การปรากฏตัวของผู้นำและผู้ควบคุมขั้น 9 จำนวนมากนั้นทำให้ผู้คนมากมายหันมาสนใจ ทุกคนพากันเดาตัวตนของคนเหล่านี้ นอกจากอัลเวอร์และอีกไม่กี่คนที่รู้จักตัวตนแล้ว คนส่วนมากนั้นไม่มีใครรู้จัก
ในเวลาเดียวกันการปรากฏตัวของผู้นำและผู้ควบคุมขั้น 9 ยังทำให้ฐานะของผู้นำนั้นด้อยค่าลงไป แม้แต่ผู้ควบคุมขั้น 9 ก็ไม่ได้หายากอะไรอีก มีแค่พวกระดับพันเท่าที่ยังพอมีฐานะอยู่บ้าง พวกระดับร้อยเท่าก็ยังได้รับผลไม่ใช่น้อย
ที่สุสานสวรรค์
จางลู่ได้ทำลายลานไปกว่า 17 แห่งแล้วโดยมีลานขนาดเล็ก 7 แห่งและลานขนาดกลาง 10 แห่ง นอกจากผู้นำและผู้ควบคุมขั้น 9 มากมายแล้ว จางลู่ก็ได้เรียนรู้ทักษะสร้างกว่า 10 อย่างแต่มันก็เหมือนกับที่เขาคาดเอาไว้ ทักษะทั้ง 10 อย่างนี้ไม่ได้มีประโยชน์ในการเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาโดยตรง
สุสานแห่งนี้มีขนาดใหญ่ ในระยะทางหนึ่งนั้นจะมีลานตั้งอยู่ จางลู่ได้เดินหน้าต่อ หลังจากที่ทำลายลานลงได้สุดท้ายเขาก็พบกับวิหารที่ดูยิ่งใหญ่กว่าเก่า
หากเทียบกับลานที่เคยผ่านมาแล้ว วิหารแห่งนี้มีขนาดใหญ่อย่างมาก หุ่นเชิดในสุสานก็มีกว่าพันคน มันดูแกร่งกว่าและยิ่งใหญ่กว่า
“ สุดท้ายก็มาถึงวิหารที่แกร่งกว่าเดิม” จางลู่แสดงสีหน้าจริงจังออกมา
ก่อนหน้านี้ที่ลานขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็นผู้นำรึพวกระดับสิบเท่า, ร้อยเท่าแต่จางลู่ก็ไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย เขาส่งพวกนั้นกลับไปที่โลกตันเถียน แต่ต่อหน้าลานแห่งนี้แล้ว นอกจากพวกระดับสิบเท่าแล้วก็ยังมีพวกระดับพันเท่าอยู่คนหนึ่งด้วย
ต้องรู้ก่อนว่าในโลกภายนอกนั้นจำนวนของคนระดับพันเท่ามีแค่หยิบมือเท่านั้น
คนแข็งแกร่งแบบนี้ในโลกภายนอกแล้วก็ถือว่าเป็นยอดฝีมือได้
“ ระดับพันเท่า 1 คน, ร้อยเท่า 2 คน, สิบเท่า 7 คน, ผู้นำอีกพันคน” จางลู่เผยรอยยิ้มออกมา หากได้พวกนี้มาช่วย งั้นสำนักคังเฉียงก็จะทัดเทียมกับวิหารอวี๋ฮุ่นได้จริงๆ เผื่อว่าจางหยูและซุนเมิ่งมีเรื่องบาดหมางกัน งั้นสำนักคังเฉียงก็ไม่จำเป็นต้องพ่ายแพ้ให้กับวิหารอวี๋ฮุ่น แค่จำนวนผู้นำก็อาจจะทำให้วิหารอวี๋ฮุ่นกลัวสำนักคังเฉียงแล้ว
จางหยูมองไปที่กลุ่มหุ่นเชิดราวกับพบสมบัติ
ตอนนั้นกลุ่มหุ่นเชิดในวิหารก็รับรู้ถึงการมาของจางลู่ แม้ว่าพวกนั้นจะไม่ได้รับคำสั่งใดๆแต่ดูเหมือนว่าในจิตใจนั้นก็รู้ขั้นตอนอยู่แล้ว เมื่อเห็นคนแปลกหน้า พวกนั้นจะเข้าโจมตีทันที
คนระดับพันเท่าได้ระเบิดพลังออกมาก่อนจะพาคนอื่นๆเข้าโจมตีจางลู่
“ ดี “ จางลู่ยิ้มออกมา เขาได้สร้างรูหนอนขึ้น ก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปและปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าคนระดับพันเท่า เขาวางฝ่ามือไว้บนหัวอีกฝ่ายแล้วตะโกนออกมา “ เจ้าไปได้แล้ว !”
เมื่อจางลู่พูดจบ ฝ่ามือของเขาก็ได้ระเบิดพลังออกมา พลังนี้ได้กดตัวอีกฝ่ายลงไปที่รูหนอน
อีกฝ่ายพยายามดิ้นรน แต่มือของจางลู่ราวกับคีมเหล็ก พลังของฝ่ามือนี้สูงจนการดิ้นรนนั้นไร้ค่า สุดท้ายเขาก็ได้หายไปในรูหนอน
หลังจากที่จัดการกับคนระดับพันเท่าแล้ว จางลู่ก็กางนิ้วทั้งห้าออกก่อนจะแผ่พลังครอบคลุมหุ่นเชิดทุกคนเอาไว้ จากนั้นเขาก็กำมือเข้า ก่อนที่หุ่นเชิดทุกคนจะถูกลากเข้าไปในรูหนอน
สินค้าอีกชุด !
แต่หากเทียบกับลานก่อนหน้านี้แล้ว ครั้งนี้จางลู่ได้ใช้พลังอยู่บ้าง มันไม่ได้ง่ายเหมือนครั้งก่อน หลังจากจัดการกับหุ่นเชิดแล้ว จางลู่ก็มองไปที่รูปปั้นใจกลางลาน เขาได้ทำการเรียนรู้ทักษะและคาดหวังกับมัน
ไม่นาน จางลู่ก็เข้าใจทักษะนี้ มันคือการใช้ไฟ มันคือทักษะโจมตี หากเชี่ยวชาญแล้วจะเพิ่มพลังสร้างกว่า 3 ใน 10 หากเทียบกับทักษะของซุนซิงแล้ว มันเป็นทักษะที่แกร่งกว่า
“ ดี !” จางลู่ที่หดหู่มานานสุดท้ายก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
หากเทียบกับทักษะสร้างนี้แล้ว ทักษะอื่นๆที่ได้มาก่อนหน้านี้ไม่ได้มีประโยชน์อะไรจริงๆ
เมื่อจางลู่เข้าใจทักษะสร้างไฟระดับสูง จางหยูก็เข้าใจทักษะนี้ไปด้วย เดิมทีเขาก็แข็งแกร่งกว่าราชาอยู่แล้ว เมื่อได้ทักษะนี้มาก็ทำให้ช่องว่างเพิ่มขึ้นไปอย่างมาก
“ จิตสุสานยังไม่ปรากฏตัวอีกรึ ?” จางหยูอดไม่ได้ที่จะสงสัย
ต้องรู้ก่อนว่าจางลู่ได้ทำลายลานไป 18แห่งแล้วแต่จิตสุสานกลับไม่ปรากฏตัวราวกับว่านี่เป็นแค่เรื่องทั่วไป สถานการณ์นี้ทำให้ จางหยูแปลกใจ รึว่าจิตสุสานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ?
แต่มันชัดแล้วว่าเป็นไปไม่ได้
จิตสุสานนั้นควบคุมหุ่นเชิดอยู่ มันน่าจะรู้ดีว่าหุ่นเชิดเห็นและได้ยินอะไร
“ ดูเหมือนว่ามันคงบาดเจ็บหนักจริงๆ ” จางหยูพึมพำออกมา “ บางที…มันคงควบคุมหุ่นเชิดมากไม่ได้ ยิ่งควบคุมเท่าไหร่ก็ยิ่งส่งผลเสียต่อตัวเองมากเท่านั้น ไม่งั้นแล้วจางลู่ที่เข้ามาในสุสานนานแบบนี้ แต่ทำไมถึงไม่ให้พวกหุ่นเชิดเข้ามาล้อมเขาเอาไว้ ?”
จิตสุสานบาดเจ็บหนักซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีต่อจางหยู
มันทำให้การสำรวจสุสานง่ายขึ้นกว่าเดิม บางทีการสำรวจครั้งนี้อาจจะไขความลับของมันรึอาจจะรู้ถึงตัวตนจิตสุสานก็ได้
“ ร่างหลัก สำรวจต่อรึไม่ ?” จางลู่ถามกับจางหยู
“ แน่นอน” จางหยูพูดขึ้น “ ข้าสงสัยว่าจิตสุสานคงไม่อาจะควบคุมสุสานได้ ตอนนี้มันอยู่ในช่วงอ่อนแอที่สุด นี่คือโอกาสหนึ่งในล้าน บางทีเราควรจะคว้าโอกาสนี้ไว้และไขความลับของสุสานได้”
จางลู่พยักหน้าตอบรับ เมื่อจางหยูพูดมาแบบนั้นเขาก็ต้องทำตาม
อันที่จริงตัวเขาเองก็อยากที่จะสำรวจสุสานต่อ ยิ่งได้ทักษะสร้างมากเท่าไหร่ ความแข็งแกร่งของเขาก็พัฒนามากขึ้นเท่านั้น
จางลู่สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วถอยกลับมาก้าวหนึ่ง พื้นที่รอบๆหลายร้อยกิโลเมตรยุบลงราวกับโดนภูเขาฟาด ทั้งวิหารและพื้นดินโดยรอบจมลงไปในพริบตา วิหารได้ราบเป็นหน้ากลอง
เมื่อทำลายวิหารนี้แล้วจางลู่ก็ต้องคิ้วขมวด “ พลังป้องกันของมันแกร่งขึ้น ”
แม้ว่าเขาจะทำลายมันได้แต่ยังไงซะเขาก็เป็นราชา การโจมตีของเขาแกร่งกว่าพวกระดับพันเท่าอย่างมากแต่การโจมตีนี้เกือบจะเอาชนะพลังป้องกันไม่ได้
จากลานขนาดเล็ก, กลางจนถึงขนาดใหญ่ ขนาดของลานนั้นใหญ่ขึ้น จำนวนหุ่นเชิดก็เพิ่มขึ้นกว่าสิบเท่า การป้องกันของลานก็เพิ่มขึ้นด้วยอัตราเท่ากัน หากเป็นลานขนาดใหญ่กว่านี้ จางลู่ก็ไม่มั่นใจว่าหากใช้พลังทั้งหมดแล้วจะทำลายมันได้รึไม่
“ หือ ?” ตอนที่จางลู่จะเดินทางต่อนั้นเขาก็ชะงักพร้อมกับสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เขารับรู้ได้ถึงสายตาที่น่ากลัวจับจ้องมาที่เขา
จิตสุสาน !
เขาโดนจิตสุสานหมายตาอีกครั้ง !
จิตสุสานมองมาที่จางลู่ แต่ก็ไม่ได้ปรากฏตัว จนกระทั่งจางลู่ได้ทำลายลานแห่งนี้ทิ้ง ถึงทำให้มันหงุดหงิดจนไม่อาจจะอยู่เฉยได้
จางลู่หรี่ตาลง เขาไม่ได้ขยับไปไหน เขาคอยระวังตัวต่อการโจมตีจากอีกฝ่าย แต่เขาก็ต้องแปลกใจ แม้ว่าจิตสุสานจะมองมาที่เขาจนทำให้เขากดดันอย่างมาก แต่จิตนั่นไม่ได้ทำอะไรเลย
“ บาดเจ็บรึ ? อ่อนแอเกินไปที่จะโจมตีรึ ?” จางลู่เริ่มเชื่อมากกว่าเดิมว่าจิตสุสานนั้นบาดเจ็บหนัก แรงกดดันในใจเขาลดลงไปอย่างมาก เขาได้เผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง “ งั้นมาดูกันว่าเจ้าจะทนได้นานแค่ไหน..”
เขาได้เดินหน้าต่อ
จางลู่เหมือนกับจงใจหาเรื่องจิตสุสาน เมื่อเห็นลาน เขาก็จะทำลายทิ้งทันทีรวมถึงส่งหุ่นเชิดออกไป เขาได้ทำการเรียนรู้ทักษะสร้างในรูปปั้น แน่นอนว่าการทำลายรูปปั้นในแต่ละครั้งนั้นจางลู่จะรับรู้ได้ว่าจิตสุสานเหมือนจะโกรธ แต่ไม่ว่ามันจะโกรธแค่ไหน มันก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร
สุดท้ายหลังจากที่ทำลายลานไปอีก 10 แห่ง มันก็มีวิหารที่ไม่คาดคิดปรากฏขึ้นตรงหน้าจางลู่ ! วิหารนี้กว้างกว่าล้านไมล์ มันเหมือนกับวิหารทั่วไปในโลก ใจกลางวิหารนี้มีรูปปั้นร่างมนุษย์ขนาดใหญ่นับไม่ถ้วนยืนอยู่ ใบหน้าของพวกนั้นพร่ามัวเพราะถูกปกคลุมไปด้วยปราณสุสาน ร่างกายส่วนบนเต็มไปด้วยรูราวกับว่าได้รับบาดเจ็บหนัก ร่างกายส่วนล่างนั้นเป็นปราณสุสาน
“ แปลกประหลาดจริงๆ” จางลู่มองดูฉากนี้ด้วยความหนักใจ
เขาแผ่การรับรู้ออกไปตรวจสอบทั่ววิหาร แต่เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าที่นี่ไม่มีแม้แต่หุ่นเชิด มีหลายที่ที่พังลง มันมีรอยแตกเป็นจำนวนมากที่พื้น แม้แต่ด้านนอกวิหารนั้นก็ยังมีร่องรอยของการต่อสู้เกิดขึ้น
มันเคยมีการต่อสู้เกิดขึ้นที่นี่ !
ในเวลาเดียวกันการปรากฏตัวของผู้นำและผู้ควบคุมขั้น 9 ยังทำให้ฐานะของผู้นำนั้นด้อยค่าลงไป แม้แต่ผู้ควบคุมขั้น 9 ก็ไม่ได้หายากอะไรอีก มีแค่พวกระดับพันเท่าที่ยังพอมีฐานะอยู่บ้าง พวกระดับร้อยเท่าก็ยังได้รับผลไม่ใช่น้อย
ที่สุสานสวรรค์
จางลู่ได้ทำลายลานไปกว่า 17 แห่งแล้วโดยมีลานขนาดเล็ก 7 แห่งและลานขนาดกลาง 10 แห่ง นอกจากผู้นำและผู้ควบคุมขั้น 9 มากมายแล้ว จางลู่ก็ได้เรียนรู้ทักษะสร้างกว่า 10 อย่างแต่มันก็เหมือนกับที่เขาคาดเอาไว้ ทักษะทั้ง 10 อย่างนี้ไม่ได้มีประโยชน์ในการเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาโดยตรง
สุสานแห่งนี้มีขนาดใหญ่ ในระยะทางหนึ่งนั้นจะมีลานตั้งอยู่ จางลู่ได้เดินหน้าต่อ หลังจากที่ทำลายลานลงได้สุดท้ายเขาก็พบกับวิหารที่ดูยิ่งใหญ่กว่าเก่า
หากเทียบกับลานที่เคยผ่านมาแล้ว วิหารแห่งนี้มีขนาดใหญ่อย่างมาก หุ่นเชิดในสุสานก็มีกว่าพันคน มันดูแกร่งกว่าและยิ่งใหญ่กว่า
“ สุดท้ายก็มาถึงวิหารที่แกร่งกว่าเดิม” จางลู่แสดงสีหน้าจริงจังออกมา
ก่อนหน้านี้ที่ลานขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็นผู้นำรึพวกระดับสิบเท่า, ร้อยเท่าแต่จางลู่ก็ไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย เขาส่งพวกนั้นกลับไปที่โลกตันเถียน แต่ต่อหน้าลานแห่งนี้แล้ว นอกจากพวกระดับสิบเท่าแล้วก็ยังมีพวกระดับพันเท่าอยู่คนหนึ่งด้วย
ต้องรู้ก่อนว่าในโลกภายนอกนั้นจำนวนของคนระดับพันเท่ามีแค่หยิบมือเท่านั้น
คนแข็งแกร่งแบบนี้ในโลกภายนอกแล้วก็ถือว่าเป็นยอดฝีมือได้
“ ระดับพันเท่า 1 คน, ร้อยเท่า 2 คน, สิบเท่า 7 คน, ผู้นำอีกพันคน” จางลู่เผยรอยยิ้มออกมา หากได้พวกนี้มาช่วย งั้นสำนักคังเฉียงก็จะทัดเทียมกับวิหารอวี๋ฮุ่นได้จริงๆ เผื่อว่าจางหยูและซุนเมิ่งมีเรื่องบาดหมางกัน งั้นสำนักคังเฉียงก็ไม่จำเป็นต้องพ่ายแพ้ให้กับวิหารอวี๋ฮุ่น แค่จำนวนผู้นำก็อาจจะทำให้วิหารอวี๋ฮุ่นกลัวสำนักคังเฉียงแล้ว
จางหยูมองไปที่กลุ่มหุ่นเชิดราวกับพบสมบัติ
ตอนนั้นกลุ่มหุ่นเชิดในวิหารก็รับรู้ถึงการมาของจางลู่ แม้ว่าพวกนั้นจะไม่ได้รับคำสั่งใดๆแต่ดูเหมือนว่าในจิตใจนั้นก็รู้ขั้นตอนอยู่แล้ว เมื่อเห็นคนแปลกหน้า พวกนั้นจะเข้าโจมตีทันที
คนระดับพันเท่าได้ระเบิดพลังออกมาก่อนจะพาคนอื่นๆเข้าโจมตีจางลู่
“ ดี “ จางลู่ยิ้มออกมา เขาได้สร้างรูหนอนขึ้น ก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปและปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าคนระดับพันเท่า เขาวางฝ่ามือไว้บนหัวอีกฝ่ายแล้วตะโกนออกมา “ เจ้าไปได้แล้ว !”
เมื่อจางลู่พูดจบ ฝ่ามือของเขาก็ได้ระเบิดพลังออกมา พลังนี้ได้กดตัวอีกฝ่ายลงไปที่รูหนอน
อีกฝ่ายพยายามดิ้นรน แต่มือของจางลู่ราวกับคีมเหล็ก พลังของฝ่ามือนี้สูงจนการดิ้นรนนั้นไร้ค่า สุดท้ายเขาก็ได้หายไปในรูหนอน
หลังจากที่จัดการกับคนระดับพันเท่าแล้ว จางลู่ก็กางนิ้วทั้งห้าออกก่อนจะแผ่พลังครอบคลุมหุ่นเชิดทุกคนเอาไว้ จากนั้นเขาก็กำมือเข้า ก่อนที่หุ่นเชิดทุกคนจะถูกลากเข้าไปในรูหนอน
สินค้าอีกชุด !
แต่หากเทียบกับลานก่อนหน้านี้แล้ว ครั้งนี้จางลู่ได้ใช้พลังอยู่บ้าง มันไม่ได้ง่ายเหมือนครั้งก่อน หลังจากจัดการกับหุ่นเชิดแล้ว จางลู่ก็มองไปที่รูปปั้นใจกลางลาน เขาได้ทำการเรียนรู้ทักษะและคาดหวังกับมัน
ไม่นาน จางลู่ก็เข้าใจทักษะนี้ มันคือการใช้ไฟ มันคือทักษะโจมตี หากเชี่ยวชาญแล้วจะเพิ่มพลังสร้างกว่า 3 ใน 10 หากเทียบกับทักษะของซุนซิงแล้ว มันเป็นทักษะที่แกร่งกว่า
“ ดี !” จางลู่ที่หดหู่มานานสุดท้ายก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
หากเทียบกับทักษะสร้างนี้แล้ว ทักษะอื่นๆที่ได้มาก่อนหน้านี้ไม่ได้มีประโยชน์อะไรจริงๆ
เมื่อจางลู่เข้าใจทักษะสร้างไฟระดับสูง จางหยูก็เข้าใจทักษะนี้ไปด้วย เดิมทีเขาก็แข็งแกร่งกว่าราชาอยู่แล้ว เมื่อได้ทักษะนี้มาก็ทำให้ช่องว่างเพิ่มขึ้นไปอย่างมาก
“ จิตสุสานยังไม่ปรากฏตัวอีกรึ ?” จางหยูอดไม่ได้ที่จะสงสัย
ต้องรู้ก่อนว่าจางลู่ได้ทำลายลานไป 18แห่งแล้วแต่จิตสุสานกลับไม่ปรากฏตัวราวกับว่านี่เป็นแค่เรื่องทั่วไป สถานการณ์นี้ทำให้ จางหยูแปลกใจ รึว่าจิตสุสานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ?
แต่มันชัดแล้วว่าเป็นไปไม่ได้
จิตสุสานนั้นควบคุมหุ่นเชิดอยู่ มันน่าจะรู้ดีว่าหุ่นเชิดเห็นและได้ยินอะไร
“ ดูเหมือนว่ามันคงบาดเจ็บหนักจริงๆ ” จางหยูพึมพำออกมา “ บางที…มันคงควบคุมหุ่นเชิดมากไม่ได้ ยิ่งควบคุมเท่าไหร่ก็ยิ่งส่งผลเสียต่อตัวเองมากเท่านั้น ไม่งั้นแล้วจางลู่ที่เข้ามาในสุสานนานแบบนี้ แต่ทำไมถึงไม่ให้พวกหุ่นเชิดเข้ามาล้อมเขาเอาไว้ ?”
จิตสุสานบาดเจ็บหนักซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีต่อจางหยู
มันทำให้การสำรวจสุสานง่ายขึ้นกว่าเดิม บางทีการสำรวจครั้งนี้อาจจะไขความลับของมันรึอาจจะรู้ถึงตัวตนจิตสุสานก็ได้
“ ร่างหลัก สำรวจต่อรึไม่ ?” จางลู่ถามกับจางหยู
“ แน่นอน” จางหยูพูดขึ้น “ ข้าสงสัยว่าจิตสุสานคงไม่อาจะควบคุมสุสานได้ ตอนนี้มันอยู่ในช่วงอ่อนแอที่สุด นี่คือโอกาสหนึ่งในล้าน บางทีเราควรจะคว้าโอกาสนี้ไว้และไขความลับของสุสานได้”
จางลู่พยักหน้าตอบรับ เมื่อจางหยูพูดมาแบบนั้นเขาก็ต้องทำตาม
อันที่จริงตัวเขาเองก็อยากที่จะสำรวจสุสานต่อ ยิ่งได้ทักษะสร้างมากเท่าไหร่ ความแข็งแกร่งของเขาก็พัฒนามากขึ้นเท่านั้น
จางลู่สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วถอยกลับมาก้าวหนึ่ง พื้นที่รอบๆหลายร้อยกิโลเมตรยุบลงราวกับโดนภูเขาฟาด ทั้งวิหารและพื้นดินโดยรอบจมลงไปในพริบตา วิหารได้ราบเป็นหน้ากลอง
เมื่อทำลายวิหารนี้แล้วจางลู่ก็ต้องคิ้วขมวด “ พลังป้องกันของมันแกร่งขึ้น ”
แม้ว่าเขาจะทำลายมันได้แต่ยังไงซะเขาก็เป็นราชา การโจมตีของเขาแกร่งกว่าพวกระดับพันเท่าอย่างมากแต่การโจมตีนี้เกือบจะเอาชนะพลังป้องกันไม่ได้
จากลานขนาดเล็ก, กลางจนถึงขนาดใหญ่ ขนาดของลานนั้นใหญ่ขึ้น จำนวนหุ่นเชิดก็เพิ่มขึ้นกว่าสิบเท่า การป้องกันของลานก็เพิ่มขึ้นด้วยอัตราเท่ากัน หากเป็นลานขนาดใหญ่กว่านี้ จางลู่ก็ไม่มั่นใจว่าหากใช้พลังทั้งหมดแล้วจะทำลายมันได้รึไม่
“ หือ ?” ตอนที่จางลู่จะเดินทางต่อนั้นเขาก็ชะงักพร้อมกับสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เขารับรู้ได้ถึงสายตาที่น่ากลัวจับจ้องมาที่เขา
จิตสุสาน !
เขาโดนจิตสุสานหมายตาอีกครั้ง !
จิตสุสานมองมาที่จางลู่ แต่ก็ไม่ได้ปรากฏตัว จนกระทั่งจางลู่ได้ทำลายลานแห่งนี้ทิ้ง ถึงทำให้มันหงุดหงิดจนไม่อาจจะอยู่เฉยได้
จางลู่หรี่ตาลง เขาไม่ได้ขยับไปไหน เขาคอยระวังตัวต่อการโจมตีจากอีกฝ่าย แต่เขาก็ต้องแปลกใจ แม้ว่าจิตสุสานจะมองมาที่เขาจนทำให้เขากดดันอย่างมาก แต่จิตนั่นไม่ได้ทำอะไรเลย
“ บาดเจ็บรึ ? อ่อนแอเกินไปที่จะโจมตีรึ ?” จางลู่เริ่มเชื่อมากกว่าเดิมว่าจิตสุสานนั้นบาดเจ็บหนัก แรงกดดันในใจเขาลดลงไปอย่างมาก เขาได้เผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง “ งั้นมาดูกันว่าเจ้าจะทนได้นานแค่ไหน..”
เขาได้เดินหน้าต่อ
จางลู่เหมือนกับจงใจหาเรื่องจิตสุสาน เมื่อเห็นลาน เขาก็จะทำลายทิ้งทันทีรวมถึงส่งหุ่นเชิดออกไป เขาได้ทำการเรียนรู้ทักษะสร้างในรูปปั้น แน่นอนว่าการทำลายรูปปั้นในแต่ละครั้งนั้นจางลู่จะรับรู้ได้ว่าจิตสุสานเหมือนจะโกรธ แต่ไม่ว่ามันจะโกรธแค่ไหน มันก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร
สุดท้ายหลังจากที่ทำลายลานไปอีก 10 แห่ง มันก็มีวิหารที่ไม่คาดคิดปรากฏขึ้นตรงหน้าจางลู่ ! วิหารนี้กว้างกว่าล้านไมล์ มันเหมือนกับวิหารทั่วไปในโลก ใจกลางวิหารนี้มีรูปปั้นร่างมนุษย์ขนาดใหญ่นับไม่ถ้วนยืนอยู่ ใบหน้าของพวกนั้นพร่ามัวเพราะถูกปกคลุมไปด้วยปราณสุสาน ร่างกายส่วนบนเต็มไปด้วยรูราวกับว่าได้รับบาดเจ็บหนัก ร่างกายส่วนล่างนั้นเป็นปราณสุสาน
“ แปลกประหลาดจริงๆ” จางลู่มองดูฉากนี้ด้วยความหนักใจ
เขาแผ่การรับรู้ออกไปตรวจสอบทั่ววิหาร แต่เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าที่นี่ไม่มีแม้แต่หุ่นเชิด มีหลายที่ที่พังลง มันมีรอยแตกเป็นจำนวนมากที่พื้น แม้แต่ด้านนอกวิหารนั้นก็ยังมีร่องรอยของการต่อสู้เกิดขึ้น
มันเคยมีการต่อสู้เกิดขึ้นที่นี่ !