รักซ่อนร้าย นายซาตานรักผิดคน – ตอนที่ 37: กรุณาเคารพตัวเองด้วย

บทที่37: กรุณาเคารพตัวเองด้วย

ฉู่หลินเฉินเงยหน้า ทิ้งสายตาที่ไม่พอใจให้เขา

วางปากกาในมือลงอย่างแรง เขาหน้าเย็นชาไว้และหยิบเสื้อสูทเดินออกไปข้างนอก

เว่ยเหอไม่รู้จริงๆว่าตัวเองพูดผิดตรงไหน เขาได้แต่จับจมูกอย่างลำบากใจ…

ยืนอยู่หน้าวิลล่า

ฉู่หลินเฉินนึกถึงเรื่องเมื่อคืน ในใจเกิดความยุ่งเหยิง สุดท้ายก็ได้เดินเข้าอย่างลังเล

ฉินซูกำลังเตรียมทานข้าวเย็น ได้ยินเสียงฝีเท้า

เธอเงยหน้าขึ้นมามอง แค่มองแว๊บเดียว เธอก็ก้มหน้าทานข้าวต่อ

เห็นเธอหน้าตาเรียบเฉย ในใจของฉู่หลินเฉินกลับยิ่งลังเลเข้าไปใหญ่

ทำไมเมื่อคืนเขาถึงเกิดความรู้สึกที่รุนแรงแบบนั้นกับเธอ แค่เพราะฤทธิ์ยาเหรอ?

ในหัวคิดแบบนี้ ฝีเท้าเขากลับเดินไปหาเธออย่างห้ามใจไม่ได้แล้ว

ฉินซูก้มหน้าทานข้าวอย่างสงบนิ่ง แต่ภายในใจกระวนกระวายเป็นที่สุด

หน้าตาที่อันตรายมากของผู้ชายคนนี้

ในเมื่อคืนยังตราตรึงอยู่ในหัวของเธอ การเข้าใกล้ของเขา ทำให้ทั้งเนื้อทั้งตัวเธอเกิดอาการสั่งเทา ร่างกายเกร็งขึ้นมาในทันที

ตอนที่ฉู่หลินเฉินกำลังจะเดินมาถึงตรงหน้าเธอ ฉินซูหายใจลึกๆทีนึง วางตะเกียบลงและเงยหน้าขึ้น

เธอดูเหมือนเรียนเชิญ แต่แท้จริงแล้วคือพูดปฏิเสธ: “คุณชายฉู่ ถ้าคุณอยากนั่งลงมาทานข้าว ในหม้อยังมีค่ะ”

เพราะยังไงซะ ผู้ชายคนนี้ไม่เคยทานข้าวกับเธอเลย

ที่คิดไม่ถึงคือ เขาจะเดินเลี้ยวเข้าไปในห้องครัว

ไม่นาน เขาก็ได้ถือถ้วยออกมา และนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามของฉินซู

ฉินซู: ……..

“กับข้าวอาจจะไม่พอค่ะ”เธอหลุบตามองเนื้อสัตว์อย่างนึงและผัดผักอย่างนึงตรงหน้าแล้วพูด

“พอแล้ว ผมไม่อยากอาหารเท่าไหร่”

ฉู่หลินเฉินเหมือนแกล้งฟังความหมายของเธอไม่ออก และเตรียมจะทานข้าวมื้อนี้กับเธอจริงๆ!

ฉินซูก็เลยบังคับให้ตัวเองไม่สนใจเขา หยิบตะเกียบขึ้นมาทานข้าวต่อ

ฉู่หลินเฉินเองก็หยิบตะเกียบขึ้นมา

คีบกับข้าวเข้าปากไปคำนึง มีเสี้ยววินาทีที่เขารู้สึกทึ่ง

นี่เป็นครั้งแรกที่เขากินกับข้าวที่ฉินซูทำ รสชาติเหนือความคาดหมายมาก…….ไม่เลว

ปรากฏว่า ผู้ชายที่บอกว่าตัวเองไม่อยากอาหาร กลับกินอาหารเย็นของคนอื่นไปครึ่งนึง

ในเวลานั้น ฉินซูไม่พูดสักคำ เธอได้แต่เก็บถ้วยชามไปล้าง

ฉู่หลินเฉินก็ได้ลุกขึ้นในเวลาเดียวกัน ก้าวฝีเท้าเดินไปที่ตรงหน้าของฉินซู

เธอควบคุมความตื่นเต้นในใจไว้ และเงยหน้ามองเขา

นาทีนี้ทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก กลิ่นสมุนไพรอ่อนๆโชยแตะจมูกเขา ทำให้ฉู่หลินเฉินจิตใจหวั่นไหว อยากเข้าใกล้เพื่อความแน่ใจ

แต่ตะเกียบข้างนึงได้ขัดขวางท่าทางของเขาไว้

ฉินซูใช้ตะเกียบชี้ทรวงอกเขาไว้กลางอากาศ  เพื่อเป็นการเตือน แววตาท่าทางที่ใจเย็น เขาจับความลนลานได้เสี้ยวนึง: “คุณชายฉู่ กรุณาเคารพตัวเองด้วยค่ะ!”

ฉู่หลินเฉินรู้สึกขำอย่างห้ามใจไม่ได้: “ถ้าผมไม่เคารพตัวเอง ตะเกียบนี่จะสามารถขัดขวางผมได้เหรอ?”

ฉินซูเม้มปากไม่พูด มองเขาอย่างระแวดระวัง

เผชิญกับสายตาของเธอ ฉู่หลินเฉินนึกถึงตัวเองที่เสียมารยาทในเมื่อคืน เก็บสีหน้าท่าทางที่มีความอัดอั้น

เขาถอยหลังกลับ ใช้น้ำเสียงที่ไม่เห็นด้วยและเย่อหยิ่งพูด: “อย่านึกว่าผมสนใจอะไรคุณนะ เมื่อคืนมันเป็นแค่อุบัติเหตุ”

ได้ยินคำนี้ ไหล่ที่หดเก็รงของฉินซูในที่สุดก็ผ่อนคลายลงมา

เธอยกมุมปากเล็กน้อยและพูด: “ก่อนหน้านั้นฉันเมาเหล้า ก็ได้ทำพฤติกรรมที่ขาดสติเหมือนกัน งั้นเราก็เจ๊ากันแล้วนะคะ หวังว่าคุณชายฉู่อย่าเอามาใส่ใจนะคะ”

ฉู่หลินเฉินขยับริมฝีปาก สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร แค่หันหลังขึ้นไปชั้นบน

ตระกูลหวัง

จางเหวินได้เตรียมเครื่องแต่งกายที่อีกสองวันจะใส่ไปทานข้าวที่ตระกูลฉู่ให้หวังอี้หลินไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ

“คุณหญิงฉู่เป็นฝ่ายเรียนเชิญลูกเอง แสดงว่าเขายอมรับในตัวลูกแล้ว ครั้งนี้ไปทานข้าว เป้าหมายของลูกจะต้องมุ่งไปที่ตัวคุณผู้หญิงของตระกูลฉู่นะ”

จางเหวินเลือกเสื้อผ้าไปด้วยและวิเคราะห์ให้หวังอี้หลินฟังไปด้วย: “อย่าเห็นว่าคุณผู้หญิงอายุปูนนั้นแล้วนะ อยู่ตระกูลฉู่ แต่เธอเป็นคนที่มีอำนาจในการพูดมากที่สุด!”

หวังอี้หลินแบะปากทีนึง: “ก็ยัยแก่คนนั้นแหละที่รับฉินซูเข้าตระกูลฉู่ถ้าไม่ใช่ยัยแก่นั่น หนูก็ได้เป็นคุณนายหญิงของตระกูลฉู่ไปตั้งนานแล้ว!”

“อย่าพูดแบบนี้!”จางเหวินเตือน: “ได้ยินมาว่าคุณชายฉู่กตัญญูกับย่าเขามาก ทางที่ดีที่สุดลูกก็ทำตัวเชื่อฟังและเป็นเด็กดี”

“รู้ค่ะ คำพูดแบบนี้หนูไม่พูดมั่วหรอกค่ะ”

หวังอี้หลินหยิบกระโปรงสีแดงขึ้นมาตัวนึง: “แม่คะ หนูใส่ตัวเป็นไงบ้างคะ?”

“สวย งั้นก็ชุดนี้เลย! พรุ่งนี้เราไปเดินช้อปปิ้งกันอีก ลูกไปตระกูลฉู่ครั้งแรก ของขวัญเจอหน้าจะขาดไม่ได้เชียวนะ”

“รู้แล้วค่ะ”

สองแม่ลูกพูดไปด้วยและหัวเราะไปแล้วลงไปชั้นล่าง

หวังเจิ้นหัวกำลังกลับมาจากข้างนอกด้วยสีหน้าหดหู่

“พ่อ พ่อเป็นอะไรคะ?”หวังอี้หลินถาม

หวังเจิ้นหัวรับแก้วชาจากมือของน้ากู และพูดอย่างไม่สบอารมณ์: “เดิมทีนึกว่าบริษัทของตระกูลจงล้มละลายแล้ว พ่อจะสามารถฉวยโอกาสได้ผลประโยชน์ คิดไม่ถึงมันจะฝ่าฟันมาได้”

จางเหวินได้ยินคำนี้ก็ไม่พอใจขึ้นมาใหญ่เลย: “นี่มันอะไรกัน”

เมื่อก่อนตอนที่พักอยู่ที่โครงการเดียวกับโจวซือฉิน เพราะขนาดบริษัทของตระกูลหวังกับตระกูลจงแตกต่างกันไม่มาก ถึงแม้ทั้งสองชอบนัดไปเล่นไพ่อยู่เป็นประจำ ภายนอกความสัมพันธ์ดูไม่เลว แต่ลับๆมักจะเปรียบเทียบกัน เห็นอีกฝ่ายดีกว่าตัวเองไม่ได้

โดยเฉพาะโจวซือฉินและสามีให้ฉินซูปลอมตัวเป็นลูกสาวตัวเอง จางเหวินยิ่งเกลียดครอบครัวเขาเข้าไส้ แทบอยากจะให้พวกเขายิ่งซวยยิ่งดี

หวังอี้หลินขมวดคิ้วไม่พูดจา เธอนึกถึงคำพูดที่ฉินซูพูดวันนี้ ปัญหาการรักษาตัวของย่าเธอแก้ไขได้แล้ว

บวกกับเรื่องของบริษัทของตระกูลจง ใครจะช่วยเธอ? แน่นอนว่ามีแค่ฉู่หลินเฉินเท่านั้น

ได้ข้อสรุปนี้แล้ว สีหน้าของหวังอี้หลินเปลี่ยนไปในทันที

สิ่งที่เธอหวังอยากเห็นคือฉินซูถูกทุกคนเกลียดชัง เดียวดายไม่ได้รับการช่วยเหลือ และถูกไล่ออกจากตระกูลฉู่!

แบบนี้เธอถึงจะไม่มีอะไรต้องกังวลทีหลัง

หวังอี้หลินครุ่นคิดอย่างหน้าห้อย และทำการตัดสินใจ

อีกสองวันไปตระกูลฉู่ จะแค่กินข้าวมื้อนึงเฉยๆไม่ได้แล้ว

ได้ยินฉู่หยุนซีบอกว่าช่วงนี้ร่างกายของคุณผู้หญิงมีปัญหา แต่ไม่ยอมไปโรงพยาบาล ตระกูลฉู่ตัดสินใจจ้างพยาบาลผู้เชี่ยวชาญมาดูแลเธอที่บ้าน

ถ้าเธอสามารถเสนอตัวเองเข้าไป นอกจากจะได้รับคำชื่นชมจากคนของตระกูลฉู่ อีกทั้งยังสามารถอยู่ตระกูลฉู่อย่างถูกต้องและเปิดเผย

บางที แม้แต่คุณชายฉู่ก็อาจจะเหลียวมองเธอมากขึ้้น

เพราะตัวเองเคยเรียนแพทย์มาก่อน การปฐมพยาบาลขั้นต้นเป็นเรื่องที่ง่ายดาย ดูแลคนแก่คนนึงจะไปยากอะไร?

อีกอย่างตระกูลฉู่มีคนรับใช้มากมายขนาดนั้น ไม่ต้องให้เธอทุ่มเทแรงกายและแรงใจเลยด้วยซ้ำ!

ขอแค่ได้รับการยอมรับจากคุณผู้หญิง เมื่อถึงเวลา ตระกูลฉู่ย่อมอดใจรอไม่ไหวที่จะไล่ฉินซู“ตัวปลอม”คนนี้ออก และให้ตัวเองเป็นคุณนายหญิงของตระกูลฉู่

ใบหน้าของหวังอี้หลินเผยรอยยิ้มแน่วแน่ที่จะต้องได้ออกมา

พรุ่งนี้ เธอก็จะไปซื้อของขวัญชิ้นใหญ่ให้คุณผู้หญิงเลย!

………..

ตอนเช้าฉินซูได้รับสายของอาจารย์ซวู บอกว่าได้หาหนังสือแนวทางวิจัยโปรเจ็คหลายเล่มไว้ให้เธอ อาจจะมีประโยชน์ได้ใช้งาน

สองวันนี้เธอก็มีความคิดหลายอย่าง อยากจะปรึกษาอาจารย์ซวู

ฉินซูหยิบของ และใส่แมสออกจากบ้าน

บ้านของอาจารย์ซวูเปิดร้านยา ปกติถ้าเธอไม่มีสอนหนังสือ ก็จะมาช่วยเหลือที่ร้าน

สถานที่เจอกันก็นัดไว้ที่ร้านขายยาของเธอ

 

เห็นฉินซูมา ซวูเหวินซูส่งสัญญาณให้เธอนั่ง และได้ไปชงชาให้เธอแก้วนึง

ฉินซูรีบพูด: “ขอบคุณค่ะ อาจารย์ซวู”

แล้วมองร้านไปรอบนึง: “อาจารย์ซวู ทำไมวันนี้มีแค่อาจารย์คนเดียวล่ะคะ?”

“พนักงานลางานหน่ะ พ่ออาจารย์ก็ไปตกปลากับเพื่อนของเขา”ซวูเหวินซูพูดอย่างจนปัญญา

ทั้งสองจิบชาไปด้วยและพูดคุยไปด้วย ซวูเหวินซูฟังความคิดเห็นที่มีต่อการวิจัยครั้งนี้ของฉินซูแล้วชื่นชมมาก เธอก็ยิ่งปักใจเชื่อว่าสักวัน ฉินซูจะต้องกลายเป็นคนที่มีปรีชาสามารถในวงการแพทย์อย่างแน่นอน!

ซวูเหวินซูเงยหน้าดูนาฬิกา: “อุ๊ย อาจารย์ลืมเรื่องนึงไปเลย ฉินซู เธอช่วยอาจารย์เฝ้าร้านแป๊บนึงได้มั้ย? เดี๋ยวอาจารย์กลับมา”

“อาจารย์ซวูไปเถอะค่ะ”ฉินซูพูดด้วยรอยยิ้ม

ซวูเหวินซูเดินออกไปจากร้าน จู่ๆนึกได้ว่าตอนนี้ฉินซูเป็นคุณนายหญิงของตระกูลฉู่แล้ว มีฐานะไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตัวเองถึงกับให้มาช่วยเฝ้าร้าน ช่างไม่เกรงใจเลยจริงๆ…….

แต่เด็กคนนั้นไม่วางมาดเลยสักนิด หน้าตาที่เรียบง่ายไม่หรูหรา ทำให้คนชอบจากใจจริง

หลังจากซวูเหวินซูไปได้ไม่นาน รองเท้าส้นสูงคู่นึงก็ได้เดินเข้ามาในร้าน

“ที่นี่มีของบำรุงที่ผู้สูงวัยกินมั้ย? เอาแบบที่หรูหราไฮโซที่สุด!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset