันมาตอนที่ก้อนแก่นจะหายไป 

  หลังจากที่เงียบไปสักพักซิงฮัวก็พูดขึ้นต่อ   ระยะเวลาของก้อนแก่นนั้นไม่ได้แน่นอนแต่มันมีกฎหนึ่งอยู่ ก้อนแก่นแรกอยู่ได้ 15 นาที ก้อนแก่นที่สองอยู่ได้นานกว่าเล็กน้อย ครั้งที่สามและสี่….ยิ่งอยู่ได้นานกว่าเก่า ครั้งที่แล้วก้อนแก่นอยู่ได้กว่า 3 ปี ครั้งนี้น่าจะนานกว่านั้น 

  จากระยะเวลาที่ก้อนแก่นอยู่ได้นั้นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขตต้นกำเนิดกำลังเปลี่ยนแปลงไป

  มันแค่ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลดีรึร้ายก็ไม่อาจจะมีใครรู้ได้

  แต่สำหรับจักรพรรดิแล้ว การเปลี่ยนแปลงนี้ถือว่าส่งผลดี เพราะพวกเขาจะได้ลูกปัดจิตมาเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเอง

    นอกจากระยะเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ขนาดของก้อนแก่นก็เปลี่ยนไปด้วย  ซิงฮัวพูดขึ้น   ข้าเคยได้ยิน จักรพรรดิเย่าหยางบอกว่าขนาดของก้อนแก่นหดตัวลง เขตต้นกำเนิดนั้นเล็กลงเรื่อยๆ ตอนที่ก้อนแก่นปรากฏขึ้นมาครั้งแรก เขตต้นกำเนิดหดตัวลงไปกว่าครึ่ง ขนาดของมันเหลือแค่ 1 ใน 5 ของขนาดทะเลโกลาหลเท่านั้น 

  จางลู่ยักคิ้ว   หดตัวลงขนาดนั้นเลยรึ ? 

  มันมีอะไรเกี่ยวข้องกับระยะเวลาของก้อนแก่นกับขนาดของการหดตัวรึไม่ ?

  มันเพราะอะไรที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเขตต้นกำเนิด ?

  มันจะเป็นแบบนี้นานแค่ไหน ?

  มันดีรึร้ายกันแน่ ?

  จางลู่รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เหมือนไม่ใช่เรื่องดี มันอาจจะบ่งบอกว่าอาจจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น

    ซื่อเซียวบอกว่าเขตต้นกำเนิดคือต้นกำเนิดของทุกสรรพสิ่งที่แท้จริง หากทะเลโกลาหลคือต้นกำเนิดของทุกสิ่ง งั้นเขตต้นกำเนิดก็เป็นต้นกำเนิดของทะเลโกลาหล หากเขตต้นกำเนิดหดตัวลงไป สักวันมันอาจจะหายไปโดยสมบูรณ์…  สีหน้าของจางลู่เคร่งเครียดขึ้นมา   เมื่อเขตต้นกำเนิดหายไป มันหมายความว่าทะเลโกลาหลจะหายไปด้วยรึไม่ ? 

  ซื่อเซียวไม่ได้พูดถึงการที่เขตต้นกำเนิดจะหายไปรึไม่ แต่หากเขตต้นกำเนิดยังหดตัวเช่นนี้อยู่ มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาก่อนที่มันจะหายไป

  หากเขตต้นกำเนิดหายไป มันจะเกิดอะไรขึ้นกับทะเลโกลาหล ?

  หากทะเลโกลาหลหายไป งั้นจะเกิดอะไรขึ้นกับจักรพรรดิและสิ่งมีชีวิตในทะเลโกลาหล ?

  เรื่องนี้น่าคิด !

    เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าหากก้อนแก่นปรากฏขึ้นมาเรื่อยๆแล้วสักวันทะเลโกลาหลจะหายไป?  จางลู่มองไปที่ซิงฮัวกับคนอื่นๆก่อนจะถามขึ้นมา

  ซิงฮัวพยักหน้า   ไม่นานเขตต้นกำเนิดจะหายไป จักรพรรดิเย่าหยางเคยบอกข้าแต่ถึงเขตต้นกำเนิดจะหายไป มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อเรา อย่างมากก็อาจจะสร้างปัญหาบ้าง มันไม่มีทางที่จะเดินทางจากเขตตัวเองไปเขตอื่นได้ 

  แม่ทัพคนอื่นๆต่างก็พากันแสดงสีหน้าเฉยเมย

  ยังไงซะเมื่อไม่มีเขตต้นกำเนิด มันก็ไม่มีลูกปัดจิต สำหรับแม่ทัพแล้ว ลูกปัดจิตนั้นไร้ค่า ถึงพวกเขาจะได้มันมาแต่ก็ไม่อาจจะดูดซับมันได้ จึงเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่ใส่ใจ

  มันไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่ได้ใส่ใจ ยังไงซะทุกครั้งที่เข้าร่วมการแข่งขันนี้ พวกเขาก็ยังได้รางวัลแต่หากเทียบกับจักรพรรดิแล้ว การหายไปของเขตต้นกำเนิดนั้นแทบจะไม่ส่งผลอะไรต่อพวกเขาเลย

    พวกเจ้าคิดกันไม่ถี่ถ้วน หากเขตต้นกำเนิดหายไป ทะเลโกลาหลจะหายไปด้วยรึไม่ ?  จางลู่ถามขึ้นมา

  เขาไม่อาจจะเข้าใจความคิดของแม่ทัพเหล่านี้ได้ เขตต้นกำเนิดเป็นแหล่งกำเนิดของทุกสิ่ง ! หากเขตต้นกำเนิดหายไป งั้นก็ต้องเกิดเรื่องใหญ่กับทะเลโกลาหล แม้ว่ามันจะไม่ได้หายไปกับเขตต้นกำเนิดแต่ก็ต้องมีหายนะหลายอย่างเกิดขึ้น….

  แรนดอฟสีหน้าแข็งทื่อไป   หือ…ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น ? 

  แม่ทัพอีกคนพูดขึ้นมา   เขตต้นกำเนิดนั้นเป็นเขตลับที่มีความพิเศษ มันจะเกี่ยวข้องอะไรกับทะเลโกลาหลกัน ? นอกจากเขตต้นกำเนิดแล้ว มันยังมีเขตลับอีก 9 แห่งในทะเลโกลาหล งั้นแต่ละเขตก็เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของทะเลโกลาหลรึ ? 

  กลับกันแล้วซิงฮัวกลับรู้สึกผิดปกติขึ้นมา นางมองไปที่จางลู่ด้วยความสงสัย   ทำไม ท่านจางลู่ถึงได้บอกว่าการหายไปของเขตต้นกำเนิดนั้นจะทำให้ทะเลโกลาหลหายไปด้วย ? 

  จางลู่ส่ายหน้า   ข้าแค่กังวล ยังไงซะเรื่องนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน… 

    ท่านจางลู่คิดมากไป มันใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้น  ซิงฮัวพูดขึ้นมา

    เจ้าหมายความว่ายังไง ?  จางลู่ตกใจ เขตต้นกำเนิดเคยหายไปแล้วรึ ?

    ท่านลืมเรื่องฉิวหวังไปแล้วรึ ? ตอนแรกฉิวหวังนั้นไม่รู้ว่าบ้าคลั่งอะไรมา เขาได้กลืนกินเขตตัวเอง ตอนนี้ทะเลโกลาหลได้ฟื้นฟูกลับมาเล็กน้อย  ซิงฮัวอธิบายออกมา   แต่การทำลายเขตฉิวหวังนั้นไม่ได้ส่งผลอะไรต่อทะเลโกลาหล 

  นางมองไปที่จางลู่แล้วพูดขึ้น   ดังนั้นการทำลายเขตในทะเลโกลาหลไม่ได้ส่งผลต่อทั้งทะเลโกลาหล หากเขตต้นกำเนิดหายไป อย่างมากก็ส่งผลต่อทะเลโกลาหลใกล้เคียงกับเขตต้นกำเนิด มันอาจจะไม่ส่งผลอะไรด้วยซ้ำ ยังไงซะถึงเขตต้นกำเนิดจะโดนทำลายแต่มันก็มีแต่การทำลายตัวเองไม่ใช่เพราะจักรพรรดิ 

  หากเขตต้นกำเนิดเป็นเขตลับ งั้นมันก็ไม่มีปัญหาตามที่ซิงฮัวบอกมา แต่เขตต้นกำเนิดนั้นไม่ใช่เขตลับทั่วไปแต่…เป็นต้นกำเนิดของทุกอย่าง !

  เหล่าแม่ทัพโดนปิดบังทุกอย่างอยู่ !

    หากไม่ใช่เพราะซื่อเซียวบอกข้า ข้าคงไม่รู้ว่าเขตต้นกำเนิดเป็นต้นกำเนิดของทุกสิ่ง.. จางลู่สลดไปนิดๆ   ดูเหมือนว่าจักรพรรดิทั้งเก้าของทะเลโกลาหลน่าจะตกลงกันมานานแล้วที่จะปิดบังความจริงเรื่องนี้ ความจริงนั้นมีแค่พวกเขาเก้าคนที่รู้ 

  เขาคิดถึงสีหน้าตื่นเต้นของซื่อเซียว, เย่าหยาง และคนอื่นๆเมื่อรู้ว่าพวกเขาสามารถเข้าไปในทะเลบรรพกาลได้ ตอนนี้เหตุผลที่พวกนี้ยอมเข้าไปในทะเลบรรพกาลอาจจะไม่ใช่เพราะภัยจากจักรพรรดิกุยหลิงแต่บางทีพวกนั้นอาจจะเดาออกว่าทะเลโกลาหลกำลังทำลายตัวเอง ดังนั้นจึงอยากหนีออกจากทะเลโกลาหล

  เพราะรู้ว่าการออกจากทะเลโกลาหลนั้นพวกเขาถึงจะมีชีวิตต่อได้

  ไม่งั้นแม้ว่าจะเป็นถึงจักรพรรดิแต่ก็ได้แต่รอความตาย !

  หากเทียบกับจักรพรรดิกุยหลิงแล้ว การเปลี่ยนแปลงของเขตต้นกำเนิดอาจจะน่ากลัวกว่าสำหรับซื่อเซียวและคนอื่นๆ !

    การไม่รู้ก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง  เมื่อเห็นท่าทีสงบของซิงฮัว, แรนดอฟ และแม่ทัพคนอื่นๆ จางลู่ก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า ไม่ว่าซื่อเซียวและคนอื่นจะมีเหตุผลอะไรที่ปิดบังเรื่องนี้ แต่อย่างน้อยเพื่อทะเลโกลาหลแล้ว บางทีแบบนี้อาจจะดีกว่าเพราะเมื่อความจริงเปิดเผยออกมา ทะเลโกลาหลอาจจะตกอยู่ในความวุ่นวายในทันที ระเบียบในทะเลโกลาหลอาจจะพังลง

  จางลู่รู้สึกผิด เขาไม่น่าจะพูดเรื่องนี้ออกมาเลยเพราะความเป็นจริงนั้นมันโหดร้าย

  แม้ว่าเขาจะรู้ความจริงแต่ก็ไม่อาจจะหยุดเขตต้นกำเนิดทำลายตัวเองได้ เขาได้แต่มองดูเขตต้นกำเนิดพังลงไป จนวันหนึ่งเมื่อเขตต้นกำเนิดหายไป ทะเลโกลาหลก็จะโดนทำลายไปด้วย…

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ระบบเจ้าสำนักจางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์ หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก” เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้ ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน... ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการบ่มเพาะ ขอบเขตฉีซวน ระดับ 1-9 ขอบเขตว่อซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตตันซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตหลิงซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตหลี่ซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตตุ้นซวน ระดับต่ำ กลาง สูง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset