เมื่อเห็นซังหนานเทียนฮึกเหิมขึ้นมาราวกับอดใจไม่ไหวที่อยากจะโจมตีเขาต่อแบบไม่หยุดพัก จางหยูก็เหมือนเข้าใจเป้าหมายที่แอบแฝงในการต่อสู้กับเขา
ที่แท้การรังแกคนอื่น มันเหมือนการไปกระตุ้นจิตวิญญาณในการต่อสู้ของชายแก่คนนี้ได้
ไม่แปลกเลยที่ก่อนนี้ซื่อซินเหมือนไม่อยากจะสู้กับเขา
ซื่อซินไม่เพียงแต่สัมผัสประสบการณ์การโดนรังแกอยู่ฝ่ายเดียว กลับกัน เขายังคิดว่าตัวเองกลายเป็นกระสอบทรายให้อีกฝ่ายทุบตีเล่น
“ ข้ายังเด็กเกินไป จึงไม่เข้าใจความรู้สึกของท่าน” จางหยูรู้สึกเสียใจขึ้นมา ถ้าเขารู้ว่าวิธีแบบนี้สามารถกระตุ้นจิตวิญญาณในการต่อสู้ของเหล่าผู้อาวุโสได้ เขาคงออมมือและแสร้งทำตัวอ่อนแอบ้าง จะได้เป็นการไม่ทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายเกินไป “น่าเสียดาย ถ้าหากข้าเข้าใจเรื่องนี้เร็วกว่านี้ บางทีซื่อซินอาจจะไม่ปฏิเสธข้าและยอมประมือด้วย ”
ต้องโทษจางหยูที่ชินแต่การรังแกคนอื่น เขาไม่รู้เลยว่าการเป็นฝ่ายถูกรังแกนั้นจะรู้สึกยังไง
“ โชคดีที่ยังไม่สายเกินไปที่รู้เรื่องนี้” จางหยูรับมือกับการโจมตีจากซังหนานเทียนแล้วพูดขึ้น “ ข้าอยากเห็นจริงๆว่าท่านในอดีตเป็นยังไง !”
สิ่งที่ซื่อซินรู้สึก เขาสามารถรับรู้ได้จากซังหนานเทียน
…
“ พวกเขาเข้าไปในโลกจำลอง” หงอีแสดงสีหน้ากังวลออกมา “ หวังว่าจางหยูจะไม่บาดเจ็บ”
“ เจ้าควรเป็นห่วงเจ้าแก่นั่น เขาไม่อาจจะเป็นคู่มือของนายท่านได้เลยด้วยซ้ำ !” เสี่ยวเสียพูดขึ้น
หงอีมองไปที่เสี่ยวเสียและพูดขึ้น “ ความแข็งแกร่งของเหล่าซังนั้นเกือบจะถึงระดับหมื่นเท่าแล้ว เจ้าคิดว่าจางหยูจะเอาชนะเหล่าซังได้รึ ?”
“ ใกล้แล้วยังไง ? ” เสี่ยวเสียแสดงท่าทีเยาะเย้ยออกมา “ แม้ว่าเขาจะอยู่ระดับหมื่นเท่าแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นคู่มือของนายท่านได้ !” มันพูดอย่างภูมิใจ “ เจ้านี่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของนายท่านเอาซะเลย !”
หงอีคิดว่าเสี่ยวเสียพูดไร้สาระ นางไม่เชื่อ นางมองไปที่เสี่ยวหลิงเอ๋อร์แล้วถามขึ้นมา “ ที่เจ้านั่นพูดมาเป็นความจริงรึ ?”
คำตอบของเสี่ยวหลิงเอ๋อร์น่ะเชื่อถือได้ “ พี่หงอี นายท่านนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก”
“ หากเทียบกับเหล่าซังล่ะ ?” หงอีถามขึ้นมา ไอรีนโนเวล
“ หากนายท่านเอาจริง เหล่าซังไม่อาจจะเป็นคู่มือของนายท่านได้อย่างแน่นอน ” เสี่ยวหลิงเอ๋อร์ตอบกลับด้วยท่าทีพอใจ “ ก่อนหน้านี้จ้าวแห่งเขตตะวันตกที่ชื่อว่าซื่อซินที่อยู่ใกล้เคียงระดับหมื่นก็ไม่อาจจะเป็นคู่มือของนายท่านได้ หากนายท่านไม่ยั้งมือเอาไว้ นายท่านอาจจะฆ่าเขาไปแล้ว ”
หงอีตะลึง “ ซื่อซินรึ ? เจ้ามั่นใจรึว่าจางหยูได้สู้กับเขาและเอาชนะเขามาได้ ?”
“ พี่หงอีรู้จักซื่อซินด้วยรึ ?” เสี่ยวหลิงเอ๋อร์แปลกใจขึ้นมา
“ ฟังจากที่เหล่าซังบอกมา ” หงอีพูดขึ้น “ ตอนแรกเหล่าซังไม่รู้จักอีกฝ่ายจนกระทั่งเขาได้สู้กับราชาตะวันออก เขารู้จากปากราชาตะวันออกถึงตัวตนของท่านซื่อซิน ฟังจากที่ราชาตะวันออกบอกมาแล้ว ความแข็งแกร่งของท่านซื่อซินนั้นไม่ได้ด้อยกว่าเหล่าซังมากนัก ในโกลาหลนี้ ท่านซื่อซินถือว่าเป็นอันดับสอง ”
เสี่ยวหลิงเอ๋อร์กระจ่างทันที “ อย่างนี้นี่เอง “ นางมองไปที่หงอีแล้วพูดขึ้น “แต่นายท่านเอาชนะซื่อซินได้จริงๆ เสี่ยวหลิงเอ๋อร์ไม่โกหกพี่หงอีหรอก ”
เสี่ยวเสียพูดขึ้น “ นายท่านแค่ไม่อยากรังแกเจ้าแก่นั่น นายท่านแข็งแกร่งกว่าเขามาก เขาไม่อาจจะมีพลังต้านทานได้เลย…ความแข็งแกร่งของชายแก่อาจจะเหนือกว่าซื่อซินเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกันแล้วก็ยังด้อยกว่านายท่านอย่างมาก !”
“ มันเป็นเช่นนั้นจริงๆรึ ?” หงอีแสดงสีหน้าสับสนออกมาและมองไปที่เสี่ยวหลิงเอ๋อร์
“ มันฟังดูเกินจริงไปหน่อยแต่โดยรวมแล้วไม่ได้ต่างอะไรกันมาก “ เสี่ยวหลิงเอ๋อร์พยักหน้า “ หากไม่มีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้น เหล่าซังก็ไม่น่าจะเป็นคู่มือของนายท่านได้แต่นายท่านอยากจะเรียนรู้จากเขา นายท่านไม่ได้เอาจริง ดังนั้นเหล่าซังคงบาดเจ็บในตอนนี้”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหงอีก็ใจสั่นขึ้นมา
ชายคนนี้แกร่งถึงขนาดนั้นเลยรึ ? ไม่ใช่ว่า…ระดับหมื่นเท่ารึ ?
แม้ว่าจะยังไม่ถึงระดับหมื่นเท่าแต่เดาว่าคงอยู่ห่างไม่มากนัก ?
“ นี่คือสามีที่เหมาะกับข้า !” หงอีตาเป็นประกายขึ้นมา “ นี่คือคู่ชีวิตที่เหมาะกับข้า ! “ นางปฏิเสธคนมานับไม่ถ้วน แม้แต่คนระดับพันเท่าอย่างตงมู่หลินก็ตาม หลังจากที่รอมานานสุดท้ายนางก็พบกับคู่ชีวิตที่เหมาะสมกับนางสักที
เสี่ยวหลิงเอ๋อร์มองไปที่หงอีและอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “ พี่หงอี เจ้าชอบนายท่านรึ ?”
หงอีหน้าแดงและพูดตามตรง “ คนแข็งแกร่งเช่นนี้มีใครบ้างจะไม่ชอบ ?”
“ เจ้าเป็นแค่คนรู้จักของนายท่าน” เสี่ยวเสียพูดขึ้นมา “ ข้าแนะนำให้เจ้าสลัดความคิดในหัวทิ้งซะ คนยิ่งใหญ่เช่นนายท่านนั้นมีอะไรบ้างที่เขาคว้ามาครองไม่ได้ ? เจ้ามีอะไรดีนอกจากร่างกาย ? เชื่อรึไม่ว่าเจ้าอ่อนแอเช่นนี้แค่นายท่านตบเจ้า เจ้าก็ร้องไห้ทั้งวันแล้ว” พูดจาใหญ่โตซะจริง !
หงอีกรอกตาใส่เสี่ยวเสีย นี่มันเป็นจิตปฐมบทโกลาหลจริงๆรึ ? ทำไมมันถึงได้รับรู้ถึงความรู้สึกได้ ?
“ อย่าไปฟังเสี่ยวเสียเลย” เสี่ยวหลิงเอ๋อร์มองค้อนเสี่ยวเสียแล้วบอกกับหงอี “ พี่หงอี หากเจ้าชอบนายท่าน เจ้าก็ควรไล่ตามเขา เท่าที่ข้ารู้มานายท่านยังไม่ได้มีใครที่หมายปอง บางทีเจ้าอาจจะทำให้นายท่านหวั่นไหวได้ ยังไงซะเจ้าก็เป็นคนสวย เสี่ยวหลิงเอ๋อร์ ไม่เคยเห็นใครสวยกว่าเจ้า ”
“ จริงรึ ?” หงอีดีใจนิดๆและมั่นใจเพิ่มขึ้นไปด้วย
เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้นางไม่มั่นใจ
เสี่ยวเสียพูดขึ้นมา “ ที่เสี่ยวหลิงเอ๋อร์พูดไม่ผิดหรอก ด้วยหน้าตาของเจ้าแล้วก็น่าสะดุดตาโดยเฉพาะสายตาของเจ้าที่ดูน่าสงสาร”
“ เสี่ยวเสีย !” เสี่ยวหลิงเอ๋อร์โกรธขึ้นมา“ หากเจ้าพูดไร้สาระอีกข้าจะบอกนายท่าน ข้าจะให้นายท่านจัดการกับเจ้า !”
เสี่ยวเสียตัวสั่นราวกับรู้สึกได้ถึงฝ่ามือของจางหยู มันมองไปรอบๆแล้วถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก มันอยากเถียงกลับแต่เมื่อคิดถึงการลงโทษจากจางหยู มันก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก
สุดท้ายเสี่ยวเสียก็อดไม่ไหวและพูดขึ้น “ ข้าต้องบอกให้ชัดเจนก่อน ข้าไม่ได้กลัวเจ้า ข้าไม่ได้กลัวว่าจะถูกนายท่านลงโทษ ข้าแค่ไม่อยากให้นายท่านโกรธ ”
จิตปฐมบทโกลาหลอย่างมันจะกลัวโดนลงโทษได้ยังไง ?
เสี่ยวเสียแสดงสีหน้าหนักแน่นออกมา
ที่แท้การรังแกคนอื่น มันเหมือนการไปกระตุ้นจิตวิญญาณในการต่อสู้ของชายแก่คนนี้ได้
ไม่แปลกเลยที่ก่อนนี้ซื่อซินเหมือนไม่อยากจะสู้กับเขา
ซื่อซินไม่เพียงแต่สัมผัสประสบการณ์การโดนรังแกอยู่ฝ่ายเดียว กลับกัน เขายังคิดว่าตัวเองกลายเป็นกระสอบทรายให้อีกฝ่ายทุบตีเล่น
“ ข้ายังเด็กเกินไป จึงไม่เข้าใจความรู้สึกของท่าน” จางหยูรู้สึกเสียใจขึ้นมา ถ้าเขารู้ว่าวิธีแบบนี้สามารถกระตุ้นจิตวิญญาณในการต่อสู้ของเหล่าผู้อาวุโสได้ เขาคงออมมือและแสร้งทำตัวอ่อนแอบ้าง จะได้เป็นการไม่ทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายเกินไป “น่าเสียดาย ถ้าหากข้าเข้าใจเรื่องนี้เร็วกว่านี้ บางทีซื่อซินอาจจะไม่ปฏิเสธข้าและยอมประมือด้วย ”
ต้องโทษจางหยูที่ชินแต่การรังแกคนอื่น เขาไม่รู้เลยว่าการเป็นฝ่ายถูกรังแกนั้นจะรู้สึกยังไง
“ โชคดีที่ยังไม่สายเกินไปที่รู้เรื่องนี้” จางหยูรับมือกับการโจมตีจากซังหนานเทียนแล้วพูดขึ้น “ ข้าอยากเห็นจริงๆว่าท่านในอดีตเป็นยังไง !”
สิ่งที่ซื่อซินรู้สึก เขาสามารถรับรู้ได้จากซังหนานเทียน
…
“ พวกเขาเข้าไปในโลกจำลอง” หงอีแสดงสีหน้ากังวลออกมา “ หวังว่าจางหยูจะไม่บาดเจ็บ”
“ เจ้าควรเป็นห่วงเจ้าแก่นั่น เขาไม่อาจจะเป็นคู่มือของนายท่านได้เลยด้วยซ้ำ !” เสี่ยวเสียพูดขึ้น
หงอีมองไปที่เสี่ยวเสียและพูดขึ้น “ ความแข็งแกร่งของเหล่าซังนั้นเกือบจะถึงระดับหมื่นเท่าแล้ว เจ้าคิดว่าจางหยูจะเอาชนะเหล่าซังได้รึ ?”
“ ใกล้แล้วยังไง ? ” เสี่ยวเสียแสดงท่าทีเยาะเย้ยออกมา “ แม้ว่าเขาจะอยู่ระดับหมื่นเท่าแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นคู่มือของนายท่านได้ !” มันพูดอย่างภูมิใจ “ เจ้านี่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของนายท่านเอาซะเลย !”
หงอีคิดว่าเสี่ยวเสียพูดไร้สาระ นางไม่เชื่อ นางมองไปที่เสี่ยวหลิงเอ๋อร์แล้วถามขึ้นมา “ ที่เจ้านั่นพูดมาเป็นความจริงรึ ?”
คำตอบของเสี่ยวหลิงเอ๋อร์น่ะเชื่อถือได้ “ พี่หงอี นายท่านนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก”
“ หากเทียบกับเหล่าซังล่ะ ?” หงอีถามขึ้นมา ไอรีนโนเวล
“ หากนายท่านเอาจริง เหล่าซังไม่อาจจะเป็นคู่มือของนายท่านได้อย่างแน่นอน ” เสี่ยวหลิงเอ๋อร์ตอบกลับด้วยท่าทีพอใจ “ ก่อนหน้านี้จ้าวแห่งเขตตะวันตกที่ชื่อว่าซื่อซินที่อยู่ใกล้เคียงระดับหมื่นก็ไม่อาจจะเป็นคู่มือของนายท่านได้ หากนายท่านไม่ยั้งมือเอาไว้ นายท่านอาจจะฆ่าเขาไปแล้ว ”
หงอีตะลึง “ ซื่อซินรึ ? เจ้ามั่นใจรึว่าจางหยูได้สู้กับเขาและเอาชนะเขามาได้ ?”
“ พี่หงอีรู้จักซื่อซินด้วยรึ ?” เสี่ยวหลิงเอ๋อร์แปลกใจขึ้นมา
“ ฟังจากที่เหล่าซังบอกมา ” หงอีพูดขึ้น “ ตอนแรกเหล่าซังไม่รู้จักอีกฝ่ายจนกระทั่งเขาได้สู้กับราชาตะวันออก เขารู้จากปากราชาตะวันออกถึงตัวตนของท่านซื่อซิน ฟังจากที่ราชาตะวันออกบอกมาแล้ว ความแข็งแกร่งของท่านซื่อซินนั้นไม่ได้ด้อยกว่าเหล่าซังมากนัก ในโกลาหลนี้ ท่านซื่อซินถือว่าเป็นอันดับสอง ”
เสี่ยวหลิงเอ๋อร์กระจ่างทันที “ อย่างนี้นี่เอง “ นางมองไปที่หงอีแล้วพูดขึ้น “แต่นายท่านเอาชนะซื่อซินได้จริงๆ เสี่ยวหลิงเอ๋อร์ไม่โกหกพี่หงอีหรอก ”
เสี่ยวเสียพูดขึ้น “ นายท่านแค่ไม่อยากรังแกเจ้าแก่นั่น นายท่านแข็งแกร่งกว่าเขามาก เขาไม่อาจจะมีพลังต้านทานได้เลย…ความแข็งแกร่งของชายแก่อาจจะเหนือกว่าซื่อซินเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกันแล้วก็ยังด้อยกว่านายท่านอย่างมาก !”
“ มันเป็นเช่นนั้นจริงๆรึ ?” หงอีแสดงสีหน้าสับสนออกมาและมองไปที่เสี่ยวหลิงเอ๋อร์
“ มันฟังดูเกินจริงไปหน่อยแต่โดยรวมแล้วไม่ได้ต่างอะไรกันมาก “ เสี่ยวหลิงเอ๋อร์พยักหน้า “ หากไม่มีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้น เหล่าซังก็ไม่น่าจะเป็นคู่มือของนายท่านได้แต่นายท่านอยากจะเรียนรู้จากเขา นายท่านไม่ได้เอาจริง ดังนั้นเหล่าซังคงบาดเจ็บในตอนนี้”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหงอีก็ใจสั่นขึ้นมา
ชายคนนี้แกร่งถึงขนาดนั้นเลยรึ ? ไม่ใช่ว่า…ระดับหมื่นเท่ารึ ?
แม้ว่าจะยังไม่ถึงระดับหมื่นเท่าแต่เดาว่าคงอยู่ห่างไม่มากนัก ?
“ นี่คือสามีที่เหมาะกับข้า !” หงอีตาเป็นประกายขึ้นมา “ นี่คือคู่ชีวิตที่เหมาะกับข้า ! “ นางปฏิเสธคนมานับไม่ถ้วน แม้แต่คนระดับพันเท่าอย่างตงมู่หลินก็ตาม หลังจากที่รอมานานสุดท้ายนางก็พบกับคู่ชีวิตที่เหมาะสมกับนางสักที
เสี่ยวหลิงเอ๋อร์มองไปที่หงอีและอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “ พี่หงอี เจ้าชอบนายท่านรึ ?”
หงอีหน้าแดงและพูดตามตรง “ คนแข็งแกร่งเช่นนี้มีใครบ้างจะไม่ชอบ ?”
“ เจ้าเป็นแค่คนรู้จักของนายท่าน” เสี่ยวเสียพูดขึ้นมา “ ข้าแนะนำให้เจ้าสลัดความคิดในหัวทิ้งซะ คนยิ่งใหญ่เช่นนายท่านนั้นมีอะไรบ้างที่เขาคว้ามาครองไม่ได้ ? เจ้ามีอะไรดีนอกจากร่างกาย ? เชื่อรึไม่ว่าเจ้าอ่อนแอเช่นนี้แค่นายท่านตบเจ้า เจ้าก็ร้องไห้ทั้งวันแล้ว” พูดจาใหญ่โตซะจริง !
หงอีกรอกตาใส่เสี่ยวเสีย นี่มันเป็นจิตปฐมบทโกลาหลจริงๆรึ ? ทำไมมันถึงได้รับรู้ถึงความรู้สึกได้ ?
“ อย่าไปฟังเสี่ยวเสียเลย” เสี่ยวหลิงเอ๋อร์มองค้อนเสี่ยวเสียแล้วบอกกับหงอี “ พี่หงอี หากเจ้าชอบนายท่าน เจ้าก็ควรไล่ตามเขา เท่าที่ข้ารู้มานายท่านยังไม่ได้มีใครที่หมายปอง บางทีเจ้าอาจจะทำให้นายท่านหวั่นไหวได้ ยังไงซะเจ้าก็เป็นคนสวย เสี่ยวหลิงเอ๋อร์ ไม่เคยเห็นใครสวยกว่าเจ้า ”
“ จริงรึ ?” หงอีดีใจนิดๆและมั่นใจเพิ่มขึ้นไปด้วย
เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้นางไม่มั่นใจ
เสี่ยวเสียพูดขึ้นมา “ ที่เสี่ยวหลิงเอ๋อร์พูดไม่ผิดหรอก ด้วยหน้าตาของเจ้าแล้วก็น่าสะดุดตาโดยเฉพาะสายตาของเจ้าที่ดูน่าสงสาร”
“ เสี่ยวเสีย !” เสี่ยวหลิงเอ๋อร์โกรธขึ้นมา“ หากเจ้าพูดไร้สาระอีกข้าจะบอกนายท่าน ข้าจะให้นายท่านจัดการกับเจ้า !”
เสี่ยวเสียตัวสั่นราวกับรู้สึกได้ถึงฝ่ามือของจางหยู มันมองไปรอบๆแล้วถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก มันอยากเถียงกลับแต่เมื่อคิดถึงการลงโทษจากจางหยู มันก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก
สุดท้ายเสี่ยวเสียก็อดไม่ไหวและพูดขึ้น “ ข้าต้องบอกให้ชัดเจนก่อน ข้าไม่ได้กลัวเจ้า ข้าไม่ได้กลัวว่าจะถูกนายท่านลงโทษ ข้าแค่ไม่อยากให้นายท่านโกรธ ”
จิตปฐมบทโกลาหลอย่างมันจะกลัวโดนลงโทษได้ยังไง ?
เสี่ยวเสียแสดงสีหน้าหนักแน่นออกมา