ฉู่หลินเฉินออกไปได้ไม่นาน ฉินซูก็ออกมาจากห้อง
เธอหิว
วันทั้งวันไม่ได้กินอะไร เมื่อเห็นว่าเป็นเวลาอาหารค่ำ จึงเตรียมตัวลงไปทำอาหารในครัวชั้นล่าง
เมื่อเปิดประตูตู้เย็นบานใหญ่ออก เห็นมีน้ำเปล่าหลายขวด ที่เหลือไม่มีอะไรเลย เธออด กระตุกมุมปากขึ้นไม่ได้
ผู้ชายคนนั้น ไม่ทำอาหารในบ้านเหรอ
เธอเหลือบไปมองอุปกรณ์ทำครัวที่ใหม่เอี่ยม ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันความคิดได้ดี
ฉินซูสับสนพักหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะโทรหาเขา
“คุณชายฉู่ ขอถามว่าจะกลับกี่โมงคะ”
ฉู่หลินเฉินน้ำเสียงไม่สบอารมณ์“มีธุระเหรอ”
“เปล่าค่ะ แค่จะถามว่า อาหารค่ำจัดการยังไง”
ฉินซูกวาดตามองไปรอบๆห้องครัวที่อ้างว้างสะอาดเอี่ยม พูดขึ้น“ถ้าออกไปกิน ก่อนหน้าฉันเห็น แถวนี้ไม่มีร้านอาหาร ถ้าไปไกลกว่านี้ อาจเจอนักข่าว……”
เธอไม่อยากโดนนักข่าวรุมเหมือนก่อนหน้า
ฉู่หลินเฉินนิ่งเงียบไปชั่วครู่
ครู่นึง เขาเอ่ยเสียงเรียบ“ขับรถเป็นมั้ย”
“เป็น”ใบขับขี่สอบไว้ปีที่แล้ว ระหว่างนี้ขับให้อาจารย์นั่งสองสามครั้ง
“กุญแจอยู่ลิ้นชักชั้นที่หนึ่งในห้องโถง ไปถอยรถเองจากโรงรถ ผมจะส่งที่อยู่ร้านอาหารให้”
ฉินซูชะงักนิดหน่อย ได้สติมา“ขอบคุณค่ะ”
พูดจบถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายวางหูไปแล้ว
ร้านอาหารที่ฉู่หลินเฉินให้มา ตำแหน่งค่อนข้างลึกลับ และให้ความสำคัญกับการเก็บความลับให้ลูกค้ามาก รวมกับเขาเป็นสมาชิกของร้านอาหาร ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจึงลงบัญชีเขาฉินซูกินข้าวที่นี่ได้อย่างสบายใจ
เธอจอดรถเรียบร้อย ภายใต้คำแนะนำของบริกร เดินเข้าไปในห้องส่วนตัวของ
ฉู่หลินเฉินรอให้อาหารมาเสริฟ
จู่ๆฉินซูนึกอะไรขึ้นได้ ที่นี่เป็นสถานที่ที่ไม่เลว
ดังนั้น เธอจึงส่งข้อความให้หลินมึ่งฟาน:มาที่ภัตตาคารจินเจี่บวฉันจะรออยู่ห้องv01
“ผมครึ่งชั่วโมงถึง”หลินมึ่งฟานตอบ
ฉินซูเก็บมือถือ กินพลาง รอหลินมึ่งฟานมาคืนเงิน
ตะวันตกดิน
ด้านนอกร้านอาหาร มีรถแข่งสีแดงมาจอดเทียบ
“ถึงแล้ว เป็นร้านอาหารที่พี่ชายฉันชอบมาก!”ฉู่หยุนซีเดินนำ ใส่รองเท้าส้นสูงเดินเชิดอยู่ด้านหน้า
หวังอี้หลินตามมาติดๆ เงยหน้ามองร้านอาหารแห่งเมืองไห่เฉิงนี้มีชื่อว่า“ภัตตาคารแห่งสมบัติผู้ดี”
“หยุนซี เจอกันครั้งแรกต้องให้คุณเลี้ยงข้าว ไม่ค่อยดีมั้ง ฉันเลี้ยงดีกว่า”มีบัตรใบนั้น เธอไม่ขาดแคลนเงิน
“เกรงใจอะไรเล่า เธอเป็นพี่สะใภ้ฉัน ไม่ใช่ใครที่ไหนสักหน่อย ฉันเลี้ยงเองดีกว่า”
ฉู่หยุนซีพูดพลาง กวาดตามองรอบๆ เห็นรถเบนซ์สีดำจอดข้างนอก“เอ๋ นั่นรถพี่ชายนี่นา หรือว่าเขามาที่นี่”
“ว่าไงนะ เธอว่าเขา……”
หวังอี้หลินตื่นเต้นเล็กน้อย เมื่อคิดถึงใบหน้าอันหล่อเหลาของฉู่หลินเฉิน เธอจึงรีบตาม
ฉู่หยุนซีเข้าไปในร้านอาหาร
ฉู่หยุนซีถามพนักงานอย่างเป็นกันเอง“พี่ชายมาเหรอ”
พอได้ยินอีกฝ่ายบอกฉินซูมาคนเดียว สีหน้าหล่อนก็ง้ำลง
เดิมทีฉินซูเข้าไปในคฤหาสน์พี่ชายหล่อน หล่อนก็ไม่สบอารมณ์อยู่แล้ว ตอนนี้ยังจะมาขับรถพี่ชายมากินข้าวที่นี่อีก ฉู่หยุนซียิ่งไม่สบอารมณ์
พวกปลิ้นปล้อน ใช้ชีวิตสบายจริงนะ!
“ยัยนั่นดูลำพองจริง!”แค่นเสียงเย็น ฉู่หยุนซีเดินไปที่ห้องส่วนตัว
หวังอี้หลินคอยดูละครฉากใหญ่
ยังไม่ทันเข้าใกล้ เธอก็เหลือบเห็นชายคนหนึ่งผลักประตูเข้าไป
เมื่อมองลอดผ่านประตูห้องส่วนตัว ฉู่หยุนซีเห็นชัดเจน ฉินซูอยู่ด้านใน!
ผู้ชายคนนั้นคือใคร
หวังอี้หลินแกล้งทำเสียงตกใจ “หลินมึ่งฟานเหรอ”
“หลินมึ่งฟานคือใคร ”
หวังอี้หลินรู้เรื่องที่ฉินซูเลิกกับหลินมึ่งฟาน แต่ก็แกล้งพูด“เขาเป็นแฟนฉินซู สองคนนี้คบกันมาหลายปีแล้ว ฉินซูเองก็ชอบเขาไม่น้อย”
ได้ฟัง ฉู่หยุนซีโกรธจนขบฟันกรอดๆ
หวังอี้หลินยังคงราดน้ำมันบนกองไฟไม่หยุด“ฉินซูปลอมเป็นฉันก็ช่างเถอะนะ ในเมื่อรับบทเป็นภรรยาของนายฉู่ ก็น่าจะเจียมตัวหน่อย ต่อให้อยากเจอแฟนจนตัวสั่นระริกระรี้ ก็น่าจะรอให้เรื่องนี้ผ่านไปก่อน เกิดมีใครจับได้ เอาไปนินทา คุณชาย ตระกูลฉู่จะเอาหน้าไปไว้ไหน เกรงว่า……”
เธอชะงักงัน มองไปทางฉู่หยุนซี กล่าวโน้มน้าว“หยุนซี เรื่องนี้เราอย่าแพร่งพรายเลย เป็นเรื่องใหญ่แล้วไม่ดี”
ฉู่หยุนซีแค่นเสียงเย็น “นังคนชั้นต่ำ กล้าทำก็ต้องกล้ารับสิ!”
หล่อนมองห้องส่วนตัวที่ปิดสนิท ในหัวจินตนภาพไปต่างๆนานา
ทันใดนั้น เธอยิ้มเย็นชา พูดขึ้น“กลุ้มจริง ไม่รู้จะไล่อีตัวซวยนี่ยังไงดี ตอนนี้ดีเลย ไม่ต้องออกแรงเอง”
หวังอี้หลินมองหล่อนอย่างสงสัย กลบเกลื่อนแววตาแห่งความคาดหวัง
หล่อนต่างหากเป็นคนที่อยากไล่ยัยตัวซวยฉินซูมากที่สุด
ฉู่หยุนซีหยิบมือถือออกมา กดเบอร์ฉู่หลินเฉิน
ขณะเดียวกัน ในห้องส่วนตัว
หลินมึ่งฟานเดินไปหยุดตรงหน้าฉินซูไม่รอให้เธอเอ่ยปาก จึงพูดขึ้น“เสี่ยวซู ผมกับถังเสี่ยวหรูแยกทางกันแล้ว”
ภายใต้แววตาของฉินซูนิ่งเรียบ เธอวางตะเกียบ“เรื่องของคุณกับหล่อนไม่เกี่ยวกับฉัน มาคืนเงินไม่ใช่เหรอ”
เธอจ้องไปยังมือเปล่าทั้งสองของเขา อดขมวดคิ้วไม่ได้
“เสี่ยวซู ก่อนหน้าผมหน้ามืดตามัวเอง ทำเรื่องที่ผิดต่อคุณ ผมขอโทษ”
หลินมึ่งฟานไม่เอ่ยถึงเรื่องเงินแม้แต่น้อย เขาจับมือฉินซูขึ้น กลับโดนเธอปัดออกอย่างรังเกียจ
เขากระอักกระอ่วนเล็กน้อย สักพักก็กลบเกลื่อนได้“ความสัมพันธ์เราห้าปี ตอนนี้ผมเพิ่งเข้าใจ คุณคือผู้หญิงที่สำคัญที่สุดในชีวิตผม ดังนั้น……ขอโอกาสผมสักครั้งได้ไหม”
ฉินซูถามกลับอย่างสงสัย“จะให้โอกาสยังไง”
หลินมึ่งฟานคิดว่าเธอซึ้งใจ พูดอย่างเสียงดังฟังชัด“อภัยให้ผม!กลับมาอยู่ด้วยกัน คราวนี้ผมจะจริงใจกับคุณจริงๆ!”
เขากับฉินซูคบกันมาหลายปี รู้ว่าภายนอกเธอดูปราดเปรื่องและแข็งแกร่ง แต่ภายในนั้นลุ่มหลงในความรักอย่างยิ่ง
ขอแค่เขาแสดงออกจริงจังหน่อย พูดจาประจบหน่อย จะต้องมัดใจเธอไว้ได้แน่!
ฉินซูเห็นสีหน้าเขาจริงจัง ในใจก็หวั่นไหวไม่น้อย
แต่ไม่ใช่เพราะซาบซึ้งใจ หากเป็นเพราะขบขัน
ระยะเวลาห้าปี…..เสียไปเพราะผู้ชายจอมปลอมคนนี้
ตอนนี้ คิดจะหลอกเธออีกหรือ
ฉินซูสีหน้านิ่งขึ้น“คุณให้ฉันกลับไปอยู่กับคุณ ไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้ฉันเป็นคุณนายหญิงของตระกูลฉู่ หรือว่า คุณไม่คิดจะเป็นหมอแล้ว อยากเป็นเป็ด เสียดายที่คนอย่างคุณ ฉันไม่แล!”
พูดจบ เธอผายมือแสดงท่าทาง“ในเมื่อมาคืนเงิน ก็อย่าพูดพร่ำทำเพลง คืนเงินมา!”
หลินมึ่งฟานตะลึงจ้องมองเธอ ยังไม่ทันได้สติ“คุณ……”
ฉินซูเหล่สายตาเล็กน้อย“ถ้าไม่คืนเงิน พรุ่งนี้ฉันจะกระจายเรื่องคุณให้ทั่วเนตเลย”
หลินมึ่งฟานขบฟันกรอด
สุดท้ายจึงได้หยิบบัตรกดเงินออกมา วางลงบนมือเธอ“ในบัตรมีสองแสน!พาสเวิร์ดคือวันเกิดคุณ”
ฉินซูหยิบบัตรมา ลุกขึ้นจากไปอย่างเย็นชา
เมื่อมองเงาหลังเธอ หลินมึ่งฟานขมวดคิ้ว
ตอนที่ยืมเงินกับถังเสี่ยวหรู เขาได้พูดไว้ดิบดี ว่าจะหลอกฉินซูให้ตายใจให้ได้ ให้กลายเป็นบ่อเงินบ่อทองของพวกเขา
ตอนนี้สองแสนหายวับไปกับตา เรื่องราวก็ไม่ไปถึงไหน แบบนี้ไม่ได้การ
คิดพลาง หลินมึ่งฟานวิ่งตามออกไปอย่างไม่สบอารมณ์
ออกจากห้องอาหาร ฉินซูกำลังจะจากไป จู่ๆรถคันหนึ่งจอดตรงหน้า
เมื่อลดกระจกลง เห็นฉู่หลินเฉินโผล่หน้าเคร่งขรึมออกมา
ฉินซูชะงักเล็กน้อย เขามาอยู่นี่ได้ไง
เวลานี้ น้ำเสียงหลินมึ่งฟานลอดมาจากข้างหลัง“เสี่ยวซู!รอก่อน——”