ระบบเจ้าสำนัก ตอนที่1769

  ความรู้สึกที่หงอีมีให้กับจางหยูนั้นแม้ว่าจะไม่บริสุทธิ์แต่มันก็หนักแน่นพอ

  คนอย่างนางไม่ว่าจะต้องทุ่มเทเท่าไหร่รึลำบากแค่ไหน แต่นางก็ไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆ

  เมื่อเห็นแบบนั้นจางหยูก็ได้แต่ต้องปวดหัว มันทำให้เขาตัดสินได้ว่าผู้หญิงน่ะเป็นปัญหาต่อตัวเขา

  ยิ่งสวยเท่าไหร่ นางก็ยิ่งมีปัญหาเท่านั้น

    ก็ได้   จางหยูได้แต่ต้องตกลง   หากเจ้าอยากไปที่สุสานจริงๆ ข้าจะพาเจ้าไปด้วย  

  หงอีราวกับทำตามแผนได้สำเร็จ นางเผยรอยยิ้มออกมา รอยยิ้มที่ราวกับดอกไม้บาน

  ต้องยอมรับว่านางน่ะสวยจริงๆ

  มันยากที่จะไม่หวั่นไหว

  น่าเสียดายที่จางหยูตอนนี้ไม่ได้สนใจเรื่องผู้หญิง เขาไม่ได้คิดเรื่องความรัก ในสายตาของเขา แม้หงอีจะดูงดงามแต่นางก็ไม่อาจจะทำให้เขาใจสั่นได้

    ยอดเยี่ยม   หงอีโบกมือ   งั้นท่านก็ต้องมารับข้าด้วย  

  หลังจากที่จางหยูรับปากแล้ว หงอีก็ได้จากไปด้วยความพอใจ ใบหน้าของนางมีแต่รอยยิ้ม

  จางหยูถอนหายใจออกมา   ผู้หญิงนี่ช่างเป็นปัญหาจริงๆ ! 

  จางหยูส่ายหน้าและสร้างรูหนอนขึ้นมา จากนั้นเขาก็ได้ก้าวเข้าไปในรูหนอนก่อนจะกลับไปที่โลกตันเถียน

    พวกเจ้าไปได้   จางหยูบอกกับเสี่ยวเสียและเสี่ยวหลิงเอ๋อร์   ก่อนที่ข้าจะไปยังสุสานสวรรค์ ข้าจะเรียกพวกเจ้ามาเอง  

  เสี่ยวเสียหดหัวทันที ก่อนจะพูดว่า   ข้าไม่ไปไม่ได้รึ ? 

  จางหยูเหมือนจะหัวเราะออกมา   เจ้าจะไม่ไปได้ยังไง ? เจ้ามั่นใจจริงๆรึว่าจะไม่ไป ?    เมื่อเห็นรอยยิ้มของจางหยู เสี่ยวเสียก็รู้สึกแย่ขึ้นมาทันที มันยิ้มแห้งๆออกมา   ไป ข้าจะไป ข้าแค่ล้อเล่นก็เท่านั้น  

    เจ้าบอกว่าเจ้าจะไปเองนะ ข้าไม่ได้กดดันเจ้า   จางหยูพูดขึ้น

    ใช่ ข้าอยากไปเอง   เสี่ยวเสียไม่กล้าแม้แต่จะปฏิเสธ

    งั้นก็ไปได้แล้ว   จางหยูขี้เกียจจะคุยกับเสี่ยวเสียอีกต่อไป

  เมื่อพูดจบ เสี่ยวเสียก็หายตัวไปทันที

  เสี่ยวหลิงเอ๋อร์มองไปที่จางหยู   นายท่าน ท่านไม่ชอบพี่หงอีจริงๆรึ ? 

    เรื่องความรู้สึกนั้นข้าพอรู้สึกอยู่บ้าง   จางหยูเงียบไปสักพักก่อนจะส่ายหน้า   หงอีน่ะงดงามอย่างมากแต่ข้าไม่ได้รู้สึกอะไรกับนาง 

    แล้วพี่ซุนเมิ่งล่ะ ?  เสี่ยวหลิงเอ๋อร์ถามขึ้นมา

    ซุนเมิ่งรึ ?  จางหยูถามขึ้น  เกี่ยวอะไรกับนางกัน? 

    ท่านมองไม่ออกรึว่าพี่ซุนเมิ่งก็ชอบท่านเช่นกัน ? 

    งั้นรึ ?  จางหยูไม่ได้รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย   จริงๆแล้วตอนที่ข้าพบกับซุนเมิ่ง ข้าเองก็รู้สึกอยู่บ้าง นางไม่ได้สวยเท่ากับหงอี แต่ก็ทำให้คนที่อยู่ด้วยรู้สึกสบายใจ นางน่ะเป็นกันเอง… 

  พูดไปแล้ว จางหยูก็ส่ายหน้า   ข้ารู้สึกชื่นชมนางแต่ไม่เพียงพอที่จะตัดสินว่าข้าชอบนางรึไม่ .. 

    ท่านชอบพี่ซุนเมิ่งจริงๆ !  เสี่ยวหลิงเอ๋อร์ตะโกนออกมา

    อย่าพูดไร้สาระ  จางหยูไม่รู้ว่าจะหัวเราะรึร้องไห้ดี   ข้าแค่รู้สึกผูกพันกับซุนเมิ่ง ข้าไม่ได้บอกว่าข้าชอบนาง  

    มันก็ไม่ต่างจากการที่รู้สึกดีกับนางหรอก   เสี่ยวหลิงเอ๋อร์พูดขึ้น   นายท่าน เสี่ยวหลิงเอ๋อร์เชื่อว่าพี่ซุนเมิ่งน่ะอยากอยู่ร่วมกันกับท่านอย่างแน่นอน 

    เจ้าทำตัวตามเสี่ยวเสียตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?  จางหยูพูดขึ้น   เรื่องนี้ข้ายังไม่อยากจะคิด ทุกอย่างต้องปล่อยไปตามธรรมชาติ อย่าพูดถึงมันอีก 

  เมื่อจางหยูพูดแบบนั้น เสี่ยวหลิงเอ๋อร์ก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อ

  ไม่นานเสี่ยวหลิงเอ๋อร์ก็เดินทางออกไป ส่วนจางหยูก็ออกมายังบรรพกาลนอกโลกผนึกเทพอีกครั้ง

    พลังบรรพกาลนั้นหนาแน่นกว่าที่เคย   จางหยูพอใจอย่างมาก แม้ว่ามันไม่ได้ช่วยในความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้ แต่ในอนาคตมันต้องเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน

  หลังจากนั้นจางหยูก็กลับไปยังโลกผนึกเทพ ก่อนจะไปยังบรรพกาลนอกโลกบรรพกาล

  บรรพกาลที่นี่ชัดแล้วว่าทรงพลังกว่า

  พลังบรรพกาลที่นี่มากกว่าพลังบรรพกาลที่โลกผนึกเทพหลายเท่า ความเร็วในการเพิ่มของมันสูงจนน่าตกใจ

    ต้นบรรพกาล   จางหยูมองไปที่ต้นไม้ใจกลางบรรพกาลที่ดูดซับพลังบรรพกาลอย่างต่อเนื่องและปล่อยพลังบรรพกาลที่บริสุทธิ์และแข็งแกร่งกว่าเดิมออกมา

  พลังบรรพกาลนอกโลกบรรพกาลนั้น แกร่งกว่าพลังบรรพกาลนอกโลกผนึกเทพ ด้วยต้นบรรพกาลนี้ทำให้ช่องว่างของทั้งสองที่ต่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ

  จางหยูสงสัยอย่างมาก บรรพกาลนั้นใหญ่โตมากแค่ไหน โลกบรรพกาลและโลกผนึกเทพนั้นอยู่ห่างกันไกลแค่ไหนกัน

  ด้วยความสงสัยนี้ จางหยูจึงเริ่มคิดที่จะสำรวจบรรพกาลนอกโลกบรรพกาล เขาเอาโลกบรรพกาลเป็นศูนย์กลาง และสำรวจพื้นที่รอบๆ หลังจากที่เดินทางวนรอบโลกบรรพกาลและสำรวจพื้นที่ที่ไกลออกไป เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าแค่ไม่กี่วันเขาก็ไปถึงขอบบรรพกาลได้  ขอบบรรพกาลนั้นบิดเบี้ยวไปมาราวกับกำลังจะพังลง เขาพยายามจะเดินหน้าต่อแต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไม่อาจจะผ่านมันไปได้ มันเหมือนกับตอนนั้น ตอนที่ความว่างเปล่าได้ห่อหุ้มโลกแต่ใบไว้

  จางหยูอึ้ง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาโดนจำกัดการเคลื่อนไหวในโลกตันเถียน

  แต่สิ่งที่ทำให้เขาสับสนกว่านั้นคือเขาได้สำรวจบรรพกาลทั้งหมด แต่กลับไม่รู้ถึงตัวตนของของโลกผนึกเทพ

  ยิ่งไปกว่านั้นบรรพกาลทั้งหมด พลังบรรพกาลแห่งนี้แข็งแกร่งกว่าพลังบรรพกาลนอกโลกผนึกเทพ ราวกับว่าทั้งสองไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย

  มันทำให้จางหยูเกิดความคิดที่น่าเหลือเชื่อขึ้นมา บรรพกาลสองส่วนนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน !

  บรรพกาลนอกโลกบรรพกาลกับบรรพกาลนอกโลกผนึกเทพนั้นบางทีอาจจะไม่ใช่บรรพกาลแบบเดียวกัน !   จางหยูกลัวกับความคิดตัวเอง หากนี่เป็นความจริง งั้นความจริงที่เขาเคยรับรู้มาในอดีตก็จะพลิกผัน

    เป็นแบบนั้นจริงๆรึ ?   จางหยูกลับมายังบรรพกาลโลกผนึกเทพก่อนจะใช้ที่นั่นเป็นศูนย์กลางในการสำรวจรอบๆ ครั้งนี้เขาใช้เวลาแค่ 1 วันก่อนที่จะเดินทางไปถึงขอบได้

  บรรพกาลส่วนนี้รวมถึงบรรพกาลนอกโลกบรรพกาล ขอบของมันเหมือนจะพังลงและที่บรรพกาลส่วนนี้ก็ไม่อาจจะรับรู้ถึงตัวตนของโลกบรรพกาลได้ ที่สำคัญที่สุดคือบรรพกาลที่นี่มีพลังบรรพกาลที่อ่อนแอกว่าบรรพกาลของโลกบรรพกาลอย่างมาก ราวกับว่ายิ่งห่างจากโลกบรรพกาลมากเท่าไหร่ พลังบรรพกาลก็ยิ่งอ่อนแอเท่านั้น

  หลังจากที่สำรวจบรรพกาลทั้งสองแล้ว จางหยูก็ได้คำตอบมาในหัว   บรรพกาลทั้งสองส่วนไม่ได้อยู่ด้วยกัน !  

  ต้องบอกว่าโลกบรรพกาลอยู่ในบรรพกาลส่วนหนึ่ง โลกผนึกเทพอยู่ในอีกส่วนหนึ่งและ จางหยู คือผู้ควบคุมบรรพกาลทั้งสองส่วน !

    ข้ายังใช่จ้าวบรรพกาลอยู่อีกรึไม่ ?  จางหยูสับสน ตามความเข้าใจของเขาแล้วจ้าวบรรพกาลคือตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุด เขาเชื่อว่าเขาคือจ้าวบรรพกาลที่ยังเติบโตไม่เต็มที่ แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ เขาเหมือนไม่ใช่จ้าวบรรพกาลแต่กลับระดับสูงกว่าจ้าวบรรพกาล

  โลกตันเถียนนั้นลึกลับและแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้

   หรือว่าการกำเนิดของโลกขั้นที่ 9 ทุกใบ จะเป็นตัวเร่งให้บรรพกาลสอดคล้องกัน?  จางหยูอึ้ง

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ระบบเจ้าสำนักจางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์ หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก” เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้ ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน... ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการบ่มเพาะ ขอบเขตฉีซวน ระดับ 1-9 ขอบเขตว่อซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตตันซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตหลิงซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตหลี่ซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตตุ้นซวน ระดับต่ำ กลาง สูง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset