บทที่34: ไม่มีความรู้สึกกับเธอ
โรงแรมซิงเล่อ ร้านอาหารระดับห้าดาว
หวังอี้หลินออกมาจากลิฟท์ เธอไม่ได้รีบร้อนเข้าไป แต่ได้ส่องกระจกที่ผนังก่อน จัดทรงผมและชายกระโปรง และถือโอกาสเติมลิปสติกด้วย
ได้ยินมาว่าฉู่หลินเฉินเพื่อชวนเธอทานข้าวมื้อนี้ ได้จองร้านอาหารทั้งร้านโดยเฉพาะ
คืนนี้ ที่นี่มีแค่เธอกับเขา
อาหารค่ำใต้แสงเทียนที่โรแมนติก โรงแรม ชายโสดกับหญิงโสด………จะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ใช้เล็บเท้าคิดก็ยังสามารถคิดได้!
หวังอี้หลินก็ได้เตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า
เธอสวมใส่เดรสสีแชมเปญ ดีไซน์ได้เรียบหรูและสง่างาม
ส่วนใต้เสื้อผ้า เป็นชุดแต่งกายลายลูกไม้ที่เธอเตรียมไว้อย่างประณีต เซ็กซี่และมีเสน่ห์เย้ายวน
สะดุดตาแน่นอน ทำให้คนเลือดพุ่งกระฉูดแน่นอน
คืนนี้ เธอจะใช้การลงมือปฏิบัติจริง ให้ผู้ชายที่สูงส่งคนนั้นมาสยบใต้กระโปรงตัวเอง!
หวังอี้หลินมีความมั่นใจกับใบหน้าและหุ่นของตัวเองมาก เธอใส่ส้นสูงประมาณสิบเซนติเมตร เดินก้นบิดเข้าไปในร้านอาหาร
ตรงกลางของร้านอาหารที่กว้างขวาง มีโต๊ะวางอยู่ตัวเดียว
ผ้าเช็ดปากสีขาว อุปกรณ์รับประทานอาหารสีทอง ดอกไม้สดและไวน์แดง
ผู้ชายนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร แสงเทียนสีเหลืองอบอุ่นส่องอยู่ที่ใบหน้าคมชัดของเขา หล่อเหลาเหมือนเทพบุตร สูงส่งและเย่อหยิ่ง
ตอนที่นัยน์ตาคมเข้มของเขามองมา หวังอี้หลินรู้สึกหายใจติดขัด ไม่นึกเลยว่าจะมีความวู่วามที่อยากจะสยบแทบเท้าเขา
ผู้ชายคนนี้ หล่อพิฆาตจริงๆ!
แค่มองแว๊บเดียวก็สามารถทำให้คนเข่าอ่อนลงไป!
หวังอี้หลินใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆ แต่กลับไม่อยากให้ตัวเองแสดงออกมาว่าบ้าผู้ชายเกินไป
เธอเก็บความตื่นเต้นไว้ เดินไปข้างหน้าทีละก้าว
หลังจากนั่งลงมา กลับเก็บไม่ไหว เธอยื่นมือไปแตะฝ่ามือที่วางอยู่บนโต๊ะของผู้ชาย
“คุณชายฉู่ คุณ……”
แค่แตะปลายนิ้วมือเบาๆ ฉู่หลินเฉินก็ดึงมือกลับแล้ว หวังอี้หลินมองเขาอย่างตะลึงงัน และทำอะไรไม่ถูก
สายตาของเขาเงียบสงบไร้คลื่น มองตัวเองเหมือนกำลังสำรวจสิ่งของชิ้นนึง
ภายใต้สายตาแบบนี้ หวังอี้หลินกระวนกระวายใจสุดๆ
หรือว่าตัวเองแต่งหน้าได้ไม่สวย? ชุดไม่สวย หรือว่าเลือกกลิ่นน้ำหอมได้ไม่ดี…….
คนมีตังค์แต่ไหนแต่ไรก็มีความต้องการที่สูงมาก ยิ่งผู้ชายที่รวยสุดๆอย่างคุณชายฉู่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ดูท่าครั้งหน้าตัวเองต้องงดงามและละเอียดอ่อนกว่านี้ถึงจะได้
พอคิดแบบนี้ เธอปกปิดความกระวนกระวายใจไว้ ฝืนฉีกรอยยิ้มออกมามองไปที่เขา
นาทีนี้ ฉู่หลินเฉินสำรวจผู้หญิงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ใจเย็นจนแม้แต่เขาเองก็รู้สึกคาดไม่ถึง
ก่อนมา เขาได้เตรียมพร้อมทุกอย่าง ในใจเต็มไปด้วยความคาดหวังและตั้งหน้าตั้งตารอ
แต่พอหวังอี้หลินโผล่อยู่ที่ตรงหน้าเขา เขากลับพบว่าตัวเองไม่ค่อยเซอร์ไพรส์สักเท่าไหร่
ถึงขั้นตอนที่เธอยื่นมืออยากมาสัมผัสตัวเอง ได้กลิ่นน้ำหอมฉุนจัดที่โชยมาจากบนตัวเธอ ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออยากหลีกหนี
เขาชอบกลิ่นสมุนไพรหอมคืนนั้นของเธอมากกว่า เรียบหรูมีรสนิยม
อาจจะเพราะเวลาที่ทั้งสองรู้จักกันสั้นเกินไป เรื่องแต่งงานก็ตัดสินใจอย่างปุ๊บปั๊บเกิน ขาดช่วงปรับตัวเข้าหากัน
ใจคิดแบบนี้ สีหน้าของฉู่หลินเฉินผ่อนคลายลงตั้งเยอะ เขาพูดว่า: “ที่นี่ไม่มีคนนอก คุณไม่ต้องเรียกห่างเหินขนาดนี้หรอกครับ”
หวังอี้หลินได้ยินแล้ว นอกจากเซอร์ไพรส์ ยังแฝงด้วยความเขินและกลัว เธอเปิดปากพูด: “งั้นฉันเรียกคุณหลินเฉิน ได้มั้ยคะ?”
“อืม” เขาตอบเรียบเฉยคำนึง
เห็นฉู่หลินเฉินไม่พูด หวังอี้หลินก็ได้แต่แกล้งรักนวลสงวนตัว แต่แค่เงยหน้ามองเขาอยู่เป็นพักๆ แววตาลึกๆเผยความบ้าผู้ชายออกมา
ทานข้าวมื้อนี้ ทำให้ฉู่หลินเฉินรู้สึก……..เบื่อ
จู่ๆเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
ในที่สุดฉู่หลินเฉินก็นั่งไม่ติด หยิบมือถือลุกขึ้นแล้วพูด: “ผมยังมีธุระนิดหน่อย วันนี้แค่นี้ก่อนครับ”
ต่อมา เขาได้เก็บมือถือ และพูดกับหวังอี้หลินท่าทีสงบนิ่ง และสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้: “คุณค่อยๆทานนะครับ เดี๋ยวผมให้คนไปส่งคุณกลับบ้าน”
“ไม่ต้องเป็นห่วงฉันค่ะ คุณไปทำธุระของคุณเถอะค่ะ”หวังอี้หลินแกล้งพูดอย่างเอาอกเอาใจ
มองดูผู้ชายจากไปอย่างไม่หันกลับมา สีหน้าเธอเย็นชาลงมาทันที ใช้แรงกรีดสเต็กเนื้อในจานจนเละ
การออกเดทครั้งนี้ เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าฉู่หลินเฉินไม่มีความรู้สึกกับเธอเลย!
เป็นไปไม่ได้ เขากำหนดอย่างชัดเจนแล้วว่าคนที่ช่วยเขาในคืนนั้นคือเธอ และสัญญาว่าจะแต่งงานกับเธอ ถ้าไม่มีความรู้สึกกับเธอ แล้วจะชวนเธอออกมาทานข้าวได้ยังไง?
หรือจะเพราะ…….ฉินซู?
ดวงตาคู่สวยของหวังอี้หลินค่อยๆหรี่ขึ้นมา
ออกมาจากโรงแรม ฉู่หลินเฉินถึงได้รับสายขึ้นมาด้วยความรำคาญ
ในสายมีเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานของซีเหล่ยก้องมา: “พี่เฉิน แมวป่าตัวนั้นของหื้อเฝ่ยแหย่เขาโมโหอีกแล้ว ตอนนี้กำลังดื่มเหล้าอยู่ที่นี่! พี่ก็มาอบรมสั่งสอนหน่อยสิ!”
ถ้าเปลี่ยนเป็นวันปกติ ฉู่หลินเฉินจะต้องปฏิเสธแน่นอน เขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านความรักสักหน่อย อาเหล่ยไอ้หมอนี่แค่อยากลากเขาไปดื่มเหล้าเฉยๆ
แต่เวลานี้ อารมณ์ของเขาค่อนข้างหงุดหงิดและสับสน ต้องการให้ตัวเองสงบลงมา
“รอฉัน!”
วิลล่าริมทะเล
แสงไฟของหน้าต่างตรงหัวมุมชั้นสองสว่างอยู่
ฉินซูเคลียร์โน๊ตบุ๊คเสร็จ แล้วดูนาฬิกาทีนึง ฉู่หลินเฉินยังไม่กลับมาเลย
แต่เธอก็ไม่แคร์หรอก เธอหยิบเสื้อผ้าแล้วลงไปอาบน้ำที่ชั้นล่าง
เพิ่งซักและตากผ้าที่เปลี่ยนใหม่เสร็จ ขณะนี้ หน้าวิลล่ามีเสียงเบรครถยนต์ดังก้องมา
ฉินซูมองไปที่หน้าบ้านด้วยจิตใต้สำนึก
เบาะนั่งหลังมีผู้ชายคนนึงลงมา เขาสวมใส่เสื้อทีเชิ้ตแบรนด์ฮิต กางเกงขาสั้นสีขาว
เขาพยุงฉู่หลินเฉินไว้แล้วเรียก: “พี่สะใภ้ครับ ผมส่งพี่เฉินกลับมาแล้วครับ!”
ซีเหล่ยเอาคนวางไว้ที่โซฟา และสะบัดแขน พร้อมหายใจหอบหืด: “ร่างกาย189เซนติเมตรของพี่เฉินนี่ไม่ได้โม้จริงๆ กำยำมาก”
ฉินซูถามอย่างห้ามใจไม่ได้: “นี่มันอะไรกันคะ?”
“เมา….เมาเหล้าครับ!”ใบหน้าของซีเหล่ยมีความร้อนตัวแว๊บผ่าน ไม่กล้าสบตาฉินซู ยิ่งไม่กล้าดูผู้ชายที่อยู่บนเตียง
ซีเหล่ยรู้สึกอาศัยตอนที่ยายังไม่ออกฤทธิ์ ตัวเองรีบชิ่งหนีก่อนดีกว่า
“พี่เฉินมอบให้พี่สะใภ้แล้วนะครับ ผมขอตัวก่อนครับ”
พอพูดจบ ก็วิ่งไปอย่างไว
ฉินซูมองไปยังผู้ชายที่อยู่บนโซฟาอย่างจนปัญญา
ท่าทางเขาชิวๆ แขนยาววางพาดอยู่บนโซฟา เนคไทผูกไว้อย่างหละหลวมที่ทรวงอก เสื้อเชิ้ตได้ปลดกระดุมออกสามเม็ด เผยกล้ามเนื้อสีน้ำผึ้งออกมา ซิกแพคเด่นชัด……..
ดูท่าจะเมาแล้วจริงๆ
ฉินซูค่อนข้างสงสัย ดูยังไงฉู่หลินเฉินก็ไม่เหมือนคนที่จะดื่มเหล้าเพื่อความสะใจนี่
นึกถึงเมื่อครู่ตอนที่เขาออกจากบ้านยังกระฉับกระเฉงและมีชีวิตชีวาอยู่เลย หรือว่า………จะเจอเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจ?
“อืม……”
ระหว่างที่เธอกำลังครุ่นคิด ผู้ชายที่อยู่บนโซฟาส่งเสียงครวญอึดอัดออกมา
ฉินซูเดินไป กะจะเรียกเขาตื่น
เมื่อครู่ซีเหล่ยเปลืองแรงขนาดนั้นแบกเขาเข้ามา จะคาดหวังให้ตัวเองส่งเขาขึ้นชั้นบนคงไม่ได้มั้ง ดีที่สุดก็คือให้เขาตื่นขึ้นมา
มือของฉินซูยังไม่ได้ยื่นไป ผู้ชายที่หลับตาแน่นก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา
เผยให้เห็นขนตาที่หนางอนยาวเหมือนพัดจีนที่ถูกคลี่ออก นัยน์ตาดำที่แผงไปด้วยก้นบึ้งอันหนาวเหน็บจับใจ และมีอารมณ์ที่อดกลั้นแต่ร้อนแรง กระเพื่อมอยู่ในนั้น
สติของฉู่หลินเฉินของค่อนข้างสับสน
ขณะนี้ กลิ่นหอมอ่อนๆโชยเข้าจมูก กลิ่นที่คุ้นเคย ทำให้เขาช็อก คว้าเธอเอาไว้ด้วยจิตใต้สำนึก
ข้อมือของฉินซูถูกรัดแน่น ไม่รอให้เธอดึงสติกลับมา คนทั้งคนก็ถูกกระชากไปในโซฟา
เธอถูกเขาทับไว้ที่ใต้ร่างตัวเอง
ฉู่หลินเฉินแบกช่วงบนตัวเองขึ้นมา หรี่ตาไว้เล็กน้อย มองเธออย่างครึ่งหลับครึ่งตื่น
ความอยากครอบครองในแววตา เด่นชัดจนน่าตกใจ!
ในแววตาที่หดตัวของฉินซู ใบหน้าอันชั่วร้ายเย็นชาของผู้ชายขยายใหญ่ขึ้นอย่างไม่หยุด
“เดี๋ยวก่อน——”
ทันใดนั้นเธอตระหนักได้ถึงอันตราย จึงต่อต้านด้วยจิตใต้สำนึก
เขาเหมือนภูเขาลูกใหญ่ ทับอยู่บนตัวเธอ จนขยับตัวไม่ได้
จู่ๆ เขากัดมาที่ไหปลาร้าของเธอทีนึง
“อ๊า!”
ฉินซูสั่นไปทั้งตัว ภาพของคืนนั้นแว๊บเข้าในหัวของเธอ สำหรับเธอแล้ว นั่นเป็นประสบการณ์ที่ชาตินี้ลืมยากและน่ากลัวที่สุด
เธอใช้แรงสุดฤทธ์ในการขัดขืน มือคว้าของชิ้นนึงได้อย่างมั่วซั่ว จากนั้นได้ใช้แรงทุบไปที่เขา
ผู้ชายสลบไปพร้อมเสียง
ฉินซูขัดขืนหลุดพ้นออกมาได้ หายใจหอบอย่างรุนแรง สายตาที่หวาดผวาจ้องมองใบหน้าของผู้ชายไว้