“เจียงหลัวลี่อยากคิดนะว่าสามารถพูดจาสามหาวแบบนี้ได้ เพียงเพราะว่าคุณเป็นผู้หญิง คิดว่าผมไม่กล้าทำอะไรผู้หญิงหรือไง?”
ซูเจ๋อหันไปจ้องมองเธอ
“ฮะฮ่า คุณไม่กล้าหรอก!”
เจียงหลัวลี่กำลังเพิดเพลินกับช่วงเวลานี้
“เจ้าชายสุดหล่อของฉันอยู่ที่นี่แล้ว ถ้าคุณกล้าแตะต้องฉัน เขาจะต้องให้เขามาเอาคืนคุณแน่”
เมื่อเห็นว่าเธอเป็นเพื่อนสนิทกับเฉียวเมียนเมียน เหมาเยซือก็เล่นด้วย
เขาจับเฉียวเมียนเมียนไว้ใกล้ ๆ ตัว
“อยากจะแตะต้องเธองั้นเหรอ? คุณซูคุณอยากจะเดินตามรอยบริษัทเฉิงไห่หรือไม่ล่ะ อยากจะล้มละลายแบบนั้นรึเปล่า?”
คำพูดของเหมาเยซือทำให้ท่าทีของซูเจ๋อเปลี่ยนไปเป็นอย่ามาก
ดวงตาของเขาเบิกกว้าง
“การล้มละลายของบริษัทเฉิงไห่…เป็นฝีมือคุณ….”
เหมาเยซือพูดง่าย ๆ ว่า
“เฉิงไห่ใช้เวลากำจัดเพียง 18 ชั่วโมง หากจะจัดการบริษัทซูแล้ว ผมเดาว่าคงใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง”
ซูเจ๋อหน้าซีดเล็กน้อย
แน่นอนว่าเขารู้เกี่ยวกับการล้มละลายของบริษัท เฉิงไห่
มันเป็นข่าวพาดหัวใหญ่โต
บริษัทที่มีการจัดการที่ดี แต่กลับถูกยุบไป
และยิ่งไปกว่านั้นมันเกิดขึ้นภายในหนึ่งคืน
เรื่องนี้เป็นเหตุให้คู่แข็งอื่น ๆ หลายบริษัทต่างกังวลใจเช่นกัน
แม้ว่าทางบริษัทซูแมนเดทเองก็กำลังตามสืบเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ไม่พบร่องรอยอะไรเลย
ซู่เจ๋อไม่คิดมาก่อนว่าคน ๆ เดียวที่ทำให้พวกเข้าล้มละลายกำลังยืนอยู่ต่อหน้าเขาในตอนนี้
“คุณเป็นใครกันแน่” ซูเจ๋อรู้สึกหวั่นไหว
บุคคลนี้อาจทำให้หุ้นของบริษัทเฉิงไห่ปั่นป่วนชั่วข้ามคืน สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเขามีอำนาจทางการเงินเพียงใด
แม้แต่บริษัทซูแมนเดทก็ไม่มีอำนาจเช่นนี้ได้
ชายคนนี้เป็นใคร?
ถ้าเขาเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ทำไมไม่เคยเห็นเขามาก่อน
เขารู้จักวีไอพุกคนที่เป็นที่เคารพนักถือในเมืองหยุนเฉิง
เหมาเยซือมองเขาด้วยความรังเกียจราวกับว่าเขาเป็นเพียงมดปลวก
“คุณไม่จำเป็นต้องรู้ว่าผมเป็นใคร แต่คุณต้องเข้าใจให้ชัดเจนเรื่องเฉียวเมียนเมียน เธอเป็นผู้หญิงของผม และผู้ชายหน้าไหนก็ตามที่รบกวนเธอ ต้องพบจุดจบที่ไม่สวย”
“ผมไม่สนใจว่าความสัมพันธ์ของคุณกับเธฮในอดีตเป็นอย่างไร แต่เมื่อคุณเลิกรากันไปแล้ว เรื่องราวชีวิตของเธอก็ไม่ใช้ธุระอะไรของคุณ ถ้าผมรู้ว่าคุณกำลังคุกคามเธออีก ผมจะทำให้ซูแมนเดท มีชะตากรรมเหมือนเฉิงไห่”
หลังจากพูดจบ เขาจึงหันไปโดยไม่สนใจที่จะมองซูเจ๋ออีกต่อไป
ถ้าเขาไม่ใช่อดีตคู่หมั้นของเฉียวเมียนเมียน เขาก็จะไม่อยู่ในฐานะที่จะพูดคุยกับเขาด้วยซ้ำ
ตระกูลซูเป็นที่รู้จักกันว่ามีอำนาจร่ำรวยในสายตาของคนส่วนใหญ่
แต่สำหรับตระกูลเหมา พวกเขาไม่มีความสำคัญอะไรเลย
“ที่รักไปกันเถอะ”
เหมาเยซือนำทางเฉียวเมียนเมียนออกไปโดยใช้แขนโอบรอบเอวของเธอ
บอดี้การ์ดของซูเจ๋อกำลังจะหยุดพวกเขาไม่ให้ออกไป แต่ในขณะที่พวกเขาเคลื่อนไหว พวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่วิ่งเข้ามาใกล้
ผู้ดูแลคลับเฮาส์รีบเร่งไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
“ไล่ใครก็ตามที่สร้างปัญหาที่นี่ออกไปให้หมด!”
ผู้รับผิดชอบเห็นบอดี้การ์ดของซูเจ๋อและพูดอย่างเย็นชาว่า
“คุณกล้าดียังไงถึงมาสร้างปัญหาที่นี่ คุณไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหนรึไง? เอาคนกลุ่มนี้ออกไปทันที!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพยักหน้าและรีบปฏิบัติตาม
ซูเจ๋อมีบอดี้การ์ดเพียงสี่คนเท่านั้น…