หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้
ณ สำนักงานของท่านประธาน
“ท่านประธานเหมาครับ นี่คือข้อมูลเกี่ยวกับผู้หญิงที่อยู่ในห้องของคุณเมื่อคืนครับ”
เว่ยเจิ้ง เลขาฯของเหมาเยซือวางเอกสารไว้บนโต๊ะทำงาน ก่อนจะก้าวถอยหลังออกมาอย่างสุภาพ
เหมาเยซือสวมเสื้อเชิ้ตสีดำหลวม ๆ กระดุม 2 เม็ดสุดท้ายที่ถูกปลดออก เผยให้เห็นแผงอกที่กระชับและเสน่ห์ที่น่าดึงดูดของเขา
เขากำลังเพ่งดูเอกสารที่เว่ยเจิ้งเพิ่งยื่นให้ด้วยความสนใจ
เว่ยเจิ้งนิ่งมองใบหน้าที่หล่อเหลาสมบูรณ์แบบของผู้เป็นนาย เขาพินิจทุกส่วนของใบหน้า ดั้งจมูกเป็นสัน ริมฝีปากโค้งได้รูปที่เม้มแน่น แต่ละอย่างล้วนมีเสน่ห์อย่างลงตัวแทบไม่น่าเชื่อ ขนตายาวโค้งงอนไม่ต่างไปจากขนตาที่ผู้หญิงหลายคนพึงปรารถนา
เว่ยเจิ้งเหลือบมองเจ้านายของเขาและอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอ
แม้เขาจะอยู่ในฐานะผู้ชาย เขายังตะลึงกับใบหน้าอันหล่อเหลาของเจ้านายเป็นครั้งคราว
…
ครู่ต่อมา
ผู้เป็นนายอ่านเอกสารทั้งหมดแล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองไปยังประตู
ใบหน้าหล่อเหลาของเขาสงบเยือกเย็นลง
“พี่รอง พี่เรียกหาผมเหรอ?”
ขณะนั้นประตูห้องทำงานของเหมาเยซือเปิดออก ชายหนุ่มอีกคนเดินเข้ามา
ชายหนุ่มที่เข้ามาใหม่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีชมพู รับกับผมทรงเดรดล็อค ที่ติ่งหูด้านซ้ายประดับด้วยต่างหูสีเงินวิบวับ
ความตึงเครียดฉายออกมาจากใบหน้าอันหล่อเหลาราวกับมีเรื่องให้กังวล เขาก้าวมาข้างหน้าเพียงไม่กี่ก้าว ก่อนจะหยุดเดิน
เขายืนกุมมือเหมือนนักเรียนที่รอการลงโทษจากครู ห่างจากเหมาเยซือ 5 เมตรเห็นจะได้
“พี่รอง เมื่อคืนมีเรื่องผิดพลาดนิดหน่อย พี่จะดุจะด่า จะตีผมก็ได้ แต่อย่าส่งผมกลับไปหาตาแก่นั่นเลยนะ”
เหมาเยซือเงยหน้าขึ้นมองพร้อมหัวเราะเยาะ
“นายกล้าดียังไงมาขอร้องฉัน อย่างฉันนี่นะ จะแค่ดุ แค่ตีนาย ฉันเป็นคนที่ใจดีขนาดนั้นเหรอ อย่างนายฆ่าให้ตายสักร้อยครั้งยังน้อยไป”
“พี่รอง ผมผิดไปแล้ว!” หยาง เชาชิงหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจกลัว เขาโผ่คุกเข่า กอดขาเหมาเยซือไว้แน่ พร้อมทั้งน้ำตาอาบแก้ม
“พี่รอง ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว ครั้งนี้ยกโทษให้ผมเถอะ ปล่อยผมไปเถอะพี่ ยิ่งไปกว่านั้น พี่ก็ยังไม่ได้เสียอะไรเลยนี่..”
เหมาเยซือมองเขาอย่างเหยียดหยามและถีบเขาออกห่าง
“แกควรจะสารภาพออกมาว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น ไม่อย่างนั้นอย่าหวังจะออกจากที่นี่ในสภาพครบสามสิบสองเลย”
หยาง เชาชิงตกตะลึงทั้งที่ยังคงสะอื้นอยู่ ครู่ต่อมาเขาเช็ดน้ำตาและน้ำมูกออกแล้วเริ่มอธิบายเรื่องทั้งหมด
เมื่อได้ฟัง หยาง เชาชิงพูดจบ เหมาเยซือถึงกับหน้าสลด
“พี่รอง ในระหว่างทางที่พาที่นี่ ผู้หญิงคนนั้นเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์น่ะสิ ฉันสาบานได้เลยว่าจะไม่ทำเรื่องแบบนี้อีก”
ความรู้สึกแปลก ๆ แล่นผ่านแววตาของเหมาเยซือ
“นายว่าไงนะ ผู้หญิงคนนั้นเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เหรอ”
“ใช่สิ ใช่” หยาง เชาชิงตอบตะกุกตะกัก
“ตอนนี้เธอยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่เลย”
เหมาเยซือเงียบลง ในขณะที่หลายสิ่งวิ่งผ่านเข้ามาในใจ
เขาคงไม่กล้าโกหก
แล้วถ้าผู้หญิงที่พวกเขานัดพบเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางจริง แล้วผู้หญิงที่ค้างคืนกับเขาล่ะ คือใครกัน
ชายหนุ่มครุ่นคิดกระทั่งคิ้วชนกัน
หยาง เชาชิง เริ่มร้องโหวกเหวกโวยวายขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเหมาเยซือทำหน้าเคร่ง
“พี่รอง! พี่รอง! ฉันเล่าทุกอย่างให้พี่ฟังแล้ว ฉันพูดจริงนะ ฉันสาบานได้ ไม่มีคำโกหกแม้แต่คำเดียวเลยจริง ๆ”
เหมาเยซือจ้องมองเขาสักครู่ ก่อนจะเตะเขาซ้ำอีกครั้ง
“ออกไปได้แล้ว”
หยาง เชาชิง ดูราวกับเพิ่งหนีตายสำเร็จ เขารีบลุกขึ้น
“ได้สิ ได้ ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้ ไปล่ะ”
เขาเร่งรีบหายออกห้องไปในพริบตา…