ตอนที่ 2004 : ภาพฉายเขตต้นกำเนิด
หลังจากที่เห็นภาพที่เวลส่งมา ข่งจู้ก็มองไปที่บลู ตอนนี้ยังไม่สายที่เจ้าจะบอกความจริง
บลูส่ายหน้า ข้าบอกความจริงไปแล้ว
เมื่อเห็นว่าบลูยังยืนกรานอยู่ ข่งจู้ก็ไม่พูดอะไรต่อ
ความจริงจะปรากฏขึ้นในอีก 3 ชั่วโมง
มันยังยืนกรานได้ยังไง ? เทียนตู้ถามข่งจู้
คังเฉียงและเมิ่งเหยียนต่างก็มองไปที่ข่งจู้
ข่งจู้พูดขึ้นมาอย่างใจเย็น ไม่เป็นปัญหาหรอก
เมื่อได้ยินแบบนั้นพวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ พวกเขาเชื่อในตัวของข่งจู้ เมื่อข่งจู้บอกว่าไม่มีปัญหา งั้นก็คงไม่มีปัญหา
ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของเจ้าจะเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก เทียนตู้มองไปที่คังเฉียงด้วยสีหน้าซับซ้อนแล้วพูดขึ้น แต่ข้ากลัวว่าเราอยู่ได้มากสุดแค่ 2 ชั่วโมง
ในหมู่จักรพรรดิทั้งห้า ข่งจู้นั้นแกร่งที่สุดตามมาด้วยคังเฉียง ส่วนคนอื่นๆนั้นแกร่งพอๆกัน
ข่งจู้พูดขึ้นมา เจ้าเองก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกัน
ข้ายังไม่อาจจะเป็นคู่มือเจ้าได้หรอก คังเฉียงพูดขึ้น
หากเทียบกับความแข็งแกร่งของจักรพรรดิมนุษย์แล้ว ความแข็งแกร่งของจักรพรรดิเผ่าสวรรค์ต่างกันอยู่มากแต่ความต่างนี้ก็มีจำกัด
ข่งจู้แกร่งที่สุดแต่ความได้เปรียบนี้ก็ไม่ได้มากเท่าไหร่
บอกได้ว่าในหมู่จักรพรรดิตอนนี้ จักรพรรดิคังเฉียงแกร่งที่สุด ตามมาด้วยเรนไนจากนั้นก็เป็นจักรพรรดิทั้งเก้าของทะเลโกลาหล เจ้าน่าจะไปเทียบกับจักรพรรดิมนุษย์ไม่ใช่ข้า ข่งจู้ส่ายหน้า หากทำได้ ข้าหวังว่ายิ่งเจ้าแกร่งเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ข้าอยากให้พวกจทุกคนแกร่งกว่าจักรพรรดิคังเฉียงลึกลับนั่น
เมื่อพูดถึงจักรพรรดิคังเฉียง เหล่าจักรพรรดิต่างก็พากันเงียบไป
ความแข็งแกร่งของจักรพรรดิคังเฉียงไม่อาจจะเข้าใจได้ !
โชคดีที่ด้วยการเผชิญหน้ากับจักรพรรดิกุยหลิงนั้น แม้ว่าจักรพรรดิคังเฉียงจะแค้นพวกเขาแต่ก็ไม่กล้าลงมือกับพวกเขา
มันได้กลายเป็นสิ่งที่พวกเขากลัวที่สุด พวกเขากลัวว่าจะต้องตายเพราะจักรพรรดิคังเฉียง
เวลาผ่านไปช้าๆ ภาพที่เวลส่งมานั้นไม่ติดขัดใดๆ พวกนั้นเริ่มเข้าใกล้ทางออกมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่นานเวลและพวกก็ได้มาถึงทางออก
แต่เมื่อมาถึงทางออก พวกนั้นกลับหยุดและแสดงสายตาไม่มั่นใจออกมา
เกิดอะไรขึ้นกัน ? ท่าทีผิดปกติของเวลและพวกทำให้เหล่าจักรพรรดิหันมาสนใจแต่ในภาพที่เวลส่งมานั้นพวกเขาไม่ได้เห็นอะไรผิดปกติ
มันมี 7 คนจากเขตเย่าหยาง ซิงฮัวก็อยู่ด้วยทีมคังเฉียงอีก…. เวลพูดขึ้นมา พวกเขามีกว่า 286 คน
เมื่อได้ยินแบบนั้นเหล่าจักรพรรดิก็พากันคิ้วขมวด คำตอบของเวลนั้นเหมือนกับที่บลูพูดไปก่อนหน้านี้ไม่มีผิด
แต่ข่งจู้ยังคงใจเย็นอยู่ เขาได้พูดขึ้นมา ทดสอบความแข็งแกร่งพวกนั้น
หลังจากที่สั่งการออกไปเพราะบางอย่างข่งจู้จึงได้พูดขึ้นต่อ ระวังไว้ด้วย ความแข็งแกร่งของทีมคังเฉียงอาจจะไม่ธรรมดา
เมื่อได้ยินแบบนั้น เวลก็อึ้งในใจ เขากลับเคร่งเครียดขึ้นมา
เมื่อจักรพรรดิบอกว่าทีมคังเฉียงไม่ธรรมดา งั้นก็ต้องไม่ธรรมดาแน่ !
ตอนแรกเวลไม่ได้ใส่ใจทีมคังเฉียงมากนัก เขาแค่ต้องระวังคนจากเขตเย่าหยางโดยเฉพาะซิงฮัว แต่หลังจากที่ได้ยินที่ ข่งจู้บอกมาเวลก็มองไปที่ทีมคังเฉียงด้วยความระวังมากกว่าเก่า
ไม่นานเวลก็บอกคำสั่งของข่งจู้กับเหล่าแม่ทัพคนอื่นๆ
เหล่าแม่ทัพพากันแสดงสีหน้าจริงจังออกมา พวกเขาค่อยๆมุ่งหน้าไปยังทางออกอย่างช้าๆ.
….
ข้าบอกแล้วว่าทางออกนี้ไม่ใช่แค่บลูที่จะมา จางลู่ยิ้มออกมาและพูดขึ้น สุดท้ายพวกนี้ก็ปรากฏตัวขึ้นมา
หลังจากที่รออยู่นาน สุดท้ายคนที่พวกเขารอก็โผล่มาสักที
ท่าทีของซิงฮัวและคนอื่นๆต่อทีมคังเฉียงดูเคารพอย่างมาก การกระทำและคำพูดของจางลู่นั้นล้วนแต่ส่งผลต่อความคิดของพวกเขา
เมื่อได้ยินที่จางลู่พูดมา ซิงฮัวก็เห็นด้วย โชคดีที่บลูไม่ได้บอกพวกนี้ ไม่งั้นแล้วพวกนี้คงไม่กล้าโผล่มาที่นี่
บลูโดนอัดจนอยู่ในสภาพปางตาย เขาจะเอาเวลาที่ไหนไปบอกเวลและคนอื่นๆ
หลังจากที่เงียบได้สักพัก ซิงฮัวก็ถามจางลู่ ท่านจางลู่ ท่านจะฆ่าพวกนั้นเลยรึไม่ ?
ด้วยการที่อยู่เผ่ามนุษย์ แน่นอนว่ามันจะดีหากกำจัดแม่ทัพพวกนี้ได้ การฆ่าพวกนี้ก็เท่ากับการปกป้องมนุษย์คนอื่นๆไปด้วย
คนที่เหลือจากเขตเย่าหยางพากันมองไปที่จางลู่ด้วยสีหน้าคาดหวัง พวกเขาหวังว่าทีมคังเฉียงจะฆ่าพวกนี้ทิ้งเสีย
จางลู่มั่นใจว่าถึงจะปล่อยพวกนี้ไปแต่ก็ไม่อาจจะสร้างปัญหาอะไรได้ในอนาคต พวกนี้ไม่ได้เป็นภัยต่อชะตาของมนุษย์เลย
ซิงฮัวไม่รู้การตัดสินใจของจางลู่ แต่เมื่อจางลู่ตัดสินใจ นางก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา เพราะกลัวว่าจะทำให้จักรพรรดิคังเฉียงไม่พอใจ
ยังไงซะมันก็คือทีมคังเฉียงที่ลงมือไม่ใช่นางเอง
…
เวลและพวกค่อยๆเดินทางเข้ามา พวกนั้นคิดว่าจางลู่และคนอื่นๆจะไม่รู้ตัวแต่ก่อนที่จะได้โผล่มา พวกนั้นก็ได้ยินเสียงของ จางลู่ ดังขึ้นมาช้าๆ เมื่อพวกเจ้ามาถึงที่นี่ งั้นก็ออกมาแสดงตัวหน่อย แม่ทัพเผ่าสวรรค์ชอบแอบแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
ถูกพบตัวแล้ว เวลและคนอื่นๆพากันใจหล่นวูบ
เมื่อพวกเขาโดนพบตัวแล้ว พวกเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องซ่อนอีก พวกเขาพากันโผล่ออกมาทันที
พวกเขาพากันระวังตัวจากทีมคังเฉียงและเว้นระยะห่างเอาไว้อย่างมาก โชคดีที่เสียงของจางลู่ดังขึ้นมาอีกครั้ง ข้าขอแนะนำตัว ข้าร่างแยกของจักรพรรดิคังเฉียง พวกเจ้าเรียกข้าว่า…จางลู่ ก็ได้ นี่คือเจ้าสำนัก
เวลถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก จากนั้นเขาก็ถามขึ้นมา ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามาที่นี่ทำไม ?
จางลู่ยิ้มออกมา ก็ง่ายๆ พวกเจ้ามีสองทางเลือก หนึ่งคือส่งลูกปัดดั้งเดิม, น้ำจิตและสมบัติของพวกเจ้ามา อีกทางคือตาย
เวลไม่ได้พูดอะไร เขาจำคำเตือนของข่งจู้ได้ขึ้นใจ ทีมคังเฉียงนั้นต้องมีอะไรผิดปกติแน่ แต่เวลไม่คิดเลยว่าเขายังไม่ทันได้พูดอะไร อีกฝ่ายกลับยื่นข้อเสนอเช่นนี้มา
ตายรึ ? เจ้าเนี้ยรึ ? แม่ทัพเผ่าสวรรค์จากเขตข่งจู้คนหนึ่งพูดขึ้นมา เจ้าเป็นร่างแยกของจักรพรรดิคังเฉียง เจ้าไม่ใช่ร่างหลักซะหน่อย ? เจ้าจะฆ่าใครก็ได้ตามใจรึ ?
แม่ทัพเผ่าสวรรค์อีกคนพูดขึ้น หากข้าเป็นเจ้า ข้าคงหนีไปแล้ว เมื่อแม่ทัพบลูมาถึงข้ากลัวว่าพวกเจ้าคงไม่รอดไปสักคน
หากจักรพรรดิคือพระเจ้าของพวกเขา งั้นบลูก็เป็นตัวตนที่น่าเคารพในหมู่แม่ทัพ ไม่ต้องเดาเลยว่าบลูและล็อคนั้นสูงส่งเพียงใดสำหรับพวกเขา !
บลูรึ ? จางลู่ยิ้มออกมา บังเอิญว่าไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้บลูเพิ่งมาที่นี่
เมื่อได้ยินแบบนั้น เวลก็รู้สึกสังหรณ์ใจแย่ๆขึ้นมา ท่านบลูรึ ?
จางลู่ยิ้มออกมา ตอนแรกเราคิดจะฆ่าเขา แต่เขายอมส่งลูกปัดจิตให้เรา ดังนั้นเราจึงไว้ชีวิตเขา บลูน่ะฉลาดข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าจะฉลาดเท่ากับเขารึไม่ พวกเจ้าตัดสินใจกันเอง พวกเจ้ามีเวลา 1 ก้านธูปเท่านั้น
ไว้ชีวิตท่านบลูรึ ? แม่ทัพคนแรกฮึดฮัดออกมา เจ้าเข้าใจความแข็งแกร่งของแม่ทัพสูงสุดรึไม่ ? ร่างแยกของจักรพรรดิมีดีแต่คุยโวรึไง ? ข้าไม่ต้องการเวลา 1 ก้านธูป ข้าบอกเจ้าเลยก็ได้ว่าหากเจ้าคิดจะสู้ก็มาสู้กัน ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่รู้สึกผิดกับการตัดสินใจของตัวเอง
แม่ทัพเขตข่งจู้และเทียนตู้ไม่กลัวแม้แต่น้อย มันมีแค่คนเดียวที่พวกเขากลัวคือซิงฮัวจากเขตเย่าหยางเท่านั้น
จางลู่ยิ้มออกมา แล้วคนอื่นล่ะ ?
คิดจะขู่เรารึ ? ไม่มีทาง ! แม่ทัพเผ่าสวรรค์อีกคนก้าวออกมา
เวลยังคิดอยู่ เขาสงสัยว่านี่จะเป็นกับดักแต่ตอนที่คิดนั้นก็มีแม่ทัพคนอื่นๆก้าวออกไป เขาไม่ทันหยุดพวกนั้น เมื่อเขาได้สติและเตรียมที่จะตอบกลับเสียงของจางลู่ก็ดังขึ้นมาก่อน งั้นรึ ? งั้นข้าคงต้องขอประกาศว่าพวกเจ้าต้องตาย