“มันดูน่าเกลียด ฉันไม่คิดว่าจะต้องเลี้ยงอาหารมื้อนี้ด้วย”
จางอี้เว่ย ยืนขึ้นและพูดอย่างเย็นชา
“เฉียวเมียนเมียน ไป๋เสี่ยวพูดถูก เราไม่ได้อยากกินอาหารมื้อนี้ เธอให้รถหรูมาส่งเรา และยังมอบผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบรนด์ดังกับเราด้วย แล้วเธอยังวางแผนพาเรามาทานร้านอาหารหรูแบบนี้เพื่อจะเลี้ยงข้าวเรานี่นะ? มันง่ายขนาดนั้นเลยหรือ?”
เฉียวเมียนเมียนนิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไรเลยตลอดเวลา
แต่เมื่อเธอได้ยินสิ่งนี้เธอก็เงยหน้าขึ้นมองพวกเขาโดยไม่แสดงออก
ดวงตาของเธอเย็นชาและท่าทีของเธอแตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง
“โอ้? งั้นเหรอ? บอกฉันทีเถอะ ว่าพวกเธอคิดว่าฉันเลี้ยงข้าวเธอเพื่ออะไร”
จางอี้เว่ย ตะลึงไปชั่วขณะ เมื่อเธอเห็นว่าการจ้องมองของหล่อนเย็นชาแค่ไหน เธอขมวดคิ้วและเย้ยหยัน
“เธออยากให้เราพูดจริงเหรอ? เธอก็แค่อยากจะอวดเสน่ห์ของตัวเอง อวดว่าผู้ชายที่เธอคบอยู่เขารวยและหล่อขนาดไหน”
“ดูสิตอนที่ซูเจ๋อเลิกกับเธอ เธอไปหาผู้ชายคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมได้ทันที เธอต้องการบอกว่าผู้ชายที่ดีที่สุดในโลกต่างพร้อมมาให้เธอเลือก”
“เธอกำลังให้ของเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้แก่พวกเรา เพื่อให้เราได้เห็นอย่างนั้นใช่ไม่ล่ะ หรือต้องการให้พวกเรารู้สึกอิจฉาที่เธอมีแฟนหนุ่มหล่อและรวย แล้วยังมีน้ำใจกับเธอขนาดอีก?”
“ใช่แล้วล่ะ” ไป๋เสี่ยวพูดอย่างเย้ยหยัน
“เธอทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต ราวกับกลัวว่าจะไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังคบกับคนรวยงั้นแหละ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกเราล่ะ? มีคนรวยอีกมากมายบนโลกใบนี้ ใครจะอยากอิจฉาเธอกัน”
คำพูดของพวกเขาขมขื่นมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพวกเขาพูดออกมาทำนองเดียวกัน
เมื่อความอดทนของพวกเขาสิ้นสุด พวกเขาต่างพรั่งพรูคำพูดที่อัดอั้นอยู่ภายในออกมา
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกตกใจในตอนแรก แต่เมื่อเธอเห็นความอิจฉาในดวงตาของพวกเขา เธอก็พบว่ามันช่างน่าขันและน่าสมเพชเกินไป
เพื่อนร่วมห้องที่อยู่กันมาเป็นเวลาสามปี
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้สนิทกัน แต่ก็เข้ากันได้ดี
เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าการปรากฏตัวของเหมาเยซือจะทำลายความสามัคคีกับเพื่อนร่วมห้องที่คบกันมาถึงสามปีได้
เขาเคยปรากฏตัวในวิทยาลัยเพียงสองครั้งและนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เพื่อนร่วมของเธอมองเธอด้วยความเกลียดชัง
ผู้หญิงนี่ก็แย่ไม่น้อยเลย
จริง ๆ แล้วเฉียวเมียนเมียนก็คิดว่าผู้ชายอย่างเหมาเยซือก็แย่ไม่แพ้กัน
“พวกเธอจะมากเกินไปแล้ว”
เจียงหลัวลี่มีสีหน้าไม่เชื่อบนใบหน้าของเธอ
“เธอพูดถึงเมียนเมียนแบบนี้ได้อย่างไร เธอไม่ใช่คนแบบที่พวกเธอพูดสักหน่อย ลองคิดว่าเป็นพวกเธอดูสิ ถ้าพวกเธอมีแฟนหล่อและร่ำรวยล่ะ หากไม่พอใจก็ลองเอากลับไปคิดดูล่ะกัน พวกเธอคิดว่าเมียนเมียนโอ้อวดเหรอ ที่คิดแบบนั้นเพราะหัวใจของพวกเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาต่างหากล่ะ”
“เมียนเมียนแค่มองว่าพวกเธอเป็นเพื่อน แต่การพาเพื่อนมาที่นี่ กลับพวกว่าพวกเขาไม่เหมือนเดิมนี่นะ”
เจียงหลัวลี่และเฉียวเมียนเมียนสนิทกันเหมือนพี่น้อง
การได้ยินพวกเขาดูถูกเฉียวเมียนเมียน เช่นนั้นทำให้เจียงหลัวลีรู้สึกราวกับว่าเธอเองเป็นคนถูกทำร้าย
ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่ามันน่ากลัวแค่ไหนเมื่อผู้หญิงอิจฉา
ไป๋เสี่ยวและจางอี้เว่ยดูดีและสงบสุขเสมอ ใครจะรู้ว่าพวกเขาเป็นคนแบบนี้
“เจียงหลัวลีอย่ามาพูดเน่า ๆ”
ไป่เสี่ยวเยาะเย้ย
“เธออยากจะปะจบก็ทำไปคนเดียวเถอะ พวกเราไม่เหมือนเธอหรอก”