เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน สายตาของเขาก็จ้องมองหล่อนอย่างเร้าร้อน
เฉียวเมียนเมียนสบตาเข้ากับเขา หัวใจหล่อนเต้นรัวขึ้น หล่อนเริ่มรู้สึกตระหนกขึ้นมา
สายตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาและต้องการครอบครองหล่อนอย่างชัดเจน ราวกับหล่อนอยู่ในกำมือเขาไปแล้ว
เธอคิดเอาเองว่านี่เป็นแผนของเขารึเปล่านะ หรือเขารู้แม้กระทั่งวันนี้หล่อนจะมาหาเขา
“คุณเหมาคะ”
หล่อนเม้มริมฝีปากแล้วเงียบไปสักครู่ ก่อนจะเงยหน้ามองไปที่เขาแล้วพูด
“คุณจะแลกกับอะไรก็ได้ ยกเว้นการแต่งงาน…”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ เขาก็พูดแทรกด้วยเสียงอันเย็นชาขึ้นว่า
“ถ้าอย่างนั้น เราก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว เชิญกลับไปได้”
เฉียวเมียนเมียนกำมัดแน่ เธอยังยืนนิง่อยู่ที่เดิม
เหมาเยซือไม่ได้จะขับไล่หล่อนออกไปจริง ๆ ใช่ไหม
ทั้งคู่ยืนนิ่ง ทำเอาบรรยากาศภายในห้องนั้นเงียบจนหล่อนอยากจะกลั้นหายใจ…
หลังจากนั้นเพียงครู่ เฉียวเมียนเมียนหายใจลึกเข้าเต็มปอด ก่อนจะพูดด้วยเสียงสั่น ๆ ว่า
“ถ้าฉันยอมแต่งงานกับคุณ คุณจะช่วยผ่าตัดให้น้องชายฉันใช่ไหมคะ?”
เหมาเยซือหรี่ตาขึ้น “คุณยอมรับเงื่อนไขงั้นเหรอ”
เฉียวเมียนเมียนฝีนยิ้ม “นั่นไม่ใช่สิ่งคุณถามควรจะถามเลยนะคะ ถ้าคุณสามารถรักษาเฉินเฉินได้ ฉัน…ฉันจะแต่งงานกับคุณค่ะ”
เขามองเห็นรอยยิ้มที่ฝืนยิ้มและสีหน้าที่ทำอะไรไม่ถูกของหล่อนแล้ว เหมาเยซือขมวดคิ้วขึ้นอย่างไม่พอใจ
เขาเดินเข้ามาหาเธอใกล้ ๆ
พร้อมกับเอื้อมมือไปกดเบา ๆ บนไหล่ของเธอ เขาพูดทีละคำอย่างหนักแน่น
“แต่งงานกับผมเถอะนะ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณเสียใจ ผมจะทำทุกอย่างที่ผมทำได้เพื่อมอบความรักให้กับคุณ ไม่ว่าคุณต้องการอะไร ผมพร้อมที่จะแบ่งปันให้ทุกอย่าง”
****
พวกเขาจดทะเบียนสมรสกันอย่างรวดเร็ว
ที่สำนักงานเขตมีคนรอรับอยู่ด้านนอก พวกเขามีบริการพิเศษและจดทะเบียนสมรสเสร็จเพียงไม่กี่นาที
หลังจากออกจากสำนักงานเขต
เฉียวเมียนเมียนมองไปที่เอกสารเล่มเล็ก ๆ สีแดงที่อยู่ในมือหล่อน ด้วยความงุนงง
เธอรู้สึกเหมือนกับฝันไป
นี่ เธอเพิ่งแต่งงานเหรอ?
เธอเคยจินตนาการถึงงานแต่งงานหลายล้านครั้ง และคาดหวังไว้หลากหลายรูปแบบ แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์เฉกเช่นนี้
****
หลังจากขึ้นมานั่งบนรถ
เฉียวเมียนเมียนท่าทางราวกับเจ้าหล่อนกำลังฝันอยู่
ที่นั่งข้าง ๆ หล่อน เหมาเยซือ สามีป้ายแดงของหล่อนหันมามองหน้าหล่อน
“เฉียวเมียนเมียนอย่าทำหน้าแบบนั้นสิ คุณได้แต่งงานกับชายหนุ่มรูปหล่อ ผู้ซึ่งจะให้เกียรติและความรักกับคุณต่อไปในอนาคต คุณไม่เสียอะไรเลยนะ”
แม้ว่าการแต่งงานจะเป็นอย่างราบรื่น แต่เขายังรู้สึกอึดอัดกับท่าทีและใบหน้าที่หดหู่ของหล่อนไม่หาย
เฉียวเมียนเมียนฟังที่เขาพูดจบแล้วหันศีรษะพิงกับเบาะ
ใบหน้าด้านข้างของเขาหล่อมากเช่นกัน กระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำถูกปลดออกเพื่อเผยให้เห็นแผงอกกว้างชวนให้รู้สึกถึงความเซ็กซี่
แสงที่ส่องมาจากด้านหลัง ยิ่งขับให้ความหล่อเหลาของเขาลุ่มลึกขึ้นเรื่อย ๆ ลูกกระเดือกที่กลิ้งขยับไปมาเมื่อเขากลืนน้ำลาย ช่างเซ็กซี่และแฝงไปด้วยความรู้สึกดึงดูด
หล่อนยอมรับว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดูดี
ยิ่งไปกว่านั้นยังรวยมากอีกด้วย
ครั้งแรก เธอคิดว่าเขาเป็นระดับหัวหน้าแผนกหรือหัวหน้าหน่วยที่บริษัทนั้นเสียอีก
ตอนนี้เธอเพิ่งรู้ว่าเขาเป็นคนที่โดดเด่นเกินกว่าที่เธอคาดคิดไว้มาก
เพราะเขาเป็นถึงประธานบริษัทนั้น และยังเป็นทายาทเพียงคนเดียวของบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับต้น ๆ ของประเทศ
ตระกูลซูอาจเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหยุนเฉิง แต่ตระกูลซูสิบตระกูล ก็ยังไม่เทียบเท่ากับตระกูลเหมาเพียงหนุ่งตระกูล
หากจะพูดอย่างเป็นกลาง สำหรับการแต่งงานในครั้งนี้ คนที่ถูกเอาเปรียบนั่นก็คือเธอ
ระหว่างพวกเราช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เขาอยู่คนละชั้นกับหล่อน เสียจนไม่คิดว่าจะได้ติดต่อกันซะด้วยซ้ำ แค่เพียงเขาจะหาภรรยา เขาก็ควรจะมองหาผู้หญิงจากตระกูลชนชั้นสูงที่ใกล้เคียงกับเขาสิ ไม่ใช่คนธรรมดา ๆ อย่างหล่อน
เมื่อคิดมาถึงเรื่องนี้ เฉียวเมียนเมียน ก็อดไม่ได้ที่จะเม้นริมฝีปาก…