ระบบเจ้าสำนัก ตอนที่1819

  ตอนที่ทุกคนกำลังจินตนาการเกี่ยวกับโลกสมบูรณ์แบบอยู่นั้น ในโลกตันเถียนก็มีพลังงานมหาศาลมารวมตัวกันเป็นรูปร่างโลก ก่อนที่โลกสมบูรณ์แบบจะก่อตัวขึ้นมา

  การก่อตัวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หากเทียบกับการพัฒนาโลกในอดีตแล้ว มันเร็วกว่าเป็นหมื่นเท่า แค่ไม่กี่อึดใจโลกสมบูรณ์แบบก็ก่อตัวจนแทบจะเสร็จ ภาพฉายได้สะท้อนขึ้นมาภายในโลกตันเถียน ผ่านไปอีก 2-3 อึดใจโลกสมบูรณ์แบบก็ก่อตัวเสร็จ

  ตั้งแต่ที่เริ่มต้นจนก่อตัวเสร็จกินเวลาแค่ 20 อึดใจเท่านั้น

  หากไม่ใช่เพราะนี่คือโลกตันเถียน จางหยูคงไม่เชื่อว่าจะมีโลกกำเนิดขึ้นเร็วแบบนี้ได้

  เขาแผ่การรับรู้ไปทั่วโลกสมบูรณ์แบบและพบว่าโลกเพิ่งเข้าสู่ช่วงเริ่มต้นของเรื่อง แต่มันก็ทำให้จางหยูแปลกใจ ความแข็งแกร่งของโลกนี้นั้นมากกว่าโลกสมบูรณ์แบบที่เขาได้เล่าไว้ ผู้คนด้านในราวกับได้รับพลังเพิ่มขึ้น

  มันต่างจากโลกที่จางหยูเคยสร้างมาก่อนหน้านี้

  ในอดีตนั้นจางหยูได้สร้างโลกขึ้นมา ความแข็งแกร่งของโลกกับเรื่องที่เขาเล่านั้นแทบไม่ต่างกัน แต่โลกสมบูรณ์แบบที่สร้างขึ้นมานี้มันกลับแข็งแกร่งกว่าเดิมไปอีกขั้น แม้ว่าจะยังเป็นผู้คนหน้าเดิมอยู่แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขากลับเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ

    มันเพราะอะไรกัน ?  จางหยูครุ่นคิด นอกจากพลังดั้งเดิมที่เปลี่ยนเป็นพลังโกลาหลแล้ว โลกตันเถียนก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลย หรือสาเหตุจะมาจากพลังโกลาหล?

  จางหยูเดาว่าการที่โลกสมบูรณ์แบบแข็งแกร่งขึ้นมาอาจจะเป็นเพราะพลังโกลาหล

  จางหยูส่ายหน้าและเลิกสนใจปัญหานี้ ยังไงซะยิ่งโลกแข็งแกร่งเท่าไหร่ก็ยิ่งดีสำหรับเขาเท่านั้น ทำไมต้องคิดหาเหตุผลด้วย ?     นี่คือเรื่องในวันนี้   จางหยูพูดขึ้น   ต่อไปข้าจะย้อนเวลากลับไปสร้างโลกสมบูรณ์แบบขึ้นมา รอจนกว่าโลกจะก่อตัวได้สำเร็จ จากนั้นข้าจะเปิดเส้นทางเข้าสู่โลกนั้น ใครที่สนใจโลกนี้ก็ให้เดินทางผ่านรูหนอน 

  เมื่อพูดจบ จางหยูก็หายตัวไปเหลือแต่เสียงของเขาที่ดังก้องขึ้นในลาน   พรุ่งนี้เช้า คนที่สนใจจะฟังเรื่องใหม่ให้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ 

  อันที่จริงจางหยูไม่จำเป็นต้องปรากฏตัวเพื่อเล่าเรื่องด้วยตัวเอง เขาแค่เขียนหนังสือแล้วส่งมันให้กับทุกคนก็เพียงพอจะสร้างโลกใหม่ขึ้นมาแล้ว แต่จางหยูน่ะว่าง เขาไม่จำเป็นต้องยืมมือใคร เขาคิดถึงช่วงเวลาที่จะได้พูดคุยกับทุกคน เขาอยากจะพักผ่อนบ้าง

  เมื่อนึกถึงเผ่าจิ้งจอก จางหยูก็นึกถึงซุนเมิ่งและซุนวูขึ้นมา

    ข้าลืมบอกสองคนนั้นเรื่องการบรรยาย   จางหยูรู้สึกว่าทำพลาดไป   ดูเหมือนว่าต้องหาโอกาสเปิดการบรรยายอีกครั้ง เพื่อช่วยซุนวูพัฒนาให้เร็วที่สุด  

  ซุนเมิ่งขึ้นเป็นราชาแล้ว เมื่อรวมกับสายเลือดในตัวนาง จิตของนางจึงแข็งแกร่งกว่าราชาคนอื่นๆ นางสามารถเทียบกับกึ่งจ้าวโกลาหลได้ แต่ซุนวูนั้นด้อยกว่ามาก แม้ว่าจะมีหินแห่งการสร้างของจางหยูคอยช่วยและการเร่งเวลาของโลกผนึกเทพ แต่ก็ยังยากที่จะพัฒนาระดับการบ่มเพาะได้ในเวลาอันสั้น

  จางหยูคิดจะให้ทั้งสองเป็นจ้าวบรรพกาลในโลกตันเถียน เป็นธรรมดาที่จะต้องหาทางช่วยซุนวูพัฒนาตัวเอง

  ยิ่งมีจ้าวบรรพกาลมากเท่าไหร่และแกร่งเท่าไหร่ มันยิ่งส่งผลดีต่อจางหยูเท่านั้น บางทีเขาอาจจะขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลพร้อมกับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นมาจริงๆก็ได้

  ดังนั้นการที่จางหยูช่วยทั้งสองคนนี้ก็เท่ากับว่าเขาช่วยตัวเองด้วย

  ..

  หลังจากที่จางหยูจากไปแล้ว จ้านเทียนเกอ, ซังหนานเทียนและคนอื่นๆรวมถึงเหล่าราชาก็ได้ไปหาจางเฮ่าหลันเพื่อลงทะเบียนข้อมูลส่วนตัว พวกศิษย์และอาจารย์คนอื่นๆก็ได้แยกย้ายกันออกไป บางคนไปยังโลกบังสวรรค์และตั้งใจจะรอให้จางหยูสร้างรูหนอนขึ้นมา พวกเขาจะได้เข้าไปสำรวจโลกสมบูรณ์แบบ บางคนไปยังโลกบรรพกาลหรือไม่ก็โลกผนึกเทพเพื่อบ่มเพาะต่อ

  ซุนเมิ่งเองก็ถือว่าเป็นคนของสำนักคังเฉียง นางมีความสัมพันธ์ที่ดีกับอู่โม่, เติ้งชิวฉานและคนอื่นๆ ดังนั้นอู่โม่และคนอื่นๆจึงมาที่โลกผนึกเทพเพื่อบอกเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้นางฟัง

  หลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้ซุนเมิ่งก็พูดขึ้น  อาจารย์เปิดการบรรยายโดยไม่แจ้งข้า เรื่องโลกสมบูรณ์แบบเองก็ด้วย…พูดไปแล้ว ข้าไม่ได้ยินอาจารย์บรรยายมาหลายหมื่นปีแล้ว ข้าคิดถึงมันจริงๆ ! 

  ซุนวูยากจะทำใจเชื่อได้   การบรรยายของเจ้าสำนักส่งผลแปลกประหลาดแบบนั้นรึ ? 

  ชัดแล้วว่าซุนวูสนใจเรื่องการบรรยายมากกว่า เขาไม่ได้สนใจเรื่องโลกสมบูรณ์แบบเลยแม้แต่น้อย

    ไม่รู้ว่าทำไมอาจารย์ถึงไม่เรียกเจ้า…บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าพี่ไป่หลิงเป็นเพียงร่างแยกของเจ้า  เติ้งชิวฉานพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ   อีกอย่าง ทำไมเจ้าถึงยังเรียกอาจารย์ว่าอาจารย์อีกล่ะ…  นางมองไปที่ซุนเมิ่งด้วยสีหน้าแปลกๆ   พี่ซุนเมิ่งชอบอาจารย์ไม่ใช่รึ ? หากเจ้ายังเรียกเขาว่าอาจารย์ มันคงดูแปลกนิดๆ… 

    เจ้าไม่คิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับศิษย์มันน่าตื่นเต้นกว่ารึ ?  ซุนเมิ่งยักคิ้ว

  อู่โม่และคนอื่นๆสะดุ้งไปทันที

  มุมปากของซุนวูถึงกับกระตุก   ท่านพี่ รักษาภาพลักษณ์หน่อย ! 

  ซุนเมิ่งไม่ได้สนใจ   ข้าแค่อยากอยู่กับอาจารย์ ข้าไม่สนใจภาพลักษณ์อะไรหรอก ทำไมข้าต้องสนด้วย ? 

    ข้าไม่สนใจเรื่องของเจ้ากับเจ้าสำนักแล้ว  ซุนวูพึมพำออกมา   แต่อย่าลืมว่าเราต้องแก้แค้นให้กับท่านปู่ ! 

  หลังจากที่ได้ยินแบบนั้นซุนเมิ่งก็เปลี่ยนสีหน้าไปทันที นางเงียบอยู่สักพักแล้วพูดขึ้นมาช้าๆ   สบายใจได้ เรื่องแก้แค้นให้กับท่านปู่นั้นข้าไม่มีทางลืม 

    ใช่สิ  เติ้งชิวฉานเหมือนนึกบางอย่างออก  พี่ซุนเมิ่ง หงอีนั่นก็ได้เข้าร่วมสำนักคังเฉียงด้วยเช่นกัน เจ้าต้องระวังเอาไว้ด้วย 

  เรื่องที่ซุนเมิ่งชอบจางหยูนั้นแม้ว่าทั้งสำนักคังเฉียงจะไม่รู้ แต่ไป่หลิงน่ะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเติ้งชิวฉานและคนอื่นๆรวมไปถึงเฉินกู ซึ่งพวกเขาต่างก็รู้เรื่องนี้ดี ส่วนเรื่องที่หงอีชอบจางหยูนั้นนางแทบไม่ได้ปกปิด แต่เพราะอู่โม่และคนอื่นๆสนิทกับซุนเมิ่งมากกว่า เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะหวังว่าซุนเมิ่งและจางหยูจะได้อยู่ด้วยกัน    นางบ้าไปแล้ว  ซุนเมิ่งขมวดคิ้ว นางไม่คิดเลยว่าหงอีจะทำเช่นนี้

    เฮ้อ ไม่รู้ว่าอาจารย์จะทนต่อความงดงามของนางได้รึไม่..  เมื่อนึกถึงหงอี ซุนเมิ่งในฐานะผู้หญิงก็ต้องหวั่นใจ มันยากที่จะคิดได้ว่าจะมีผู้ชายคนไหนต้านทานความสวยของหงอีได้

    ข้ารู้ว่าอาจารย์ไม่ใช่คนตื้นเขิน แต่หงอีก็ดูเหมาะสมกับอาจารย์จริงๆ 

  ….

  วันต่อมา จางหยูก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ลานอีกครั้ง ครั้งนี้ทุกคนได้กลับมารวมตัวกันอีกรอบ เขาถึงกับเรียกซุนเมิ่งและซุนวูมาด้วย

  เขาตั้งใจจะบรรยายอีกครั้ง การบรรยายในครั้งนี้อาจจะผลไม่เท่ากับเมื่อวานแต่ก็มีหลายคนที่ยังไม่กระจ่าง การบรรยายกินเวลาสั้นๆแต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง จางหยูไม่ได้ใส่ใจอะไรมากเพราะการบรรยายครั้งนี้เขาเล็งเป้าไปที่ซุนวู รวมไปถึงฝ่ายคุมกฎ  ใช้เวลาไม่นานทั้งลานก็เต็มไปด้วยผู้คน

    ท่านพี่ เจ้าใส่ชุดอะไรกัน ?  ซุนวูขมวดคิ้วแล้วถามขึ้นมา

  ซุนเมิ่งไม่ได้ใส่ใจซุนวู นางมองไปยังคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผู้คน

  จางหยูกวาดสายตาไปรอบๆ เมื่อเห็นซุนเมิ่งอยู่ที่นี่ด้วยเขาก็ไม่ได้แปลกใจ

  การมาของซุนเมิ่งไม่ได้ทำให้เขาแปลกใจเพราะเขาเป็นคนเรียกนางมา แต่ชุดของนางนั้นกลับทำให้เขาใจสั่นราวกับว่าได้ย้อนกลับไปเมื่อสามหมื่นปีก่อน เขาได้ย้อนกลับไปตอนที่เพิ่งก่อตั้งสำนักคังเฉียงได้ไม่นาน ตอนนั้นซุนเมิ่งไม่ใช่ราชาที่แข็งแกร่ง แต่กลับเป็นจิ้งจอกน้อย นางได้กลับมาใส่ชุดจิ้งจอกน้อยอีกครั้ง

  จางหยูมองไปที่ซุนเมิ่งสักพักก่อนจะดึงสติกลับมา จากนั้นเขาก็ได้ใช้ทักษะหลอกลวงปกคลุมทั้งภูเขาเอาไว้และพูดขึ้นมาช้าๆ   ต้นกำเนิดของทุกวิถีคือการสร้าง… 

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ระบบเจ้าสำนักจางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์ หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก” เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้ ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน... ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการบ่มเพาะ ขอบเขตฉีซวน ระดับ 1-9 ขอบเขตว่อซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตตันซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตหลิงซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตหลี่ซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตตุ้นซวน ระดับต่ำ กลาง สูง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset