ระบบใช้จ่าย ระบบใช้จ่ายตอนที่ 26
บทที่ 26: สูตรอาหารสําหรับอาเสี่ยอัจฉริยะ
หงต้าหลี่มีสูตรอาหารที่คิดขึ้นมาเองงั้นเหรอ? นั่นมันเป็นเรื่องที่แปลกมากเลยนะ แต่ก็คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเขาได้สูตรอาหารมาจากที่ไหน ทุกคนแปลกใจ ถึงมู่ซินเองก็ถามเบาๆ ว่า “ ต้าหลี่ นายได้สูตรอาหารมาจากไหน?”
” มันเป็นสูตรอาหารที่อร่อยที่เหมาะสมกับอาเสี่ยอย่างฉันยังไงล่ะ ” หงต้าหลี่ตอบอย่างใจเย็น ” ฉันจะพลาดโอกาสแบบนี้ได้ยังไงกัน จริงมั้ย? ”
” โอ..โอเค …” ถังปูซินพูดอย่างหมดหนทาง
ในขณะนี้ เชฟเหว่ยเปากําลังพิจารณาถึงสูตรอาหารและได้พูดว่า ” ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรครับ แม้ว่าท่านนายน้อย จะบอกรายละเอียดมากน้อยเพียงใด แต่อาหารจานที่จะให้ผมทําย่อมมีรสชาติเหมือนกับที่ท่านนายน้อยบอกอย่างแน่นอน”
” ดีมาก ” หงต้าหลี่หายใจเข้าและอธิบายสูตรอาหาร จานแรก จะมีวัตถุดิบเป็นเนื้อแพะ, หูหมู, ไตลูกวัว, เนื้อผ้าและเนื้อกระต่าย นําเนื้อแต่ละชนิดเสียบไม้แล้วไปย่าง จะมีเนื้อสัตว์ห้าประเภทพื้นผิวของเนื้อสัตว์แต่ละชนิดจะแตกต่างกัน มันจะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และเมื่อลองเคี้ยว เนื้อหมูและเนื้อแกะด้วยกัน และเคี้ยวเนื้อกวางและเนื้อกระต่ายด้วยกัน มันให้รสชาติต่างกันถึง 25 แบบ จานนี้มีชื่อว่า “ขับขานบทเพลงขลุ่ยหยกในขณะที่ดอกพลัมร่วงหล่น” “ [1. อยู่ในตํานานของฮีโร่อีแร้ง นี่เป็นอาหารที่หวางร่งเตรียมไว้ให้สําหรับฉีก้อง]
ขับขานบทเพลงขลุ่ยหยกในขณะที่ดอกพลัมร่วงหล่น! แค่ได้ยินชื่อเมนู เหล่าผู้ติดตามต่างก็ยกยอปอปั้นท่านนายน้อยของเราว่าช่างอัจฉริยะซะเหลือเกิน แม้ว่าสูตรอาหารจะไม่มีที่มาที่ไป แต่เขากลับสามารถตั้งชื่ออันแสนจะไพเราะขึ้นมาได้! ลืมอาหารจานอื่นไปได้เลย อาหารจานนี้มันคู่ควรแต่กับอาเสี่ยแบบเขาเท่านั้น!
ในขณะนี้หงต้าหลี่ก็หันไปที่ถังปูซินและถามว่า “ ซินซิน เธอต้องการที่จะเดาไหมว่าทําไมอาหารจานนี้ถึงมีชื่อแบบนี้?“
” ยืม ฉันคิดว่า ” ถังปูซินถูคางของเธอด้วยมือที่บอบบาง ดวงตาของเธอขยับไปมาตามที่เธอคิด หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ตอบกลับและยิ้ม” เพราะมีรสชาติที่แตกต่างกันถึง 25 แบบ ดังนั้นชื่อนี้มันจะต้องสอดคล้องกับ ห้าครั้ง ห้ากลีบดอกพลัม ซึ่งเป็นดอกพลัมร่วงหล่น ส่วนแท่งเนื้อสัตว์มีลักษณะคล้ายกับขลุ่ย ซึ่งก็คือขลุ่ยหยก จานนี้สามารถรวมเข้าด้วยกัน สร้างมาหลายรูปแบบ ส่วนคําว่า “ขับขาน” หมายถึงอาหารมีการจัดเรียงแบบตําแหน่งที่นายถามมา ฉันพูดถูกไหม? ?
” อ่าาาา เธอฉลาดจริงๆ! “ หงต้าหลี่ปรบมือยกย่อง” ทําได้ดี ฮ่าฮ่า เธอฉลาดมาก ซินซิน! “
” แน่นอน ฉันเก่งอยู่แล้ว! “ ถังปูซินเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ ” ฉันเก่งในเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่จานนี้ใช้วัตถุดิบแพงเกินไป มันต้องใช้ส่วนผสมอย่างน้อยก็สองสามร้อยอย่างเลย”
หลังจากอธิบายเมนูจานนี้แล้ว หงต้าหลี่ก็มองไปที่เชฟเหว่ยเปาด้วยรอยยิ้ม” เชฟเหว่ยเปา นายมั่นใจว่าจะทําอาหารจานนี้ได้หรือเปล่า? ”
เชฟเหว่ยเปาเริ่มเหงื่อออกเมื่อได้ยินสูตรอาหาร และตอนนี้ เขาก็พูดอย่างลังเลว่า “ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินสูตรอาหารแบบนี้ ผมจะพยายามครับ สิ่งสําคัญคือวิธีการทําอาหารจานนี้มีรายละเอียดไม่เพียงพอ มันอาจจะมีรสชาติไม่เหมือนกับที่ท่านเคยกินมา มัน…”
หงต้าหลี่หัวเราะ “ นั่นมันเรื่องเล็กน้อย ขอแค่ส่วนผส มครบก็พอ นายจะลองทดสอบสูตรดูก่อนก็ได้นะ “ จากนั้นห งต้าหลี่ก็พูดถึงอาหารจานที่สองต่อ “ จานที่สองเรียกว่า ใบบัวหน่อไม้ซุปเชอร์รี่” จานนี้ก็ง่าย ๆ แค่ต้องหาเชอร์รี่ ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่จะทําได้ เอาเมล็ดออก ฝังเนื้อนกพิราบเต่า ลงในเชอร์รี่แล้วโรยกลีบกุหลาบรอบ ๆ พร้อมกับหน่อไม้
ฟังดูง่ายกว่าจานแรกมาก ส่วนที่ยากที่สุดคือการนําเนื้อนกพิราบเต่าลงในเชอร์รี เชฟเหว่ยเปามีความมั่นใจมากขึ้นพอสมควร เขาเก่งในการเตรียมส่วนผสมอย่างประณีต เขาจึงได้ตอบไปในทันทีว่า “ จานนี้เรียบง่ายมาก ผมคงต้องลองทําสักสองครั้งและน่าจะนํามาเสิร์ฟให้ท่านได้ “ แน่นอนว่าท่านนายน้อยผู้นี้จะจัดหาส่วนผสมทั้งหมดที่เชฟต้องการ ไม่มีอะไรที่เขาทําไม่ได้หรอก และนั้นทําให้ตัวเชฟสามารถใช้เวลาใน การทดสอบสูตรอาหารและทําให้มันกินได้นจริงๆ
หงต้าหลี่พยักหน้า “ อื่ม ดี “ จากนั้นเขาก็สั่งการผู้จัดการแผนกต้อนรับ “ เตรียมส่วนผสมทั้งหมดที่เชฟเหว่ยเปาต้องการ หาวัตถุดิบให้เขา หาวัตถุดิบให้ได้มากที่สุดเท่าที่ เขาต้องการ เข้าใจไหม? ”
ผู้จัดการแผนกต้อนรับตอบเสียงดังและชัดเจน ” รับทราบครับท่านนายน้อย! ”
ถังมู่ซินผู้ซึ่งยืนอยู่ข้างหงต้าหลี่ได้ถามอย่างสงสัยว่า “ ต้า หลี่ ซุปนี้ ใบบัวหน่อไม้ซุปเชอร์รี่? ทําไมมันถึงแตกต่างกันมากกับเมนู “บทเพลงขลุ่ยหยกกับดอกพลัมร่วงหล่น” งั้นเหรอ?”
หงต้าหลี่ยิ้มกว้าง ” มันไม่ได้ง่ายแบบนั้นหรอกน่า ฉันขอทดสอบเธออีกครั้งเลยแล้วกัน จานนี้จริงๆแล้วควรใช้ชื่อว่าอะไร? ”
” ทดสอบฉันอีกครั้งอย่างนั้นหรอ? “ ถึงมู่หินวางนิ้วบนริมฝีปากของเธอและไตร่ตรอง “ มีเชอร์รีในซุป หมายถึงผู้หญิงที่สวยเหมือนดอกไม้และมีริมฝีปากสีแดงเหมือนเชอร์รี่ นั่นหมายถึงสาวงามถูกต้องไหม? หน่อไม้และใบบัวบ่งบอกถึงสุภาพบุรุษ จานนี้เรียกว่า สุภาพบุรุษและซุปสาวงาม!“
” เห้ย ซินซิน เธอเก่งจริงๆ แต่เธอพลาดบางอย่าง “ หงต้าหลี่ยิ้มพร้อมกับส่ายหัว “ แล้วเนื้อนกพิราบเต่านี้ละ หมายถึงอะไร? ”
” เนื้อนกพิราบเต่า เนื้อนกพิราบเต่า ” ถังปูซินใช้เวลามากกว่าที่คิดในการไตร่ตรองพึมพํากับตัวเอง “ เนื้อนกพิราบ,เต่า,สาวงาม,สุภาพบุรุษ ” ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็เปล่งประกาย “ อ้า ฉันรู้แล้ว! กวีแรกในบทกวีคลาสสิก คือ “กวนกวนร้องบทกวีบนเกาะในแม่น้ํา หญิงสาวงดงามควรคู่สุภาพบุรุษ ทั้งสาวงามและความลึกลับพอรวมกันแล้ว ซุปนี้ถูกเรียกว่า “ซุปสมพงษ์! ”
หงต้าหลี่หัวเราะแล้วพูดว่า “ ไม่เลว ไม่เลวเลย หญิงสาวงดงามควรคู่สุภาพบุรุษ ซุปนี้เรียกว่า “ซุปสมพงษ์! ”
ถังมู่ชินหน้าแดงเมื่อได้ยินหงต้าหลี่ชมเธอ และหัวใจของเธอก็สั่นไหว เธอคิดว่าหงต้าหลี่ เขากําลังพยายามที่จะสารภาพรักกับเธอโดยพูดถึง “ซุปสมพงษ์” สินะ? เขาคิดสูตรอาหารนี้ขึ้นมาจริงๆ หรือเขาได้รับจากที่ไหนมากันแน่นะ? ฉันคิดว่าเขาคงหาสูตรมาจากที่ไหนสักแห่ง แต่บางที มันก็เป็นไปได้มากกว่าที่เขาจะคิดสูตรขึ้นมาเอง …
การสนทนาระหว่างหงต้าหลี่และถังปูซิน ทําให้คนรอบข้างจ้องมองไปที่พวกเขาด้วยความประหลาดใจ! พอหงต้าหลี่เริ่มอธิบายถึงสูตรอาหาร พวกเขาก็ได้แต่คิดว่า ท่านต้าหลีได้รับสูตรอาหารมาจากที่ไหนกัน? มันช่างน่ามหัศจรรย์อย่างกับโลกกําลังจะแตกเลยทีเดียวเชียว!
พวกเขาจะพลาดโอกาสที่ดีแบบนี้อีกน่ะหรอ? พวกเขาไม่พลาดแน่นอน ทันใดนั้นผู้ติดตามทั้งเก้าที่ไม่รวมกับหลิงเสี่ยวหยี่ ก็เริ่มโหร้องเสียงดัง
“ท่านนายน้อยมีสมองที่ชาญฉลาดและแข็งแกร่งจริงๆ ท่านนายน้อยขอให้ท่านมีชีวิตยืนยาว ตราบใดที่ท่านนายน้อยยังอยู่ ท่านจะทําสิ่งใดย่อมสําเร็จตามต้องการแน่! “
“ ใช่แล้ว ในโลกใบนี้ไม่มีใครที่จะไม่กล่าวชมท่านนายน้อยหรอก ”
* ท่านนายน้อยรู้ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจักรวาลหรือสวรรค์ไม่มีใครเทียบท่านได้ แม้กาลเวลาจะผ่านไป 5,000 ปีก็ตาม!”
หงต้าหลีหัวเราะชอบใจเสียงดัง “ ให้ทิปเงินพวกเขา 5,000 หยวนต่อคน”
เห้อ ฟุ่มเฟือยอีกแล้ว ในตอนนี้ ถึงมู่หินเริ่มรู้สึกหิวเล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงไม่สนใจเขาและหยิบตะเกียบของเธอขึ้นมา เธอลองจานอาหารที่แตกต่างกันสองสามจาน เธอพยักหน้าด้วยความชอบในขณะที่เธอเดินไปเรื่อยๆ หงต้าหลีก็ไม่สนใจเลยว่าอาหารทั้งหมดนั้นจะมีอาหารมากกว่า 160 จาน เขานั้นกินแค่ของที่เขาชอบเท่านั้น หลังจากทานไปสามจาน เขาก็ไม่ได้แตะจานอื่นเลย
เมื่อเขากินอิ่มแล้ว หงต้าหลี่ก็ตบท้องของตัวเองและพูดว่า “ อาหารวันนี้รสชาติอร่อย ไม่เลวเลย โอ้ใช่ พวกนาย ” หงต้าหลี่ชี้ไปที่ผู้จัดการแผนกต้อนรับและผู้ติดตามทั้งเก้าคน” พวกนายเองก็ยังไม่ได้กินอาหารกลางวันใช่มั้ย?”
“ กินได้เลย ฉันจะพักสักแปปให้อาหารย่อยก่อน ทุกคนมานี่สิ กินด้วยกัน เสร็จกันแล้วก็ค่อยไปส่งฉันที่โรงเรียน ”
หงต้าหลี่มีน้ําใจจริงๆ เพียงแค่วันเดียวตั้งแต่เขาได้มาเยี่ยมเยือนสถานที่นี้ สถานที่ที่เขาซื้อไว้ เขาก็ดูแลทุกๆคนให้ได้ทานอาหารที่แสนอร่อย แน่นอนว่าพวกเขาทุกคนต่างก็รู้สึกขอบคุณหงต้าหลี่กันทั้งนั้น