จางหยูแผ่การรับรู้ออกไป การรับรู้ของเขาแผ่เข้าไปในเขตหวงห้ามเพื่อตรวจสอบสถานการณ์
โชคร้ายที่ในเขตหวงห้ามนั้นการรับรู้ของเขาโดนจำกัดจนเขาไม่อาจจะตรวจสอบอะไรได้เลย มันราวกับเขาตกอยู่ในบึง
แม้ว่าจะได้ยินเสียงของเนี่ยเวิ่น แต่การรับรู้ของเขาไม่อาจจะรับรู้ตัวตนของเนี่ยเวิ่นได้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเนี่ยเวิ่นอยู่ห่างเกินไปหรือการรับรู้ของเขาโดนจำกัด แต่ที่แน่ๆ การรับรู้ของเขานั้นเล็กกว่าเดิมหมื่นเท่า
“ ท่านรับรู้เขาได้รึไม่ ?” จ้าวแห่งโลกพันเขตถามขึ้นมา
จางหยูส่ายหน้า เขาได้แต่ต้องพึ่งเสียงเพื่อบอกถึงตำแหน่งของเนี่ยเวิ่น แต่ตำแหน่งที่แน่ชัดนั้น จางหยูไม่รู้ เขารู้สึกได้ว่าในเขตหวงห้ามนี้คือโกลาหลที่บีบอัดกัน เขารู้สึกปวดหัวกับความรู้สึกแบบนี้ จางหยูมองไปทางเขตหวงห้ามและตะโกนออกมาให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ “เนี่ยเวิ่น นั่นเจ้ารึ ?”
“ ใช่ ข้าเอง !” เสียงของเนี่ยเวิ่นดังขึ้นมา เสียงนี้เต็มไปด้วยความลนลานและหวาดกลัว “ พ่อบุญธรรม ช่วยข้าด้วย !”
จางหยูอยากจะช่วยอีกฝ่ายเช่นนี้ แต่เขตหวงห้ามไม่ใช่ว่าจะเข้าไปได้ตามใจ สำหรับจางหยูที่อยู่ระดับพันเท่าแล้ว เดาว่าเขาคงกลายเป็นผงในเวลาไม่กี่วินาที แม้แต่โอกาสที่จะกลับไปยังโลกตันเถียนก็ไม่มี
เมื่อคิดแบบนั้นจางหยูก็ถามขึ้นมา “ เจ้าเข้าไปในเขตหวงห้ามได้ยังไง ? ใครพาเจ้ามาที่นี่ ?”
เขาสงสัยว่ามันอาจจะมีสมบัติที่ทนต่อการกัดกร่อนได้ ยังไงซะด้วยความแข็งแกร่งของเนี่ยเวิ่นแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทนการกัดกร่อนของเขตหวงห้าม
“ ข้าไม่รู้” เนี่ยเวิ่นเหมือนจะร้องไห้ เขาพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือ “ ข้าหลับอยู่ ข้าไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น ตื่นมาอีกทีข้าก็อยู่ที่นี่แล้ว พ่อบุญธรรมช่วยข้าออกไปด้วย ข้ากลัว ”
แม้ว่าเขาจะไม่เคยมาที่เขตหวงห้ามมาก่อน แต่เขาก็เคยได้ยินชื่อเสียงของมัน
มันคือเขตหวงห้ามที่แม้แต่ผู้ควบคุมขั้น 9 ก็ยังต้องกลัว !
แม้จะไม่รู้ว่าเพราะอะไรเนี่ยเวิ่นถึงอยู่ด้านในได้ แต่มันไม่ได้หมายความว่าเนี่ยเวิ่นจะปลอดภัย หากเวลาผ่านไปเนี่ยเวิ่นก็อาจจะตายได้ !
“ ไม่ต้องกังวล เมื่อเจ้ายังอยู่รอดได้ งั้นเจ้าก็ไม่น่าจะเป็นอะไรในเวลาอันสั้น “ จางหยูพูดขึ้นมา “ ใจเย็น อย่าเพิ่งลนลานไป “
คำปลอบของจางหยูได้ผล เนี่ยเวิ่นเริ่มสงบสติอารมณ์ลงแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังกลัวอยู่ดี
“ เจ้ามาอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว ?” จางหยูถามขึ้นมา
“ มันก็นานมากแล้ว ข้าจำเวลาที่แน่ชัดไม่ได้แต่ข้ามาที่นี่ตั้งแต่ที่ออกจากสำนักคังเฉียง ”
จางหยูคิดตาม “ งั้นเจ้าทนต่อการกัดกร่อนของโกลาหลได้ยังไง? ”
“ ทนรึ ? ข้าไม่ได้ทนอะไรเลย !” คำตอบนี้ ทำให้จางหยูและจ้าวแห่งโลกพันเขตต่างก็แปลกใจ “ การกัดกร่อนของโกลาหลคืออะไรกัน ? มันอันตรายงั้นรึ ?”
จางหยูและจ้าวแห่งโลกพันเขตมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ
เนี่ยเวิ่นไม่โดนกัดกร่อน !
นี่มันแปลกประหลาด !
จางหยูแผ่การรับรู้เข้าไปอีก เขามั่นใจได้ว่าในเขตหวงห้ามนี้มีการกัดกร่อนที่น่ากลัว แม้แต่การรับรู้ของเขาก็ยังโดนจำกัด ในอีกความหมายคือการกัดกร่อนไม่ได้หายไป มันยังคงอยู่ แต่ทำไมเนี่ยเวิ่นถึงไม่ได้รับผลกระทบ มันเป็นเรื่องที่แปลกจริงๆ
“ เจ้ามั่นใจรึว่าเจ้าไม่โดนกัดกร่อน ?”จางหยูถามขึ้นมา “ รึว่าเจ้ามีสมบัติพิเศษที่ทนการกัดกร่อนได้ ?”
“ ข้าไม่มีสมบัติใดๆ ข้าไม่ได้รู้สึกถึงการกัดกร่อนใดๆด้วย” เนี่ยเวิ่นตอบกลับแล้วพูดขึ้นต่อ “ พ่อบุญธรรม ช่วยข้าออกจากที่นี่ที !”
เขากลัวอย่างมาก เมื่อตื่นขึ้นมาเขาก็อยู่ในเขตหวงห้าม พื้นที่ที่แม้แต่ผู้ควบคุมขั้น 9 ก็ยังไม่กล้าเข้ามา เขาจะไม่กลัวได้ยังไง ?
“ ข้าขอโทษ ข้าช่วยเจ้าไม่ได้” จางหยูไม่คิดว่าตัวเองจะทนการกัดกร่อนได้
บางทีตอนที่เขาทะลวงผ่านและได้ขึ้นเป็นจ้าวบรรพกาล เขาอาจจะมองข้ามการกัดกร่อนที่นี่ได้แต่ก่อนหน้านั้นเขาไม่อาจจะทนไหวแน่
เมื่อได้ยินที่จางหยูพูดมา เนี่ยเวิ่นก็ลนลานอีกครั้ง เมื่อเขาเข้ามาที่นี่และโดนขังเอาไว้ รอบตัวเขาก็มีแต่สีเทา เขาไม่เห็นแม้แต่เงารึได้ยินเสียงอะไร มันราวกับโกลาหลร้าง มันมีแต่ความโดดเดี่ยว มันทำให้จิตใจของเขาแทบพังทลาย เมื่อมันไม่ง่ายที่จะพบใคร แต่เขากลับได้พบพ่อบุญธรรมของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นจางหยูก็ไม่อาจจะช่วยอะไรเขาได้
ตอนนั้นเนี่ยเวิ่นแทบใจสลาย
“ ไม่ ไม่ ท่านพ่อ ท่านคงล้อข้าเล่นสินะ ?” เนี่ยเวิ่นถามขึ้น “ ข้ารู้ว่าท่านต้องมีทาง !”
หากแม้แต่จางหยูก็ยังไม่มีทางช่วยได้ งั้นใครจะช่วยเขาได้อีก ?
จางหยูพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ ข้าไม่ได้ล้อเล่น เขตหวงห้ามนี้มีพลังกัดกร่อนที่ทรงพลัง แม้แต่ผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ก็ไม่อาจจะทนไหว ตั้งแต่โบราณมาแล้วไม่ว่าคนจะแข็งแกร่งเพียงใดแต่ก็ไม่กล้าเข้ามาที่นี่ ไม่มีใครรอดไปได้ เจ้าน่ะเป็นแค่คนเดียวที่รอด”
เขาสงสัยอย่างมากว่าเนี่ยเวิ่นทำได้ยังไง
รึว่ามันมีความลับอะไร ?
ทำไมการกัดกร่อนถึงไม่ส่งผลต่อเนี่ยเวิ่น ? ทำไมเนี่ยเวิ่นถึงได้โผล่มาที่นี่?
เนี่ยเวิ่นเกี่ยวของอะไรกับเขตหวงห้ามกัน ?
“ เจ้าน่าจะภูมิใจ ยังไงซะเจ้าก็เป็นคนแรกที่รอดในเขตหวงห้าม” จางหยูถอนหายใจออกมา “ แม้แต่ผู้ควบคุมขั้น 9 ที่แกร่งที่สุดก็ยังทำแบบเจ้าไม่ได้”
หากเป็นตอนอื่น เมื่อได้ยินคำชมจากจางหยู งั้นเนี่ยเวิ่นคงตื่นเต้นอย่างมากแต่ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์มาดีใจเลย
เขาพูดขึ้นมาอย่างไร้เรี่ยวแรง “ท่านช่วยข้าไม่ได้ ดูเหมือนว่าข้าจะต้องตายจริงๆ”
“ เมื่อพลังกัดกร่อนไม่ได้ส่งผลต่อเจ้า เจ้าออกมาเองไม่ได้รึ ?” จางหยูถามขึ้นมา “ ข้าคิดว่าคงไม่มีสิ่งกีดขวางอยู่ในเขตหวงห้าม ตราบใดที่เจ้าทนพลังกัดกร่อนได้ เจ้าก็น่าจะออกมาได้ง่ายๆไม่ใช่รึ ?”
“ ข้าพยายามแล้วแต่ก็ไม่อาจจะทำได้” เนี่ยเวิ่นยิ้มแห้งๆออกมา “ ไม่ได้รึ ?” จางหยูสับสน
“ ข้าไม่รู้สึกถึงการกัดกร่อน แต่มันมีพลังบางอย่างที่แข็งแกร่งผูกมัดข้าอยู่ พลังผูกมัดนั้นแข็งแกร่งเกินไปและขังข้าไว้ที่นี่ ข้าได้แต่เคลื่อนไหวในพื้นที่เล็กๆ เมื่อออกห่างจากศูนย์กลางของพื้นที่นี้ ข้าก็รู้สึกว่าเหมือนเดินอยู่ในโคลน ไม่สิ มันน่าจะบอกว่ามันเหมือนกับเถาวัลย์ผูกมัดข้าไว้ การรับรู้ของข้าก็ไม่อาจจะทำงานได้”
จางหยูและจ้าวแห่งโลกพันเขตมองหน้ากัน
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินสถานการณ์ที่แปลกประหลาดเช่นนี้
หากไม่ใช่เพราะเนี่ยเวิ่นอยู่ในเขตหวงห้าม พวกเขาคงคิดว่าเนี่ยเวิ่นน่ะโกหก
“ รึว่าเนี่ยเวิ่นมีตัวตนพิเศษกัน ?” จางหยูคิด “ เขาคงไม่ใช่จ้าวโกลาหลกลับมาเกิดใหม่หรอกนะ ?”
จากลักษณะท่าทีแล้ว นั่นคือเนี่ยเวิ่นบุตรบุญธรรมของเขาไม่มีผิด แต่ก็ใช่ว่าเนี่ยเวิ่นจะเป็นคนอื่นกลับมาเกิดใหม่ไม่ได้
แต่หากเนี่ยเวิ่นเป็นจ้าวโกลาหลกลับมาเกิดใหม่จริงๆ งั้นทำไมถึงได้ถูกจำกัดโดยเขตหวงห้าม ?
เมื่อคิดแบบนั้นจางหยูก็สลัดความคิดเดิมทิ้ง เนี่ยเวิ่นไม่น่าใช่จ้าวโกลาหลกลับมาเกิดใหม่ จ้าวโกลาหลแม้ว่าจะเกิดใหม่ แต่ก็ไม่น่าจะใช่เนี่ยเวิ่น
มันยากที่คนแบบนี้จะเป็นจ้าวโกลาหลได้
ยิ่งกว่านั้นแม้ว่าจ้าวโกลาหลจะมีอยู่จริง แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเขาตายไปแล้วรึยัง
“ ตอนนี้ข้าไม่อาจจะช่วยเจ้าได้” จางหยูพึมพำออกมา “ เจ้าต้องทนอยู่ที่นี่ไปสักพัก ตราบใดที่เจ้าไม่ตาย ข้าจะช่วยเจ้าออกมาให้ได้ แต่ข้าไม่อาจจะบอกเวลาที่แน่นอนได้ บางทีอาจจะหมื่นปีรึอาจจะร้อยล้านปี หรือไม่ก็นานกว่านั้น…”
ตราบใดที่เขาขึ้นเป็นจ้าวบรรพกาล เขาก็จะต้านทานการกัดกร่อนได้ เป็นธรรรมดาที่เขาจะช่วยเนี่ยเวิ่นได้
เรื่องที่สำคัญคือ…เนี่ยเวิ่นต้องไม่ตาย
“ จริงรึ ?” เนี่ยเวิ่นเริ่มเห็นความหวังในคำพูดของจางหยู ราวกับแสงสว่างในความมืดมิด มันทำให้เขามีกำลังใจ “ ข้ารู้ว่าท่านต้องมีทางแน่ ! ท่านพ่อคือตัวตนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโกลาหล !”
“ ไม่ต้องประจบข้า” จางหยูกรอกตาใส่ “ เจ้ายังต้องคิดว่าเจ้าจะยืนหยัดจนกว่าจะถึงตอนนั้นได้หรือไม่ ”
จางหยูได้ถามขึ้นมาอีกครั้ง “ เจ้าได้ปลุกความทรงจำอะไรขึ้นมารึไม่ ?”
เนี่ยเวิ่นสับสน “ ปลุกความทรงจำรึ? ความทรงจำอะไรกัน ?”
“ ยกตัวอย่างเช่นความทรงจำของโกลาหลรึเขตหวงห้าม จ้าวโกลาหลและเรื่องอื่นๆ”
“ ไม่มี ” เนี่ยเวิ่นตอบกลับ “ เรื่องพวกนั้นเกี่ยวอะไรกับข้ากัน ? ทำไมข้าต้องปลุกความทรงจำเหล่านั้นด้วย ?”
“ ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ใช่จ้าวโกลาหลกลับมาเกิดหใม่จริงๆ” มันทำให้จางหยูสงสัยในตัวเนี่ยเวิ่นมากกว่าเดิม ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าตัวตนของเนี่ยเวิ่นน่ะไม่ธรรมดา เด็กนี่ต้องมีตัวตนพิเศษ มันต้องมีความลับปิดบังเอาไว้แต่ความลับนั้นยังไม่เปิดเผยออกมา
จางหยูส่ายหน้าและพูดขึ้น “ เจ้าต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน นอกจากนี้หากมีอะไรอยากจะฝากไปบอกพ่อเจ้าก็บอกมา”
เนี่ยเวิ่นคิดสักพักแล้วพูดขึ้น “ ฝากบอกท่านพ่อด้วยว่าเขายังหนุ่ม ให้เขามีลูกเพิ่มอีกคน”
“ เจ้าควรพูดเรื่องที่ควรพูด” จางหยูคิ้วขมวด เนี่ยเวิ่นนี่ทำตัวน่าเหลือเชื่อจริงๆ
“ ข้าพูดจริงๆ ท่านพ่อควรจะมีลูกอีกสักคน เผื่อว่าข้าตาย เขาจะได้ไม่ต้องเสียใจ ……”
ระบบเจ้าสำนัก ตอนที่1730
Posted by ? Views, Released on March 15, 2022
, ระบบเจ้าสำนัก
อ่านนิยายเรื่อง ระบบเจ้าสำนักจางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน...
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ระดับการบ่มเพาะ
ขอบเขตฉีซวน ระดับ 1-9
ขอบเขตว่อซวน ระดับต่ำ กลาง สูง
ขอบเขตตันซวน ระดับต่ำ กลาง สูง
ขอบเขตหลิงซวน ระดับต่ำ กลาง สูง
ขอบเขตหลี่ซวน ระดับต่ำ กลาง สูง
ขอบเขตตุ้นซวน ระดับต่ำ กลาง สูง
Recommended Series
Comment
Facebook Comment