เหมาเยซือดึงเฉียวเมียนเมียนเข้ามาในอ้อมกอดและโอบแขนรอบเอวของเธอไว้
จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นและกวดสายตาไปที่ซูเจ๋อ
“ตอนนี้ผมถามคุณได้รึยัง ที่รักเขาเป็นใคร? เขารังแกคุณรึเปล่า?”
เฉียวเมียนเมียนเงยหน้าขึ้นมองและสบตาซูเจ๋ออย่างเย็นชา
“เขาเป็นคนรู้จัก ไม่สำคัญเท่าไหร่คะ เขาไม่ต้องใส่ใจก็ได้”
ซูเจ๋อตกใจก่อนที่สีหน้าของเขาจะมืดลง เขาสามารถมองเห็นการแข่งขันในสายตาของเหมาเยซือ
“ผมเป็นคู่หมั้นของเฉียวเมียนเมียน เธอกับผม…”
“คุณซูคะ ฉันขอบอกอะไรคุณสักหน่อย คุณและฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไปแล้ว”
เฉียวเมียนเมียนกล่าวด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“พวกเราถอนหมั้นกันไปก่อนหน้านี้แล้ว ขอให้คุณเข้าใจเรื่องนี้สักทีจะได้ไม่พูดเรื่องไร้สาระเพื่อทำให้ชื่อเสียงของฉันเสื่อมเสียอีก”
หัวใจของซูเจ่อปวดร้าวเมื่อเห็นว่าเธอดูห่างเหินและรังเกียจเขาเพียงใด
เขาไม่ได้สามารถบอกเหตุผลได้ แต่เขารู้สึกไม่สบายใจและเสียใจเป็นอย่างมาก
ราวกับว่ามีบางอย่างกำลังกัดกินหัวใจของเขาอยู่
แม้ว่าเขาจะคิดมานานแล้วว่าเฉียวเมียนเมียนจะอยู่กับผู้ชายคนอื่นในตอนนี้ แต่มันคงจะง่ายกว่านี้ หากเขาไม่ได้เห็นผู้ชายของเธอด้วยตนเอง
ตอนนี้เขาได้เห็นเขาด้วยตัวเองแล้ว ความรู้สึกเสียดแทงหัวใจของเขาเมื่อรู้ว่าผู้ชายคนนั้นของเฉียวเมียนเมียนเป็นชายหนุ่มรูปหล่อที่ดูดีเหมาะกับเธอมากกว่าผู้ชายคนเก่าอย่างเขาเสียอีก
แม้แต่การหายใจก็กลายเป็นเรื่องยาก
“เมียนเมียน คุณเป็นอะไรกับเขา เขาเป็นเจ้าของรถโรลส์รอยซ์คันนั้นหรือเปล่า?” ซูเจ๋อถามเธอ
ตอนนี้เธออยู่กับผู้ชายคนอื่นจริง ๆ
พวกเขาเลิกรากันไปเพียงสัปดาห์เดียว และเธอก็พบว่าตัวเองมีผู้ชายคนใหม่แล้ว
เขาไม่เชื่อว่าเธอจะเปลี่ยนใจเร็วขนาดนี้
ตลอดหลายปีที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน ในสายตาเธอมีเพียงเขา
เธอรักเขามาก เพื่อเขาแล้วเธอพยายามฝึกฝนตนเองจากผู้หญิงบ้านนอกเป็นผู้หญิงที่ทำอาหารอร่อยและทำงานบ้านได้ดี
เธอบอกว่าเธอรู้สึกมีความสุขที่ได้ทำสิ่งเหล่านี้เพื่อเขา
เพื่อประโยชน์ของเขา เธอเต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
เธอถึงกับบอกว่าเธอ เฉียวเมียนเมียนจะรักผู้ชายที่ชื่อซูเจ๋อไปตลอดชีวิต
และเธอยังบอกว่าจะเป็นเจ้าสาวของซูเจ๋อเพียงคนเดียว
เขาจำทุกคำพูดได้อย่างชัดเจน
ทุก ๆ อย่างชัดเจนสำหรับเขา
เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าการมอบความรักของเธอให้กับเขา
เธอสามารถทำให้ความสัมพันธ์ที่ผ่านมาระหว่างเขากลายเป็นอดีตไปได้อย่างรวดเร็ว
ผู้ชายคนนี้ที่เธอคบด้วย อาจจะคบซ้อนในช่วงเวลาที่เธอกับเขายังคบหากันอยู่ก็ได้
หรือว่าเธอต้องการใช้ผู้ชายคนนี้เพื่อลืมเขา
มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะลืมเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างกันได้อย่างง่ายดาย
ยิ่งเธอทำแบบนี้ เธอก็ยิ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าเธอยังคงรักเขาและยังลืมเขาไม่ได้
ด้วยความคิดนี้ ซูเจ่อรู้สึกดีกับตัวเองขึ้นมา
“มันไม่ใช่ธุระของคุณ คุณเป็นใครถึงมีสิทธิ์มาซักไซ้เมียนเมียน แบบนี้”
ก่อนที่เหมาเยซือ และเฉียวเมียนเมียนจะพูดอะไร เจียงหลัวลี่ก็ออกมาตอบโต้ซูเจ๋อเสียก่อน
เมื่อเหมาเยซืออยู่ใกล้ ๆ เธอรู้สึกไม่กลัวเขา เธอชี้นิ้วไปที่ปลายจมูกของซูเจ๋อและบอกเขาอย่างไร้ความปราณี
“คนขี้โกงอย่างคุณ มีสิทธิ์อะไรมาถามเธอแบบนี้? เมียนเมียน บอกไปแล้วนี่ว่าเลิกกับคุณแล้ว นั่นก็เพียงพอจะทำให้คุณกับเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว เธอจะต้องทำทุกอย่างตามที่คุณบอกอีกงั้นเหรอ?”