ลิฟท์ตรงขึ้นไปยังชั้น 37
เว่ยเจิ้งเคาะประตูอยู่ด้านนอกห้องทำงานของท่านประธาน
เฉียวเมียนเมียนได้ยินเสียงที่เยือกเย็นและเต็มไปด้วยแรงดึงดูดของผู้มีอำนาจเหนือผู้อื่น
“เข้ามา”
แค่ฟังเสียงนี้ก็ทำให้รู้ว่าคนที่อยู่ข้างใน ไม่ใช่คนที่จะเข้าพบได้ง่าย ๆ เลย
เธอเดินตามเว่ยเจิ้งเข้าไปในห้องทำงานของเขาด้วยความประหม่า
“ประธานเหมาครับ คุณเฉียวมาแล้วครับ”
หลังจากที่เว่ยเจิ้งพูดจบ ผู้เป็นนายเงยหน้าหันไปมองผู้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เจ้าของเสียง
ประตูห้องทำงานถูกปิดลงอย่างเบามืออีกครั้ง
ทำให้ทั้งห้องเหลือเพียง เฉียวเมียนเมียนและชายหนุ่มที่กำลังนั่งอ่านเอกสารที่โต๊ะทำงาน
ห้องทำงานของชายหนุ่มถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีดำหรือสีเทา มีเพียงกระถางต้นไม้ 2-3 ต้นที่ถูกจัดวาง ให้ห้องไม่ดูโล่งเปล่าจนเกินไป
ชายหนุ่มยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานสีดำ
เฉียวเมียนเมียนเงยหน้าขึ้นแอบมองเขาอย่างเงียบ ๆ เธอรู้สึกได้ถึงออร่าอันทรงพลังในตัวเขาที่หลั่งออกมา
เขามีรูปร่างดีและสวมเสื้อเชิ้ตสีดำ เนื่องจากเขายังคงนั่งก้มหน้านิ่ง ทำให้หล่อนมองเห็นเขาได้ไม่ชัดนัก
ในขณะที่เธอมองไปรอบ ๆ ห้อง ชายหนุ่มได้เงยหน้าขึ้นมองมายังเธอ
ทันทีที่เฉียวเมียนเมียนสบตาเข้ากับสายตาที่เย็นชาคู่นั้น เธอตกใจพร้อมกับหัวใจเต้นรัว
เขาเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาขนาดที่เธอไม่เคยพบมาก่อน
ใบหน้าราวกับงานแกะสลักที่วิจิตร องค์ประกอบของใบหน้าช่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
แม้มองลึกเข้าไปในดวงตาจะพบแต่ความเย็นชา แต่จมูกโด่งเป็นสัน รับกับริมฝีปากบาง ช่างขับเอาความเซ็กซี่ออกมาอย่างชัดเจน
ไร้ซึ่งการแสดงออกใด ๆ บนใบหน้าและคิ้วของเขา แม้จะมองในระยะไกล เธอยังรับรู้กับความเย็นชาออกมาจากตัวเขา
เธอเผลอจ้องมองเขาเพียงครู่
“คุณเฉียวครับ”
เสียงอันเยือกเย็นของเขา ปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์
ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ เมื่อนึกถึงสายตาของตนเองที่จ้องมองเขาราวกับจ้องมองคนรัก เธอกัดริมฝีปากตนเองแล้วกล่าวทักทายตอบ “สวัสดีค่ะ คุณเหมา”
“ผมสงสัย ว่าคุณเป็นอะไรครับ…คุณเฉียว”
เฉียวเมียนเมียนได้สติ หลังจากได้ยินคำถามนั้น เธอนึกได้อีกครั้งว่าเธอมาที่วันนี้เพราะอะไร เธอพยายามรวบรวมความคิดแล้วพูดออกไป
“คุณเหมาคะ ฉันอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ”
เหมาเยซือเลิกคิ้วสงสัย
เฉียวเมียนเมียนรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องแปลกที่คนแปลกหน้าอย่าเธอ จะมาขอความช่วยเหลือจากเขาอย่างกะทันหัน แต่เพื่อเฉียวเฉินแล้ว เธอก็ต้องลองขอเขาดู
หลังจากเงียบไปชั่วครู่ เธอจึงกล่าวขึ้นอีกว่า
“น้องชายของฉันเป็นโรคหัวใจ และต้องได้รับการผ่าตัดโดยเร็วค่ะ ฉันได้ยินมาว่าคุณเคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน ฉันหวังว่า…”
“หวังว่าผมจะช่วยเรื่องผ่าตัดให้น้องชายของคุณใช่ไหม”
เขามองไปยังใบหน้าแดงระเรื่อที่ยากจะพูดขอความช่วยเหลือของหล่อน
“ค่ะ”
เฉียวเมียนเมียนหายใจออกและมองเขาด้วยสายตาอ้อนวอน
“คุณเหมาค่ะ ได้โปรดช่วยน้องชายฉันด้วยเถอะค่ะ เขาเพิ่งจะอายุ 19 ปีเอง…”