ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1996 : สิ้นสุดการผุพัง

  ที่ทางใต้……

  หลังจากที่เก็บลูกปัดจิตได้อีก บลูก็แสดงสีหน้าสงสัยออกมา พวกแม่ทัพมนุษย์หายไปไหนกันหมด ?

  ทำไมผ่านมานาน ตั้งแต่ที่เข้ามาในเขตต้นกำเนิด แต่เขากลับไม่พบแม่ทัพมนุษย์เลยสักคน ?

  แม่ทัพมนุษย์ยอมแพ้กับการต่อสู้แย่งลูกปัดจิตไปแล้วรึ ?

  จักรพรรดิมนุษย์ยอมทำแบบนั้นจริงๆรึ ?

  ต้องรู้ก่อนว่าในอดีตนั้นเพื่อจะแย่งลูกปัดจิตมา มันจะเกิดสงครามที่ดุเดือดขึ้น แต่ตอนนี้การผุพังของเขตต้นกำเนิดเพิ่มมากขึ้นถึงระดับนี้ และจำนวนลูกปัดจิตที่ได้มาก็มากจนน่าตกใจ อย่างงี้จักรพรรดิมนุษย์จะยอมแพ้จริงๆรึ ?

    เหตุผลคืออะไรกัน ?  ล็อคครุ่นคิด  มันมีความเป็นไปได้แค่สองอย่าง นั่นก็คือ หนึ่ง มนุษย์นั้นยอมแพ้ในการต่อสู้แย่งลูกปัดจิต สองคือมนุษย์ซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักที่ในเขตต้นกำเนิด

  ล็อคแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมาและบอกกับทุกคน   ระวังตัวไว้ พวกมนุษย์อาจจะซุ่มโจมตีอยู่ก็เป็นได้ 

  นอกจากตะโกนสั่งการแล้วเขาก็ได้ส่งคนออกไปสำรวจเพื่อยืนยันว่าไม่มีการดักซุ่มโจมตีแล้วค่อยพาคนอื่นๆเดินหน้าต่อ

  แม้ว่ามันจะใช้เวลานานกว่า แต่ไม่ต้องเดาเลยว่ามันปลอดภัยกับทุกคนมากกว่า

  ในมุมมองของล็อคแล้ว ชัดแล้วว่ามันคุ้มค่าและปลอดภัย ยังไงซะแม้ว่าความแข็งแกร่งโดยรวมของมนุษย์จะไม่ได้ดีเท่ากับเผ่าสวรรค์ แต่ก็ไม่อาจจะประมาทได้ โดยเฉพาะการที่แม่ทัพของเขตฉิวหวังไม่ได้เข้าร่วมด้วย ดังนั้นช่องว่างระหว่างมนุษย์กับเผ่าสวรรค์นั้นก็ย่นลงไปอีก บวกกับการที่มนุษย์ยังมีแม่ทัพสูงสุด หากมนุษย์ดักซุ่มโจมตีจริงๆ งั้นมันอาจจะสร้างปัญหาหนักขึ้นมาก็ได้

  ตัดสินจากการนำของบลูและล็อคแล้ว ล็อคนั้นเหมือนจะมีเหตุผลมากกว่าและรอบคอบกว่าบลูที่ดูเลือดร้อนและไร้เหตุผล

  แต่โชคร้ายที่ความกังวลของพวกนี้ไร้ค่า เพราะมนุษย์ไม่ได้คิดจะซุ่มโจมตีพวกเขาเลย

  มันไม่จำเป็นที่มนุษย์ต้องทำการซุ่มโจมตี แต่กลับกันทางออกจากที่นี่ไว้แทน ตราบใดที่พวกนั้นคิดจะเดินทางกลับ งั้นพวกนั้นก็ต้องผ่านช่องทางเหล่านั้น

  นี่คือการปิดทางหนีของศัตรู !

  เวลาผ่านไปช้าๆไม่นานก็ผ่านไปกว่า 1 ปี เมื่อเวลาผ่านไป การผุพังก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเขตต้นกำเนิดเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรงราวภูเขาที่กำลังสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง และเหมือนว่าจะพังลงตอนไหนก็ได้

  ในเขตต้นกำเนิดนั้นพลังจิตนับไม่ถ้วนได้ทับถมกันจนสร้างแรงกดดันออกมาก่อนจะให้กำเนิดลูกปัดจิตขึ้น  ทั้งเขตต้นกำเนิดนั้นอันตรายอย่างมาก พลังจิตที่ไม่อาจจะควบคุมได้กระจายไปทั่วทั้งเขตต้นกำเนิดราวกับลำแสงที่ตัดเขตต้นกำเนิดออกเป็นชิ้นๆนับไม่ถ้วน ลำแสงเหล่านี้อันตรายอย่างมาก หากสัมผัสกับมันเข้า แม้แต่แม่ทัพสูงสุดก็อาจจะตายได้

  แม่ทัพทุกคนต้องระวังกว่าที่เคย พวกเขาพากันเพ่งสมาธิจนถึงขีดสุดเพื่อหลบลำแสงเหล่านั้น

  ไม่ใช่แค่แม่ทัพของเผ่าสวรรค์ แม่ทัพมนุษย์เองก็ยังต้องระวังและหลบลำแสงเหล่านั้นด้วย

  โชคดีที่ลำแสงนั้นไม่ได้มีความคิดและไม่อาจจะล็อคเป้าพวกเขาได้ ไม่งั้นแล้วคงไม่อาจจะมีใครหลบได้

  แม้ว่าเขตต้นกำเนิดในตอนนี้จะอันตรายอย่างมาก แต่ตราบใดที่ไม่ประมาทและโดนลำแสงพวกนี้เข้า งั้นมันก็ไม่ได้เป็นภัยถึงชีวิต

  ด้วยเวลาที่ผ่านไปการผุพังก็เริ่มหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเขตต้นกำเนิดเข้าสู่ช่วงที่อันตรายที่สุด และลำแสงนั้นก็เพิ่มขึ้นมาเป็นสองเท่า พลังของมันมากกว่าเก่า ภาพฉายจักรวาลมากมายก็โดนกำจัดไป

  เมื่อรับรู้ได้ถึงลำแสงเหล่านี้ ทุกคนก็พากันขนลุก พวกเขากลั้นหายใจและไม่กล้าจะประมาทแม้แต่น้อย

  หากโดนลำแสงนี้เข้า ถึงไม่ตายก็คงบาดเจ็บหนัก !

  บลูและล็อคหยุดทำการค้นหาลูกปัดจิตและมองหาที่ที่มีลำแสงไม่มากเพื่อซ่อนตัว ต่อหน้าลำแสงเหล่านี้ พวกเขาไม่กล้าจะออกเดินทางไปรอบๆไม่งั้นแล้วหากโดนลำแสงนี้เข้า งั้นพวกเขาก็ไม่อาจจะรอดได้

  ไม่มีใครคิดเอาชีวิตของตัวเองเป็นเดิมพัน !

  เขตต้นกำเนิดในตอนนี้คือช่วงที่อันตรายที่สุด มันอันตรายกว่าเขตต้นกำเนิดในช่วงไหนๆ !

  โชคดีที่ทุกครั้งที่เกิดการผุพังขึ้นมันจะเริ่มจากเบาเป็นหนักก่อนจะเริ่มกลับมาเบาอีกรอบ มันไม่ได้อยู่ในช่วงรุนแรงแบบนี้เสมอ ไม่งั้นแล้วนี่ไม่ต้องนับการหาลูกปัดจิตเลย แค่รอดก็ถือว่าดีมากแล้ว

  เขตต้นกำเนิดสั่นไหวอย่างรุนแรงกว่าครึ่งปีก่อนที่สุดท้ายจะทุเลาลง

  เมื่อเห็นแบบนั้นทุกคนต่างก็พากันโล่งอก บางคนเคยเข้าร่วมการแข่งขันแย่งลูกปัดจิตมาแล้ว การเข้าร่วมทุกครั้งนั้นพวกเขาราวกับเดินหน้าไปหาประตูนรก ความกลัวนี้มีแต่คนที่เข้าร่วมเท่านั้นที่รับรู้ได้

  ที่ช่องทางสู่เขตข่งจู้

  จางลู่โล่งอกขึ้นมา   ไม่คิดเลยว่าการผุพังของเขตต้นกำเนิดจะอันตรายถึงเพียงนี้ 

  เขาคิดเสมอว่าอันตรายในการแข่งขันนี้มาจากแม่ทัพเผ่าสวรรค์ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าอันตรายนั้นจะมาจากตัวเขตต้นกำเนิดเองมากกว่า

    ยิ่งนานเท่าไหร่ก็ยิ่งอันตรายเท่านั้น ซิงฮัวยังคงรักษาท่าทีเยือกเย็นเอาไว้ได้   แต่ครั้งนี้อันตรายขึ้นจริงๆ การสั่นไหวของเขตต้นกำเนิดนั้นกินเวลานาน โชคดีที่เรารอดมาได้ 

  ตราบใดที่ผ่านช่วงที่อันตรายที่สุดมาได้ การผุพังของเขตต้นกำเนิดจะประคองตัวพร้อมกับอันตรายที่ลดลง

  แต่พวกเขาก็ยังไม่อาจจะลดการระวังตัวได้ อย่างน้อยก็จนกว่าการผุพังจะสิ้นสุดลง ตัวอย่างมีให้เห็นก่อนหน้านี้ที่มีคนโดนพลังจิตอัดเข้าตอนที่จบการผุพังและหายไปจากโกลาหลแห่งนี้ ยิ่งมีประสบการณ์เท่าไหร่พวกเขายิ่งรู้ดีเท่านั้นว่าก่อนที่การผุพังจะจบลง พวกเขาไม่อาจจะลดความระวังตัวได้เลย

  ในขณะเดียวกันบลูและล็อคก็รับรู้ได้ว่าการผุพังเริ่มเบาบางลงไป สุดท้ายมันก็ผ่านช่วงที่อันตรายที่สุดมาได้

  หลังจากที่สังเกตรอบๆได้สักพักและยืนยันว่าช่วงอันตรายที่สุดได้ผ่านมาแล้ว บลูและล็อคก็ได้นำทีมออกค้นหาลูกปัดจิตอีกครั้ง

  เวลาผ่านไปช้าๆ บลูและล็อคเก็บลูกปัดจิตได้มากขึ้นเรื่อยๆ ล็อคช้ากว่าเล็กน้อย ตอนนี้เขาค้นหาส่วนใต้ได้แค่ครึ่งเดียว บลูนั้นเร็วกว่าเขาค้นหาส่วนเหนือได้กว่า 2 ใน 3 แล้ว ล็อคเก็บลูกปัดจิตได้89ลูก ส่วนบลูนั้นเก็บได้124 ลูก เมื่อรวมกันแล้วพวกนี้ได้ลูกปัดจิตมากว่า 213 ลูก!

  นี่มันมากกว่าลูกปัดจิตที่กำเนิดขึ้นมาจากการผุพังครั้งที่แล้วเสียอีก !

  มันหมายถึงจำนวนลูกปัดจิตที่กำเนิดขึ้นมาจากการผุพังครั้งที่แล้ว บลูกับล็อคตอนนี้กลับได้ลูกปัดจิตมามากกว่านั้น มันยังมีอีกหลายที่ที่พวกเขายังไม่ได้ทำการตรวจสอบ !

  เห็นได้ว่าการผุพังครั้งนี้เข้มข้นแค่ไหนกัน

  แม่ทัพมนุษย์และทีมคังเฉียงยังอดทนรอที่ช่องทาง พวกเขาทำราวกับไม่ได้สนใจลูกปัดจิตแม้แต่น้อย  สุดท้ายการผุพังก็จบลงโดยแทบจะไม่ทันได้รู้ตัว เขตต้นกำเนิดกลับคืนสู่ความสงบ พลังจิตที่ปั่นป่วนได้กลับไปสงบอีกครั้ง

    ส่วนเหนือของเขตต้นกำเนิดถูกค้นหมดแล้ว ตอนนี้ได้ลูกปัดจิตมา 163 ลูก   บลูหยุดและบอกกับเหล่าแม่ทัพ  ต่อไปเราจะแบ่งเป็นสองทีม ข้าจะออกค้นหาเพียงลำพังเพื่อไม่ให้พลาดลูกปัดจิตที่เหลือ พวกเจ้าไปทางช่องทางไปยังเขตข่งจู้ หลังจากที่ข้าค้นหาเสร็จ ข้าจะไปสมทบกับพวกเจ้าที่นั่น 

  บลูมั่นใจอย่างมาก ด้วยความเร็วของเขาแล้วแม้ว่าต้องค้นหาทั้งส่วนเหนือของเขตต้นกำเนิดแต่เขาก็ไปถึงที่หมายก่อนลูกน้องของเขาได้

  เขาเชื่อว่าเมื่อไม่มีพวกนี้คอยถ่วง แม้ว่าจะโดนมนุษย์ซุ่มโจมตีแต่ตราบใดที่เขาคิดจะหนีก็ไม่มีใครหยุดเขาได้ !

  ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม !

  นี่คือความเชื่อมั่นของแม่ทัพสูงสุด !   หลังจากที่แยกจากทีมแล้ว บลูก็อดไม่ได้ที่จะโอ้อวดกับล็อค เขาได้ส่งข้อความหาอีกฝ่ายผ่านหยก  เจ้าเต่า ข้าค้นหาส่วนเหนือเสร็จแล้ว ข้าได้ลูกปัดจิตมาทั้งหมด 163 ลูก เจ้าล่ะ ? 

  ล็อคไม่ได้ตอบกลับ แต่บลูก็ไม่ได้แปลกใจแม้แต่น้อยราวกับว่าเขาชินแล้ว เขาเก็บหยกและทำการค้นหาส่วนเหนือต่ออีกครั้ง

  ในอีกด้าน ล็อคแผ่การรับรู้ออกไปและเห็นลูกปัดจิตกว่า 150 ลูกในแหวนมิติแต่เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา

  ตอนที่ค้นหาส่วนใต้นั้นจำนวนลูกปัดจิตที่พวกเขาได้มาเดาว่าต้องมากกว่า 170 ลูก เขาหวังว่ามันจะมีมากถึง 180 ลูก

  ที่ช่องทางสู่เขตข่งจู้

  ซิงฮัวและคนอื่นๆยังคงยืนประจำการรอเช่นเดิม แม่ทัพทะเลโกลาหลต่างก็พากันกลั้นหายใจด้วยความกังวลและตื่นเต้น

  ไม่ว่าใครจะมาที่นี่ แต่พวกเขาก็จะจัดการพวกนั้นยกเว้นแต่ว่าบลูจะมา

  แน่นอนว่านี่คือความคิดของซิงฮัว แต่สำหรับจางลู่และคนอื่นๆแล้ว บลูแม่ทัพสูงสุดนั้นจะมีค่าอะไร ?

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ระบบเจ้าสำนักจางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์ หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก” เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้ ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน... ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการบ่มเพาะ ขอบเขตฉีซวน ระดับ 1-9 ขอบเขตว่อซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตตันซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตหลิงซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตหลี่ซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตตุ้นซวน ระดับต่ำ กลาง สูง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset