บทที่ 3: การใช้เงินเป็นทักษะประเภทหนึ่ง
เมื่อได้ยินสิ่งที่หงต้าหลี่พูด ถังมูซินที่ตอนแรกร่าเริงก็ได้เปลี่ยนอารมรณ์ไป ใบหน้าของเธอซีดจางอย่างน่ากลัว แม้ว่าเธอจะตัดสินใจที่จะล้างแค้นในการหมั้นตั้งแต่แรก
แต่ทว่าหงต้าหลี่กลับบอกกับเธอตรงๆว่าเขาไม่ได้ต้องการแต่งงานกับเธอ แม้ว่าเธอจะเต็มใจที่จะโดนว่าไว้แล้ว แต่นี้ก็ทำให้เธอเสียใจมากเช่นกัน นี่คงเป็นเพราะเธอมักได้รับคำชมจากผู้คนรอบตัวเธอมาโดยตลอด
ในความเป็นจริง เธอได้คิดทบทวนและเตรียมพร้อมที่จะต้องเห็นการกระทำอันแสนหยาบช้าและคำพูดของหงต้าหลี่แล้ว … แต่เธอไม่คิดเลยว่า ถ้าเธอไม่รู้จักเรื่องการใช้เงินอย่างมือเติบ เธอก็คงจะถูกถอนหมั้น พอเป็นแบบนั้น วิกฤตการเงินของครอบครัวเธอก็จะไม่ได้รับการแก้ไข แต่ถ้าเธอบอกว่าเธอรู้วิธีที่จะใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย มันจะเป็นการโกหกหรือเปล่า? ในท้ายสุด ถังมู่ซินก็ตอบกลับไปด้วยความโกรธไปเพียงอย่างนั้นว่า “ฉันไม่รู้ว่าฉันเก่งในเรื่องการใช้เงินหรือเปล่า เพราะฉันไม่เคยลองมาก่อน!”
” อ่อ อย่างนั้นหรอ ” หงต้าหลี่มีปัญหาเร่งด่วนกับภารกิจที่ได้รับมากกว่าที่จะมาเสียเวลาในการโต้เถียงกับเด็กน้อยคนนี้ จากนั้นเขาเพียงแค่พูดว่า “ โอเค นั่นคือทั้งหมดที่ฉันอยากจะรู้ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันจะออกไปข้างนอกเดี๋ยวนี้และใช้เงินแบบเต็มสูบ เธอจะอยู่ที่นี่ก็ได้นะ”
” นาย.. ” ถังมู่ซินไม่อยากจะเชื่อว่าหงต้าหลี่จะทิ้งเธอไปแบบนี้ ด้วยรูปลักษณ์และภูมิหลังของครอบครัวเธอ ผู้คนรอบตัวเธอก็มักเต็มใจที่จะใช้เวลากับเธอเสมอ แต่ในตอนนี้ หงต้าหลี่ต้องการที่จะทิ้งเธออย่างชัดเจน เธอกระทืบเท้าที่พื้นด้วยความโกรธและพูดขึ้นมาว่า ” ทำไมนายถึงหยาบคายแบบนี้? นายจะทิ้งฉันไว้ที่นี่คนเดียวจริง ๆ เหรอ? ” เธอมาที่นี่ในวันนี้เพื่อที่จะพูดคุยเรื่องการหมั้น หากคำพูดของคู่หมั้นของเธอที่บอกว่าจะทิ้งเธอได้แพร่กระจายออกไป เพียงแค่พูดกันเพียงไม่กี่คำ ตัวของเธอจะต้องอับอายมากแน่ ๆ
ฮ่า ๆ พอเป็นแบบนี้แล้ว ฉันรู้ว่าเธอคงจะไม่ยอมให้ฉันออกไปข้างนอกตัวคนเดียวแน่นอน หงต้าหลี่คิดไว้แล้วว่าเธอจะไม่เห็นด้วย เขาได้คาดเดาสิ่งที่อยู่เบื้องหลังข้อเสนอการหมั้นของตระกูลถังแล้ว ดังนั้น เขาจึงรู้ว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่ถังมู่ซินจะปล่อยให้เขาออกไปด้วยตัวคนเดียว หงต้าหลี่จึงพูดอย่างสุภาพว่า ” ก็มากับฉันซะสิ แล้วเราจะได้ออกไปข้างนอกพร้อมกัน! ” ในขณะที่เขาพูด เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นสูง ค้างไว้กลางอากาศและพร้อมตะโกนออกมาว่า ” ฉันจะรีบกลายไปเป็นราชาแห่งการใช้เงิน! “
1
ใบหน้าที่สวยของถังมู่ซินเต็มไปด้วยความโกรธ แต่ไม่มีอะไรที่เธอจะสามารถทำได้ ยกเว้นจะด่าเขาว่า ” มันเป็นความอับอายที่สุดของฉันเลยที่จะต้องมาเกี่ยวข้องกับคนสุรุ่ยสุร่ายแบบนาย! “
หงต้าหลี่ไม่กังวลว่าเธอจะมองเขาอย่างไร หลังจากที่พวกเขาออกจากห้องไป หงต้าหลี่ก็รีบไปหาแม่ของเขาและยื่นมือไปหา ” เอาเงินมาให้ผมที ผมจะพาซินซินออกไปใช้เงิน “
ถังรุ่ยชีไอแรงๆออกมา ด้วยความที่ตอนนี้เขาต้องมาขอความช่วยเหลือของหงต้าหลี่ เขาจึงได้แต่ทำเป็นไม่เข้าใจคำพูดของหงต้าหลี่ เขาโบกมือเรียกถังมู่ซินและพูดว่า ” ซินซิน ออกไปข้างนอกแล้วสนุกกับต้าหลี่เถอะ พ่อยังมีเรื่องที่จะพูดคุยกับลุงหงอยู่ “
แม่ของหงต้าหลี่ก็ได้หยิบการ์ดออกมาจากกระเป๋าของเธอแล้วยัดลงในมือของเขาจากนั้นก็พูดอย่างใจเย็นว่า ” ต้าหลี่ เอานี้ไปหาของที่ซินซินชอบและซื้อให้เธอนะ ในการ์ดมีประมาณ 300,000 หยวน ถ้าไม่พอใช้ล่ะก็ ไว้แม่จะติดต่อน้าหลิวให้โอนเงินเข้าไปเพิ่ม ส่วนรหัสผ่านคือเลขศูนย์หกตัว อย่าลืมนะจำไว้ด้วย “
” โอเคครับ … ” หงต้าหลี่หยิบการ์ดจากแม่แล้วยักไหล่อย่างเฉยเมย ทันใดนั้นเขาก็ถามถังมู่ซินซึ่งอยู่ข้าง ๆ เขาว่า ” เธอได้รับค่าขนมวันละเท่าไหร่? “
ถังมู่ซินมองและพูดว่า ” ฉันได้รับ 500 หยวนต่อวัน แค่นั่นก็มากสำหรับฉันแล้ว “
” แค่นั้นอะนะ? ” แม่ของเขาให้เขา 300,000 หยวน แต่ถังมู่ซินได้รับเพียง 500 หยวนต่อวัน จมูกของหงต้าหลี่เริ่มกระตุก ขณะที่เขายัดการ์ดลงในกระเป๋าเสื้อของถังมู่ซิน
” เงินนี้ถือว่าเป็นของขวัญสำหรับการหมั้นของเราล่ะกัน ” หลังจากนั้นเขาก็ได้เอื้อมมือไปหาแม่ของเขาอีกครั้งและพูดว่า “ ผมใช้เงินไปหมดแล้ว ผมขอเงินเพิ่มที ”
แม่ของเขามองและหัวเราะลั่น ส่วนพ่อของเขาแทบจะพ่นน้ำที่เพิ่งหยิบมากิน จากนั้นแม่ก็ได้หยิบการ์ดอีกใบให้กับหงต้าหลี่อย่างรวดเร็ว ” แกยังเด็กน้อยไป เอาการ์ดใบนี้ไปใช้เถอะ ส่วนรหัสผ่านนั้นก็เหมือนกันกับการ์ดอันเดิม เลขศูนย์หกตัว ในการ์ดใบนั้นมีประมาณ 500,000 หยวน น่าจะเพียงพอสำหรับแกที่จะใช้จ่ายตามที่แกต้องการแล้วนะ”
หงต้าหลี่รับการ์ดจากแม่ ตอนนี้ใกล้เวลา 20:30 น. แล้ว พอคำนึงถึงเวลาที่ต้องใช้ในการเดินทาง เขาคาดว่าจะเหลือเวลาอีกเพียงสามชั่วโมงเท่านั้นในการทำภารกิจให้สำเร็จ เวลานั้นมันไม่รอใครอยู่แล้ว การทำภารกิจให้ได้รับค่าสถานะมานั้นสำคัญกว่าทุกสิ่งอย่างแล้วตอนนี้ พอคิดได้แบบนั้น หงต้าหลี่จึงลากถังมู่ซินไปโดยไม่พูดอะไรอีก
” พวกเราจะออกไปจากที่นี้เดี๋ยวนี้และใช้เงินกัน! “
ถังมู่ซินเองก็ได้พูดอย่างไม่เต็มใจ ” นายเป็นคนที่กำลังออกนอกลู่นอกทางนะ ไม่ใช่ฉัน และฉันก็จะไม่เรียนรู้เรื่องแบบนี้จากนายด้วย “
” เด็กๆพวกนี้ เห้อออ … ” พ่อของหงต้าหลี่ถอนหายใจ เขาส่ายหัวในขณะที่พูดพร้อมกับหัวเราะอย่างขมขื่น ” ฉันคงตามใจเขามากเกินไปสินะ ฮ่าฮ่า “
“ มัน…ไม่ได้เลวร้ายหรอกน่า …” ถังรุ่ยชีพูดโดยไม่รู้ตัว เพราะตอนนี้เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเขาควรรู้สึกอย่างไรดี เขาจึงได้แต่หัวเราะเบา ๆ และไม่แสดงความคิดเห็นอะไรออกไป ในขณะเดียวกัน เขาก็แอบดีใจ เพราะหนทางที่ธุรกิจของเขาจะกลับคืนมาเหมือนเดิมอยู่อีกไม่ไกลแล้ว
แค่เพียงการกระทำของถังรุ่ยชี หงต้าหลี่ก็รู้อย่างแน่ชัดอยู่แล้วว่าเขาต้องการจะทำอะไร อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย ปัจจุบันร่างกายของเขามีคะแนนสถานะแต่ละช่องต่ำมากจนแทบจะเรียกว่าไม่มี สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการใช้เงินเพื่อเพิ่มคะแนนสถานะของเขา ไม่อย่างนั้นไอ้จิ๋วของเขาคงเหลือแค่ครึ่งเดียว ถ้าหากถังมู่ซินได้เปลื้องผ้าเปลือยและนอนอยู่บนเตียงต่อหน้าเขา เขาคงจะได้เอาหน้าไปมุดดินแหง่ๆ
จริง ๆ แล้ว หงต้าหลี่นั้นรู้สึกถึงความเจ็บปวดและความปวดร้าวของร่างกายเจ้าของคนก่อนหน้านี้
ด้วยร่างกายที่อ่อนแอและมีขนาดเล็กมากตั้งแต่เกิดนี้ แค่การใช้เงินเยอะไปหน่อยมันก็ไม่ใช่เรื่องแย่สำหรับเจ้าของร่างคนก่อนสักหน่อย ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่เจ้าของร่างคนเดิมได้ทำไปหาใช่สำคัญสักหน่อย!
เมื่อพวกเขาสองคนออกมาจากบ้านพักตระกูลหง หงต้าหลี่ก็เริ่มมองไปทางซ้ายและขวา เขาไม่ใช่คนของโลกนี้ แม้ว่าเขาจะไม่เคยได้พบเจอด้วยตาตัวเอง แต่อยา่งน้อยเขาก็ยังเคยเห็นบ้านพักที่หรูหราเช่นนี้จากที่ดูในอินเตอร์เน็ต แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอครอบครัวที่มีที่พื้นที่กว้างใหญ่เป็นของตนเอง เมื่อได้เห็นป่าโดยรอบที่ไม่มีที่สิ้นสุด หงต้าหลี่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นตา มีใครรู้ไหมเนี้ยว่าพื้นที่แห่งนี้มันกว้างขนาดไหน?
ในตอนแรก สิ่งที่เขาคิดไว้เกี่ยวกับขนาดของบ้านก็คือ มันมีขนาดเหมือนกันบ้านของซีอีโอในบริษัทชิวชิวไอที ซึ่งแค่นั้นก็เรียกได้ว่าหรูสุดยอดแล้ว แต่พอเทียบภาพที่เขาคิดกับภาพตรงหน้าเขานี้ แม้แต่บ้านพักพวกนั้นในโลกก่อนหน้าของเขาที่มีมูลค่านับพันล้าน มันก็ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถเทียบได้เลยสักนิด
ซึ่งหากประเมินมูลค่ากับโลกก่อน มันอาจเทียบไม่ได้กับที่ของปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้ในโลกก่อนหน้าของเขา แต่จากสิ่งที่เขารู้มา ครอบครัวของเขานั้นร่ำรวยอย่างโคตรๆ สำหรับสวนสนามหญ้าที่ล้อมรอบบ้านพักนี้ก็มีขนาดอย่างน้อยสองสนามฟุตบอลเลย เพียงแค่นี้ก็เรียกได้ว่าทุ่มเงินมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อแล้ว แต่ตรงกลางยังมีถนนกว้าง 15 เมตรเชื่อมต่อกับถนนสายหลักที่เชิงเขา ต้นแปะก๊วยที่ดูมีค่ามากมาย อีกทั้งมันดูโตผิดปกติและเขียวชอุ่มเรียงรายตลอดตามแนวถนนอีก ต้นไม้พวกนี้คงจะไม่ได้เห็นมันง่าย ๆ และที่เห็นทั้งหมดนี้น่าจะมีอายุอย่างน้อยหลายร้อยปี ค่าใช้จ่ายในการขนส่งมันเพียงอย่างเดียวก็คงราคาแพงมากพอแล้วแหละ
ไม่เพียงแค่นั้น เมื่อหงต้าหลี่นำถังมู่ซินออกจากบ้าน เขาและเธอก็ได้นั่งรถลีมูซีนแบรนด์ที่ไม่รู้จักลงไปที่เชิงเขา เขาเห็นรูปปั้นสิงโตหยกแดงสองตัวอยู่นอกรั้วประตู พวกมันสูงประมาณสามเมตรและดูดุร้ายมาก หงต้าหลี่ไม่สามารถอธิบายได้เลยสักนิด แต่เขาขอสาบานเลยว่า นี้เป็นครั้งแรกที่เขาเคยเห็นรูปปั้นขนาดใหญ่ รูปปั้นที่ใหญ่ที่สุดที่เขาเคยเห็นก็เป็นตอนที่เขาได้เดินทางไปปักกิ่งในวันหยุด ซึ่งมันตั้งอยู่นอกประตูด้านหน้าของธนาคารในประเทศหนึ่ง แต่รูปปั้นนั้นทำมาจากหินเท่านั้นและคงมิอาจที่จะเทียบได้กับรูปปั้นหยกแดงทั้งสองตัวนี้
จากการสังเกตทั้งหมดในตอนนี้ หงต้าหลี่ตระหนักดีว่ามูลค่าสุทธิของครอบครัวเขานั้นมหาศาลมาก
มันเรียกได้เลยว่าโคตรจะมหาเศรษฐี
ระหว่างทาง นอกจากจะประหลาดใจกับความมั่งคั่งของครอบครัวเขาแล้ว ความคิดของตัวหงต้าหลี่ต่อถังมู่ซินก็ดูดีขึ้นมาเล็กน้อย
หงต้าหลี่นั้นนั่งข้าง ๆ เธอ กลิ่นหอมที่เหมือนดอกกล้วยไม้ที่หอมหวานรอบ ๆ ตัวเธอ นั้นหอมมากจนเขาอยากสูดลมหายใจมากขึ้น แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ความคิดของหงต้าหลี่ต่อตัวถังมู่ซินนั้นดีขึ้น เหตุผลที่แท้จริงคือ ถังมู่ซินไม่ได้มาว่าอะไรกับสิ่งที่หงต้าหลี่ต้องการทำ แม้ว่าเธอจะดูร้ายกาจมากๆก็เถอะ
เธอนั้นเป็นเหมือนดอกลิลลี่ ดูสวยงามและมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ แต่ไม่ฉุนจนเกินไป ดวงตาของเธออาจแสดงอาการประหลาดใจและดุดันในตอนแรก แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นความเฉยเมยอย่างรวดเร็ว
เธอไม่ได้พูดหรือทำอะไรเลย ดูเหมือนเธอกำลังนึกถึงอะไรบางอย่างอยู่
หลังจากนั้นเธอก็ใจเย็นลง หงต้าหลี่จึงได้ถามขึ้นมาว่า “ทำไมเธอถึงไม่มาเป็นอีหนูของฉันล่ะ? ”
” ไปตายซะ! นายรู้ดีว่าฉันเป็นคนแบบไหนไม่ใช่หรือไง? ” ถังมู่ซินชำเลืองมองที่หงต้าหลี่ จากนั้นก็หยิบการ์ดขึ้นมาและโยนมันลงบนเบาะรถยนต์ ” เอาการ์ดของนายคืนไป ไม่มีทางที่ฉันจะใช้เงินสกปรกของนายหรอก! “
” บัตรเครดิตนี้ช่างน่าสงสารเสียจริง เธอจะระบายอารมณ์ไปเพื่ออะไร? เอาบัตรกลับไปแล้วใช้มันให้ถูกต้องเถอะ! ” หงต้าหลี่ในตอนนี้กำลังยิ้มอย่างมีเลศนัย ” ถ้าเธอไม่ใช้เงินนี้ ฉันจะยกเลิกการหมั้นของเราซะ! ” การบังคับในครั้งนี้เป็นการสั่งสอนที่แสนจะจริงจัง และหงต้าหลี่ไม่เชื่อว่าถังมู่ซินจะกล้าต่อต้านเขาแน่
ซึ่งในตอนนี้ดวงตาของถังมู่ซินเต็มไปด้วยน้ำตาและเธอแทบร้องไห้ออกมาแล้ว เธอในตอนนี้เศร้าใจมาก เธอนั้นได้แต่พูดออกมาว่า ” นายรู้แค่วิธีรังแกคนอ่อนแอหรือไงกัน! ” ซึ่งถึงแม้ว่าเธอจะพูดไปแบบนั้น แต่เธอก็รับบัตรกลับมาอยู่ดี
” เธอปฏิเสธแม้กระทั่งของขวัญจากสวรรค์หรือไง? ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าสมองเธอเป็นอะไรหรือเปล่า? ใจจริงแล้วเธอไม่ต้องการของฟรีๆแบบนี้เลยเหรอ? ” ถึงแม้หงต้าหลี่จะพูดจาไม่สุภาพนัก แต่จริง ๆ แล้วเขารู้สึกลำบากใจ ในตอนนี้ เขายังไม่แน่ใจว่าจะจัดการกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับถังมู่ซินยังไงดี เขาเพิ่งมาถึงในโลกนี้ได้ไม่นานมานี้เอง ดังนั้นแล้ว ความปลอดภัยของเขาจึงเป็นสิ่งที่เขากังวลมากที่สุดในตอนนี้ เขาต้องพยายามอย่างมากเพื่อหลีกเลี่ยงว่าตัวเขาไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้คือ การทำกิจวัตรแบบเดิมที่เจ้าของร่างเดิมมักจะทำ
” หลังจากที่ใช้เงินเสร็จแล้ว เธอจะต้องมากับฉัน ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ชอบฉัน แต่ในตอนนี้เธอก็ออกมาข้างนอกกับฉันแล้ว อย่างน้อยเธอก็ควรที่จะช่วยฉันหน่อยนะว่าไหม? “
ที่สำคัญที่สุดคือ หงต้าหลี่นั้นไม่คุ้นเคยกับโลกใบนี้ ดังนั้นเขาต้องการคนที่คุ้นเคยกับโลกนี้เพื่อที่เขาจะได้ไม่หลงทาง
จมูกเล็ก ๆ ของถังมู่ซินนั้นกระตุกขึ้นขณะที่เธอก็ได้พูดกลับไปว่า “นายไม่คิดจะทำอะไรด้วยตัวเองเลยหรือไง?” แม้ว่าน้ำเสียงของเธอจะยังดูโกรธ ๆ อยู่บ้าง แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธเขาไป “นอกจากการใช้เงินของนายแล้ว นายทำอะไรด้วยตัวเองได้เปล่าเนี้ย? “
” หึ้ม ..ก็คงจะเป็นแบบนั้นแหละ แต่ไม่มีอะไรที่ฉันต้องการแล้วเอามาไม่ได้หรอกนะ ” หงต้าหลี่หัวเราะ ทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนเรื่องคุยและพูดขึ้นมาว่า ” แต่เธอรู้อะไรไหม? การใช้เงินก็เป็นทักษะอย่างหนึ่ง แล้วเธอคิดว่าการใช้เงินเป็นเรื่องง่ายมากหรอ? ถ้าเธอใช้เงินไม่ถูกที่ นั้นก็หมายความว่าเธอใช้เงินไม่เป็น ส่วนตอนนี้ อะไรที่ดูมีประโยชน์เหมาะแก่การใช้เงินของเราในคืนนี้กันล่ะ? เริ่มต้นจาก 100,000 หยวนก่อนล่ะกัน “