เธอจ้องเขาแบบนั้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ
หยาดน้ำตาติดตามขนตาหนายาวของเธอ เมื่อเธอกระพริบตาก็ตาลงมาอาบใบหน้าที่บอบบาง
เหมาเยซือไม่เคยรู้สึกอะไรกับน้ำตาของผู้หญิง
เขาจะรู้สึกรำคาญด้วยซ้ำ
หากมีใครพยายามเอาชนะเขาด้วยความสงสารหรือด้วยน้ำตา แต่เขาจะต่อต้าน
แม้แต่หยาง เชาชิง ก็เคยพูดหลายครั้งว่าหัวใจขอบงเขาทำจากก้อนหินที่ทั้งเย็นชาและแข็งเกินไป
ไม่มีผู้หญิงคนไหนให้ความอบอุ่นเขาได้
แต่ในขณะนี้เหมาเยซือรู้สึกว่าเขาไม่มีภูมิคุ้มกันต่อน้ำตาของผู้หญิง
เมื่อมองไปที่หญิงสาวดวงตาแดงกล่ำในอ้อมแขนของเขา ใบหน้าที่แสดงความคับแค้นใจและการกล่าวหาของเขา เขารู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย
เขาขอโทษโดยแทบไม่ลังเลใด ๆ
“คุณร้องไห้เหรอ? เป็นเพราะคุณคิดว่าผมสงสัยคุณใช่ไหม ที่รัก ผมขอโทษ ผมขอถอนคำพูดเมื่อกี้นะ อย่าโกรธผมเลยนะ”
เหมาเยซือไม่เคยรู้เลยว่าอาการตกใจกลัวมันเป็นอย่างไร
แต่เมื่อน้ำตาของเฉียวเมียนเมียนไหลออกมาจากดวงตาของเธออย่างเงียบ ๆ เขาก็รู้สึกได้เป็นครั้งแรก
นิ้วเรียวของเขาเช็ดน้ำตาออกจากมุมตาของเธออย่างเชื่องช้า และเมื่อปลายนิ้วสัมผัสกับน้ำตาอุ่นและเปียกของเธอ คลื่นแห่งความสับสนและความหงุดหงิดก็เข้ามาเต็มหัวใจของเขา
เมื่อเขายังไม่พูดอะไรก็ดูไม่มีอะไร แต่ทันทีที่เขาขอโทษผู้หญิงในอ้อมแขนของเขาก็เริ่มร้องไห้อย่างรุนแรงยิ่งขึ้น
น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเธออาบเต็มแก้ม
หยาดน้ำตาอุ่น ๆ กระทบหลังมือเขา แผดเผาหัวใจยิ่งนัก
“เฉียวเมียนเมียน อย่าร้องไห้อีกเลยนะ”
หลังจากล้มเหลวในการเล้าโลมผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา เหมาเยซือก็ขมวดคิ้ว แต่ก็ถอนหายใจอย่างเสียใจ และจับใบหน้าเล็ก ๆของเอ เขาถามด้วยคิ้วขมวดว่า
“บอกผมสิ ว่าผมควรทำอย่างไร เพื่อให้คุณไม่โกรธผม”
“ผมไม่ได้สงสัยคุณจริง ๆ ผมเชื่อว่าคุณไม่หักหลังผม”
เฉียวเมียนเมียนมองเขาด้วยน้ำตาคลอเบ้า ยิ่งชายคนนั้นกระซิบ เธอก็ยิ่งรู้สึกผิด
การจ้องมองของเต็มไปด้วยความไม่พอใจและเสียงแหบจากการร้องไห้ก็พูดขึ้น พร้อมกับเสียงสะอื้น
“คุณไม่สงสัยฉัน! ประโยคนั้นคุณหมายความว่าอย่างไร คุณไม่ได้หมายความว่าซูเจ๋อกับฉันนัดกันไว้ล่วงหน้าเหรอ”
“เหมาเยซือ คุณรู้ไหมว่าฉันเกลียดเวลาที่มีคนไม่เชื่อฉัน หากคุณคิดว่าฉันยังมีใจและยังไม่ลืมซูเจ๋อ เราก็หย่ากันเถอะ ก็คุณไม่เชื่อใจฉัน แล้วทำไมเราถึงต้องอยู่ด้วยกันต่อล่ะ”
เมื่อได้ยินคำว่า “หย่า” ใบหน้าของเหมาเยซือก็มืดมน
เขากำลังจะโกรธ แต่ดวงตาสีแดงที่ร้องไห้ของหญิงสาวในอ้อมแขน ได้ดับความโกรธในใจของเขาทันที
ความโกรธของเขากลายเป็นการถอนหายใจที่ทำอะไรไม่ถูก และรำคาญ
ถ้าเขารู้ว่าเธอจะร้องไห้แบบนี้ เขาคงจะไม่ถามคำถามนั้น
นิ้วเรียวขาวของเขาเลื่อนไปที่มุมหางตาของเธออีกครั้งและเช็ดดวงตาที่เปียกชื้นของเธอเบา ๆ
เขาเอื้อมมือไปโอบเธอเบา ๆ ในอ้อมแขนของเขา พร้อมกับถอนหายใจเบา ๆ
“โอเค มันเป็นความผิดของผมเอง ผมไม่ควรสงสัย”
คำสารภาพของเขาเป็นไปตามคำร้องของหญิงสาว
“ใช่สิ มันเป็นความผิดของคุณ”
“ใช่ เป็นความผิดผมเอง” ในขณะนี้เหมาเยซือไม่รู้จะทำอย่างไรนอกจากเกลี้ยกล่องเธอและเห็นด้วยกับเธอ
เขาไม่มีประสบการณ์ปลอบผู้หญิง
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาปลอบผู้หญิงอย่างอ่อนโยและเขาก็ยังทำหน้าที่ได้ไม่ดีนัก
เขารู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก