แต่พอมั่นใจแล้ว เขาก็ต้องยอมรับว่าชายลึกลับเป็นคนที่ยากจะจับต้องได้
เมื่อเห็นท่าทีของผู้จัดการคลับเฮ้าส์แล้ว เขาก็รู้ว่าผู้ชายคนนั้นต้องมีอำนาจและมีสถานะที่ยิ่งใหญ่
เขาได้ยินว่าผู้ชายคนถูกเรียกว่า คุณเหมา…
จู่ ๆ ซูเจ๋อก็มึความคิดหนึ่งแวบเข้ามา
เขาเป็นชายหนุ่มที่นามสกุลเหมา หรือเขาจะเป็น…ปรานเหมาคอร์ปอเรชั่น คนใหม่ที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศใช่หรือไม่?
แต่ความคิดนี้ก็ไม่ได้คงอยู่นานกว่าหนึ่งวินาที
มันเป็นไปไม่ได้
เป็นไปไม่ได้แน่นอน
เขาได้ยินว่าประธานเหมาคาร์ปอเรชั่น เป็นโรคอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับการต่อต้านผู้หญิง เขาไม่สามารถทนต่อการที่มีผู้หญิงเข้ามาใกล้เขาได้อย่างแน่นอน
ถ้าเขาเป็นประธานคนนั้นจริง ๆ จะสนิทสนมกับเฉียวเมียนเมียนได้อย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้น จากภูมิหลังของเฉียวเมียนเมียน ไม่ทีทางที่เธอจะรู้จักเขาได้
ด้วยเหตุนี้ ซูเจ๋อจึงรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย
เขาอาจมีปัญหาใหญ่ ถ้าเขาทำให้ตระกูลเหมาขุ่นเคือง
ในความเป็นจริงเขาไม่สามารถนึกถึงคน ๆ เดียวในเมืองหยุนเฉิงทั้งหมดที่สามารถทำเช่นนั้นได้
**
หลังจากที่ซูเจ๋อจากไป
เหมาเยซือเห็นว่าเฉียวเมียนเมียนยังดูไม่มีความสุข เขาเชยคางของเธอขึ้นและมองลงไปที่เธอ
“ยังคงโกรธอยู่เหรอ? แค่ไล่เขาออกไปยังไม่พอใช่ไหม จะทำให้บริษัทซูแมนเดทล้มละลายด้วยเลยหรือเปล่า?”
เฉียวเมียนเมียนเบิกตากว้าง
ถ้าเป็นคนอื่นพูดแบบนี้ เธอคงคิดว่าพวกเขาล้อเล่น
แต่เมื่อเหมาเยซือพูดขึ้นนั้น…
เฉียวเมียนเมียนเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัยว่าเขาจะทำเช่นนั้นจริง ๆ
เขามีอำนาจขนาดนั้นจริง ๆ
“อย่าเลยค่ะ”
เฉียวเมียนเมียนตอบอย่างรวดเร็ว
“แม้ว่าซูเจ๋อและฉันจะเลิกรากันไปแล้ว และตอนนี้ฉันค่อนข้างจะรำคาญเขาก็ตาม แต่ฉันรู้สึกว่าเรื่องของเราไม่ควรเกี่ยวข้องกับครอบครัวของเขา พ่อแม่ของเขา…ท่านดีกับฉันมาก”
เธอหมายถึงพวกเขา
พ่อแม่ของซูเจ๋อปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี
โดยเฉพาะแม่ของเขาที่รักเธอเหมือนเธอเป็นลูกสาวของหล่อน
แม่ของซูเจ๋ออยากได้ลูกสาวมานานแล้ว แต่เธอมีปัญหาในการตั้งครรภ์หลังจากที่คลอดซูเจ๋อ
ดังนั้นเขาจึงเป็นลูกคนเดียวของเธอ
หากไม่มีลูกสาวเป็นของตัวเอง เธอก็ตั้งความหวังไว้ที่เฉียวเมียนเมียน
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกรังเกียจซูเจ๋อ แต่เธอไม่ได้เก็บงำความรู้สึกไม่ดีต่อพ่อแม่ของเขา
เหมาเยซือหรี่ตาลง
“พ่อแม่ของเขาปฏิบัติกับคุณดีหรือเปล่า?”
“ใช่ค่ะ”
ชายคนนั้นดูหัวเสียเล็กน้อย
“คุณชอบพ่อแม่ของเขามากไหม?”
เฉียวเมียนเมียนตะลึง เธอต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะรู้ว่าเขาไม่พอใจกับเธอมากเกินไป
“ฉันไม่เป็นไร ฉันไม่ได้บอกว่าฉันชอบพวกเขา แต่ฉันไม่ได้เกลียดพวกเขาอย่างแน่นอนค่ะ”
เธอไม่กล้าพูดความจริงหลังจากสัมผัสได้ถึงความไม่มีความสุขของเขา
เธอกังวลว่าเขาจะลุกเป็นไฟ ถ้าเธอตอบว่าใช่
ตอนนี้เธอได้รู้จักเหมาเยซือมากขึ้นเรื่อย ๆ เขามักจะดูราวกับว่าเขาไม่ได้กังวลอะไรเลย แต่ความจริงก็คือเขาค่อนข้างขี้งอนในหลาย ๆ เรื่อง
การแสดงออกของชายคนนั้นอ่อนลงเมื่อได้ยินเธอตอบกลับ
เขาวางมือบนศีรษะของเธอ
“คุณกับซูเจ๋อเลิกกันแล้ว นั่นทำให้เขากลายเป็นคนแปลกหน้า ในอนาคตก็ควรเลิกติดต่อกับเขา หรือกับครอบครัวเขาให้น้อยที่สุดด้วยล่ะ”
“โอ้”
เฉียวเมียนเมียนพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
“เข้าใจแล้วค่ะ”
ไม่ว่าในกรณีใด เธอจะไม่ทำพลาด หากเธอทำตามความปรารถนาของเขา เหมาเยซือจะดูเหมือนสบายใจขึ้น
เขาหันกลับมา และมองไปที่เจียงหลัวลี่จากนั้นก็มองดูรอบ ๆ
“คุณไม่ได้มากับเพื่อนร่วมห้องอีกสองคนหรือ พวกเขาไปไหนแล้วล่ะ”