ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1991 : จุดเริ่มต้นการผุพัง

  ทุกคนต่างก็พากันเงียบไป

    พวกเขาเกือบถึงหมู่บ้านดั้งเดิมแล้ว  ซื่อเซียวพูดขึ้น

  ในเวลาเดียวกันแค่คิดเขาก็ได้ฉายภาพอีกด้านของเขตซื่อเซียวในกระจกให้ทุกคนเห็น มันมีร่างของแม่ทัพทะเลโกลาหลและคนของทีมคังเฉียงปรากฏขึ้นมา

  เย่าหยาง, อู่หมิง, หว่านเก่อและเรนไน ต่างก็พากันมองไปที่ภาพด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

  จางหยูดึงสติกลับมาและพูดขึ้น   ภาพของเจ้ารับได้แค่จากในเขตซื่อเซียวใช่รึไม่ ? 

  เมื่อได้ยินแบบนั้นซื่อเซียวก็พยักหน้า   เมื่อพวกเขาเข้าไปในเขตต้นกำเนิดแล้ว ข้าก็ไม่อาจจะฉายภาพได้อีก 

    ถอยมา ข้าเอง  จางหยูพูดขึ้น ภาพฉายนี้ต่างจากภาพจากมุมมองที่สามของซื่อเซียว มันคือภาพจากมุมมองที่หนึ่งได้ปรากฏขึ้นมาแทน แม้ว่าภาพนี้จะไม่ได้ดูครอบคลุมนักแต่ก็ไม่ได้รับผลใดๆจากเขตต้นกำเนิด ยังไงวะนี่ก็คือภาพที่จางลู่เห็นมาไม่ว่าจางลู่อยู่ที่ไหนก็สามารถแสดงภาพให้จางหยูเห็นได้

  หว่านเก่อถามขึ้นมาด้วยความสงสัย   การฉายภาพของเจ้าไม่ได้รับผลกระทบจากเขตต้นกำเนิดรึ ? 

    ง่ายๆ   จางหยูพูดขึ้น   ไม่ว่าร่างแยกทั้งสามของข้าอยู่ที่ไหน ข้าก็สามารถดูภาพที่พวกเขาเห็นได้  

  เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนก็พากันดีใจขึ้นมา

  ร่างแยกแต่ละร่างก็มีประโยชน์ต่างกันไป ภายใต้สถานการณ์ปกติแล้ว ยิ่งร่างแยกมีประโยชน์เท่าไหร่ก็ยิ่งส่งผลดีเพราะร่างแยก

  นั้นมีความสามารถมากมาย นอกจากความแข็งแกร่งที่ด้อยกว่าร่างหลักแล้ว มันแทบไม่ต่างจากร่างลหักเลย ร่างแยกนั้นเหมือนกับตัวตนอีกคนแต่ในเขตต้นกำเนิดนั้นไม่ต้องเดาเลยว่าการใช้ร่างแยกนั้นดีที่สุดเพราะคลื่นพลังของร่างแยกนั้นเหมือนกับร่างหลัก มันง่ายที่จะทำให้จักรพรรดิหลิงตื่นขึ้นมาได้ เมื่อมันเข้ามาในเขตต้นกำเนิด มันอาจจะเกิดหายนะขึ้นมา

  ตอนนี้ร่างแยกของ จางหยูเดินทางไปกับแม่ทัพคนอื่นๆ ซื่อเซียวและคนอื่นๆก็สามารถเห็นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเขตต้นกำเนิดบ้าง

    ทำไมพวกเจ้าไม่บ่มเพาะร่างแยกขึ้นมา ?  จางหยูมองไปที่ซื่อเซียวและคนอื่นๆด้วยความสงสัย   ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเจ้าแล้วคงไม่ยากที่จะทำการบ่มเพาะให้ร่างแยกไม่ใช่รึ ? 

    เราลองทำการบ่มเพาะแบบคู่แล้วแต่หลังจากนั้นเราพบว่าเมื่อร่างแยกแข็งแกร่งขึ้น พลังของร่างหลักที่ส่งไปให้ร่างแยกนั้นเราอาจจะควบคุมร่างแยกไม่ได้  เย่าหยางเงียบไปสักพักแล้วพูดขึ้น   หลังจากที่พบปัญหานี้ เราก็ได้หลอมรวมกับร่างแยกเราไม่กล้าจะสร้างร่างแยกแบบนั้นขึ้นอีก    เมื่อร่างแยกดึงพลังจักรพรรดิไปกว่าครึ่ง บางทีตัวตนร่างหลักกับร่างแยกอาจจะสลับกัน แม้ว่าพวกเขาจะรวมร่างกับร่างแยกตอนที่รู้สึกได้ถึงอันตรายได้แต่มันก็ยุ่งยากและอันตรายเกินไป แทนที่จะเสี่ยงแบบนั้น มันดีกว่าที่จะยอมแพ้ในการบ่มเพาะร่างแยกขึ้นมา

  เมื่อได้ยินแบบนั้นจางหยูก็ยักคิ้ว   พลังจักรพรรดิส่งให้กับร่างแยกได้ด้วยรึ ? 

  เขาไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อนเพราะตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้เขาไม่เคยได้พลังจักรพรรดิแบบพวกนี้มา

  …

  สักที่ในทะเลบรรพกาลที่ที่ไม่มีใครสนใจ

  ม่านแสงขนาดใหญ่ที่ปกคลุมราวกับระฆังยังอยู่ในความเงียบงัน

  ด้านในระฆังนี้จะมีเสียงที่พูดขึ้นมาอย่างอ่อนแรง   ให้ข้าออกไป ให้ข้าออกไป… 

  เสียงแหบแห้งนี้บ่งบอกได้ว่าหมดสิ้นซึ่งพลังราวกับโดนทรมานมา  เจ้าของเสียงนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหนึ่งในเก้าจักรพรรดิของทะเลโกลาหล…ฉิวหวัง!

  ผู้ปกครองทะเลโกลาหลกลับโดนขังไว้ในระฆังม่านแสงนี้ เขาอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาหลายแสนล้านปี จากความโดดเดี่ยวเป็นความกลัว จากความกลัวเป็นความสิ้นหวัง จากความสิ้นหวังเป็นความด้านชา เขาหมือนกับคนตายไปแล้ว ตาเขาหม่นเป็นสีเทาราวกับอยู่ในนรก สิ่งเดียวที่เขาทำในทุกวันคือพูดแบบเดิมซ้ำๆ   ให้ข้าออกไป… 

  แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับความเสียหายใดๆ พลังจิตก็ยังอยู่ดี ร่างกายยังสมบูรณ์ จิตยังอยู่ครบแต่ตัวเขาราวกับคนที่ตายไปแล้ว

  จิตใจของเขาเหมือนฟั่นเฟือน แม้แต่จิตก็ยังพร่ามัวไปตามราวกับว่าเขาจะตายไปตอนไหนก็ได้

  บางทีการลงโทษแบบนี้อาจจะหนักหนาว่าการทรมานใดๆ

  หากเหลือแค่คนเดียวในโลกที่กว้างใหญ่ มันจะโดดเดี่ยวและน่าทรมานแค่ไหนกัน ?   โชคร้ายหลังจากที่จางหยูส่งเขาเข้ามาในทะเลบรรพกาลและขังเขาไว จางหยูก็ลืมเรื่องฉิวหวังไปเลย

  ทั้งทะเลบรรพกาลรวมถึงซื่อเซียวและคนอื่นๆต่างก็ลืมเรื่อง ฉิวหวังไป

  …

  ในทะเลโกลาหลที่เขตของเผ่าสวรรค์

  ข่งจู้ ได้เรียกรวมแม่ทัพทั้งหมดและรออยู่ที่ทางออกเขต

  หย่วนเหยี่ยน, เทียนตู้ และ เมิ่งเหยียนต่างเรียกแม่ทัพมารวมตัวกันและรอคอยการผุพังของเขตต้นกำเนิด

  อะไรที่ควรสั่งการพวกเขาก็ได้สั่งการไปหมดแล้ว

  แม่ทัพเผ่าสวรรค์แบ่งเป็นสองทีม ทีมหนึ่งนำโดยบลูอีกทีมนำโดยล็อค

  ความแข็งแกร่งของทั้งสองทีมทัดเทียมกันนำทีมโดยแม่ทัพสูงสุด มันมีแม่ทัพขั้นสูง 2-3 คน ความแข็งแกร่งไม่ต่างจาก ซิงฮัวและแรนดอฟมากนัก หลายคนอาจจะเป็นแม่ทัพสูงสุดไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับการยืนยัน

  บลูและล็อคมองหน้ากันก่อนจะนำทีมของตนแบ่งเข้าไปในเขตต้นกำเนิดทางเหนือและใต้ ทีมของ บลู อยู่ทางเหนือ ทีมของล็อคอยู่ทางใต้

  เป้าหมายของพวกเขาเหมือนกันคือเก็บลูกปัดจิตให้ได้ 2 ใน 3

  ครั้งนี้ไม่มีแม่ทัพของเขตฉิวหวังเข้าร่วมด้วย ความแข็งแกร่งของเผ่าสวรรค์นั้นลดลงไป มันยากที่จะทำตามเป้าหมายได้ พวกเขาต้องระวังตัวกันอย่างมาก

  โชคดีที่มีแม่ทัพสูงสุดสองคนอยู่ด้วยจึงทำให้พอประคองสถานการณ์โดยรวมได้

  เวลาของการผุพังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทั้งเผ่าสวรรค์และมนุษย์นั้นแม่ทัพของทั้งสองเผ่าต่างก็แสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา

    ล็อค  เสียงของข่งจู้ดังขึ้นมา   จำไว้ว่าเป้าหมายของเจ้าคือเก็บลูกปัดจิต ระหว่างการผุพังของเขตต้นกำเนิด ข้าไม่อยากเห็นเจ้าสู้กับบลูอีก …หากเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น เจ้าคงรู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง 

  ล็อคเงียบไปและพึมพำออกมา   ข้าเข้าใจแล้ว 

  ข่งจู้พูดต่อ   หากเจ้าคันไม้คันมือ งั้นเจ้าก็ไประบายอารมณ์ใส่พวกมนุษย์เรนไนน่าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่ดี 

   ได้  ล็อคโค้งให้

  ในอีกด้านหย่วนเหยี่ยนก็ได้บอกแบบเดียวกันกับบลูห้ามไม่ให้สู้กับล็อค

  มันไม่ใช่เพราะพวกเขาคิดมากแต่บลูกับล็อค นั้นมักจะทำอะไรตามใจตัวเอง แม้แต่จักรพรรดิก็ไม่อาจจะควบคุมพวกนี้อย่างสมบูรณ์ได้ พวกเขาได้แต่ต้องคอยชี้แนะและบอกพวกนี้ แม้ว่าจักรพรรดิจะไร้เทียมทานในด้านความแข็งแกร่งและฐานะเหนือกว่าจ้าวโกลาหลแต่ในการต่อสู้แย่งชิงลูกปัดจิตแล้ว พวกเขาไม่อาจจะลงมือได้เอง พวกเขาได้แต่พึ่งเหล่าแม่ทัพโดยเฉพาะแม่ทัพสูงสุดที่เหนือกว่าแม่ทัพทั่วไปอย่างมาก

  แม้ว่าแม่ทัพสูงสุดจะทำสิ่งที่จักรพรรดิไม่พอใจแต่จักรพรรดิก็ไม่อาจจะด่าพวกนี้ได้ พวกเขาได้แต่ต้องใช้ความอดทนกับพวกนี้

  มันทำให้แม่ทัพสูงสุดนั้นมีฐานะสูงส่งเหนือกว่าแม่ทัพคนอื่นๆ

  บลูและล็อคก็เป็นแบบนั้นเรนไนเองก็เช่นกัน

  ซุนเหลียนเชิงก็เป็นเช่นนี้

  โชคร้ายที่ซุนเหลียนเชิงตายไปแล้ว เขายังไม่ได้แสดงพรสวรรค์ที่แท้จริงออกมา เขายังไม่ขึ้นเป็นแม่ทัพสูงสุดเขาแค่แสดงความสามารถออกมาแต่สุดท้ายก็โดนซื่อเซียวทอดทิ้ง

  แต่เดิมแล้วเขตซื่อเซียวมีโอกาสที่จะให้กำเนิดแม่ทัพสูงสุดแต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น

  …

  เวลาผ่านไปช้าๆจนกระทั่งวันหนึ่งทางเข้าเขตต้นกำเนิดก็ได้สั่นไหว เสาแสงได้แผ่แสงหลากสีออกมา จักรพรรดิทุกคนรวมไปถึงเหล่าแม่ทัพต่างก็พากันกลั้นหายใจ

  การผุพังเริ่มแล้ว !

    ท่านจางลู่  ซิงฮัวมองไปที่จางลู่   ต่อไปคงต้องฝากท่านแล้ว ! 

  พวกเขาไม่ได้วางแผนอะไรซับซ้อน ด้วยความแข็งแกร่งของทีมคังเฉียง พวกเขาไม่จำเป็นต้องมีแผนซับซ้อนใดๆ หลังจากที่เข้าไปในเขตต้นกำเนิด พวกเขาไม่ต้องทำอะไร พวกเขาแค่กันทางออกเขตทั้งเก้าเอาไว้ …ไม่สิ แค่ 8 เขต เมื่อการผุพังจบลง พวกเขาจะไปสู้กับแม่ทัพเผ่าสวรรค์ ใครชนะก็ได้ลูกปัดจิตไป !

  แม่ทัพมนุษย์เคยทำแบบนั้นแต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่ได้แกร่งพอที่จะบดขยี้แม่ทัพเผ่าสวรรค์ได้ ดังนั้นทุกอย่างจึงไม่ได้เป็นตามที่คิด

  แต่ตอนนี้ซิงฮัวมั่นใจในทีมคังเฉียงอย่างมาก แม่ทัพกว่าสองพันคนปิดทางออกเขตต้นกำเนิดเอาไว้แค่จำนวนอย่างเดียวก็ทำให้แม่ทัพเผ่าสวรรค์กลัวแทบตายได้แล้ว

  มันว่าดูหยิ่งทะนงไปหน่อย !

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ระบบเจ้าสำนักจางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์ หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก” เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้ ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน... ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการบ่มเพาะ ขอบเขตฉีซวน ระดับ 1-9 ขอบเขตว่อซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตตันซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตหลิงซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตหลี่ซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตตุ้นซวน ระดับต่ำ กลาง สูง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset