เขาก้มศีรษะลงแล้วขมวดคิ้วจ้องมองหล่อน “มีอะไร?”
เธอเม้มริมฝีปาก ท่าทีเงียบกำลังครุ่นคิด ก่อนจะพูดเชิงปรึกษากับเขา
“เรายังไม่เปิดเผยเรื่องการแต่งงานได้ไหมคะ”
ทันทีที่หล่อนพูดจบ ความกดดันเริ่มก่อตัวขึ้นชวนให้อึดอัด
เฉียวเมียนเมียนกลืนน้ำลายลงคอ ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองเขา
“เฉินเฉิน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันเลิกกับแฟนเก่าแล้ว ถ้าบอกว่าฉันแต่งงานกับคุณ เขาคงจะตกใจ”
อันที่จริง นี่เป็นเพียงเหตุผลส่วนหนึ่งเท่านั้น
อีกด้านหนึ่ง เธอรู้สึกว่าการแต่งงานของเธอกับเหมาเยซือคงไม่ยั่งยืน ไม่ช้าเขาก็คงรู้สึกเบื่อหน่าย แล้วก็ขอหย่ากับเธอในที่สุด
เธอไม่สนใจว่าใครจะมองเธอในเรื่องนี้ว่าอย่างไร แต่กับเฉียวเฉิน…
เขาคือคนที่เธอแคร์มากที่สุด
หล่อนยังเด็กและปกปิดความคิดของตัวเองไม่เป็น
เหมาเยซือเดาได้ทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
ความมืดมนปกคลุมใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา พร้อมทั้งความเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา
“คุณอยากให้การแต่งงานของเราเป็นความลับงั้นเหรอ?”
เขาคือเหมาเยซือนะ เขาไม่เคยถูกมองข้ามหรือถูกปฏิเสธเช่นนี้มาก่อน
ผู้หญิงคนอื่น ๆ แค่มีความสัมพันธ์กับเขาเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกหล่อนไม่เคยรีรอที่จะประกาศให้ใครต่อใครรับรู้ แต่กับผู้หญิงคนนี้…
เธอกลับกลัวคนอื่นรู้เรื่องความสัมพันธ์กับเขา
หรือเธอจะยังรักแฟนเก่างั้นเหรอ?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เหมาเยซือแสดงท่าทีเคร่งขึมพร้อมกับสายตาที่เย็นชาออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“คือฉัน…” เฉียวเมียนเมียนเผชิญหน้ากับดวงตาที่ผิดหวังของเขา กระทั่งเจ้าหล่อนพูดไม่ออก
“เฉียวเมียนเมียน”
นิ้วเรียวของชายหนุ่มยกขึ้นจับที่กรามของหล่อน ดวงตาเขาเย็นชาก่อนจะพูดด้วยเสียงเฉียบคมว่า
“คุณเป็นผู้หญิงของผม ต่อไปคุณควรคิดถึงแต่เรื่องของผมคนเดียวเท่านั้น ผมไม่คิดที่จะหย่ากับคุณหรอกนะ อย่างน้อย ๆ ก็ไม่ใช่ตอนนี้”
นิ้วของเขากระชับขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับเพร่งเสียงเอาแต่ใจว่า “คุณต้องไม่แบบนี้อีก เข้าใจที่ผมพูดใช่ไหม?”
สายตาเขาประดุจนักล่าที่จ้องมองเหยื่อ เหยื่อชิ้นนี้ที่เป็นของเขาเพียงผู้เดียวเท่านั้น ไม่ว่าใครก็อย่าคิดจะเข้ายุ่งย่าม
เฉียวเมียนรู้สึกตื่นกลัวเล็กน้อย
นี่เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มแสดงทีท่าก้าวร้าวและทรงอำนาจที่พร้อมจะเขมือบหล่อนได้ทุกเมื่อ
***
พวกเขาพากันเดินไปที่วอร์ด
ทว่าเฉียวเมียนเมียนยังคงมีท่าทีลังเลอยู่เล็กน้อย เหมาเยซือจึงยกมือขึ้นแล้วผลักประตูที่อยู่ตรงหน้า แล้วพาเธอเดินเข้าไป
เฉียวเฉินกำลังนอนอ่านหนังสือบนเตียง
เขาค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองไปยังต้นเสียง
สายตาของเฉียวเฉินเบิกกว้าง เมื่อเห็นพี่สาวของตนยืนเคียงข้างชายหนุ่มรูปหล่อ อีกทั้งมือของเขายังโอบรอบเอวพี่สาวของเขาไว้แน่น กระทั่งเผลอทำหนังสือร่วงลงบนพื้น
เขาอ้าปากค้างพร้อมกับเอ่ยปาก “พี่ครับ…”
เฉียวเฉินโตมาพร้อมกับ ซูเจ๋อและเฉียวเมียนเมียน พวกเขาสามคนค่อนข้างที่จะรักใคร่กลมเกลียวกัน
ตั้งแต่ที่เขายังเด็ก เขาก็ได้รู้ว่าในอนาคตพี่สาวของเขาจะต้องแต่งงานกับซูเจ๋ออย่างแน่นอน และซูเจ๋อก็ดีกับเขามาตลอด ไม่แปลกที่เขาจะรักซูเจ๋อมาก
แต่นี่อะไรกัน เขาเห็นผู้ชายอีกคนกับพี่สาวเพียงคนเดียวของเขา เฉียวเฉินแทบไม่เชื่อสายตาของตัวเอง
“พี่ครับ เขา เขาเป็นใครกัน?…”
“เฉินเฉิน เขา…”
ในขณะที่เฉียวเมียนเมียนยังคงลังเลว่าจะแนะนำเหมาเยซือกับน้องชายอย่างไรดี
เหมาเยซือจึงพาหล่อนเดินตรงไปที่เตียงของเฉียวเฉิน
“ผมเป็นพี่เขยของคุณ”