ระบบใช้จ่าย – ตอนที่ 22

บทที่ 22 : ฉันแค่อยากได้ยินมัน

 

การที่จะทําภารกิจจากระบบโดยใช้โรงอาหารของโรงเรียนดูจะเป็นทางเลือกที่แย่พอสมควร

 

เห็นได้ชัดว่าโรงอาหารคงไม่พอแน่กับภารกิจของระบบในเวลานี้หงต้าหลี่เองก็ไม่ได้สนใจที่จะซื้ออาหารกลางวันทั้งหมดในโรงเรียน เขาจึงตัดสินใจจะไปรับประทานอาหารกลางวันดี ๆ ที่นอกโรงเรียนแทน ถือว่าเป็นการฟุ่มเฟือยดี อาหารในโรงเรียนมันถูกเกินไปที่จะกิน ดังนั้นหงต้าหลี่เรียกให้ผู้ติดตามของเขามารับเขาไปที่โรงแรมที่เขาเพิ่งซื้อเมื่อวันก่อนเพื่อทานอาหารกลางวัน นั่นสิถึงจะเหมาะสมกับฐานะของเขา

 

และเขาก็ไม่ได้สนใจค่าใช้จ่ายเรื่องน้ํามันเชื้อเพลิงสําหรับการเดินทางเลยสักนิดเดียว

 

เขาจะทําในสิ่งที่เขาต้องการเท่านั้น เมื่อระฆังดังขึ้นเป็นเวลาพักกลางวัน หงต้าหลี่ก็เก็บข้าวของและออกเดินทาง เขามีเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงและยี่สิบนาทีเท่านั้น

 

เมื่อออกจากห้องเรียน หงต้าหลี่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นถึงมู่ซินยืนรออยู่นอกห้องเรียน “ ทําไมวัน นี้ซินซินของฉันรุกหนักจัง?ดูเหมือนว่าเธอคงจะไม่ทําอะ ไรแล้วสินะ เว้นแต่ ”หงต้าหลี่มองไปทางซ้ายและขวา ไม่ มีใครอยู่ตรงนั่น”เว้นแต่ว่าซินซินของฉันอยากมีบทบาทใน การเป็นคู่หมั้นของฉัน ”

 

” ไม่ใช่นะ!” ทุกวันนี้ถึงมู่ซินไม่เข้าใจว่าทําไมเธอถึงเหมือนคนทํางานหนักทุกครั้งที่เห็นหงต้าหลี่ ” ฉันแค่อยากจะมาดูว่านายเป็นยังไงบ้าง และไปทานอาหารกลางวันกับนายเท่านั้นแหละ! “ จริง ๆ แล้วถังปูซินไม่อยากไปทานอาหารกลางวันกับหงต้าหลี่ แต่พ่อของเธอเพิ่งโทรมาบอกเธอว่าครอบครัวหงได้โอนเงินฉุกเฉินมายังบัญชีของเขาแล้ว

 

ดังนั้นเมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา ถังปูซินเลยต้องปฏิบัติต่อหงต้าหลี่ให้ดีขึ้นแม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจก็ตาม

 

แต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรนัก ถึงเธอจะสวยหรือไม่สวย แต่เธอคงเมินเฉยต่อหงต้าหลี่ไม่ได้ ถังปูซินนั้นเป็นเด็กผู้หญิงที่ใจดีตั้งแต่อายุยังน้อย เธอเชื่อว่าหากคนอื่นดีต่อเธอ เธอก็จะพยายามทําให้ดีที่สุดเพื่อคนอื่น ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจแต่เธอก็เริ่มที่จะทําตัวเข้าหาหงต้าหลี่แล้ว

 

หงต้าหลีไม่สนใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เขาไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อถังปูซิน บางทีการที่ทะเลาะกันก็เป็นวิธีที่จะเข้าหากันได้ดีหงต้าหลี่หักนิ้วของเขาและได้พูดขึ้นมาว่า ” แล้วเอายังไงดีล่ะงั้นก็ออกไปทานอาหารกลางวันกันเถอะ “ หากไปทานอาหารกลางวันกับผู้หญิงที่น่ารัก มันคงจะเป็นอะไรที่เหมาะสมสําหรับอาเสี่ยอย่างเขาแน่นอน

 

“ โอเค “ ถังมู่ซินเห็นด้วยอย่างไม่เต็มใจ “ เราจะไปที่ไหนล่ะ? ”

 

“ เธออยากจะถามอะไรน่ะ? ก็แน่นอนว่าต้องเป็นที่เย่ไหลเซียงน่ะสิ ” หงต้าหลี่นั้นเลือกที่ไว้เรียบร้อยแล้ว “ การเป็นสุดยอดอาเสี่ยที่แท้จริงน่ะต้องเป็นแบบนี้ ถ้าฉันไม่เดินทางหลายกิโลเมตรเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน คนอื่น ๆ ก็ไม่คิดว่าฉันเป็นอาเสียน่ะสิ! ”

 

ถังปูซินเลือกที่จะเงียบในคราวนี้ แต่ความคิดของเธอก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอได้อย่างชัดเจน มันเป็นอะไรที่น่าอับอายมากที่ต้องมาคอยฟังคําพูดพวกนี้

 

ที่ประตูโรงเรียน จิรือยั่วกําลังรอ เมื่อเห็นว่าหงต้าหลี่เดินมาหาเธอ เธอก็ต้อนรับเขาแล้วก็กระซิบ “ท่านนายน้อยต้าหลี่ฉันขับรถของหลิวหมิงเฉิงมาที่นี่แล้ว มันจอดอยู่ตรงนั้น “ เธอชี้ไปที่รถ

 

เมื่อมองไปในทิศทางที่จิจือยั่วชี้ไปนั้น หงต้าหลีกเห็นรถสปอร์ตสีส้มเหลืองที่จอดอยู่ข้างถนนกว้าง มันมีรูปร่างที่เพรียวบาง รถทรงโหลดต่ํา ฝากระโปรงรถมีสีทองมันวาวพร้อมกับมีปีกรถทั้งสองข้าง หงต้าหลีไม่แน่ใจเรื่องแบรนด์หรือมูลค่าของรถสักเท่าไหร่ แต่พอดูรถแล้ว มันไม่ใช่ราคาถูกอย่างแน่นอน

 

หงต้าหลี่หันกลับมาถามถึงมู่ซิน “ ซินซิน หลิวหมิงเฉิงพูดว่าเขาจะให้รถคันนี้กับฉัน แต่ฉันขี้เกียจเกินกว่าจะขับได้ทําไมเธอไม่ลองขับดูล่ะ

 

ถึงมู่ซินส่ายหัว “ ฉันจะไม่แตะต้องของ ๆ เขา ฉันจะไม่ทําอะไรทั้งนั้น แม้ว่าฉันจะต้องตายก็ตามที่! ”

 

” ฉันแค่ล้อเล่นน่า ” หงต้าหลี่หัวเราะและโบกมือให้กับผู้ติดตามที่ยืนห่างไกลจากเขา “ เฮ้ มานี่สิ! “

 

ผู้ติดตามได้เห็นหงต้าหลี่ออกมาจากประตูโรงเรียน แต่พวกเขาก็ไม่กล้าเข้าใกล้เพราะจิจือยั่วก็อยู่ตรงนั้นเช่นกัน พวกเขาไม่กล้ารบกวนหงต้าหลี่และจิจือยั่ว แต่พอหงต้าหลีโบกมือมาพวกเขาก็รีบวิ่งไปหาทันที ” ครับ ท่านนายน้อย มีอะไรให้รับใช้ครับ? ”

 

หงต้าหลี่จับที่จมูกของเขาอย่างเมินเฉยและพูดว่า “ ไปหาก้อนอิฐ ท่อเหล็กและค้อนมาสิ แล้วรีบกลับมาหาฉัน เร็วๆฉันเริ่มหิวแล้ว ”

“ รับทราบครับ ท่านนายน้อย ” ผู้ติดตามทั้งสามวิ่งออกไปทันที ทําให้มีผู้หญิงหกคนรออยู่ข้าง ๆ หงต้าหลี่ 

 

หลิงเสี่ยวหยี่ถามด้วยความอยากรู้ ” ท่านนายน้อยต้าหลี่คือว่า…”

 

” เธอต้องการจะถามอะไรกัน? ฉันกําลังถลุงเงินยังไงล่ะ“หงต้าหลียังคงทําตามอําเภอใจ

 

ในไม่ช้า ผู้ติดตามทั้งสามก็วิ่งกลับมาพร้อม แบกค้อนหนักสองอันและท่อเหล็กหนาหนึ่งอัน พวกเขาดูกระ ตือรือร้นขึ้นท่านนายน้อย มีคนกลั่นแกล้งท่านหรือครับ? พวกเราจะไปหักขาของมันให้เอง! ” ราวกับแก๊งค์มา เฟียกําลังร่วมตัวกันไปก่อการร้าย

 

” ไม่มีใครรังแกฉันหรอก “ หงต้าหลี่ชี้ไปที่รถสปอร์ตหรูของหลิวหมิงเฉิง” ทุบรถคันนี้ ทําลายมันเป็นชิ้น ๆ ไม่มีใครต้องการของเส็งเคร็งชิ้นนี้อยู่แล้วอึมใช่ระวังอย่าทําให้มันระเบิดล่ะ ”

 

เธอได้แต่อ้าปากค้าง! ถังปูซินพูดไม่ออกจิรือยั่วก็ด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกันกับหลิงเสี่ยวหยี่และคนอื่น ๆ

 

จิจอยั่วกล้าหาญมากขึ้นเมื่อได้เป็นเพื่อนร่วมชั้นของหงต้าหลี่เธอเลยเดินเข้ามาหาเพื่อโน้มน้าวเขา “ ท่านนายน้อยต้าหลี่นี่เป็นรถยี่ห้อโพไซดอน รถคันนี้มีมูลค่า 700,000 หยวนมันไม่น่าเสียดายไปหน่อยหรอที่จะทําลายมัน? ”

 

” ฉันรู้ “ หงต้าหลี่มองไปที่จิคือยั่วอย่างไร้อารมณ์ ” ฉันก็แค่ขี้เกียจที่จะทําลายมันเท่านั้นแหละ ในเมื่อมันมีราคาถึง700,000 หยวน .. ฉันก็แค่อยากเห็นมันเละ “ เขาหันกลับมามองที่ผู้ติดตามทั้งสาม “ ทําลายมัน! ”

 

” รับทราบครับ ท่านนายน้อย” ในบ้านของหงต้าหลี่แม่ของเขาหลานรูซ์ได้สั่งให้ลูกน้องทําตามคําสั่งของหงต้าหลี่ทุกคน แม้ว่าจะเป็นนรกที่รอคอยอยู่ข้างหน้าพวกเขาก็ ตามที่ตราบใดที่หงต้าหลี่ต้องการให้พวกเขาลง พวกเขา ก็ต้องกระโดดลงไปตอนนี้หงต้าหลี่แค่ขอให้พวกเขาทําลายรถดังนั้นพวกเขาจึงไม่ลังเลเลย

” บังบังบังโปะโปะโปะบูมบูมบูม! “

 

ผู้ติดตามทั้งสามที่ถือค้อนในมือก็ได้เริ่มทําลายรถโพไซดอนที่มีมูลค่าถึง 740,000 หยวน เสียงดังกึกก้องไปทั่ว เมื่อหน้าต่างรถแตกออกเป็นชิ้น ๆ ภายในไม่กี่นาทีรถก็ดูเหมือนถุงข้าวถูกเหยียบย่ําด้วยหมูป่ารถที่ดูดีกลับพังลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ระบบใช้จ่าย

ระบบใช้จ่าย

เรื่อง ระบบใช้จ่าย โดย นำเรื่อง ระบบใช้จ่าย มาเป็นบางส่วน บทนำ เขาได้ตายไปเพราะช่วยเหลือคนจากการถูกรถชน จากนั้นก็ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง พร้อมกับระบบแปลกๆและยังโลกใบเดิมที่ผิดไปจากเดิมอีก เรื่องย่อ ” หงต้าหลี่ เพศชายอายุ 22 ปี ไร้ครอบครัว ได้เสียชีวิตอย่างโชคร้ายโดยที่ได้ช่วยเหลือเด็กสองคนที่กำลังจะถูกรถชน หลังจากหารือหลายครั้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตัดสินใจให้เกียรติเขาในฐานะวีรบุรุษและนักศึกษามหาวิทยาลัยดีเด่นของจังหวัด “ – หนังสือพิมพ์รายวันประชาชน … ” ไม่!ไม่!ไม่! ไม่มีทาง หนูจะไม่หมั้นกับตระกูลหงเด็ดขาด! ” ถังมู่ซินพูด เธอซ่อนศรีษะไว้ใต้หมอนและกะดิกขาไปมาอย่างหงุดหงิด ” หงต้าหลี่เป็นพวกเศษเดนที่คนรู้จักกันทั่วเมือง เขาเป็นพวกสุรุ่ยสุร่ายและเป็นที่ขายหน้าของตระกูลหง เขาทั้งอ่อนแอและสมองทึบอีกด้วย ไม่มีทางที่หนูจะเอาคนแบบนี้มาเป็นคู่หมั้นหรอกนะ! “ ถังมู่ซิน เป็นลูกคนเดียวของ ถังรุ่ยชี ประธานบริษัทถังเวชกรรม เธอเป็นคนที่มีความสามารถทั้งการอ่านและเขียน ทั้งนี้เธอยังเป็นคนที่เที่ยงธรรมและเป็นคนที่สวยงามอีก ด้วยรูปลักษณ์ของเธอ เปรียบได้กับดอกไม้ที่สวยที่สุดราวกับว่าทุกอย่างนั้นดีไปหมดเมื่ออยู่กับเธอ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นสุดยอดแม่ครัว ทำให้เธอเป็นภรรยาในแบบอุดมคติเลยทีเดียวเชียว การที่ทั้งทำอาหารได้อร่อยและหน้าตาเป็นเลิศเช่นนี้ เธอจะต้องเป็นผู้หญิงในฝันของผู้ชายหลายคนในโรงเรียน วันนี้ เธอได้ยินเสียงจากพ่อว่าจะพาเธอไปหาตระกูลหงต้าหลี่ที่แสนน่าอับอาย เพื่อที่จะได้หมั้นตัวเธอกับลูกชายของตระกูลหง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถยอมรับได้เลยสักนิดเดียว ” ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแม่ของเขาตามใจและพวกเขายังมีลูกแค่คนเดียว คนไร้ค่าอย่างเขาคงจะถูกไล่ออกจากตระกูลหงไปนานแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ เขาจะยังสามารถใช่เงินสุรุ่ยสุร่ายได้แบบนี้อีกงั้นเหรอ? “ เมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาว ถังรุ่ยชีซึ่งนั่งอยู่หน้าเตียงก็ได้ยิ้มแย้ม ” ซินซิน1 ไม่ใช่ว่าพ่อมีทางเลือก การแต่งงานระหว่างหนูกับหงต้าหลี่ถูกตัดสินโดยคุณปู่เมื่อหลายปีก่อน แม้ว่าเขาจะเป็นเด็กน้อยทึ่ม ๆ คนหนึ่ง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ใช่มั้ย จากสิ่งที่พ่อรู้จริง ๆ แล้ว หงต้าหลี่เป็นเด็กที่หน้าตาดีเลยนะ … “ ถังรุ่ยชี สวมเสื้อกล้ามสีเขียวที่สะอาดสะอ้านและเน็คไทที่มีปมเรียบง่ายตรงคอของเขา เขามีหนวดเคราอยู่เหนือริมฝีปาก เขาถือกล่องยาสูบไว้ในมือและผมสีดำสั้นของเขาก็ได้ถูกหวีอย่างเรียบร้อยไปทางด้านหลังของศีรษะอย่างดูดี ความแปลกเพียงอย่างเดียวก็คือ ตอนนี้ดวงตาของเขาเปล่งประกายพร้อมกับเต็มไปด้วยความรู้สึกหมดหนทางและไม่เต็มใจ พูดตามตรง เพราะเขาไม่มีทางเลือกหรอกนะ เขาจะยอมมอบลูกสาวที่มีค่าของตัวเองให้กับคนไร้ค่าอย่างหงต้าหลี่งั้นหรอ? สาเหตุที่เขาเรียกว่าคนไร้ค่างั้นเหรอ ก็เพราะหงต้าหลี่อาจเรียกได้ว่าเป็นคนประหลาดที่สุดบนโลกใบนี้ สิ่งเดียวที่เขาชอบทำก็คือ การถลุงเงินที่มีอยู่ของตนเอง คำพูดประจำตัวของเขาคือ ” ฉันจะต้องฟุ่มเฟือยสิ ถ้าฉันไม่ใช้เงิน เงินที่พ่อแม่ของฉันที่หามาก็คงสูญเปล่าใช่ไหมละ? “ คำพูดของเขาได้สร้างเสียงหัวเราะให้ทุกคนในเมืองเทียนจิง ผู้ปกครองจำนวนมากต่างก็ได้สอนลูกของพวกเขาโดยพูดว่า ” ถ้าลูกกล้าเรียนรู้เรื่องการใช้เงินจากหงต้าหลี่ ไปกินข้าววัดเลยไป! “ ดังนั้นแล้ว จึงเป็นที่เข้าใจได้เลยว่าทำไมถังมู่ซินถึงได้อารมณ์เสีย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset